lördag 12 december 2020

"ใคร...ที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการนี้" ???

 

Prachatai
 

2020-12-12 23:36

'ปวิน' ชี้คนปล่อยภาพแอบถ่ายชีวิตส่วนตัวในญี่ปุ่นทำเป็นขบวนการหวังข่มขู่ คนร้ายสะกดรอยถูกจับแล้ว

'ปวิน' ผู้ลี้ภัยทางการเมืองและผู้ก่อตั้งตลาดหลวง ชี้คนปล่อยภาพแอบถ่ายชีวิตส่วนตัวในญี่ปุ่นทำเป็นขบวนการหวังข่มขู่ ส่วนคนร้ายสะกดรอยถูกจับแล้ว สารภาพได้รับการว่าจ้างมา 

12 ธ.ค.2563 จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ '@kkknaka87890' เปิดเผยภาพส่วนตัวและเส้นทางการใช้ชีวิตประจำวันในประเทศญี่ปุ่นของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการและผู้ลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งอาศัยอยู่ ประเทศญี่ปุ่น จนเพจ 'The METTAD' และผู้จัดการออนไลน์นำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อนั้น 

เย็นวานนี้(11 ธ.ค.63) ปวิน โพสต์ว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาตำรวจญี่ปุ่นได้จับคนร้ายชาวญี่ปุ่น วัยกลาง 30 ที่มาป้วนเปี้ยนแถวที่พักตน โดยเพื่อนบ้านเห็นผิดปกติ จึงเรียกตำรวจ ตำรวจมาอย่างรวดเร็ว และจับตัวไปโรงพัก สารภาพว่า “ได้มาเฝ้าติดตามตนมาตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ตามที่ได้รับการว่าจ้างมา” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมาก และยังไม่เป็นข่าวในญี่ปุ่น

ปวิน เล่าต่อว่า การข่มขู่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ตนเคยถูกคนร้ายบุกมาถึงที่พักเมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ครั้งนี้ เหตุการณ์ผิดปกติครั้งนี้เริ่มมาเดือนกว่าๆ มีบุคคลอ้างว่ามาสิ่งพัสดุให้ตนที่ทำงาน แต่เมื่อตนไม่อยู่ ก็เดินจากไป ทางตำรวจได้นำภาพที่จับไว้ได้ใน CCTV และเริ่มการสอบสวนอย่างทันที จากนั้นในเวลาไม่นาน ตนได้รับโทรศัพท์ลึกลับประมาณอาทิตย์กว่า โทรมาหลายครั้ง แต่ไม่แสดงหมายเลขโทรศัพท์ โดยคนพูดเป็นญี่ปุ่น แกล้งว่าโทรมาจากสำนักงานไปรษณีย์ อยากทราบที่อยู่ตน ซึ่งตนฟังแล้วมันไม่ใช่ ทำไมไปรษณีย์ถึงต้องโทรมาถามที่อยู่เรา แถมโทรก็ก็ไม่แสดงหมายเลข จึงได้แจ้งตำรวจ และได้ประสานกับไปรษณีย์ จึงได้รับคำตอบว่า ไปรษณีย์แทบจะไม่โทรหาลูกค้า ที่แน่ๆ จะไม่โทรไปถามที่อยู่ และจะไม่โทรโดยไม่แสดงหมายเลข เป็นอันสรุปว่า เป็นโทรศัพท์เฟค

ปวิน เล่าในโพสต์อีกว่า จนเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. จึงจับตัวคนร้ายได้ ทางการญี่ปุ่นยังไม่บอกทุกอย่าง แต่มีการสันนิษฐานเบื้องต้นมา อาจมาจากเครือข่ายในยุโรป โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย ที่ อั้ม เนโก๊ะ (ผู้ลี้ภัยทางการเมือง) ถูกคนร้ายทำร้ายเมื่อปีที่แล้ว ตำรวจจับได้เช่นกัน และเป็นคนเช็ก ตอนนี้ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการประสานระหว่างตำรวจญี่ปุ่นและตำรวจฝรั่งเศส
 
ผู้ลี้ภัยชาวไทยในญี่ปุ่น เล่าต่อว่า ระหว่างนี้ เมื่อเช้ามีคนส่งทวีตอันนี้มาให้ เป็นทวีตของฝ่ายไอโอ ที่ใช้ชื่อว่า @kkknaka87890 เป็นแอคเค้าท์ที่เพิ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาที่ผ่านมา มีคนตามและตามคนอื่นแค่อย่างละร้อย แต่เพิ่งมาโพสต์เป็นครั้งแรกเมื่อสองวันที่แล้ว ตนลองเช็คคนที่ตามเค้าและคนที่เค้าตาม ล้วนเป็นรอยัลลิสต์ทั้งสิ้น ทวีตเซ็ทนี้มี 5 ข้อความ ล้วนแต่แกล้งเขียนเพื่อแต่งเรื่องว่าตัวเองเรียนอยู่ มหาวิทยาลัยเกียวโต แต่ขี่จักรยานผ่านพบตนโดยบังเอิญ และถ่ายรูปมา แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นตน แต่อ่านแล้วก็รู้ว่า ผู้เขียนจงใจที่จะแสดงที่ตั้งบ้านของตน ที่สำคัญกว่านั้น แอบถ่ายรูปตนเมื่อขี่จักรยานเข้าที่พัก และเมื่อตนเดินออกจากที่จอดจักรยานกำลังจะเข้าที่พัก เป็นรูปที่แอบถ่ายเหมือนที่จอม เพชรประดับ (สื่อมวลชนและผู้ลี้ภัยการเมือง) ถูกแอบถ่าย ใครที่เคยมาบ้านตนก็รู้ว่า มันไม่ใช่เป็นทางผ่าน มันเป็นการจงใจแอบถ่ายและระยะมันใกล้ชิดกันมาก ตนจึงแจ้งตำรวจเมื่อเช้าทันทีและมีการพูดคุยกันทั้งบ่าย แน่นอน รูปที่แอบถ่ายนี้ต้องมีความเชื่อมโยงกับคนร้ายที่ทางการจับตัวได้ ตนรู้ทันทีว่า รูปนี้ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เพราะดิชั้นจำชุดที่ใส่ได้ เป็นวันเดียวกับที่คนร้ายถูกจับ จึงอาจสรุปได้ว่า คนร้ายมาแวะเวียนเฝ้าตน ตามตนและแอบถ่ายตน ก่อนที่จะส่งรูปไปให้คนที่เมืองไทย และถูกจับได้ในคืนนั้น เมื่อทวีตนี้ออกไป เพจ Metted เอาไปลงต่อทันที ทั้งๆ ที่มันมาจากทวีตของคนที่ไม่มีใครรู้จักหรือติดตามจำนวนมาก 

"ใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการนี้ ไม่ว่าผู้สั่งที่อยู่ในไทย ผ่านเครือข่ายโจรในยุโรป โปรดรู้ว่า ทางตำรวจญี่ปุ่นกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ ที่สำคัญกว่านั้น คนทำมีความอุกอาจมาก คือนอกจากสั่งให้คนมาสะกดรอยดิชั้น แอบถ่ายรูปดิชั้น แล้วยังกล้าเอามาลงเย้ยในโซเชียลมีเดีย วันนี้จึงขอเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที และจะอัพเดทต่อไป ทั้งนี้ จะขอเตือนผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ ในต่างประเทศว่า ภัยที่เกิดกับนักกิจกรรมหลายๆ คน รวมถึงต้า (วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกอุ้มหายที่กัมพูชา) ภัยนั้นได้กลับมาอีกแล้ว" ปวิน โพสต์

ปวิน ระบุอีกโพสต์ด้วยว่า ไม่เพียงเท่านั้น บุคคลผู้นี้ยังได้ใช้เครือข่ายที่ญี่ปุ่น สะกดรอยตนจากบ้าน ไปถึงโอซาก้า ในวันที่ดิชั้นไปสัมมนา เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ซึ่งตนได้เดินทางไปกับผู้ร่วมการสัมมนาหนึ่งคน 

ทั้งนี้ ปวิน นอกจากเป็นผู้ต้องหาคดี ม.112 ผู้ลี้ภัยทางการเมืองและนักวิชาการประจำศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ปัจจุบันยังมีบทบาททางการเมืองในฐานะผู้มีก่อตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง' ที่ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 2 ล้านบัญชีเฟซบุ๊ก ที่กลุ่มเดิมมีสมาชิกกว่า 1 ล้าน ถูกรัฐบาลไทยบังคับจำกัดการเข้าถึง กลุ่มดังกล่าวมีเนื้อหาวิพากษณ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ที่ได้รับความสนใจจำนวนมากโดยใช้เวลาเปิดกลุ่มใหม่เพียง 1 สัปดาห์มีสมาชิกกลับมาทะลุล้าน จนมีผู้เรียกปรากฏการณ์นี้ว่าเป็น The Great Migration ทางเฟซบุ๊ก

ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทนายความกลุ่มไทยภักดี ซึ่งเป็นกลุ่มกษัตริย์นิยม แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)  เอาผิดปวิน ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฐานปล่อยให้โพสต์หมิ่นเหม่ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส

โดยตั้งแต่ ก.ค.ปีที่แล้ว มีกระแสการหายตัวไปของ ปวิน เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวบนเฟสบุ๊คตั้งแต่ 8 ก.ค62 และมีกระแสข่าวว่าเขาถูกทำร้าย จนเดือนต่อมา ปวิน ออกมาเปิดเผยว่า วันที่ 8 ก.ค. 62 เวลา 04.45 น. มีชายใส่ชุดดำ สวมหน้ากากบุกเข้ามาในห้องพักของตนในเมืองเกียวโต ชายคนนั้นเปิดประตู เดินมายังห้องนอนที่ตนนอนอยู่กับเพื่อน ดึงผ้าห่มออกแล้วพ่นสเปรย์เคมีใส่ทั้งสองคน จากนั้นก็วิ่งหนีไป โดยตนและเพื่อนไล่ตามแต่จับไม่ทัน ต่อมาตำรวจญี่ปุ่นมาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชันสูตร เจ้าหน้าที่เหมือนจะเข้าใจเบื้องหลังของตน และสันนิษฐานว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวโยงกับการเมืองในไทย จึงให้ชุดตำรวจต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติรับคดีนี้ไปสืบสวนต่อ ในครั้งนนั้นตำรวจยังแนะนำไม่ให้กลับไปที่ที่พักและนำไปอยู่ยังเซฟเฮาส์

นอกจากนี้ เมื่อปี 2559 ปวินเคยเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไปข่มขู่ คุกคามครอบครัวของเขาถึงที่พักในกรุงเทพฯ และยังมีการโทรศัพท์ไปหาเพื่อขอบังคับให้ปวินยุติกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการบรรยายประเด็นทางการเมืองไทยขณะอยู่นอกประเทศ ไม่เช่นนั้นจะต้องรับผิดชอบ

ปวินเคยรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ก่อนจะไปเป็นอาจารย์และนักวิจัยสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ก่อนย้ายไปประจำที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ปวินวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้ไม่ไปรายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามคำสั่งเรียก หลัง คสช. ยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 ต่อมา ปวินถูกกระทรวงการต่างประเทศไทยถอนพาสปอตร์ต โดยอ้างเหตุผลว่าเขาไม่ไปรายงานตัวต่อ คสช.

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar