ด้าน นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่นายสนธิถูกส่งตัวมาคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรมก็ยังไม่พบปัญหา ซึ่งเชื่อว่าทางเรือนจำน่าจะดูแลนายสนธิได้ อย่างไรก็ตามช่วงแรกนี้ก็ได้กำชับให้ทาง ผบ.เรือนจำช่วยจับตาดูเป็นพิเศษอย่าให้นักโทษที่มีความคิดเห็นต่างเข้ามา อยู่ปะปนกับนายสนธิเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายส่วนช่วงกลางคืนทราบว่าทาง เรือนจำได้มีการจัดเวรยามโดยอาศัยนักโทษช่วยจับตาดูและอาศัยกล้องวงจรปิดจับ ตาดูความผิดปกติภายในเรือนนอนนายสนธิตลอด24ชั่วโมง
นาย วิทยากล่าวว่านายสนธิได้ถูกจำคุกมานานเกือบสัปดาห์แล้วจึงเชื่อว่านายสนธิ น่าจะทำใจและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในเรือนจำได้และทางญาติก็ไม่เคยมา ร้องขออะไรเป็นพิเศษส่วนอาการเจ็บป่วยโรคประจำตัวของนายสนธินั้นก็ไม่น่า ห่วงหากเกิดกรณีฉุกเฉินทางเรือนจำมีทีมแพทย์พร้อมให้การช่วยเหลือทันที
“นาย สนธิถือเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเมื่อเข้ามาอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์เราก็ ต้องจับตาดูเป็นพิเศษแต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบและกฎระเบียบของเรือนจำอย่าง เคร่งครัดไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้นและที่สำคัญต้องไม่ให้ใครเข้าไปทำ อันตรายเขาได้เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว
ด้านนายสุวัตรอภัยภักดิ์ ทนายความของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นฎีกาและขอปล่อยชั่วคราวนายสนธิ เพื่อต่อสู้คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 20 ปี ฐานกระทำผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ว่า วันที่ 13 สิงหาคม ตนได้มอบหมายให้เสมียนทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาอีกครั้ง
โดยขอให้ ส่งสำนวนไปให้ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เซ็นรับรองฎีกาในปัญหาข้อ เท็จจริงโดยเร็วโดยขอให้ส่งด้วยวิธีพิเศษด้วยการส่งแฟกซ์ หรือขอให้เจ้าหน้าที่ของศาลนำสำนวนไปให้ผู้พิพากษาเซ็นรับรอง หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนอีเอ็มเอส (EMS)และจำเลยจะออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
เพราะการส่งด้วยวิธีปกติจะล่าช้า ซึ่งอย่างเร็วอาจ 2 สัปดาห์ หรืออย่างช้าอาจจะ 1เดือน ส่งผลให้นายสนธิต้องอยู่ในเรือนจำเป็นเวลานาน ทั้งนี้ภายหลังจากที่เรายื่นคำร้องแล้วศาลอาญาก็ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ส่วนเรื่องการยื่นประกันตัวนั้นตนก็ยังไม่ได้ยื่นแต่อย่างใด เนื่องจากคงต้องรอให้รับรองฎีกาก่อน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar