torsdag 17 juni 2021

ใบตองแห้ง: มืดมิดรูปตัว K


2021-06-13 08:17

William Pesek คอลัมนิสต์ของ Nikkei Asia เพิ่งเขียนบทความเรื่อง Thailand’s long descent into economic darkness ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะมืดมิด เข้าสู่ “ทศวรรษที่สูญหาย” ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิดด้วยซ้ำ เพราะการเมืองไร้ประสิทธิภาพมายาวนาน 15-20 ปี

Pesek เป็นคอลัมนิสต์ที่ฝ่ายไล่ทักษิณชอบอ้างอยู่เนืองๆ (เดี๋ยวจะว่าพี่โทนี่ซื้อไปแล้ว) ครั้งนี้ก็ไม่วายด่าทักกี้ บอกว่าแม้ทำให้เศรษฐกิจโตพุ่งพรวด ก็เอื้อต่อครอบครัวตัวเอง จนถูกรัฐประหารในปี 49

แต่นั่นแหละ หลังจากนั้นมาคือ “ทศวรรษที่สูญหาย” ยิ่งภายใต้ประยุทธ์ 7 ปี ซึ่งเขาชี้ว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง เหยียดหยามระบอบทักษิณแต่ตัวเองก็แจกเงิน ไม่สามารถพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันหรือนวัตกรรม ยังทำแบบเดิมคือพึ่ง 3 เสาหลัก การลงทุนต่างชาติ การส่งออก การท่องเที่ยว แล้วโควิดก็มาพังราบ ปัจจุบันทั้งหนี้ครัวเรือนสูง หนี้สาธารณะใกล้เกินเพดาน และจะฟื้นตัวหลังประเทศเพื่อนบ้าน

“หนึ่งในเศรษฐกิจที่มีศักยภาพที่สุดของเอเชียต้องเผชิญความเลวร้าย เพราะเหล่าผู้นำที่ติดอยู่ในโลกเก่า”

เขาไม่ได้พูดเกินเลย เพราะอ้างจากคำพูดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งชี้ว่าโควิดรอบ 3 และการกระจายวัคซีนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นกลับสู่ระดับก่อนโควิด (ที่แย่อยู่ก่อนแล้ว) ในไตรมาสแรกของปี 2566

ซึ่งสวนทางที่รัฐบาลพยายามขายฝัน นักวิเคราะห์นักวิแคะก็ช่วยกันตีปี๊บ ปีหน้าหมดโควิด การท่องเที่ยวการส่งออกจะกลับมาให้ลืมตาอ้าปาก

ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ก็เขียนบทความ “การฟื้นตัวแบบรูปตัว K ของเศรษฐกิจไทย” แม้เพิ่มเติมว่า “ในวิกฤตยังมีโอกาส” อธิบายว่าการฟื้นตัวหลังโควิดมีหลายแบบ ทั้งตัว V, U, W แต่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มตัว K ที่มีทั้งชี้ขึ้นชี้ลง เช่น ภาคส่งออกชี้ขึ้น ภาคท่องเที่ยวชี้ลง

แต่หนักกว่านั้นคือความเหลื่อมล้ำที่เลวร้ายอยู่แล้ว เมื่อต้นปี ธนาคารโลกวิเคราะห์ว่า วิกฤตโควิดทำให้คนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านคน แต่กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 230% ในไตรมาสแรก

“ผมมักเรียกเศรษฐกิจไทยว่าเป็น ‘เศรษฐกิจสองความเร็ว’ โดยเศรษฐกิจระดับบนเปรียบได้กับรถสปอร์ตที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ขณะที่เศรษฐกิจระดับล่างเปรียบได้กับสามล้อถีบ ที่แม้ระยะหลังจะอัพเกรดขึ้นมาเป็นสามล้อเครื่อง แต่ความเร็วก็ยังต่ำกว่าจากเศรษฐกิจระดับบนมาก วิกฤตคราวนี้ทำให้เศรษฐกิจระดับล่างกลับไปเป็นสามล้อถีบอีกครั้ง และถ้าวิกฤตยืดเยื้อยาวนานถึงปีหน้า อาจจะกลายเป็นการเดินหรือการวิ่งแทน”

เห็นภาพชัดนะ SME คนค้าขายรายย่อย คนเล็กคนน้อย เจ๊ง ตกงาน ร้านอาหารทยอยปิด ตึกแถวติดป้ายขายเซ้งให้เช่า แต่ราคาหุ้นกลับขึ้นไปเท่าหรือสูงกว่าก่อนโควิด เศรษฐกิจจริงพัง แต่โค้ชการเงินเดินขวักไขว่ ตลาดคริปโตซื้อขายกระหน่ำ

บอกให้ประชาชนปรับตัว หันไปค้าขายออนไลน์ แต่ทำได้สักกี่คน ดูโฆษณาออนไลน์เห็นแต่ขายเครื่องสำอาง สมุนไพร ลดน้ำหนัก กำจัดหัวล้าน ฯลฯ WFH ห้ามนั่งร้านอาหาร แพลตฟอร์มส่งอาหารขยายใหญ่โต แต่มอเตอร์ไซค์กลายเป็นทาสแรงงานสมัยใหม่ ยิ่งเหลื่อมล้ำหนักไปอีก

เอาแค่ฉีดวัคซีนก็เหลื่อมล้ำ มีอภิสิทธิ์ชน มีโค้ดรุ่งเรือง มีข้อสงสัยโควตาพรรคการเมือง อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายเอง

ดอน นาครทรรพ บอกว่าภาครัฐควรถือโอกาสนี้ยกการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นวาระแห่งชาติ ฝากความหวังกับใคร? กับคนที่นั่งรถมองกระจกเห็นแต่แถวทหาร เห็นแต่รัฐราชการ จัดงบประมาณมีแต่งบประจำ งบผูกพัน ซื้ออาวุธ สร้างตึก ทำป้าย ตัดงบวิจัยนวัตกรรมสวัสดิการประชาชน

ในขณะที่ประเทศต้องการความคิดสร้างสรรค์ สร้างจุดขายใหม่ๆ ระบบการศึกษาไทยยังบังคับให้เรียนออนไลน์แต่งเครื่องแบบเคารพธงชาติ นี่ครูรู้ไหมว่า “แนนโน๊ะ” ปัง! ดังไกลถึงเมืองจีนสร้างโอกาสโกยเงินหยวน “คั่นกู” เพราะเราคู่กัน หนังวาย ก็โด่งดังโกยเงินเยน

เหล่าผู้นำที่ติดอยู่ในโลกเก่า ไม่เข้าใจว่าคนรุ่นใหม่มีศักยภาพแต่ถูกปิดกั้น ด้วยกรอบความคิดเก่าอนุรักษ์วัฒนธรรมความเป็นไทย (ซึ่งความจริงก็เอาไว้ขายการท่องเที่ยว) ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่าง กีดกันไม่ให้เด็กเล่นเกมอ้างเสียการเรียน รู้ไหมว่าเด็กไทยคิดเกมขายทั่วโลกทำเงินเท่าไหร่ แต่พอเกมผีดังก็จะห้ามใช้ท่ารำไทย

แน่ละว่า ตัว K ไม่ใช่แค่ทางเศรษฐกิจ แต่ทางการเมืองอาจแรงกว่าด้วยซ้ำ หางตัวอักษรชี้ขึ้นชี้ลง 15 ปี ยิ่งมายิ่งถ่าง ระหว่างอำนาจอนุรักษนิยม ทหาร รัฐราชการ และคนที่ปกป้องอย่างดักดาน กับพลังประชาธิปไตย ความคิดเสรีของคนรุ่นใหม่ ที่ปะทะกันในทุกโครงสร้าง ตั้งแต่อำนาจการเมืองไปถึงวัฒนธรรมความเชื่อ

ถ้าจะไม่เหมือนตัว K คือความเหลื่อมล้ำและถ่างออกจากกันอย่างรุนแรงนี้ ไม่รู้ว่าหางที่ชี้ขึ้นชี้ลงมันจะย้อนมาชนกันเมื่อไหร่

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/news_6447016

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar