Thai E-News
โดนเข้าไปไม่รู้กี่สิบดอก โดยเฉพาะกินค่าแรง 'ไอโอ' ประยุทธ์ตอบได้แค่ “ผมสวดมนต์ทุกวัน” เหมือน “พวกหลวงพี่ที่ฉันหมูกะทะมื้อเย็น”
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดนเข้าไปไม่รู้กี่สิบดอก เรื่องด้อยประสิทธิภาพทางปัญญา บริหารจัดการโรคระบาดผิดพลาดทั้งเพ ปล่อยปละคอรัปชั่นบานตะไท ประยุทธ์ตอบได้แค่ “ผมสวดมนต์ทุกวัน...ผมมีประสบการณ์ ๖-๗ ปี” และ พ่อแม่สอนมาให้สุภาพ ใจเย็นๆ
เรื่องสวดมนต์ ต้องไปดู joe black@joe_black317 เขาทวี้ตตอบว่า “พวกหลวงพี่ที่ฉันหมูกะทะมื้อเย็น ก็สวดมนต์ทำวัตรทุกวันนะ โยมประยุทธ์” เรื่องประสบการณ์เจ็ดปีนี่สำลักเลย เพราะอย่างนี้ถึงโดน ‘ไม่ไว้วางใจ’ หลายหนไง
ส่วนที่บอกพ่อแม่สอนมา นั่นถ้าไม่ประจานตัวเองเสียฉิบ ก็ประจานบิดรมารดาว่าสอนยังไง คนทั้งประเทศจำได้แม่นว่าประยุทธ์สำรอกสำรากขากถุยขนาดไหน แล้วที่ไปแขวะ ‘เสรีพิศุทธ์’ ว่า “ท่านเป็นแค่ผบ.ตร. ผมเป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ”
แน่นอน “ประสบการณ์อาจจะต่างกัน” แต่อดีต ผบ.ตร.เขามาทางที่ถูก ตามครรลอง และด้วยความสามารถตนเอง ไม่ได้ยึดอำนาจแย่งชิง ใช้เล่ห์เพทุบายอยู่ต่อ และตอหลดตอแหลจะอยู่ยาว ดังนั้นมิควร “ฝากไปถึงประชาชนที่ฟังอยู่ให้ดูหน้าผม” เพราะเขาเหม็นเบื่อและระอา
‘เดอะสแตนดาร์ด’ รวบรวมไว้ ๒๕ รายการที่ประยุทธ์โดนอภิปรายดอกไหนบ้าง “ไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล...กู้เงินจำนวนมาก แต่ใช้จ่ายไร้ทิศทาง...การจัดหาวัคซีน มีพฤติการณ์ปิดบังอำพราง ไม่โปร่งใส...ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ...ประชาชน”
ข้อสุดท้าย “อยู่ในสภาพของคนเป็นโรค (เรื้อรัง) โอหังคลั่งอำนาจ” (ที่ฝรั่งเรียกว่า Hubris Syndrome) อันนี้จริงแท้แน่นอน หากแต่ต่างจาก ‘ฮิวบริส’ ฝรั่งตรงที่ของเขาหลงตัวว่าเก่งกาจ อาจไม่รู้ว่า ‘ด้อย’ แต่ประยุทธ์รู้ทั้งรู้ตน ‘ขี้เท่อ’ กลับสร้างภาพปกปิด
เช้าวันเริ่มอภิปรายจัดฉากให้ “ผู้แทนจากชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร สมาคมการค้าเครือข่ายแท็กซี่ไทย สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง” ไปยกป้ายข้างสัปปายะสภาสถาน แล้วให้โฆษก ธนกร วังบุญคงชนะ ออกมาโพนทนา
“นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่านขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจรัฐบาล...พร้อมที่จะชี้แจงและตอบทุกข้อกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วยข้อเท็จจริง ที่สำคัญคือ กำลังใจจากประชาชน...เป็นผลประโยชน์อย่างเดียวของรัฐบาลชุดนี้”
ปัญหาอยู่ที่ประชาชนไม่ค่อยจะมีกำลังกายกัน ถดถอย เสียหายไปเกือบหมดกับรัฐบาลประยุทธ์ “สิ่งที่น่าเสียใจมากที่สุดที่คนไทยยอมรับไม่ได้เลย คือการค้าความตายหากินบนความตายของประชาชนด้วยการจัดซื้อวัคซีนคุณภาพต่ำแต่มีราคาแพง”
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.เพื่อไทยอภิปรายเปิดโปงรัฐบาลประยุทธ์ “เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน โดยซื้อวัคซีนเพียงรายเดียว ผูกขาดตัดตอนขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทำให้วัคซีน Sinovac เป็นวัคซีนเส้นใหญ่” เขาแฉว่าได้รับข้อมูลจากข้าราชการ
แจงละเอียดการสั่งซื้อวัคซีนจากจีนทั้ง ๕ ครั้ง “ราคาตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ๑๗ ดอลลาร์สหรัฐต่อโด๊ส” ทุกครั้ง แต่ราคาซื้อจริงลดหย่อนลงมาเรื่อยๆ เป็น ๑๕, ๑๔, ๙.๕ และ ๙ ดอลลาร์ ทำให้ยอดเงินทั้งหมดมีส่วนต่าง ไม่รู้หายไปไหน ๒ พันกว่าล้าน
แล้วมาถึงอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ณัฐชา บุญไชยอินทสวัสดิ์ เรื่อง ‘ไอโอ’ นั่นเปิดเบิ่งกันทั้งชาติ ตามที่ ส.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล@AmaratJeab ว่า “เอกสารลับ คลิปลับหลุด เกิดจากระบอบปรสิตใช้อำนาจนิยมกดดันกำลังพลชั้นผู้น้อยจนทนไม่ไหว
โกงเบี้ยเลี้ยงคฝ. ไม่พอ ยังโกงเบี้ยเลี้ยงกำลังพล iO ที่วัน ๆ ต้องนั่งปั่นข่าวอวยประยุทธ์ กับแชร์เฟคนิวส์ให้รัฐบาลโจร...เป็นโครงการ 'คนละครึ่ง' คือแบ่งกันระหว่างนายร้อยกับนายพัน ส่วนนายสิบอดนะจ๊ะ” เพจพรรคก้าวไกลช่วยขย่ม “หลุดมาเพียบเลย”
ได้แก่ “ระบุหัวหน้าหน่วยได้รับเงินจากกองทัพบกเดือนละ ๒ แสนบาท ต้องจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ลูกน้องในหน่วย IO คนละ ๗,๔๔๐ บาท/เดือน แต่กำลังพลได้จริงแค่เดือนละ ๑,๕๐๐ บาท และก่อนหน้านี้ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว”
นี่ไอโอคนที่แอบปล่อยหลักฐาน “ฝากณัฐชาช่วยทวงเบี้ยเลี้ยงให้ด้วย” สะท้อนความรู้สึกต่ำต้อยถูกกดดันของผู้ปฏิบัติงานเหล่านั้น แบบว่าน่าคิด “กรมทหารราบที่ ๘ ซึ่งได้รับรางวัล ‘นักรบไซเบอร์ดีเยี่ยม’ ได้ตั้งชื่อเพจไว้ว่า ‘เรื่องงานไม่ขยับ เรื่องกินตับขอให้บอก’”
แล้วก็เรื่องหนัก วัคซีนค่าด้อย ‘ซิโนแว็ค’ เนี่ยยังไม่วายช่วยกันอวย รมว.สา’สุข พอทำเนา อนุทินย้ำ “อย่าไปด้อยค่า #วัคซีนซิโนแวค เพราะจะกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน” เฮ้ ประธานฯ ชวน หลีกภัย เอาด้วย “เพราะคนที่ขายหรือให้ ก็ถือเป็นการช่วยเหลือประเทศ”
เกิดจะเป็นนักการทูตผู้ชำนาญกันขึ้นมาเชียว ตี๊ต่างว่าถ้าวัคซีนจีน ที่แท้เป็นแค่ ‘Placebo’ ไม่ใช่ยาจริง แต่ก็ไม่ได้มีพิษ เพียงแต่ไว้หลอกให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเอง ต้องซูฮกเขาไหมที่ให้ของปลอมมาลองใช้
(https://www.facebook.com/waymagazine/posts/10157977846846456, https://twitter.com/MFPThailand/status/1432718350610845704?s=06…, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10162112514934848 และ https://www.facebook.com/thestandardthบีบีซีไทย - BBC Thai
ในการลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก
รมช.กลาโหม ไม่ได้พูดถึงข้อกล่าวหาเรื่องการ “อมเบี้ยเลี้ยง”
นายทหารระดับล่างที่ร่วมปฏิบัติการไอโอ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นถามถึงโครงการ “คนละครึ่งรูปแบบใหม่”
และขอคำชี้แจงเพิ่มเติม
.
“ได้สั่งตรวจสอบแล้วครับ ถ้าผิดจริงก็ต้องมีการลงโทษ” พล.อ. ชัยชาญตอบ
บีบีซีไทย - BBC Thai
ในการลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก
รมช.กลาโหม ไม่ได้พูดถึงข้อกล่าวหาเรื่องการ “อมเบี้ยเลี้ยง”
นายทหารระดับล่างที่ร่วมปฏิบัติการไอโอ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นถามถึงโครงการ “คนละครึ่งรูปแบบใหม่”
และขอคำชี้แจงเพิ่มเติม
.
“ได้สั่งตรวจสอบแล้วครับ ถ้าผิดจริงก็ต้องมีการลงโทษ” พล.อ. ชัยชาญตอบ
อภิปรายไม่ไว้วางใจ : รมช.กลาโหม สวนกลับก้าวไกลใช้ “เอกสารไม่จริง” กลางสภา แต่สั่งตรวจสอบ “อมเบี้ยเลี้ยง” พลทหารไอโอ
กระทรวงกลาโหมสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี "อมเบี้ยเลี้ยง" พลทหารที่ร่วมภารกิจในปฏิบัติการด้านข้าวสาร หลัง ส.ส. พรรคก้าวไกลออกมาเปิดเผยกลางสภา และเล็งให้กองทัพบกดำเนินการกับการใช้ "เอกสารเท็จ" ประกอบการอภิปรายกลางสภา
พล.อ. ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กล่าวกลางสภาเมื่อ 1 ก.ย. ว่า กองทัพได้ตรวจสอบเอกสารที่ ส.ส. นำมาใช้ประกอบการอภิปราย และระบุว่าเป็นหนังสือที่ทำในเดือน มี.ค.-ก.ค. 2564 พบว่า "ไม่ใช่เอกสารจริง" เพราะมีข้อพิรุธต่าง ๆ ดังนี้
- การลงลายมือชื่อ (ลายเซ็น) ของแม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน ไม่เหมือนกันในเอกสาร 2 ฉบับที่นำมาแสดง โดยฉบับหนึ่ง เป็นลายเซ็นของอดีตแม่ทัพ แต่วงเล็บชื่อแม่ทัพคนปัจจุบัน
- การพิมพ์นามสุกลแม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบันไม่ถูกต้อง
- รองผู้อำนวยการกองยุทธการแม่ทัพภาค 2 ได้ย้ายดำรงตำแหน่งใหม่ประมาณปีเศษ จึงไม่น่าลงนามในเอกสารปี 2564 ด้วยชื่อตำแหน่งเดิมได้
- ยศและตำแหน่งในเอกสารคณะกรรมการสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 2 เขียนไม่ถูกต้อง
- เลขที่ออกหนังสือตามที่นำมาแสดง เป็นเลข 1121 ขณะที่ ณ 31 ส.ค. 2564 เลขหนังสือเพิ่งอยู่ที่ 851 ยังไม่ถึงช่วงเวลาของเลขดังกล่าว
รมช.กลาโหมกล่าวด้วยว่า กองทัพบก (ทบ.) ในฐานะหน่วยที่ได้รับความเสียหาย จะตรวจสอบและดำเนินการตามเหมาะสมเกี่ยวข้องต่อไป
รมช.กลาโหม ได้รับมอบหมายจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้เป็นผู้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่วางใจ 6 รัฐมนตรี หลังค่ำวานนี้ (31 ส.ค.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เปิดโปงปฏิบัติการข่าว หรือไอโอ (Information Operation - IO) ที่เชื่อว่าเป็นไปเพื่อปกป้องสรรเสริญ พล.อ. ประยุทธ์
พล.อ. ชัยชาญกล่าวว่า ไม่มีนโยบายสั่งการให้หน่วยงานใดในกองทัพ หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ไปปฏิบัติการข่าวสารบิดเบือน หรือให้ร้ายผู้ใด แต่ปัจจุบันในสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวลวง ข่าวปลอม สร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน และส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและประเทศ จึงมีความจำเป็นที่ทุกหน่วยงานต้องติดตามข้อมูล เพื่อสื่อสารความเข้าใจและสร้างการรับรู้ภายให้หน่วยเอง และสร้างการรับรู้แก่ประชาชนทั่วไปให้ทราบว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร โดยใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของกระทรวงกลาโหมที่จัดตั้งขึ้นมา ก็มีหน้าที่เช่นนี้ และคอยตรวจสอบข่าวปลอด ข่าวบิดเบือน เพื่อแจ้งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ในการลุกขึ้นชี้แจงครั้งแรก รมช.กลาโหม ไม่ได้พูดถึงข้อกล่าวหาเรื่องการ "อมเบี้ยเลี้ยง" นายทหารระดับล่างที่ร่วมปฏิบัติการไอโอ ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นถามถึงโครงการ "คนละครึ่งรูปแบบใหม่" และขอคำชี้แจงเพิ่มเติม
"ได้สั่งตรวจสอบแล้วครับ ถ้าผิดจริงก็ต้องมีการลงโทษ" พล.อ. ชัยชาญตอบ
ก้าวไกลกล่าวหากองทัพ สร้าง "ไอโอ" อวยนายกฯ
การเปิดโปงขบวนการไอโอเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ทั้ง 3 ครั้ง เปิดประเด็นโดยอดีต ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล
วานนี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ โดยอ้างถึงความเลวร้ายของปฏิบัติการไอโอ เพื่อปกป้องสรรเสริญ พล.อ. ประยุทธ์ ที่เขาเรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการไอโอกินรวบประเทศ"
นายณัฐชานำคลิปเสียงมาเปิดเผยกลางสภา โดยกับอ้างว่าได้รับจากบุคคลในกองทัพที่นำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา ระบุถึงการจัดตั้งนักรบไซเบอร์ของกองทัพภาคที่ 2 เพื่อปฏิบัติการข่าวสารและการปฏิบัติการด้านไซเบอร์ประจำศูนย์ปฏิบัติการสารนิเทศ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (ผปขส.ศปก.ทภ. 2)
ส.ส. รายนี้ย้ำว่า หากจะมาอ้างว่าผู้บังคับบัญชาไม่รู้เรื่อง คงไม่ได้ เพราะเอกสารที่ได้รับมา พบว่าต้องรายงานปฏิบัติการไปยังผู้บังคับบัญชา ทั้งในส่วนที่อยู่ในกองทัพภาคที่ 2 และรายงานไปยังศูนย์การบังคับบัญชาที่อยู่ใน กทม. เป็นระยะ ๆ รายสัปดาห์และรายเดือน โดยหนึ่งในภาพที่ได้รับมานั้น มีภาพคล้าย ๆ ผู้บริหารกองทัพบกร่วมประชุมอยู่ด้วย
เขาระบุว่า หน่วยปฏิบัติการไอโอทำกันอย่างเปิดเผยชัดเจน มีการจัดทำนักรบไซเบอร์ แบ่งงานกันทำตามภารกิจเป็น "งานขาว-งานเทา-งานดำ" ทั้งนี้งานขาว หมายถึง การเชียร์นายกฯ และอวยการทำงานของรัฐบาล งานเทาคือ การตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม แก้ต่างแทนรัฐบาล และงานดำคือ การปล่อยถ้อยคำสร้างความเกลียดชัง ด้อยค่าฝ่ายตรงข้าม และสร้างข่าวปลอม (เฟกนิวส์)
"อยากถาม พล.อ. ประยุทธ์สั้น ๆ ว่า เคยมีไหมจิตสำนึก เพราะสิ่งที่ประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ออกมาจากความเจ็บปวด สุดท้ายกลับมีหน่วยงานปฏิบัติการไอโอคอยโจมตี ใส่ร้าย กล่าวหา ล้วนแล้วแต่เป็นคนในกองทัพภายใต้การบริหารของ รมว.กลาโหม ที่ชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ แทนที่ผู้นำกองทัพจะให้นายทหารถือปืนไปสู้กับอริราชศัตรู กลับให้ไปเป็นนักเลงคีย์บอร์ดข่มเหงประชาชน" นายณัฐชากล่าว
แฉอมเบี้ยเลี้ยงพลทหารระดับล่าง
นายณัฐชาอภิปรายว่า นอกจากนี้ยังพบบัญชีทวิตเตอร์บัญชีหนึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษ "Narongpan Jittkaewta" ซึ่งอ่านออกเสียงได้ว่า นะ-รง-พัน-จิด-แก้ว-แท้ แม้บัญชีนี้กดติดตามผู้ใช้งานรายอื่นอยู่ไม่กี่คน แต่กลับมีผู้กดติดตามถึง 3.2 หมื่นคน เมื่อตรวจสอบลงไป พบว่าบัญชีนี้เป็นตัวกลางสำคัญในการแชร์ข้อความสร้างความเกลียดชังและเฟกนิวส์ต่าง ๆ ซึ่งทุกครั้งที่แชร์ มีการรับลูก-ส่งลูกต่อ
สำหรับการทำงานของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายนั้น มีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน หน่วยงานนี้ต้องไปติดตามดูแลเพจหน่วยงานไหน หากทำงานออกมาได้ผลดี จะมีการมอบรางวัลให้ทั้งบุคลากร, หน่วยงาน และผู้บังคับบัญชาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ส.ส. ฝ่ายค้านรายนี้อ้างว่า ตรวจพบสิ่งที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการเรื่องเบิกจ่ายกำลังพลที่ปฏิบัติงานว่ามีการเบิกจ่ายครบและทั่วถึงทุกคนหรือไม่ เพราะหนึ่งในเอกสารที่เขาได้รับมา พบว่าอาจจะมีการ "จัดฉากรับเบี้ยเลี้ยง" เนื่องจากมีการลงนามรับเบี้ยเลี้ยงเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้ที่ลงนามลายมือชื่อคล้าย ๆ กัน
อีกคลิปเสียงที่เขานำมาเปิด อ้างว่ามาจากวงประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอรเรนซ์ ปรากฏเสียงสั่งการให้จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้พลทหาร 1,500 บาท/เดือน ทั้งที่คำสั่งบอกว่าจะให้ 240 บาท/วัน หรือคิดเป็นประมาณ 7,400 บาท/เดือน แต่ผู้บังคับบัญชาหักบางส่วนเอาไว้
นายณัฐชาอภิปรายอีกว่า ในรายการงบประมาณปี 2565 กอ.รมน. ได้รขอรับงบประมาณในส่วนของการกำลังพลและการดำเนินงาน 3.7 พันล้านบาท โดยระบุว่าจะนำไปใช้ในการพัฒนาบิ๊กดาต้าแพลตฟอร์มด้านความมั่นคง 1 ระบบ วงเงิน 361 ล้านบาท ทำให้น่าสงสัยว่าการจัดทำพัฒนาบิ๊กดาต้าที่ว่านี้ เพื่อติดตามข้อมูลบุคคลที่ต้องการติดตาม ซึ่งมีทั้งนักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง มวลชนฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ เพราะก่อนหน้ามีการส่งรายชื่อ รายละเอียด ผู้ที่ถูกติดตามรวม 45 รายการ
ในจำนวนนี้มีนักการเมืองในพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าหลายคน อาทิ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, น.ส. พรรณิการ์ วาณิช โฆษกคณะก้าวหน้า, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า ก.ก., นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. โดยเฉพาะนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. มีการจัดทำบัญชี การติดตาม จากที่ได้ข้อมูลมาลงรายละเอียดไปถึง บ้านเลขที่ บุคคลในครอบครัว เบอร์โทรศัพท์ เลขทะเบียนรถ
ขณะนายณัฐชาอภิปราย พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้นั่งฟังอยู่ในสภา และไม่มี ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นประท้วง
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar