สงครามประชาชน นับหนึ่งไปแล้ว
เรือด่วนไม่รอท่า วันเวลาไม่คอยใคร อำนาจวาสนาไม่เคยอยู่นาน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป พรก.ฉุกเฉินมันก็แค่ฉาบฉวย ออกมาคุ้มกบาลโจรได้ไม่นานก็ต้องจากไป ความจริงเท่านั้นที่เป็นสิ่งไม่ตาย ต่อให้มุบมิบปกปิดกันยังไง เมื่อถึงเวลาย่อมต้องแดงโร่ออกมาจนได้ไอ้อีที่ก่อกรรมทำเข็ญกับเพื่อนร่วมชาติเอาไว้ จึงรุ่มร้อนทรมานทุรนทุราย ราวกับตกอยู่ในอเวจีมหานรก ยังไม่ปาน
เพราะเหตุนี้
ในระหว่างที่พรก.ฉกฉวย ยังคุ้มกะลาหัว ให้ทำการฉ้อฉลโดยถูกต้องตามกฎหมาย
ศูนย์อำนวยความฉิบหาย จึงกุลีกุจอล้างขี้ให้รัฐบาลโจรอย่างฉุกละหุก
เพราะคิดโดยไม่ต้องใช้สมองว่า ถ้าทอดเวลาให้เนิ่นนานออกไป
กับเร่งระดมใบบัวมาให้ได้มากพอ
จะสามารถปิดช้างตายทั้งตัวได้มิด ไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นคาวฉาวโฉ่ไปทั่วบ้านทั่วเมือง รวมทั้งทั่วโลกอีกต่างหาก
ในระหว่างนี้
จึงไม่แปลกที่จะมีข่าวประชาชน คนแล้วคนเล่าถูกคร่าตัวไปเข้าคุก
โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อหา ศพแล้วศพเล่าถูกเพิ่มเข้าในบัญชีคนตาย
ภายใต้เงื้อมมือทรราช โดยไม่ใครคิดที่จะจับมือใครดม
ภาพที่ออกมาในสายตาปุถุชน
ที่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในระดับปกติธรรมดา มันเลยดูไม่จืด
เหมือนเห็นฝูงหมาป่าที่กำลังรุมขย้ำลูกแกะอย่างเมามัน ดูราวกับว่า
เสื้อแดงที่เคยแรงฤทธิ์จะถูกฉีกเป็นริ้วๆ เพื่อให้สาแก่ใจจอมบงการ
ที่สุมไฟแค้นไว้แน่นอก รอวันสะสาง ที่เพิ่งจะมาถึงในวันนี้
ผ่านไปกว่าสองเดือน
หลังเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ "พฤษภามหาอำมหิต" ในขณะที่ "คืนนรกในวันปทุมฯ"
ยังตามหลอนจอมบงการอยู่ไม่เลิก
แต่ปฏิบัติการไล่ล่าท้านรกผู้เห็นต่างทางการเมือง ยังไม่มีทีท่าว่าจะซาลง
แม้แต่น้อยนิด
ทำราวกับว่า ถ้าถูกรุกไล่จนไม่มีที่ยืนแล้ว
เสื้อแดงจะอันตรธานหายวับไปจากโลกนี้ ไม่มีใครอยู่ให้ขวางหูขวางตา
ท่านผู้มีอำนาจตัวจริงเสียงจริง ที่กำลังนี้ประสาทหูมันด้านชา
จนไม่ได้ยินแม้เสียงแมลงหวี่แมลงวัน
ที่กู่ตะโกนประสานเสียงจนคอแทบแตกว่า...
อย่าให้พวกกูหาที่ยืนเอง..แล้วมึงจะหนาว
กับสถิติอย่างเป็นทางการ
ตายร่วมร้อยกับบาดเจ็บร่วมสองพัน ไม่มีใครสงสัยว่า
มาร์คชั่วพอสำหรับมหกรรมอำมหิตระดับนี้หรือไม่
แต่ทุกคนข้องใจว่ามันเอาน้ำอิ๊วมาจากไหน กับงานระดับมาสเตอร์พีซ
ที่ต้องอาศัยอำนาจบงการครอบคลุมทุกองคาพยพ ทั้งกองทัพ สารพัดสื่อ
องค์กรอิสระ และนักวิชาการ จิปาถะ
ให้ออกลิงออกค่างไปในทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีการแตกแถวแม้แต่หน่อเดียว
จึงช่วยไม่ได้ที่สายตาทุกคู่จะจับจ้องเพ่งเล็งไปที่ฉากหลังอันชินตา
ซึ่งใครๆก็รู้ว่ามันไม่ใช่ฉากลิเกโหลๆอีกต่อไป
เหตุเพราะภาพลางๆหลังฉากนั้น
ที่นับวันจะชัดเจนจนมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปทุกรูขุมขน
กับเงาร่างทะมึนซึ่งมันจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก...ไอ้ปื๊ด
หายไปกับสายลม
หลังจากปฏิบัติการยิงผ่ากะโหลกจ่ายิ้ม
วันนี้ไอ้ปื๊ดกลับมาในมาดใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม อย่างเทียบกันไม่ติด ทั้ง
"โหด เลว ดี" มีครบเครื่องอยู่ในตัวคนเดียวกัน
เมื่อประกอบกับบารมีที่มากมายล้นฟ้า จนทะลักนองไปทั่วทั้งจักรวาล
จึงช่วยไม่ได้ที่ไอ้ปื๊ดจะหน้ามืดตามัว จนหลงตัวลืมตีน นึกว่าตนเองเป็นเทวดาไปซะฉิบ
จากที่เคยกระมิดกระเมี้ยนนั่งชักใยอยู่หลังฉาก
จึงกล้าๆออกมายืนแก้ผ้าอยู่หน้าฉาก โดยไม่รู้สึกเคอะเขินแม้แต่น้อยนิด
ยิ่งหลังๆมานี่ยิ่งเลอะเทอะไปกันใหญ่ เมื่อขยันออกมาล่อเป้าให้มาร์คชกโชว์
เหมือนจะประกาศศักดาให้รู้เป็นนัยๆว่า ไอ้เด็กผีคนนี้มันสังกัดค่ายไหน
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มั่นใจว่าแน่จริง จงอย่าแหยมเป็นอันขาด
ถ้ายังข้องใจ
ให้หันกลับไปชมผลงานที่เห็นจะๆ ประจักษ์กับตานับล้านคู่ ที่แม้แต่ตานฉ่วย
ยังต้องหลบฉากชิดซ้าย กับปฏิบัติการอีแอบ หลบมุมซุ่มยิง
แล้วออกมาตอแหลแก้ตัวอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอายสุนัข
ด้วยคำพูดสั้นๆง่ายๆว่า..เปล่า..ใครจะทำไม
หลังปฏิบัติการโฉดจบลง
ก็ได้เวลาเปิดแชมเปญฉลองอย่างเมามัน
ทำราวกับว่าระบอบอำมาตย์ประสบกับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว
โดยหารู้ไม่ว่า นั่นเท่ากับเติมปุ๋ยเร่งเชื้อให้กับขบวนการประชาธิปไตย
ที่ยืนตายซากรอฟ้ารอฝนมานานกว่า 76 ปี
ประชาชนกำลังเรียนรู้ประชาธิปไตยอย่างก้าวกระโดด จากการลงมือปฏิบัติอย่างเข้มข้นในสนามจริง เจ็บจริง ตายจริง ไม่มีตัวแสดงแทน
แน่นอนว่า
เมื่อเห็นสหายร่วมรบทอดร่างลงนอนจมกองเลือด
เป็นใครจะไม่เจ็บแค้นจนอยากฉีกเนื้อศัตรูเป็นชิ้นๆ
แต่ในเมื่อยังทำอะไรไม่ได้ มันก็ต้องกลืนเลือดเอาไว้ก่อน สิ่งที่ทำได้
และสมควรทำเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้ คือสลัดทิ้งความเจ็บปวด
แล้วรีบลุกขึ้นมาสู้ใหม่
"พ่ายศึกใช่ว่าแพ้สงคราม"
หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล
สงครามประชาชนมันคือมหากาพย์ของทุกประเทศอยู่แล้ว
การศึกต้องปะทุขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกว่าระบอบอำมาตย์จะบรรลัยวายวอดไปต่อหน้าต่อตา
ไม่ว่าจะกินเวลาเนิ่นนานเท่าใดก็ตาม
"ชัยชนะที่หอมหวาน
ย่อมต้องแลกมาด้วยความพ่ายแพ้อันขมขื่น"
ไม่ว่าประชาชนจะต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ แต่พล็อตเรื่องสุดท้ายได้เขียนเอาไว้
เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว นั่นคือ ยังไงระบอบอำมาตย์ ก็ต้องพินาศย่อยยับ
อย่างไม่มีข้อแม้
มีหอกใช้หอก มีดาบใช้ดาบ มีซีดีใช้ซีดี
มีแฟล็ชไดร์ใช้แฟล็ชไดร์ ก็อปมันไป เผยแพร่ให้มากที่สุด
นั่นคือสงครามใต้ดิน ที่ประชาชนกำลังตอบโต้กับอำนาจรัฐ อย่างถึงพริกถึงขิง
ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด โดยที่ฝ่ายอำมาตย์ไม่มีทางปกป้องตนเองได้
เพราะไม่มีใครโผล่มาให้ยิงอีกแล้ว
ทำเป็นเล่นไป ขนาดเด็ดดอกไม้
ยังสะเทือนถึงดวงดาว เพียงแค่ผีเสื้อขยับปีก ยังก่อเกิดพายุใหญ่
เจอมดตัวน้อยตัวนิดรุมสกรัม ช้างใหญ่ยังล้มทั้งยืนมาแล้ว นับประสาอะไร
ถ้าประชาชนช่วยกันเซาะอิฐฐานราก คนละก้อนสองก้อน
กำแพงใหญ่จะไม่ถล่มทลายพังครืนลงมา ก็ให้มันรู้กันไป
แน่นอนว่า
ชัยชนะที่แลกด้วยความสูญเสียจำนวนน้อย ย่อมต้องใช้เวลามาก
แต่ถึงยังไงก็คงไม่นานจนเกินรอ เพราะมัจจุราชนั้น อยู่ข้างประชาชนเสมอ
สัญญาณชีพของจอมอสูรที่ขาดสะบั้น
คือสัญญาณแห่งชัยชนะของประชาชนที่เริ่มขึ้น เมื่อทัพมารเข้าห้ำหั่นกันเอง
เพื่อช่วงชิงอาญาสิทธิ์แห่งนรก นั่นคือเวลารอคอยของกองทัพมหาชน
ที่เตรียมพร้อมเผด็จศึก
เมื่อเฮี่ยต่อเฮี่ยกัดกันจนบรรลัย...ประชาชนจักเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
วโรทาห์: 29 ก.ค. 53
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar