จาก สายลมรัก
แม่ประยงค์จ๊ะ
ช่วงนี้ฉันเป็นยังงัยก็ไม่รู้ ใจคอมันกระชุ่มกระชวย อยากจะลุกขึ้นมาใส่เสื้อราขประแตน โจงผ้าม่วง เข้าไปทำงานเสียเหลือเกิน บ้านเมืองของเราในเพลานี้ ดูท่าจะเหมาะกับ
หลายปีมานี้ ฉันเห็นระบบผลัดกันชี้หน้า ด่า กล่าวหาด่วยคำพูดปด จนลูกหลานของเราชาชิน กับวิถีชีวิตที่แตกต่างกับเราใน
ฉันอดคิดถึงสมัยก่อนไม่ได่ ตอนเราเด็ก ๆ ชาวบ้านของสยามประเทศ เป็นสิ่งเราต้องพยายามสอนให
หมดเงินหมดทองจากคลังหลวง ลงทุนลงแรงไปไม่รู
แม่ประยงค์ รู้มั้ย สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวเร่งให้บ้าน
โกหกอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้เข้าสู่อำนาจ ดูจะเป็นค่านิยมของ คนคนนี้ พรรคนี้ไปแล้ว
แม่ประยงค์รู้มั้ยจ๊ะ เพลานี้ เขาก็พยายามตีบท ไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกียวข้องกับการยึดอำน
ก็ใครจะกล้าสารภาพกับแม่ยกของตั
นับจากนี้ไป คงขยิบตาให้โจรยิก ๆ ว่ารีบตัดสิทธิ คู่แข่งขัน ถ้าจะให้ดี เอาไปติดคุกทั้งพรรค จะได้ไม่มีคู่แข่งในครั้งหน้า
แต่ฉันดูแล้ว วาสนา ถ้าจะไม่ถึง เพราะโจรเริ่ม เสพติดกับอำนาจ ท่าทางจะไม่ตอบแทนบุญคุญ อย่างที่หวังไว้เสียแล้ว
อย่างน้อยก็จะวางรากฐานเพื่อสืบ
ฉันว่ามันเป็นกรรมนะแม่ประยงค์ วางแผนเผาบ้านคู่แข่ง แต่ดันลืมไปว่า ตนเองก็อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดีย
ฉันบ่นเสียยาวเลย เอาไว้อารมณ์ดี ๆ ฉันจะเขียนจดหมายมาหาแม่ประยงค์
พี่ดำ คลองบางหลวง
14 สิงหาคม 2014 - 11:27
..............................................
จดหมายตอบจากแม่ประยงค์
พ่อดำบางหลวงจ๊ะ
ฉันดีใจนะที่ได้เห็นพ่อดำอีกครา เห็นห่างหายไปนานมาก หลังเกิดวุ่นวาย
การขบถในเมืองหลวง เจอะหน้าแม่เล็กๆ ก็ถามถึงอยู่เนืองๆ จึงได้ทราบว่าพ่อดำไปดีแล้ว
ฉันชอบความศรีวิไลนะจ๊ะ ให้กลับมานุ่งซิ่นห่มสไบ หรือจะแต่งชุดราตรียาวเฉิดฉายกรีดกรายไปลีลาศ ในวังหลวง ก็พอได้อยู่ แต่ก็แค่ชั่วครั้งคราวเท่านั้นแหละฉันยังอยากนุ่งยีนส์ สวมเสื้อยืด ใส่แตะ และครึ้มๆก็อยากสะพายย่ามด้วย
สาเหตุที่เรื่องของเรื่องในเมืองนี้ มันเดินมาถึงจุดนี้จนได้ ฉันว่าใครต่อมิใครก็รู้ๆกันอยู่ .. อะไรทุกอย่างเกิดจากการ อยากได้อำนาจ แย่งชิงอำนาจ พอได้มาครองก็ยึดติดอำนาจ บ้าอำนาจ หวงแหนป้องกันไว้ โดยมิต้องพักคำนึงถึง ความถูกต้องผิดชอบชั่วดีประการใด จัดว่าหน้ามืดตามัวเสียแล้ว
และที่บทบาทมันแผกออกไปจากนานาอารยะเขา จะว่าไปก็เพราะความหลงใหลปิดหูหลับตาของพลเมืองไทยน่ะแหละจ้ะ
พ่ออย่าไปเจาะจงว่าแต่ หัวนอกหุ่นเชิด อยู่แค่คนสองคนเลยจ้ะฉันมองว่าเกือบหมดกรมกองทั้งนั้นแหละ ส่วนมากที่เผอิญผ่านเมืองนอกมา ได้ไปรับรู้ซึมซับกลไกการทำประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
แต่ ไม่รู้กระโหลกทำด้วยอะไร สงสัยจะเป็นกะลา หรือไม่ก็เทด้วยเรซินคือพอเคลือบพออยู่ไปนานๆเข้า
แค่ตั้งโชว์ไม่ต้องใช้งานด้วยซ้ำ ... ในที่สุดก็เสื่อมสี ออกขุ่นๆมัวๆจากที่เคยใสปิ๊งเหมือนภาชนะแก้ว ก็กลายเป็นขมุกขมอมไม่น่าดูถึงขั้นไม่อยากเหลียวแลไยดีอีกเลย
กระโหลกเรซินจริงๆด้วยแหละนะ เพราะจะเอาแต่ฉาบฉวยผลงานดีๆที่ผลาญทุนพ่อแม่ หรือทุนหลวงไปถึงเมืองนอก เห็นแต่ซึมซับเอา เรื่องห่วยๆ กลับมาปฏิบัติทั้งนั้นเลย ไปเมืองนอก แต่กลับมาทำงานเหมือนพวกคอกนา น่าเย้ยหยันนะจ๊ะ ส่วนคนดีๆที่มีให้เห็นอยู่ในจำนวนน้อยกว่า ฉันก็ขอชื่นชมอย่างยิ่งจ้ะ อยากสนทนาในเรื่องที่สนทนากันไม่ได้ซะด้วยซี(ตรงนี้)
อยากบอกว่า หากได้มีเวลาพบปะกันสักทีหนึ่ง ก็คงจะเป็นการที่ดีมิใช่น้อยแต่ก็คงต้องล่วงไปถึงเดือนหน้า โน่นแหละจ้ะ
โชคดีนะจ๊ะ พ่อดำ อีกสักไม่น้อย คงต้องเรียกว่าท่านขุนแล้วกระมัง
แม่ประยงค์ (ชญานุชบันทึกแทน)14 สิงหาคม 2014 - 11:27
..................................................................
(จาก"ราษฎรไทย") ฝากยินดีต้อนรับ"สายลมรัก"ในการกลับมาร่วมเดินทางกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อชาติต้องการจากเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนร่วมเดินนิรนามทางจากแดนไกล...ถึงเพื่อนร่วมเดินทางทุกท่านอิสรภาพเสรีภาพและความปลอดภัยคือสิ่งที่ควรหวงแหนในการเดินทาง ด้วยความห่วงใยเสมอ.. ..
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar