สุดยอด คำเท่ จากวิษณุ เครืองาม ′ลงเรือแป๊ะ′
matichon Online
ประหนึ่ง "คำพูด" ตอนหนึ่งของนายวิษณุ เครืองาม ระหว่างบรรยาย "บทบาท สนช.กับการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืน" ณ ชะอำบีช รีสอร์ท
โดยการอ้างอิง "คำโบราณ" ที่ว่า"ลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ ไม่เช่นนั้น จะถูกแป๊ะไล่ลงจากเรือ"
จะเป็นการ "สื่อ" โดยตรงไปยังสมาชิก "สนช." ซึ่งนั่งฟังอยู่ในห้องประชุม ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง สิ่งที่นายวิษณุ เครืองาม เน้นอย่างหนักแน่นคือ
ความที่เรียกว่า "แม่น้ำ 5 สาย"
ได้แก่ 1 คสช. 2 ครม. 3 สนช. 4 สปช. และ 5 กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตกอยู่ในสภาวะอันสรุปได้ว่า"วันนี้ทุกคนลงเรือลำเดียวกัน"
เป็นเรืออันมาจากกระบวนการรัฐประหาร เป็นเรืออันมี "โรดแมป" กำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนภายใต้คำขวัญ"ทำทันที ทำต่อไป ทำอย่างยั่งยืน"
ทั้งหมดนี้จึงมิได้เป็นคำมั่นอันเป็น "สัญญา" ที่ให้ไว้กับ "ประชาคม" เท่านั้น หากที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเป็นคำมั่นอันให้ไว้กับ"แป๊ะ" ซึ่งเป็น "เจ้าของเรือ"
ไม่ว่าใครจะชี้นิ้วและกล่าวหาบทบาทของนายวิษณุ เครืองาม อย่างไร แต่บทสรุปจากการตัดสินใจลงเรือ "แป๊ะ" ตรงประเด็นอย่างที่สุด
ท่าทีของนายวิษณุ เครืองาม จึงต่างไปจากนายสมหมาย ภาษี
แม้เนื้อหาที่นายสมหมาย ภาษี กล่าวในลักษณะ "ประเมิน" หรือ "คาดการณ์" กับนักข่าวแห่งสำนักข่าวต่างประเทศที่ว่า
อาจจะมีการเลือกตั้งประมาณกลางปี 2559
อาจเริ่มต้นจากความเป็นจริง 1 คือ ระยะเวลาที่ลงประชามติ และ 1 คือการจัดทำกฎหมายลูกหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ
แต่ก็อย่างที่มี "คำพูด" อันลอยมาตามสายลม"สมหมายเป็นใคร"
คำถามนี้เริ่มต้นบนพื้นฐานที่ว่า นายสมหมาย ภาษี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังทำหน้าที่บริหารเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การจัดเก็บภาษีมิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ "รัฐธรรมนูญ"ตรงนี้คือจุดต่างระหว่าง "สมหมาย" กับ "วิษณุ"
การนำเสนอถ้อยคำของนายวิษณุ เครืองาม อันสัมพันธ์กับ 1 "วันนี้ ทุกคนลงเรือลำเดียวกัน" และ 1 ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด
เป็นการลงเรืออะไร และลงเรือของใคร
ประโยคหลังเท่ากับเน้นให้เห็นความสำคัญ "ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ไม่เช่นนั้น จะถูกแป๊ะไล่ลงจากเรือ"
นายสมหมาย ภาษี มิใช่คนแรกที่เกิดข้อสงสัย "สมหมายเป็นใคร"
คงยังจำกันได้ว่า ก่อนหน้านี้ไม่นานก็ปรากฏคำถามในลักษณะเดียวนี้ว่า "วิษณุเป็นใคร"
ความเข้าใจของนายวิษณุ เครืองาม จึงมิใช่เรื่องประเภท "โชคช่วย"
ตรงกันข้าม เป็นความเข้าใจจากการที่เคยทำงานร่วมกับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ในรายการสนทนาประชาธิปไตย เป็นความเข้าใจจากการนั่งอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลายยุคหลายสมัยของรัฐบาล
ยิ่งกว่านั้น ยังเคยถูกตั้งคำถามมาแล้ว "วิษณุเป็นใคร"
บทสรุปของนายวิษณุ เครืองาม จึงเป็นบทสรุปในลักษณะ "ซาโตริ" เป็นการ "รู้แจ้ง รู้ตื่น และเบิกบาน" มาโดยตนทั้งประสบการณ์ "อ้อม" ทั้งประสบการณ์ "ตรง"
ในความเป็นจริง "ถ้อยคำ" ของนายวิษณุ เครืองาม อาจฟังแล้วกว้าง แต่มีลักษณะอันครอบคลุม
เหมือนกับเน้นให้กับกลุ่มที่ลงเรือลำเดียวกันอันเป็น "แม่น้ำ 5 สาย" แต่ภายในความหนักแน่นและจริงจังนี้ เท่ากับใบ้บอกให้กับ "สังคม" ไปด้วยในขณะเดียวกัน
เป็นบทสรุปแบบ "สัจนิยม" เป็นบทสรุปเชิง "เรียลลิสติก"
....................................................................
-นายวิษณุ เผย หลักสำคัญ 5 ข้อสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ระบุ การรวมตัวของบุคคลยากเหมือนปลา 4 น้ำ แต่ก็สามารถผ่านมาได้ ยืนยันระบบวิปรัฐบาลนี้แข็งแกร่งสุด
วันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมนาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ประจำปี 2557 ว่า ระบบวิปในรัฐบาลปัจจุบันเป็นระบบที่แข็งแกร่งอยากให้นำไปใช้ในอนาคต และรัฐบาลถือเป็นเนื้อเดียวกัน เพราะมาจากแหล่งเดียวกันคือ คสช. ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาได้เฝ้ามองเห็นการทำงานของสนช. เหมือนสัตบุรุษที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยกฎกติกามารยาท แม้สนช.จะรวมกันเหมือนปลา4น้ำ ประกอบด้วย ท็อปบูท คสช.เป็นผู้ตั้งขึ้นมา มามือเปล่า ผู้มีประสบการณ์รัฐสภา กอดตำราคาบตัวบทมาด้วย พวกหิ้วกระเป๋ามา หรือนักกฎหมายและภาคเอกชน และส่วนตัวแม้จะมาจากคสช. แต่ก็ได้รับความเมตตาจนงานสำเร็จลุล่วง พร้อมชื่นชมการทำงานของประธานและรองประธานสนช.ที่สามารถคุมเกมส์ในสภาอยู่ในระเบียบได้
สนช.ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุคที่ร่วมพัฒนาประเทศซึ่งจะต้องคัดสรรกฎหมายที่มีประโยชน์เข้ามายังสภาให้ดีที่สุดพร้อมเสนอแนะหลักสำคัญการ5ข้อของการพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนคือ
1.บลูปริ้นหรือพิมพ์เขียวซึ่งยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีพิมพ์เขียวการยกร่างรัฐธรรมนูญตามที่ถูกพูดถึง แต่จากนี้จะเริ่มมีแนวทางว่าจะต้องแก้หรือปรับปรุงกฎหมายใดหรือที่มาของนายกรัฐมนตรี
2.โรดแมป ของคสช.ซี่งยอมรับว่าหนักใจเพราะในช่วงหนึ่งได้ออกประกาศหรือคำสั่งบางฉบับที่เป็นกฎหมายและมีผลผูกพันธ์ในอนาคตดังนั้นสัปดาห์หน้าเตรียมหารือคณะรัฐมนตรีเพื่อที่จะส่งเรื่องไปยังสนช.ให้ออกพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งคสช.หรือประกาศนั้นเพราะครม.ไม่มีอำนาจในการยกเลิกนอกจากนี้รัฐบาลพร้อมที่จะทูลเกล้าฯรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายในวันที่4กันยายนปี2558ส่วนจะได้รับการโปรดเกล้าฯเมื่อใดหม่สามารถตอบได้และแม้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้วก็ยังไม่สามารุจัดการเลือกตั้งได้เพราะต้องออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก่อน
3.แม่น้ำ5สายซึ่งสนช.คือหนึ่งในนั้นที่จะต้องไม่เป็นแม่น้ำสายเดียวในการขับเคลื่อนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
4.ทำทันทีทำต่อไปทำอย่างยั่งยืน
.ต้นทางกลางทางปลายทางหรือการออกกฎหมายที่จะต้องทำอย่างเป็นระบบตั้งแต่การตีความของกฤษฎีกาก่อนส่งกลับมาให้สนช.พิจารณาอีกครั้ง
นายวิษณุกล่าวต่อว่าในช่วงเดือนธันวาคมนี้รัฐบาลจะผลักดันกฎหมายสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาหลายฉบับอาทิร่างพระราชบัญญัติประมวลรัษฎากรที่มีความเกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติภาษีมรดก ซี่งร่างกฎหมายนี้คาดว่า จะผ่านการแก้ไขและประกาศใช้ประมาณเดือนมิถุนายน จึงจะเริ่มจัดเก็บเงินได้
ขณะที่เดือนมกราคมหรือกุมภาพันธุ์ จะเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมเพื่อกำหนดกรอบการชุมนุม อาทิ งดการชุมนุมตั้งแต่เวลา22.00-.06.00 นาฬิกา ห้ามชุมนุมใกล้วัดและโรงเรียน พร้อมยืนยันว่ากรอบเหล่านี้ไม่ใช่การจำกัดสิทธิการแสดงออกทางการเมือง และเตรียมเสนอให้สนช.กำหนดรูปแบบการพิจารณากฎหมายที่ต้องระบุชัดเจนว่ากฎหมายใดเป็นกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนเรื่องการสร้างความปรองดองสามารถทำได้ด้วยการลงพื้นที่พบปะประชาชนดังนั้นคาดหวังว่าหลังจากนี้สนช.จะเริ่มลงพื้นที่ดำเนินการเรื่องนี้จากที่ยังไม่เคยทำมาก่อนซึ่งหากทุกคนทำด้วยความเพียรความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar