|23-03| : ทัศนัยปราบมาร "ศิลปะอับอายมามากแล้ว เพราะไม่รักเสรีภาพกันแบบนี้" - Breaking News
ม็อบรีเด็ม, เก็บตกม็อบ, สามคนผัวเมียล่องเรือ และ ตูบท้า ปชช. (คลิปสมบูรณ์)
.....................................................................
Thai E-News
เพราะในหลวง-ราชินีเสด็จเชียงใหม่ ความ ‘เอ่อล้น’ ของวิจิตรศิลป์ จึงเกิด
เพราะในหลวง-ราชินีเสด็จเชียงใหม่ (ไม่เห็นเจ้าคุณพระห้อยตาม) ความ ‘เอ่อล้น’ ของคณะบดีและรองฯ มช.จึงบังเกิด ถืออำนาจบาตรใหญ่พากันไปกับเลขาฯ และเจ้าหน้าที่คณะ เก็บงานของนักศึกษาที่วางแสดงอยู่หน้าหอศิลป์
จับยัดใส่ถุงดำเอาขึ้นรถจะนำออกไป พวก นศ.เจ้าของงานเห็นทันเข้าขวาง เจรจากันอยู่นาน รองฯ หญิงคนหนึ่งพูดอย่างวางท่า เด็กขอดูบัตรว่ามีอำนาจขนาดไหน ไม่มีบัตรติดตัวก็บอกไปตามวิสัยครูบาอาจารย์ผู้ปราณี ดัน ‘sarcastic’* ส่อเสียดเสียนี่
*(ขอความกรุณา ไชยันต์ ไชยพร อย่าเพิ่งตำหนิคำแปลภาษาปะกิตตรงนี้นะฮับ นี่แค่บทความ ไม่ใช่วิทยานิพนธ์การเมืองเรื่องเจ้า)
ก็เลย วันนี้เห็นว่าจะมี ‘อีเว้นต์’ เด็กๆ นัดกันไปจัดที่ห้องคณบดีวิจิตรศิลป์ ต่อเนื่อง “จดหมายเปิดผนึกถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณบดีคณะวิจิตรศิลป์...ในหัวข้อ ‘ตั้งข้อซักถามต่อเหตุการณ์รื้อถอนงานศิลปะของนักศึกษา’”
หลังจากมีอาจารย์อีกคนเข้าไปชี้แจง (ตรงหน้า) แทนเด็ก ตอนท้ายของเหตุการณ์แล้ว “ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ ได้เข้ามาพูดคุยและเจรจาขอให้คืนงานของนักศึกษา” ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
พวก ‘บดี’ จึงยอมเอาถุงดำลงจากกระบะรถคืนให้ “นักศึกษาได้ตรวจสอบผลงานศิลปะของตนเองและพบว่า บางส่วนได้รับความเสียหายจากการเคลื่อนย้าย จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูพิงค์ฯ” โดยเฉพาะงานชิ้น ‘มัดตราสัง’ เละ
แต่ที่เป็นไวรัลขนาดติดเทร็นด์ ก็คำที่ อ.ทัศนัยบอกกับพวก ‘บดี’ “อย่าทำอย่างนี้อีก ศิลปะอับอายมามากพอแล้ว เพราะคนที่ไม่รักเสรีภาพแบบนี้...เคารพผลงานศิลปะ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจากนักศึกษา ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นจากคนไม่ได้เรียนศิลปะ
รู้จักเคารพมันบ้าง” จนมาถึงท่อนฮุก “ศิลปะไม่เป็นเจ้านายใคร และไม่เป็นขี้ข้าใคร” นั่นละสัจจธรรมความเป็นไทยุคศตวรรษที่ ๒๑ ที่เอาศิลปะมาปรับใช้ได้กับทุกมิติของการดำรงชีวิต ทุกคนมีสิทธิแสดงออก และทำในสิ่งที่เชื่อโดยไม่ก้าวก่ายใคร
เช่นที่นักแสดงหญิงคนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน มีชายนายหนึ่งตามเข้าไปชะโงกถ่ายภาพ เจ้าตัวตามออกมาเผชิญหน้า พบว่าขับรถติดป้าย ‘Police’ จึงไปแจ้งความไว้ เหตุเกิดกลางดึก ๖ มีนา ผ่านมาสองอาทิตย์ ไม่รู้หมู่หรือจ่าที่โรงพัก ‘เฉย’
‘หมิว’ สิริลภัส กองตระการ จึงโวยวายทางโซเชียล ถึงได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากตำรวจให้ไปพบกับผู้ก่อเหตุ พอเผชิญหน้ากัน เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลนายนั้นบอกว่า ที่ถ่ายรูปไปด้วยความบริสุทธ์ใจไม่คิดร้าย เพียงแค่ “เบลอๆ เข้าห้องน้ำผิด”
นี่คืออัปลักษณ์นิสัยตำรวจไทยยุคมี ‘คอแดง’ ไว้กดดัน ต่อกร และจัดการกับประชากรนักประชาธิปไตย ในที่ลับที่แจ้ง ที่สาธารณะที่รโหฐาน ไม่เว้น อย่างที่ลับมากก็เรือนจำ สถานที่ราชทัณฑ์ ผู้ถูกคุมขังยังไม่ได้เริ่มคดีและศาลไม่ยอมให้ประกัน
จากให้การศาลอาญา ไผ่-ไม้ค์เบิกความลงรายละเอียดยับ ๑๕ นาฑีหลังเที่ยงคืน ๑๖ ต่อ ๑๗ มีนา “มีเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์จำนวนมากและเจ้าหน้าที่พยาบาล มาขอตรวจโควิค-๑๙” พวกเขา ๗ คนในหมู่ผู้ต้องขัง ‘ไม่ยอม’
ตีสองมาอีก คราวนี้ “ผู้คุมใส่ชุดกากีและชุดดำมากกว่า ๑๕ นาย รอบนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลมาด้วย แจ้งว่าจะขอย้ายพวกตนทั้ง ๗ คนไปยังเรือนพยาบาล” พวกเขาไม่ยอมอีก กลัวเจอแบบ ‘หมอหยอง-ปากรม’ ที่ถูกจับข้อหา ๑๑๒ ตายในคุกก่อนเริ่มคดี
ราชทัณฑ์ก็เลยย้ายคนอื่นออกไปไว้อีกห้องรวมกับผู้ต้องขังที่ยังไม่ผ่านการตรวจโควิด เหลือแต่กลุ่มแกนนำคณะราษฎรเจ็ดคน คืนนั้นทั้งคืนไม่ค่อยได้หลับได้นอนกัน เพราะต้องคอยนั่งยามด้วยความกลัว ดังภาณุพงศ์ จาดนอก ให้การว่า
“เนื่องจากมีเพื่อนผู้ต้องขังเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้มีผู้ต้องขังถูกนำออกไปจากห้องในยามวิกาลเช่นนี้เพื่อไปทำร้าย บางคนได้รับบาดเจ็บกลับเข้ามา บางคนก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย” มิหนำซ้ำเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไม่เห็นมีการมานำตัวไปตรวจโควิดดังอ้างเมื่อคืน
วันนี้ หลังจาก ‘เพ็นกวิ้น’ พริษฐ์ ชีวารักษ์ ถูกพิพากษา (หักกลบลบโน่นนี่แล้วเหลือ) จำคุก ๑๕ วัน มีการย้ายสถานที่คุมขังไปยังคุกจังหวัดปทุมธานี ห่างจากเพื่อนพ้องที่ร่วมชะตากันอยู่ ยังความเป็นห่วงกังวลแก่มารดาและมิตรสหายภายนอกอย่างยิ่ง
มันเป็นอย่างนี้ ความปด ตอหลดตอแหลของ ‘เจ้าหน้าที่รัฐ’ แดนกะลา ทั้งตำรวจ ทหาร (ข้าว ๗๐๐ กระสอบส่งให้เผด็จการพม่า ติดชายแดนกองทัพกะเหรียงกั้น ไถไปว่าเพื่อมนุษยธรรม) และราชทัณฑ์ แม้กระทั่งพวก ‘วิจิตรบดี’
ท้ายสุดวันนี้จากปาก ตัวใหญ่ “ท้า...ถ้ามีการระแวงว่า ผมจะสืบทอดอำนาจ ก็ไปแก้มา จะเลือกผมหรือไม่เลือกผมก็ไม่ได้ขัดข้อง ไม่เลือกก็ได้ ก็ไปแก้มาแก้ให้ได้ก็แล้วกัน” ไอ้รัฐธรรมนวย ที่วางเงื่อนไว้ไม่ให้แก้น่ะ จะแก้รายมาตราก็ลองดู
(https://www.facebook.com/waymagazine/posts/10157670667926456, https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2708240819468793, https://www.facebook.com/nontawat.machai/posts/1367042923631392 และ https://www.facebook.com/communityofmorchor/videos/881052882714589/)
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar