Thai E-News
สมควรถูกตบหน้าเรียกสติทั้งสองพรรค ทนายอานนท์ปราศรัยดีแทบตาย เพื่อไทย-ก้าวไกลเล่นปาหี่ ตีกันเพื่อ ?? ในวันที่เค้าใช้กระสุนจริง ในวันที่เค้าขังเพื่อนเราให้ติดโควิด
Theerapat Charoensuk
7h ·
ทนายอานนท์ปราศรัยดีแทบตาย เพื่อไทยก้าวไกลตีกันเรื่องงบกลาง อานนท์ติดคุกฟรีไม่มีใครพูดต่อ
ม็อบดินแดงเดือดปุดๆ เพื่อไทยก้าวไกลตีกันเรื่องอภิปรายไม่อภิปรายป้อมแป้ง
เฮ้ย ผู้แทนต้องพูดแทนประชาชนเรื่องใหญ่ ไม่ใช่มาขัดกันเรื่องจิ๊กลิกจอกหลอก
พูดยังกะว่าได้อภิปรายป้อมครั้งเดียว จะล้มรัฐบาลนี้ได้ ถึงกับต้องมาเอาเป็นเอาตายตั้งประเด็นตีกันทุกคนขนาดนี้
ไม่เข้าใจ คุณธนาธรก็เล่นหมากล้อมเป็น ไม่สอนให้ลูกพรรคเข้าใจหลักหมากล้อมบ้าง
ส่วนทีมพี่โทนี่ ก็มารีแบรนด์พรรคต่อจากรีแบรนด์โทนี่หน่อยเถอะ
...
ภัควดี วีระภาสพงษ์
7h ·
ตบหน้าเรียกสติทั้งสองพรรค...
อานนท์ นำภา
10h ·
สถานการณ์ของอานนท์ วันที่ 16 ส.ค. 64
.
ทนายกล่าวว่าจากน้ำเสียงที่ได้พูดคุยกันยังสดใสก็จริงแต่มีความห่วงเรื่องเชื้อ covid ตัวใหม่ และ long covid เดิม ที่ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรง ปกติกินยาบำรุงเยอะแต่ตอนนี้ไม่ได้กิน ขณะที่คุยกับทนายความมีความรู้สึกเหนื่อย อาจเป็นเพราะเรื่องสภาพแวดล้อมที่อยู่ อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร
.
ปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อของเยี่ยมได้ตั้งแต่เข้าไปอยู่ในเรือนจำเพราะต้องลงทะเบียนออนไลน์และยังไม่ได้รับการอนุมัติแอคเคาท์ซื้อของ
.
หลังจากที่ทนายความได้แจ้งข่าวเรื่องปูนฟ้าเพนกวินติดโควิด อานนท์กล่าวว่าอย่างที่ผมบอกนั่นแหละ นี่เป็นการขังคนให้ติดโควิด และแสดงความห่วงใยถึงน้องทีมงาน บอกว่าขอให้ทุกคนหายเร็วๆ
.
ข้อความฝากจากอานนท์
“ทุกส่วนต้องช่วยกันถอนฟืนออกจากไฟ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม พูดแค่นี้ทุกคนคงเข้าใจดี”
...10h ·
สถานการณ์ของอานนท์ วันที่ 16 ส.ค. 64
.
ทนายกล่าวว่าจากน้ำเสียงที่ได้พูดคุยกันยังสดใสก็จริงแต่มีความห่วงเรื่องเชื้อ covid ตัวใหม่ และ long covid เดิม ที่ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรง ปกติกินยาบำรุงเยอะแต่ตอนนี้ไม่ได้กิน ขณะที่คุยกับทนายความมีความรู้สึกเหนื่อย อาจเป็นเพราะเรื่องสภาพแวดล้อมที่อยู่ อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร
.
ปัจจุบันยังไม่สามารถซื้อของเยี่ยมได้ตั้งแต่เข้าไปอยู่ในเรือนจำเพราะต้องลงทะเบียนออนไลน์และยังไม่ได้รับการอนุมัติแอคเคาท์ซื้อของ
.
หลังจากที่ทนายความได้แจ้งข่าวเรื่องปูนฟ้าเพนกวินติดโควิด อานนท์กล่าวว่าอย่างที่ผมบอกนั่นแหละ นี่เป็นการขังคนให้ติดโควิด และแสดงความห่วงใยถึงน้องทีมงาน บอกว่าขอให้ทุกคนหายเร็วๆ
.
ข้อความฝากจากอานนท์
“ทุกส่วนต้องช่วยกันถอนฟืนออกจากไฟ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม พูดแค่นี้ทุกคนคงเข้าใจดี”
เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ Parit Chiwarak
5h ·
[แอดมินโพสต์]
ถึง พ่อแม่พี่น้องที่รักประชาธิปไตยทุกท่าน
จากเดิมที่เราถูกนำตัวไปฝากขังนั้น ทางเราและทนายความได้ยื่นคัดค้านการฝากขังด้วยเหตุที่ในเรือนจำมีโรคโควิด19 ระบาดอย่างรุนแรง แต่ตำรวจกลับยืนยันว่าในเรือนจำไม่มีโควิดเพราะทางเรือนจำได้มีมาตรการอย่างดีจนเป็นที่ปลอดภัยแล้ว และทางศาลจังหวัดธัญบุรีก็เออออห่อหมกเชื่อตามที่ตำรวจอ้างและจับผมมาคุมขังไว้นั้น
ผมอยากจะเรียนทุกท่านว่าวันนี้ผมติดโควิดแล้ว เช่นเดียวกับ ฟ้า พรหมศร, นิว สิริชัย และปูน ธนพัฒน์ ซึ่งวันแรกเราเข้ามาในเรือนจำ เราได้รับการตรวจแล้วว่าเราไม่มีเชื้อ แสดงว่าพวกเราติดเชื้อจากในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ที่นำอาหารมาให้เรากินต่างทยอยติดโควิดไปจำนวนมาก นี่คงเป็นหลักฐานที่หนักแน่นพอจะยืนยันได้แล้วว่าในคุกมีโควิด ไม่ได้ปลอดภัยเหมือนกับที่ตำรวจและผู้พิพากษาได้อ้างเป็นเหตุผลในการคุมขังพวกเรา
ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการติดโควิดของเราครั้งนี้จะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจากบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องครั้งนี้โดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่เมืองปทุมธานีที่มุ่งแต่จะยัดเยียดคดีโดยที่ไม่สนใจความเป็นความตายของคน รวมถึงศาลที่หลับหูหลับตาฝากขัง รวมถึง ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทุกคนในรัฐบาลฆาตกรชุดนี้ที่ปล่อยปะละเลยให้สถานการณ์โควิดเลยเถิดได้ถึงเพียงนี้
ผมไม่ทราบว่าจะได้ออกไปพบทุกท่านอีกหรือไม่ หรือด้วยสภาพใด ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ออกไปร่วมต่อสู้กับพ่อแม่พี่น้องทุกท่านอีก
หัวใจผมยังต่อสู้
ด้วยรักและศรัทธา
เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์
16 สิงหาคม 2564
เรือนจำชั่วคราวรังสิต
#โควิดในเรือนจำ
#ปล่อยเพื่อนเรา
#รัฐบาลฆาตกร
ใช้ความรุนแรงกับประชาชน แล้วจะคาดหวังจุดจบที่สวยงามได้อย่างไร?
Branding by Boy
5h ·
#ม็อบ16สิงหา
อยากเป็นส่วนหนึ่ง ที่เขียนเพื่อให้รัฐ และประชาชนที่ตัดสินม็อบลองทบทวนในสถานการณ์ โดยยึดหลักสันติวิธีในวิธีคิดของการทำความเข้าใจม็อบ
1) เจตนาของประชาชน ไม่ใช่การเริ่มต้นความรุนแรง แต่ความเลยถิดของสถานการณ์ทุกวันนี้ เป็นผลมาจากการกระทำของเจ้าที่ที่แสดงออกต่อม็อบ โดยตั้งต้นที่การใช้ความรุนแรงเป็นพื้นฐาน และเกินกว่าเหตุไปมาก (ถ้ามีใครได้ดูบันทึกภาพ จะเข้าใจ เช่น เขากำลังเดินทางกลับบ้าน ไม่ได้ก่ออันตราย มีสิทธิ์อะไรไปใช้ความรุนแรง?)
2) รัฐต้องมองให้ออกด้วยว่า มวลชนพร้อมสู้และต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะเขาเห็นการกระทำของรัฐแสดงความเป็นปรปักษ์กับประชาชน การทนอยู่เฉย เพื่อให้ตนถูกตำรวจกระทำ หรือควบคุมอำนาจโดยมิชอบ ยิ่งเกิดแรงต้านสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นความจงใจในความรุนแรงไม่ได้มาจากฝั่งประชาชน แต่เป็นการตอบโต้สิ่งที่ไม่ชอบธรรม
3) เมื่อสถานการณ์อยู่ในจุดแตกหัก พอมวลชนถึงจุดเดือด และเขามาโดยอิสระ ไม่อิงแกนนำ ไม่อาจหวังว่าแกนนำจะออกคำสั่ง หรือดูแลควบคุมม็อบให้สงบเรียบร้อย อยู่ในระเบียบ 100% หากจะไม่ให้แตกฮือ หรือการพุ่งพล่านทางการแสดงออกรุนแรง เริ่มต้นที่เจ้าหน้าที่ต้องไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบ เริ่มที่คุณ อย่าโทษม็อบ
4) การที่ไปด่าว่ามวลชนเป็นพวกชั้นต่ำ ดูถูกว่าไม่เป้นปัญญาชนนั้นไม่สมควร ประชาชนในม็อบมีคนมาต่อสู้หลากหลายกลุ่ม ร้อยพ่อพันแม่ หลากการศึกษา แต่มาเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือเรียกร้องให้เกิดประชาธิปไตย ด้วยอำนาจใหม่ ที่ไม่ได้นำโดยประยุทธ์อีกต่อไป คือการกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง และต้องการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปสู่ความถูกต้อง ดังนั้นต้องไปทบทวนเงื่อนไขการเรียกร้อง และอุดมการณ์ มิใช่การโจมตีตัวบุคคล
5) สิ่งที่ทำเกิดการการยกระดับมาไกลแล้ว สู่อารยะขัดขืน ทั้งการเผา สาดสี หรือป้ายประท้วง แม้กระทั่งการยกระดับไปสู่ประทัด ก็ยังไม่ได้มุ่งการทำลายชีวิต หรือถึงแก่การละเมิดชีวิตคน ม็อบไม่ได้เจตนาเริ่มต้นด้วยการใช้อาวุธ หรือก่อจราจล แต่ trigger หรือตัวกระตุ้นคือเจ้าหน้าที่รัฐ
6) การที่เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าถึงบ้านเรือนประชาชน เป็นเขตที่อยู่อาศัย และสุ่มเสี่ยงสร้างความอันตรายในการใช้อาวุธต่างๆ ซึ่งเป็นการก่อความไม่สงบ อยากให้มองด้วยว่า ประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในม็อบมีสิทธิ์ปกป้องบ้านเรือน และครอบครัวตัวเอง ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่รบกวนเขา ไม่มีทางที่ประชาชนในชุมชนจะต่อต้าน คุณทำเกินกว่าเหตุจริงๆ
7) ทุกครั้งที่ชุมนุม เราจะได้ยินคำว่า "ตำรวจใช้หลักการสากล" จริงๆผิดทั้งหมด ไม่มีอะไรตอนนี้ถูกต้องตามหลักการสากลทั้งนั้น มีเพียงการให้ข้อมูลบิดเบือนจากฝั่งตำรวจ และหากไปดูม็อบในต่างประเทศ ตำรวจดูแลประชาชน เป็นไปโดยความสงบเรียบร้อย เช่นที่ญี่ปุ่น หรือฝรั่งเศส ภาพที่มีเป็นไปโดยสันติได้เสมอ
อยากให้รัฐทบทวน และอยากให้สังคมมองม็อบให้ดี ว่าวันนี้ประเทศไทยเกิดความรุนแรงเพราะอะไร และใครจงใจให้เป็นสิ่งที่เราเห็นในทุกวัน ท่านมองด้วยตาเปล่า ต่อให้ไม่เอียงข้างใดมาก่อน อย่างน้อย ท่านคงจะเอียงข้างความเป็นคนก่อน ว่าตอนนี้มันหายไปจากใจเจ้าหน้าที่บ้านเมืองแล้วหรือไม่?
ใช้ความรุนแรงกับประชาชน แล้วจะคาดหวังจุดจบที่สวยงามได้อย่างไร?
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar