Update : ธาตุแท้ของทักษิณ !
โดย แสงตะวัน
ในยุคปัจจุบัน
ชึ่งเป็นยุคไฮเทคโนโลยี่ ยุคโลกไร้พรหมแดน
การต่อสู้เรียกร้องของประเทศต่างๆชึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบันนี้
เกี่ยวกับปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไม่
มีสูตรสำเร็จกำหนดตายตัวที่จะนำมาเป็นแม่แบบเพื่อใช้แก้ปํญหาให้ลุล่วงไป
ได้ เพราะปัญหาความต้องการของแต่ละสังคมไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้ยังไม่มีทฤษฎีหรือตำราพิชัยสงครามแบบใหม่มาให้ใช้เป็นแนวทางชี้นำ
ก่อนอื่นพวกเราต้องมาทำความเข้าใจเสียใหม่ว่า "นายทุนก็คือนายทุน"
พวกพ่อค้านักธุรกิจที่ลงทุนค้าขายก็เพื่อให้ได้กำไร
และกำไรเหล่านี้ได้มาจากไหนก็ได้มาจากการขูดรีดแรงงานของคนงานหรือกรรมกรที่ผลิตสินค้าให้แก่พวกนายทุนซึ่งกำไรจากมูลค่าส่วนเกินแต่ละปีได้ถูกสะสมขึ้นมาเป็นเงินทุนอันมหาศาล...
ในระบอบทุนนิยมเสรีพวกนายทุนจะมีการแข่งขันกันผลิตเพื่อหากำไรให้มากที่สุด
เมื่อมีการแข่งขันกันอย่างเสรีนายทุนที่มีความอ่อนแอกว่าก็จะแพ้และถูกนายทุนที่มีกำลังเหนือกว่ากลืนกินแล้วกลายมาเป็นนายทุนผูกขาดที่เป็นเจ้าของการผลิตสินค้าในตลาดแต่ผูัเดียว...
กลุ่มนายทุนผูกขาดในระบอบเศรษฐกิจทุนนิยม
ถ้าแข่งขันสู้กันไม่ได้ก็จะเกิดการรวมตัวกัน (ออมซอมกัน หรือปรองดองกัน)
อย่างกรณีที่อดีดนายกฯทักษิณ กำลังกระทำอยู่ในเวลานี้
โดยได้ร่วมจับมือกันกับกลุ่มทุนผูกขาดเครือข่ายของกษัตริย์
ตั้งแต่รัชกาลที่ ๙ มาจนถึง "องค์ปัจจุบัน"รัชกาลที่๑๐
นี่คือธาตุแท้ของนายทุน
เขาจะขายได้ทุกอย่างแม้แต่ "ประชาชน ประเทศชาติ ไปจนถึงอุดมการณ์ "
ต่างกับผู้นำนักปฏิวัติที่มีอุดมการณ์จะทำงานต่อสู้เรียกร้องเพื่อสังคมส่วนรวม
ทำการเปลี่ยนแปลงนำสังคมเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
"ดังนั้นความคิดแบบพ่อค้านายทุนกับนักปฎิวัติสองสิ่งนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมี อยู่ในตัวคนเดียวกัน "
เริ่ม
แรกทักษิณเข้ามาบริหารประเทศโดยผ่านการเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยตาม
รัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐
ซึ่งระบอบการปกครองไทยโดยแท้จริงยังคงเป็นระบอบเผด็จการราชาธิปไตยอยู่
ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยตามที่พวกนักวิชาการทั้งหลายเข้าใจ ( แค่คำโฆษณาหลอกลวงประชาชน)
รัฐบาลนายกฯทักษิณชนะการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศ
แต่มีเงื่อนไขทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้อำนาจของ "ระบอบราชาธิปไตย"
ทั้งๆที่ รัฐบาลทักษิณมีหลักนโยบายที่เห็นผลงานสามารถจับต้องได้
ทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากการบริหารของรัฐบาลนายกฯทักษิณ
เช่นระบบโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกโรคและโครงการโอทอป
เป็นต้น....แต่นโยบายเหล่านี้ก็ไม่ทำให้สังคมเกิดการเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยได้
ซึ่งถ้าปล่อยให้ประเทศชาติได้มีโอกาสพัฒนาต่อไปภายใต้รัฐบาลของทักษิณ
ทางด้านเศรษฐกิจประเทศชาติก็จะดำเนินก้าวหน้าวิวัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆต่อไปได้...
แต่ระบอบการปกครองแบบ"
ราชาธิปไตย" หรือ"ระบอบกษัตริย์เผด็จการ "
นั้นยังคงครอบงำสังคมไทยและครอบงำรัฐบาลทักษิณอยู่เหมือนเดิม
(หลังจากการเปลี่ยนแปลง ๒๔๗๕ เป็นต้นมา)
นี่คือธาตุแท้ของ"ระบอบราชาธิปไตย"ที่ขัดขวางต่อระบอบประชาธิปไตยมาตลอดเวลาทุกยุคสมัย
ไม่ว่าโครงการนั้นจะดีอย่างไรก็ไม่สามารถรักษาไว้และพัฒนาต่อไปได้
(ตราบใดที่ระบอบกษัตริย์เผด็จการยังดำรงคงอยู่ )
ถ้าไม่ล้มล้าง"ระบอบกษัตริย์เผด็จการ " นี้ลงเสียก่อน
ซึ่งนายกทักษิณเองเขาไม่ได้มีแนวความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงหรือล้มล้างระบอบราชาธิปไตยหรือระบอบกษัตริย์เผด็จการนั้นลง
พวกอำมาตย์ซึ่งเป็นกลุ่มทุนผูกขาดที่หล้าหลัง
เห็นว่าถ้าปล่อยให้ทักษิณบริหารประเทศต่อไปจะเป็นอันตรายแก่ พวกเขา
กษัตริย์ภูมิพลจึงสั่งให้ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลของทักษิณ
(ที่มาจากการเลือกตั้ง) เมื่อวันที่ ๑๙ ก.ย. ๒๕๔๙
เมื่อทักษิณถูกพวกอำมาตย์โค่นล้มลง
ทักษิณเองก็ยังจะพยายามจะประณีประนอมกับพวกอำมาตย์มาตลอดเวลา
(เป็นเวลาถึง ๑๒ปี.). นี่คือตัวตนธาตุแท้ของพวกนายทุนผูกขาด
เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง "เพื่อความอยู่รอดและปกป้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง"
พวกเขาจะร่วมจับมือกัน...
นี่คือธาตุแท้ของพวกนายทุน
ก่อนอื่นเขาจะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัวเท่านั้น
และมองเห็นประชาชนเป็นเพียงแค่แรงงานที่เขาขูดรีดเพื่อผลิตสินค้าสร้างความร่ำรวยให้แก่ตนเองและครอบครัวเขาเท่านั้น
ตราบจนถึงทุกวันนี้ทักษิณก็ยังเชื่อมั่นยอมรับในการปกครองแบบเดิม"ระบอบราชาธิปไตย"
ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองให้มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
โดยเปิดเผยตัวตนออกมาสนับสนุนร่วมมือกับรัชกาลที่๑๐
"กษัตริย์โจรทรราชองค์ใหม่"ปล้นทรัพย์สินของประเทศชาติ
ขูดรีดกดขี่ข่มเหงหลอกลวงประชาชนชาวไทยต่อไป...
ธาตุแท้
พฤติกรรมการตีสองหน้าของทักษิณคือ ด้านหนึ่งร่วมมือกับพวกเจ้า
อีกด้านทรยศหักหลังหลอกลวงประชาชนที่สนับสนุนเขา "ม็อบคนเสี้อแดง"
ไปให้ทหารฆ่าตายที่ราชประสงค์เป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค ๒๕๕๓ รวมทั้งบาดเจ็บสูญหายอีกกว่าพันคน และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีอีกจำนวนมาก โดยไม่มีความรับผิดชอบช่วยเหลือแต่อย่างใด(?) ไร้ความเป็นมนุษย์ ...
นี่คือธาตุแท้ของทักษิณ....
ความคิดความคาดหวังของประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่คิดว่าทักษิณจะเป็นผู้ที่จะนำประเทศชาติและประชาชนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น... จงลืมเสียเถิด !!
เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงของทักษิณคือต้องการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรองในการต่อสู้เพื่อใช้ปกป้องรักษาผลประโยชน์และอำนาจของนายทุนและเครือข่ายธุระกิจของกลุ่มทุนผูกขาดของพวกนายทุนเท่านั้นเอง
ทักษิณเป็นคนทะเยอทะยานกระหายอำนาจเป็นคนเห็นแก่ตัวเป็นนักฉวยโอกาศเป็นคนฉลาดแกมโกง
การที่เขาร่วมมือกับวชิลาลงกรณ์เพราะเขามองการณ์ไกลเขารู้ว่าราชวงค์นี้จะไปไม่รอดแล้วหลังจากที่ภูมิพลตาย ราชินีสิริกิตย์ก็เป็นบ้าเสียจริต และรู้ว่าวชิลาลงกรณ์เป็นคนไม่ฉลาดมีความประพฤติไม่ดีประชาชนชาวไทยไม่ยอมรับ เป็นช่วงที่ราชวงค์อ่อนแอที่สุดเขาจึงวางแผนที่จะครอบงำพวกเจ้า โดยเชิดวชิราลงกรณ์ไว้เพื่อเป็นโล่ห์อำพรางและจะสร้างตัวเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศภายใต้"ระบอบ ทักษิณเผด็จการอันมีกษัตริย์เป็นประมุข " สืบต่อไป...
ฉะนั้นประชาชนต้องเข้าใจ
จะมาเรียกร้องให้ทักษิณเปลี่ยนแนวคิดจากนายทุนมาเป็นผู้นำของ
การปฎิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาคือนายทุน....
"นายทุนคือนายทุนไม่ใช่นักปฎิวัติ" ซึ่งเวลาได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทักษิณไม่มีอุดมการณ์และความจริงใจกับประชาชน
เขาเพียงต้องการรักษาอำนาจและผลประโยชน์ทางธุระกิจเพื่อทำมาหากินกับระบอบกษัตริย์เผด็จการที่กำลังเน่าเฟะอยู่ในเวลานี้ต่อไป...เพื่อสนองความกระหายอำนาจและปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องแค่นั้นเอง
ฉะนั้นการที่จะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมจากระบอบเผด็จการทรราชราชาธิปไตยไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้นั้น..
จึงเป็นหน้าที่และจิตสำนึกของประชาชนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้มาเองเพราะไม่มีใครยกให้ฟรีๆ.. ไม่ใช่จะนั่งรอนอนรอคอยพึ่งทักษิณและพรรคการเมืองของเขา รวมทั้งพรรคการเมืองสารพัดพิษและบรรดานักการเมืองน้ำเน่าทั้งหลายที่กำลังออกมาโฆษณาประกาศขายตัวเพื่อรับใช้ระบอบกษัตริย์เผด็จการอยู่ในเวลานี้.
....................................................
รายงานที่ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม กรณี เม.ย.-พ.ค.53 หรือ ศปช. ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมเหตุการณ์ทั้งหมด ในช่วง เมษา-พฤษภา 2553 ซึ่งได้ตีพิมพ์เมื่อปี 2555 ได้รวบรวมตัวเลขของเหตุการณ์นี้ไว้ดังนี้- 1,283 คือจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด
- 1,763 คือจำนวนคนที่ถูกจับกุมระหว่างการชุมนุมและถูกดำเนินคดี
- 94 คือจำนวนคนเสียชีวิต
- 88 คือจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ชาย
- 6 คือจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้หญิง
- 10 คือเจ้าหน้าที่รัฐที่เสียชีวิต (ส่วนใหญ่เป็นทหาร ในจำนวนนี้มีตำรวจ 3 นาย)
- 2 คือสื่อมวลชนที่เสียชีวิต (สัญชาติญี่ปุ่นและอิตาลี)
- 6 คืออาสากู้ชีพ/อาสาพยาบาลที่เสียชีวิต
- 32 คือผู้เสียชีวิตที่โดนยิงที่ศีรษะ
- 12 คืออายุของผู้เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด
.................................................................................
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar