อ่านอีกครั้ง: เปรม, สิทธิ, อานันท์ พูดถึงพระบรมฯในโทรเลขวิกิลีกส์ กับปัญหาทฤษฎี “พี่น้องทะเลาะกัน”
คำชี้แจง: “บันทึก” นี้ เดิมเขียนขึ้นโต้แย้งความเชื่อที่มีอย่างกว้างขวางไม่น้อยในหมู่คนเสื้อแดงเรื่อง “พี่น้องทะเลาะกัน - น้องกำลังแย่งบัลลังก์พี่” ในปริบทของการกวาดล้างสองครั้งใหญ่แวดวงคนที่เคยใกล้ชิดพระบรมฯ (กรณี “อัครพงศ์ปรีชา” และกรณีหมอหยองกับพวก) ร่างเดิมของ “บันทึก” จะไล่เรียงความเป็นมาของความเชื่อนี้ ซึ่งจริงๆเป็นอะไรที่เพิ่งมีในระยะหลังมาก เริ่มจากกระแส “เชียร์พระบรมฯ”
ประปรายไม่ซีเรียสอะไรในราวปี 2555 กลายมาเป็นกระแสความเชื่อแบบเอาจริงเอาจังในช่วงปลายปี 2556 ต่อครึ่งแรกของปี 2557 หรือช่วงวิกฤติ กปปส (“โจ๊ก” ที่พูดกันไม่น้อยในหมู่คนเสื้อแดงคือ “สุเทพเป็นเลขาฯ กปปส ใครเป็นประธาน?” โดยมีนัยว่า “ประธาน” คือพระเทพฯ) โดยผมจะชี้ให้เห็นว่า ถ้าไล่เรียงกันโดยละเอียดแล้ว ความเชื่อดังกล่าวไม่มีฐานสนับสนุนในเชิงหลักฐานหรือในเชิงตรรกะเหตุผลเลย (ยกตัวอย่างง่ายๆแบบเร็วๆเช่น พระเทพฯที่ความเชื่อนี้ว่ากันว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังการกวาดล้างทั้งสองครั้ง จะเก่งขนาดสามารถทำให้พระบรมฯหย่าเมียตัวเอง, ทวงนามสกุลคืน, และจับอดีตพ่อตาแม่ยายพระบรมฯเข้าคุก ได้อย่างไร?) โดยผมจะพยายามอธิบายด้วยว่า ความเชื่อที่ไม่มีฐานสนับสนุนนี้ กลับกลายเป็นเรื่องที่เชื่อกันเอาเป็นเอาตายในหมู่คนเสื้อแดงได้อย่างไร (ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ผมคิดว่ามีผลส่ง
เสริมความเชื่อแบบนี้คือ เรื่องเชิง “จิตวิทยา” หรือที่จริงเป็นวัฒนธรรมการเมืองอย่างหนึ่งในสังคมไทย ประเภท “กูเกลียดคนที่มึงรัก” - ในเมื่อพวก “สลิ่ม” หรือคนชั้นกลางในเมืองชอบพระเทพฯ คนเสื้อแดงเหล่านั้นก็เลยเกลียดและตั้งพระเทพฯให้กลายเป็น “ผู้ร้ายหมายเลขหนึ่ง” ไป ซึ่งเป็น “ตรรกะ” เชิงจิตวิทยาและวัฒนธรรมการเมืองในลักษณะเดียวกับที่อีกฝ่ายเกลียดหรือกล่าวหาทักษิณสารพัดเรื่อง)
เนื่องจากคนที่เชื่อใน “ทฤษฎี” เรื่อง “พี่น้องทะเลาะกัน-น้องกำลังแย่งบัลลังก์พี่” ดังกล่าว บางครั้งได้หยิบยกหรืออ้างโทรเลขวิกิลีกส์ฉบับที่รู้จักกันดี (10BANGKOK192 ลงวันที่ 25 มกราคม 2010[2553]) ที่คนใกล้ชิดวังคนสำคัญ 3 คน (เปรม ติณสูลานนท์, สิทธิ เศวตศิลา, อานันท์ ปันยารชุน) ได้พูดกับทูตอเมริกันถึงพระบรมฯในทางลบ ผมจึงได้กลับไปอ่านโทรเลขฉบับดังกล่าวอีกครั้ง และได้ทำการแปลข้อความในส่วนที่เกี่ยวกับพระบรมฯ (และพระเทพฯ) ทั้งหมดใหม่ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับข้อความดังกล่าว ในปริบทของการโต้แย้งความเชื่อเรื่อง “พี่น้องทะเลาะกัน”
แต่หลังจากร่างไปได้ไม่น้อยและใช้เวลาอยู่หลายวัน ผมเปลี่ยนใจ ตัดส่วนที่เป็นการกล่าวถึงทฤษฎี “พี่น้องทะเลาะกัน” ออกเกือบหมด สาเหตุหนึ่งเพราะมันยาวมาก (ผมเพียงแต่สรุปแบบสั้นๆในย่อหน้าแรกข้างต้นว่าจะพูดถึงอะไรในร่างเดิม) และนำเสนอในที่นี้ เฉพาะคำแปลโทรเลขวิกิลีกส์ดังกล่าว พร้อม “ข้อสังเกต” บางประการที่เชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่อง “พี่น้องทะเลาะกัน”
อันที่จริง ข้อความโทรเลขนี้ เมื่อมาอ่านซ้ำ ก็ยังน่าสนใจในตัวเองมาก ใครที่ไม่เคยอ่าน ควรอ่านอย่างยิ่ง ใครที่เคยอ่านแล้ว ก็อยากให้ลองอ่านดูอีกครั้ง ในการแปลนี้ผมพยายามใช้ภาษาธรรมดา หลีกเลี่ยงการใช้คำราชาศัพท์ เพื่อให้ได้ความหมายแบบตรงๆ (เปรม, สิทธิ, อานันท์ เวลาคุยกับทูตอเมริกันใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่ได้เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว)
สรุปย่อ: ..... ทั้งสามคนมีความเห็นไปในทางค่อนข้างลบต่อพระบรมฯ ขณะที่ยืนยันว่าพระบรมฯจะขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ทั้งสิทธิและอานันท์ก็พูดเป็นนัยว่าจะดีกว่าสำหรับประเทศไทย ถ้าสามารถทำให้การสืบราชบัลลังก์เป็นไปในทางอื่น สิทธิแสดงความต้องการให้พระเทพขึ้นครองราชย์ อานันท์เสนอว่ามีเพียงในหลวงเท่านั้นที่อยู่ในฐานะที่จะเปลี่ยนการสืบราชบัลลังก์ และยอมรับว่ามีโอกาสน้อยที่จะทรงทำเช่นนั้น
เปรมยอมรับว่ามงกุฏราชกุมารวชิราลงกรณ์คงจะรักษาความสัมพันธ์บางอย่างกับอดีตนายกฯทักษิณที่ยังหลบหนีอยู่ "ทรงพบกับทักษิณเป็นครั้งเป็นคราว". เปรม ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าไม่ใช่แฟนคลับของทั้งคู่ เตือนว่าทักษิณเสี่ยงต่อการหลอกตัวเอง ถ้าเขาคิดว่าพระบรมฯจะทำตัวเป็นเพื่อน/ผู้สนับสนุนเขาในอนาคต เพียงเพราะว่าเขาให้การสนับสนุนพระบรมฯทางด้านการเงิน "ทักษิณไม่สามารถมีความสัมพันธ์ถึงขั้นนั้นกับพระบรมฯหรอก" ทูตถามว่าพระบรมฯตอนนี้อยู่ที่ไหน ในประเทศไทยหรือยุโรป เปรมตอบแบบปัดๆว่า "คุณก็รู้ชีวิตสังคมของพระบรมฯ รู้ว่าทรงเป็นคนแบบไหน" (หมายเหตุของทูต: เข้าใจว่าเปรมคงพาดพิงถึงการที่พระบรมฯชอบที่จะใช้เวลาอยู่ที่มิวนิคกับสนมหลักของพระองค์ มากกว่าที่จะใช้เวลาในประเทศไทยกับพระชายาและลูกชาย)
เช่นเดียวกัน พล.อ.อ.สิทธิ ตั้งข้อสังเกตถึงการที่พระบรมฯออกไปจากประเทศไทยอย่างเงียบๆบ่อยๆ และว่าข้อมูลเกี่ยวกับสนมที่เป็นแอร์โฮสเตสของพระองค์เป็นที่รู้กันทั่วไปทางอินเตอร์เน็ต สิทธิบ่นว่าอดีตนายทหารคนสนิทของเขา ซึ่งตอนนี้เป็นทูตไทยประจำเยอรมันนี ถูกบังคับให้ต้องออกจากเบอร์ลินบ่อยๆเพื่อไปคอยต้อนรับพระบรมฯที่มิวนิค. สิทธิได้กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันของทักษิณ ต่อ "ไทมส์-ออนไลน์" เมื่อเดือนพฤศจิกายน [2552] ซึ่งสิทธิอ้างว่าทักษิณวาดภาพในหลวงอย่างแย่ๆ และยังพยายามจะยกย่องพระบรมฯว่าเป็นคนใจกว้าง ได้รับการศึกษาจากเมืองนอก เพื่อสื่อเป็นนัยว่าพระบรมฯจะพร้อมต้อนรับทักษิณกลับประเทศไทยเมื่อทรงได้ขึ้นเป็นกษัตริย์
ทูตพูดกับสิทธิถึงการที่พระบรมฯมีลักษณะเข้ากันได้ดีกับคนอื่นมากขึ้นระหว่างงานเลี้ยงรับรองคณะทูตประเทศต่างๆเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาต้นเดือนธันวาคม ทรงจับมือทูตแต่ละคน และทรงมีลักษณะผ่อนคลายมากกว่าครั้่งงานเลี้ยงรับรองปี 2551. สิทธิกล่าวว่าการเปลี่ยนราชบัลลังก์จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับประเทศไทย. ตามกฎมณเฑียรบาล พระบรมฯจะขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อ แต่หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สิทธิพูดเสริมขึ้นมา - ราวกับจะเป็นการแสดงความหวัง - ว่า "ถ้าสมมุติพระบรมฯตายขึ้นมาก่อน อะไรก็เกิดขึ้นได้ และบางทีพระเทพฯ (สิรินธร) อาจจะขึ้นสู่บัลลังก์แทน"
เช่นเดียวกัน ปลายเดือนธันวาคม เมื่อทูตพูดกับอดีตนายกฯอานันท์ ถึงลักษณะมั่นอกมั่นใจมากขึ้นของพระบรมฯระหว่างงานเลี้ยงรับรองดังกล่าว เพื่อขอให้อานันท์ประเมินสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่เกี่ยวกับการเปลี่ยนรัชกาลที่ใกล้เข้ามาอย่างเลี่ยงไม่ได้ คำตอบของอานันท์คล้ายกับของสิทธิ แต่อานันท์พูดละเอียดกว่าและตรงๆมากกว่า อานันท์กล่าวว่า เขาเชื่อเสมอว่าพระบรมฯจะขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพ่อตามที่กฎหมายกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีปัจจัยยุ่งยาก ถ้าพระบรมฯไม่สามารถวางพระองค์ออกจากการเมือง หรือหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเงินที่ชวนให้อับอายได้. หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง อานันท์เสริมว่า ในหมู่คนไทยจำนวนมากมีความเห็นตรงกันว่าพระบรมฯคงทำไม่ได้ทั้งสองอย่าง และด้วยวัย 57แล้ว พระบรมฯคงจะไม่สามารถแก้ไขพฤฒิกรรมของพระองค์ได้. หลังจากเงียบไปอีกครู่หนึ่ง อานันท์เสริมว่า น่าจะมีคนยกเรื่องนี้ขึ้นพูดกับในหลวง แล้วอานันท์ก็พูดแบบเสียใจว่า คงไม่มีใครแล้วจริงๆที่สามารถนำเรื่องอ่อนไหวเช่นนี้ขึ้นพูดกับในหลวงได้ (หมายเหตุของทูต: ที่อานันท์พูดมีนัยว่า จำเป็นต้องมีคนอื่นขึ้นเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปแทนพระบรมฯ)
ข้อสังเกตุ:
(1) ทั้งเปรม, สิทธิ และอานันท์ แสดงทัศนะในทางลบต่อพระบรมฯตกับทูตอเมริกัน แต่ในระดับที่ต่างกัน เปรมซึ่งมีตำแหน่งสำคัญที่สุดในวัง แสดงออกในลักษณะน้อยที่สุด คือพูดแบบไม่ได้วิจารณ์พระบรมฯตรงๆ แต่เพียงว่า “คุณก็รู้ชีวิตสังคมของพระบรมฯ รู้ว่าทรงเป็นคนแบบไหน" (You know his social life, how he is) แต่พุ่งเป้าที่ทักษิณ ในขณะที่ทั้งสิทธิ และอานันท์ แสดงความเห็นค่อนข้างรุนแรง “ถ้าสมมุติพระบรมฯตายขึ้นมาก่อน อะไรก็เกิดขึ้นได้ และบางทีพระเทพฯ (สิริธร) อาจจะขึ้นสู่บัลลังก์แทน" (สิทธิ) และ “ ในหมู่คนไทยจำนวนมากมีความเห็นตรงกันว่าพระบรมฯคงทำไม่ได้ทั้งสองอย่าง [ออกห่างจากการเมืองและมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการใช้จ่าย] และด้วยวัย 57 แล้ว พระบรมฯคงจะไม่สามารถแก้ไขพฤฒิกรรมของพระองค์ได้” “น่าจะมีคนยกเรื่องนี้ขึ้นพูดกับในหลวง” (อานันท์) ซึ่งประโยคหลังนี้ ทูตเป็นคนสรุปเองว่า น่าจะหมายถึงบอกให้ในหลวงพิจารณาตั้งคนอื่นเป็นรัชทายาทแทน (ขอให้สังเกตด้วยว่า อานันท์ ไม่ถึงกับระบุอยากให้พระเทพเป็นแทนเหมือนสิทธิ แม้นัยยะจะเหมือนกัน แต่อย่างน้อยระดับการแสดงออกก็ไม่เหมือนกัน)
(2) ในขณะที่เอกสารนี้ เป็นหลักฐานยืนยันว่า คนในแวดวงวังบางคน อย่างน้อยสิทธิกับอานันท์ อยากจะให้พระเทพฯขึ้นครองบัลลังก์มากกว่าพระบรมฯ ส่วนเปรมนั้น ถ้าอ่านให้ดีจะเห็นว่า ไม่มีตรงไหนที่เอกสารนี้จะใช้ยืนยันในประเด็นนี้ได้ แต่ต่อให้สมมุติว่าทั้ง 3 คนเห็นตรงกันเรื่องนี้ (พระเทพฯน่าจะได้ขึ้นบัลลังก์มากกว่า) ก็ไม่มีส่วนไหนในเอกสารนี้ที่จะใช้สนับสนุน “ทฤษฎี” ที่ว่าพระบรมฯกับพระเทพเอง “ทะเลาะกัน” เลย ยิ่งไม่มีตรงไหนที่บอกว่าพระเทพฯทั้งวางแผนและได้ดำเนินการไปแล้วในการจะชิงบัลลังก์แต่อย่างใด
(3) อันที่จริง แม้แต่ 3 คนดังกล่าวเอง (ต่อให้สมมุติว่า เปรม เห็นตรงกันเรื่องพระเทพฯน่าจะได้ขึ้นบัลลังก์ ซึ่งก็ยังเป็นการสมมุติที่ใหญ่มากอยู่) ก็ไม่มีตรงไหนของเอกสารที่จะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า พวกเขาได้ทำการในลักษณะดำเนินการเพื่อทำให้พระบรมฯเสียสถานะรัชทายาท และเตรียม “ชิงบัลลังก์” มาให้พระเทพ อันที่จริง ถ้าอ่านตามเอกสารเอง สิ่งที่เอกสารนี้บอก ในกรณีสิทธิและอานันท์ คือการ “ยอมรับ” (ในลักษณะที่อาจเรียกได้ว่า “ปลง-ยอมรับชะตากรรม” หรือ resignation) ว่าเรื่องพระบรมฯจะขึ้นครองราชย์เป็นอะไรที่คงไม่มีการเปลี่ยนและเปลี่ยนไม่ได้ (กรณีเปรม ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะดังที่กล่าวแล้วว่า แม้แต่ประเด็นที่ว่า เขาอยากให้พระเทพฯขึ้นบัลลังก์มากกว่า ก็ไม่มีในเอกสารนี้)
แน่นอน ไม่ว่าใครก็สามารถเสนอขึ้นมาได้ว่า ถ้าคนอย่างสิทธิและอานันท์ แสดงความเห็นอยากได้พระเทพฯมากกว่าพระบรมฯ (และแม้แต่สมมุติให้รวมเปรมเข้าไว้ด้วย โดยไม่มีหลักฐานบอกไว้ในเอกสารนี้ ต่างจากสองคนแรก) พวกเขาก็คงจะไปดำเนินการอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้ตามความเห็นนั้น แต่ประเด็นคือ เอกสารวิกิลีกส์ฉบับนี้ไม่มีตรงไหนเลยที่สามารถใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนว่าพวกเขาได้ทำเช่นนั้น (ดังที่เพิ่งเขียนไป เอกสารสนับสนุนในทางกลับกันด้วยซ้ำว่า พวกเขา “ปลง” ยอมรับกับการแก้ไม่ได้) และดังนั้นหากใครต้องการเสนอ “ทฤษฎี” ที่ว่า บรรดา “อำมาตย์” ระดับสูงพวกนี้ได้ทำและกำลังทำการบ่อนทำลายสถานะพระบรมฯ ก็ควรต้องหยิบยกหลักฐานอื่นมาแสดงให้ดูได้ ซึ่งเท่าที่ผมติดตามเรื่องพวกนี้อย่างใกล้ชิด ผมไม่เคยเห็นมีการหยิบยกอะไรขึ้นมาได้เลย
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar