สนธิญา สวัสดี ไปร้องตำรวจให้ดำเนินคดีดาราคนดัง Call Out ด่ารัฐบาล พรรคพลังประชารัฐรีบปฏิเสธไม่ใช่คนของพรรค เสกสกลไม่รับเป็นลูกน้อง แต่ที่ไปร้องเอาผิด “มิลลิ” คืออภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประธาน คตส. ที่ประยุทธ์ตั้งให้กินเงินเดือนหลวง เพื่อทำหน้าที่ไล่ฟ้องคนวิจารณ์ประยุทธ์
รัฐมนตรีดีอีเอสก็ปากเก่ง ขู่ดาราคนดังจะมีความผิดฐานเผยแพร่เฟกนิวส์ แต่พอกระแสแรงก็ถอย อ้างว่าไม่ได้ขู่แค่เตือน
กระแสแรงขนาดไหน หนุ่ม กรรชัย กลายเป็นขวัญใจแถวหน้า “พี่ก็อย่าแถมาก” ถึงขนาดเอามาทำเพลง ผู้มีอำนาจคิดผิด คิดว่าดารานักร้องขู่ง่าย ไม่รู้ว่าคนรุ่นใหม่ก็มีความคิดของตัวเอง มีความกล้ารักอิสระ ไม่เหมือนดารารุ่นเก่า ที่ต้องสวามิภักดิ์ผู้หลักผู้ใหญ่
บางคนอาจโดนบีบออกจากช่อง เช่น หมิว สิริลภัส แต่หลายคนเป็น Influencer ออนไลน์ ไม่ต้องแยแสสนใจสังกัด เช่น โฟกัส จีระกุล ปุ้มปุ้ย พันทิพา หรือบรรดาแร็พเปอร์ทั้งหลาย แน่ละ ดาราส่วนหนึ่งก็โดนกระแสบีบให้ Call Out ออกมากลางๆ กลวงๆ แต่นั่นก็สะท้อนความไม่พอใจของสังคม คนตายคาบ้าน ตายข้างถนน เผาศพจนเตาระเบิด ดาราคนไหนยังเฉยใส่บิกินีโชว์โลกสวยฟีลกู๊ดให้กำลังใจรัฐบาลนะคะ ชาวบ้านด่าเปิง
Call Out ของดาราจึงสะท้อนปฏิกิริยาสังคม ที่อาจทรงพลังยิ่งกว่าสะท้อนผ่านนักการเมืองฝ่ายค้าน ภายใต้ระบบรัฐสภาพิกลพิการ รัฐบาลมาจาก 250 ส.ว. และเครือข่ายอำนาจหนุนหลัง พรรคร่วมไม่กล้าถอนตัว ฝ่ายค้านถูกทำลาย พลังต่อต้านจึงระเบิดออกมานอกสภา เป็นม็อบ เป็นกระแสออนไลน์ ที่ไปกดดันผ่านดารา
รัฐบาลล้มเหลวยังดันทุรัง คิดว่าจะใช้ปืนใช้กฎหมายกดได้ ทั้งที่ปืนกฎหมายไร้ประสิทธิภาพสิ้นเชิงเมื่อเจอโควิด กลายเป็นปรสิตของสังคม เช่นงบกองทัพ กระแสสังคมจึงถล่มทลายให้ตัดงบเรือดำน้ำ ยังดีธรรมนัสฉลาด ตัดไฟต้นลม ประกาศว่า พปชร.ก็ค้าน ทหารเรือแพ้แป้งถอยกรูด
ทิม พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลกระหน่ำซ้ำ รู้ไหม กองทัพบกมีกำลังพล 2.6 แสนคน แต่ใช้ป้องกันชายแดนใช้ภารกิจความมั่นคงแค่ 5.3 หมื่น รู้ไหม สำนักปลัดกลาโหมกับกองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานซ้ำซ้อน ถ้ายุบควบรวมกัน ประหยัดเงินภาษีได้ปีละ 1.5 หมื่นล้าน
พูดไม่ทันขาดคำ กรมสารบรรณทหารก็ทำหนังสือขอวัคซีน Moderna จากสภากาชาดไทย มาฉีดให้กำลังพลและครอบครัว กองทัพชี้แจงว่า ไม่ใช่เอกสารปลอมแต่ไม่ใช่หนังสือราชการ นี่ไง อภิสิทธิ์ชนที่สังคมไม่ไว้วางใจ “หมอไม่ทน” ชวนจับตา ใครจะได้ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส จากที่บอกว่าจะฉีดให้บุคลากรการแพทย์ 7 แสนโดส แต่ตอนนี้ไล่ฉีด Astra ไปแล้ว โควิดไทยกำลังเข้าสู่สถานการณ์เลวร้ายไม่แพ้อิตาลี อังกฤษ อเมริกา เมื่อปีที่แล้ว หรืออินเดียก่อนหน้านี้ โดยยังไม่ถึงจุดพีก ด้วยซ้ำ
บางคนคาดว่าจะพีกสุดกลางสิงหา บางคนคาดว่าปลายสิงหา หลังจากนั้นจะตามมาด้วยวิบัติเศรษฐกิจ ที่อยู่ในสภาพ “โลกทิ้งไทย” ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส หมอพยาบาลด่านหน้าทำงานหนัก เสี่ยงภัย ไม่ได้พัก แพทย์บุษราคัม (ได้ค่าเดินทาง 8 บาท) โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ โพสต์เล่าสภาพสะเทือนใจ “จดหมายถึงแม่”
องคาพยพของรัฐที่ใหญ่โต ที่สร้างขึ้นเพื่อค้ำอำนาจ เพื่อควบคุมประชาชน ไม่สามารถช่วยอะไรเลย นอกจากประกาศสงครามกับผักตบชวา กำจัดไปสี่ล้านกว่าต้น ซ้ำยังเป็นปรสิต ดึงงบประมาณ ดึงอุปกรณ์การแพทย์-กู้ภัยไปไว้กับตัวเอง หมวกป้องกันสารพิษมีไว้ให้ คฝ. แต่เพลิงไหม้สารเคมีใช้อาสาไปตาย แค่ให้อนุทินแปลงร่างเป็นกู้ภัยจึงไม่ช่วยอะไร ทัวร์ลงอุตลุด ทำไมไม่ไปทำหน้าที่จัดหาวัคซีน
กระแสความไม่พอใจวันนี้ไม่ใช่พุ่งชนแค่ประยุทธ์ แต่รวมถึงเครือข่ายอำนาจหนุนหลัง รัฐราชการทหารตำรวจ เช่นม็อบ 18 ก.ค.ก็ไม่ได้ไล่แค่ประยุทธ์ หาก “กระทุ้งเพดาน” ซ้ำ
ประชาชนไม่ใช่เด็กอมมือ ใครก็รู้ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่กล้าถอนตัว จำใจตายในเรือล่ม ก็เพราะประยุทธ์มีอำนาจมหึมาหนุนหลัง อำนาจที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ เครือข่ายอำนาจไม่แยแสประชาชน จะตายอีกเท่าไหร่จะวิบัติแค่ไหนก็เข็นประยุทธ์ต่อไป กองเชียร์ก็ฮึดค้ำประยุทธ์ เช่น สุเทพ เทือกสุบรรณ ยกคำพูดอธิการบดีศิลปากรที่เคยเป่านกหวีด เกิดเป็นคนไทยโชคดีที่สุด ขอให้รักกัน ระบอบการปกครองจะเป็นแบบไหนก็ได้ ขอให้มีชาติศาสน์กษัตริย์ และไล่คน “ชังชาติ” ออกนอกประเทศตามเคย
หมอคนหนึ่ง ออกมาฟาดสรยุทธผิดๆ ตำหนิดารา Call Out เพจสลิ่มสื่อสลิ่มก็เอาไปแห่แหนปลาบปลื้ม ทั้งที่แพทย์พยาบาลด่านหน้าตำหนิรัฐบาลล้นหลามไม่สนใจ
นี่คือแรงฮึด ปกป้องประยุทธ์ ราวกับปราการด่านสุดท้ายของอำนาจอนุรักษนิยม ยอมให้ประยุทธ์ล้มไม่ได้ ไม่ว่าประชาชนโกรธแค้นไม่พอใจสักแค่ไหน
ย้ำว่านี่ยังไม่ถึงจุดเลวร้ายที่สุดด้วยซ้ำ ยังประเมินไม่ได้ว่าถึงจุดนั้น ความโกรธจะรุนแรงเพียงไร
สถานการณ์จะยิ่งขยายไม่ใช่เป้าหมายแค่ไล่ประยุทธ์ เครือข่ายอำนาจที่ค้ำประยุทธ์จะถูกกระแทกอย่างหนักด้วย
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_65276
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar