måndag 15 juli 2019

ค่าใช้จ่ายการใช้ชีวิตในต่างประเทศของกษัตริย์ทั้งหมดคนไทยเป็นผู้จ่าย วชิราลงกรณ์กับสุทิดาแยกกันอยู่ วชิราลงกรณ์อาศัยอยู่ที่ Grand Hotel Sonnenbichlในเยอรมันนี ที่เมืองGarmisch-Partenkirchen ขณะที่ภรรยา สุทิดา อาศัยอยู่ที่ Hotel Waldegg in Engelberg, Switzerland.เครื่องบินลำหนึ่งของกษัตริย์บินจาก Munich ไป Zurich เพื่อรับสุทิดาภรรยา ก่อนไปเมืองไทยเมื่อวัน อังคาร ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากเงินภาษีของคนไทยทั้งประเทศ Thai taxpayers pay for all this.

16 hours ago
Vajiralongkorn and Suthida live apart most of the time. Vajiralongkorn lives at the Grand Hotel Sonnenbichl in the German town of Garmisch-Partenkirchen, while Suthida lives at Hotel Waldegg in Engelberg, Switzerland. Thai taxpayers pay for all this.

One of King Vajiralongkorn’s 737 planes is flying to Zurich from Munich, maybe to pick up his wife Suthida before they go to Thailand on Tuesday. 


.......................................

เมื่อคืนตอนเห็นว่าคุณวชิราลงกรณ์เอาเครื่องบิน "ส่วนตัว" บินไป-กลับ มิวนิค-ซูริคอีก นึกอยากจะถามจริงๆว่า ตกลง คุณเป็นประมุขของประเทศไทย หรือเป็น "ผู้พำนักอาศัยถาวร" (permanent residence) ของเยอรมันกันแน่?
ไม่มีประมุขประเทศไหนในโลก เขาปฏิบัติต่อประเทศและประชาชนของประเทศตัวเองอย่างดูหมิ่นเหยียดหยามขนาดนี้ งบประมาณแผ่นดินก็เอาไปใช้ปีละหมื่นล้าน ทรัพย์สินแผ่นดินก็เอาเป็นของตัวเองเป็นล้านล้านบาท .. แล้วเพียงแค่อยู่ในประเทศ ก็ไม่ยอมอยู่ ต้องมาผลาญเงินที่ยุโรปเป็นส่วนใหญ่
....................
เมื่อวาน (13 สิงหา) ตอนผมดูข่าวสองทุ่มเมืองไทย (ราวบ่ายสามของที่นี่) แล้วไม่เห็นข่าวการปรากฏตัวของเขาอีก ก็สงสัยว่า หรือเขาจะกลับมายุโรปแล้ว หลังจากไปเมืองไทยแค่วัน-สองวัน?
ตอนค่ำๆของทีนี่ ช่วง 6 โมงถึง 2 ทุ่มกว่า (ราว 5 ทุ่ม ถึง ตีหนึ่งกว่าของไทย) ก็เห็นว่า เขาเอาเครื่องบินไปซูริคอีก ตาม "รูทีน" ที่เขามักจะทำก่อนหน้าและหลังจากมาเมืองไทย ดังที่เคยเล่าไปว่า ดูเหมือนเขาจะ "ส่งบางคน" ไปอยู่ซูริค แล้วเขากลับมาอยู่กับ "อีกคน" ที่มิวนิค .. อันที่จริง เขามีบ้านแพงๆ 2 หลังในมิวนิค ทำไมต้องไปเช่าที่พักในซูริคอีกก็ไม่ทราบ
เลยค่อยข้างแน่ใจว่า เขาคงกลับมายุโรปแล้วจริงๆ คงออกเดินทางจากไทยในคืนวันที่ 12 หลังจากประกอบพิธีบางอย่างในวันนั้นเลย มาถึงมิวนิคสายๆเมื่อวาน (13) เย็น-ค่ำก็บินไปซูริค
(ขอให้สังเกตตามรูปประกอบบันทึกการบินด้วยว่า เขาบิน มิวนิค-ซูริค-มิวนิค ในวันที่ 10 ก่อนมาไทยด้วย)
#กษัตริย์มีไว้ทำไม
No photo description available.

ข่าวในพระราชสำนัก: งบประมาณปีหน้า (2562) วชิราลงกรณ์ได้ภาษีราษฎรไปใช้ตามใจชอบราว 8 พันล้านบาท ถ้ารวมงบสร้างซ่อมวัง อีก 2 พันล้าน ก็เป็นราว 1 หมื่นล้านบาท
ร่างงบประมาณปีหน้า ที่ผ่านการ "รับหลักการ" จากสภาตรายาง (แบบหลับๆตื่นๆ) เมื่อไม่กี่วันก่อน ได้จัดสรรเงินราว 8 พันล้าน - 1 หมื่นล้านบาท ให้วชิราลงกรณ์ไปควบคุมใช้จ่ายตามใจชอบ
8 พันล้าน คือ คิดจากงบส่วนที่ในเอกสารงบประมาณเรียกว่า "ส่วนราชการในพระองค์" จำนวน 6,800,000,000 (หกพันแปดร้อยล้านบาท) + กับส่วนที่ขอในนามสำนักปลัด กระทรวงกลาโหม เป็น "งบอุดหนุน" เพื่อ "สนับสนุนการถวายความปลอดภัย สถาบันพระมหากษัตริย์" อีกราว 1.2 พันล้านบาท (1,278,970,800) รวมกันเป็น = ราว 8 พันล้านบาท (8,078,970,800)
งบที่ขอในนามกลาโหมนี้ บางส่วนคงจะใช้สำหรับ "หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์" (ปีกลายจะระบุไว้เลย ปีนี้ไม่ได้ระบุไว้) ซึ่งอันที่จริง ตามกฎหมายส่วนราชการในพระองค์ 2560 จัดอยู่ใน "ราชการในพระองค์" ด้วย ยิ่งกว่านั้น ตาม พรบ.ถวายความปลอดภัยที่ออกมาปีกลาย งานด้านถวายความปลอดภัยทั้งหมด ไม่ว่าหน่วยงานไหนเกี่ยวข้อง จะต้องขึ้นตรงต่อการวางแผนและสั่งการจากหน่วยถวายความปลอดภัยของวชิราลงกรณ์ ภายใต้การบัญชาของราชเลขานุการในพระองค์ ดังนั้น "งบอุดหนุน" ถวายความปลอดภัยที่ทำในนามกลาโหมนี้ คือนำไปดำเนินการโดยวชิราลงกรณ์เอง
ส่วนที่คิดเป็น 1 หมื่นล้าน คือ รวมงบประมาณที่ขอในนามกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย ที่เรียกว่า "โครงการสนับสนุนกิจกรรมพิเศษหลวง" เพื่อ "สนับสนุนการออกแบบ ก่อสร้าง และบำรุงรักษากิจกรรมพิเศษหลวงในเขตพระราชฐาน" พูดง่ายๆคือ งบฯสร้าง-ซ่อมแซม-บำรุงรักษาวังต่างๆ (ผมมีตัวอย่างรายละเอียดการใช้งบฯส่วนนี้ ซ่อม-สร้างวังวชิราลงกรณ์ในอดีตอยู่ เช่นในการเบิกงบซ่อมวังครั้งหนึ่งในปี 2557 มีงบสำหรับ "ห้อง FUFU HOUSE" ["บ้านคุณฟูฟู"] เป็นเงิน 5,500 บาทด้วย เป็นต้น) งบฯส่วนนี้ สำหรับปีหน้า ราว 2 พันล้านบาท (2,276,829,000) เมื่อรวมกับ 8 พันล้านข้างต้น ก็จะเป็นราว 1 หมื่นล้านบาท (10,355,799,800)
(ในอดีต อาคารวังต่างๆอยู่ในการดูแลของสำนักพระราชวัง ซึ่งโดยทางการขึ้นต่อนายกรัฐมนตรี ปัจจุบัน สำนักพระราชวังจัดเป็นส่วนหนึ่งของ "ราชการในพระองค์" ที่กษัตริย์มีอำนาจควบคุมสิทธิ์ขาดโดยสิ้นเชิง)
...........
หมายเหตุ:
(1) เกี่ยวกับงบราชการในพระองค์ปี 61 (ปีนี้ อนุมัติปีกลาย) ดูกระทู้ปีกลายของผม อันนี้ https://t.co/gL9bE9nAMj และอันนี้ https://t.co/NJDIwWw9VP
(2) เทียบกับงบราชการในพระองค์ปี 61 (รวมงบฯด้าน "หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย") ราว 7 พันล้านบาท ในปี 62 ที่จะถึง เป็น 8 พันล้านบาท คือเพิ่มขึ้นราว 1 พันล้านบาท
(3) งบฯปี 61 ถ้ารวมงบฯสร้าง-ซ่อมวัง (ในกระทู้ปีกลาย ผมไม่ได้รวมไว้) ที่อยู่ในกรมโยธาฯด้วยราวเกือบ 2 พันล้านบาท (1,999,670,000) ก็จะเป็นงบฯปี 61 ราว 9 พันล้านบาท (เทียบปี 62 ตัวเลขข้างต้น 10,355,799,800)
(4) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ (ราชการในพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย + งบฯสร้าง-ซ่อมวัง) เป็นงบที่กษัตริย์เป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาด ควบคุมดูแล ใช้จ่าย ตามใจชอบโดยตรง ไม่ได้รวมถึงงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ที่ตั้งไว้เกี่่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เช่น งบปี 62 ที่เพิ่งผ่านการรับรองไป ในกระทรวงกลาโหม มีงบที่เรียกว่า "โครงการเทิดทูนป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และทำความเข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์" จำนวน 23,505,000 บาท (ยี่สิบสามล้านห้าแสน) ด้วย เป็นต้น
#กษัตริย์มีไว้ทำไม
No photo description available.

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar