ตลาดหุ้นโลกตลาดหุ้นไทยช่างโลกสวย ปลายสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียยูเครนเจรจากัน โฆษกรัสเซียให้ข่าวฝั่งเดียวว่าคืบหน้า หุ้นขึ้น แต่พอเจรจาล้มเหลว ดัชนีแนสแด็ก กับเอสแอนด์พีหล่นวูบ
มันเป็นไปไม่ได้ที่สงครามจะจบง่าย ในทางการทหาร รัสเซียยังยึดยูเครนไม่ได้ ยึดได้ก็ไม่เบ็ดเสร็จ ในทางการเมือง ยึดได้ยิ่งถูกประณาม ถูกรุมถล่มด้วย “ขีปนาวุธบอยคอต” ที่ยิงมาทุกทิศทุกทาง จนเศรษฐกิจรัสเซียหายนะถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจโลกเกือบสิ้นเชิง เว้นแต่ยุโรปยังต้องพึ่งน้ำมันและท่อก๊าซธรรมชาติที่ส่งมาจากรัสเซีย
มันเป็นสงครามที่คิดหา Scenario แบบจบสวยไม่ได้จริงๆ จะเจรจากันอย่างไร ยูเครนก็ยอมแพ้ไม่ได้ เพราะเท่ากับสูญเสียเอกราชอธิปไตย ถ้ายอมตามรัสเซียให้แก้รัฐธรรมนูญ ยอมสูญเสียไครเมีย ดอนบาส แล้วรัสเซียจะถอนทหารหลังจากรุกรานฟรีฆ่าฟรี? ยอมได้ไง
ฝั่งปูตินก็แพ้ไม่ได้ ถอยไม่ได้เช่นกัน เอานิ้วจ่อปุ่มนิวเคลียร์ไว้ 24 ชม. เป็นอำนาจต่อรองไม่ให้สหรัฐฯ และนาโตเข้าไปร่วมสงคราม
ในระยะเฉพาะหน้า รัสเซียคงคิดว่าถ้าพิชิตยูเครน จับ ฆ่า หรือไล่ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด แล้วโลกจะเลิกบอยคอต เพราะทนไม่ไหวกับผลกระทบน้ำมันแพงหุ้นตกเศรษฐกิจย่ำแย่ไปด้วยกัน
นั่นคือจุดวัดใจ แต่การบอยคอตรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน จะจบง่ายๆ หรือ ยิ่งรัสเซียยึดยูเครนได้ โลกตะวันตกและประชาชนในประเทศเสรีประชาธิปไตยจะยิ่งเห็นรัสเซียเป็นภัยคุกคาม
มองอีกมุมหนึ่ง สงครามรัสเซียยูเครน เป็นเหมือนสงครามตัวแทน ของสงครามเย็นรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศเสรีประชาธิปไตยกับกลุ่มประเทศอำนาจนิยม แต่การที่รัสเซียทำสงครามรุกรานไม่แคร์โลก ยิงขีปนาวุธทิ้งระเบิดใส่ประชาชน ก็ทำให้ “แนวร่วมอำนาจนิยม” อย่างจีนยังอึกอัก ไม่กล้าเข้าข้างเต็มตัวคงมีแค่เบลารุส ซีเรีย เกาหลีเหนือ และมินอ่องลาย สนับสนุน
ผู้แทนไทยก็ลงมติประณาม ทั้งที่สื่อ IO กองเชียร์รัฐบาล ช่วยรัสเซียแพร่เฟคนิวส์อย่างด้านๆ
รัสเซียมีพวกน้อยแต่มีนิวเคลียร์ ทำให้โลกตะวันตกไม่กล้าผลีผลาม ได้แต่บอยคอตไม่ยั้ง ปูตินก็ขู่ยึดทรัพย์บริษัทต่างชาติ สถานการณ์อย่างนี้ไม่มีทางลง เว้นแต่คนรัสเซียลุกฮือโค่นปูติน ชาวโลกจึงเลิกบอยคอต เผลอๆ จะเข้าไปช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยซ้ำ
สถานการณ์จบยากและยืดเยื้อ กระทบยาวทั้งเศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่ราคาน้ำมันไปจนปุ๋ย อาหารสัตว์ ข้าวสาลี ส่งออก ท่องเที่ยว นี่คือเรื่องที่ต้องยอมรับและทำใจ อย่าเชื่อสื่อไทยนักวิเคราะห์ไทยที่ชอบขายข่าวดี ซ้ำร้ายสื่อจำนวนหนึ่งยังกลายเป็นสื่อไทยหัวใจรัสเซีย หรือหัวใจจีน
คนไทยเคยชินกับการลู่ตามลม เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี นโยบายการทูตไม่มีกระดูกสันหลัง ใครมีอำนาจก็เป็นเบ๊ทางนั้น เลยมักจะมองความขัดแย้งเป็นเรื่องง่ายๆ มหาอำนาจแทรกแซง ทั้งที่สถานการณ์วันนี้เป็นกระแสประชาคมโลก ประชาชนที่รักเสรีภาพประชาธิปไตยไม่พอใจรัสเซีย บริษัทยักษ์ใหญ่ถอนการลงทุน บอยคอตรัสเซีย ไม่ใช่เพียงรัฐบาลบีบ แต่กลัวว่าถ้าดันทุรังต่อไปจะถูกลูกค้าแอนตี้ อย่าง Uniqlo ตอนแรกปากแข็งก็ต้องถอนตัว
มันก็เหมือนนักฟุตบอลซ้อมแฟน เมสัน กรีนวู้ด โดนแมนยูสั่งพักงาน โดนถอนสปอนเซอร์ เพราะพลังทางสังคม
คนไทยธุรกิจไทยไม่เข้าใจคุณค่าอย่างนี้ มักจะมองแค่ประโยชน์นิยม เลิกแล้วต่อกันเถอะ อย่าสนใจความถูกต้องชอบธรรม ทำมาค้าขายดีกว่า ฯลฯ
จึงไม่ตระหนักว่าสงครามบอยคอตรอบนี้ยาว ไม่จบง่าย และอาจบานปลายกว่านี้อีก
...................................................................
ใบตองแห้ง: อ่อยเหยื่อ ‘เลือกตั้ง’
หลังจากปล่อยให้คนกรุงเทพฯ คนพัทยารอมาเกือบทศวรรษ กกต.เพิ่งได้ฤกษ์จัดเลือกตั้งผู้ว่า 22 พฤษภา 65 ฤกษ์งามยามดี 8 ปีรัฐประหาร ยึดอำนาจแล้วยึดเก้าอี้ จากเลือกตั้งเป็นแต่งตั้ง สภา กทม.เอาข้าราชการแก่ ๆ มานั่งตะบันน้ำกิน ผู้ว่า “อัศวิน ขวัญเมือง” ก็นั่งทับน้ำรอระบายเกือบ 6 ปี
จนจะต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว คนกรุงเพิ่งได้เลือกตั้ง คนกรุงผู้คิดว่ามีการศึกษาเหนือคนชนบท กลับไม่ได้เลือกผู้ว่าสักที ทั้งที่เลือก ส.ส.มา 3 ปี ทั้งที่คนอีก 76 จังหวัดได้เลือกนายก อบจ. อบต. เทศบาล กันหมดแล้ว
ADVERTISEMENT
ฤกษ์งามยามดี อาจแปลว่าคน กทม.จัดกิจกรรมประณาม 8 ปีรัฐประหารไม่ได้ เดี๋ยว กกต.หาว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่มีความเป็นกลาง เป็นโทษกับผู้สมัครบางรายที่เคยเป่านกหวีดปิดเมือง หรือผู้สมัครจากพรรคบอยคอตเลือกตั้ง ฉะนั้นห้ามด่ารัฐประหาร ห้ามด่าผู้บอยคอตขัดขวาง เดี๋ยวจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
การยอมให้เลือกตั้งผู้ว่าหลังยื้อมานาน มองอีกด้านก็เป็นการอ่อยเหยื่อ ลดแรงกดดัน ไม่ต่างกับ “ขอเวลาอีกไม่นาน” รัฐประหาร 5 ปี เดี๋ยว ๆ ก็จะเลือกตั้ง เดี๋ยว ๆ ก็จะเลือกตั้ง หลอกให้ประชาชนมีความหวัง จะได้ไม่ต่อต้าน สุดท้ายรอนานถึง 5 ปี
เลือกผู้ว่า กทม.ก็รอจนรัฐบาลย่ำแย่ อยู่ในกระแสเรียกร้องยุบสภา ค่อยปล่อยออกมาลดแรงกดดัน ก่อนนี้ก็โยนกันไปโยนกันมาระหว่าง กกต.กับมหาดไทย เพราะกฎหมายพิลึก ลักลั่น ต้องให้มหาดไทยเสนอ ครม. แล้ว กกต.ค่อยประกาศเลือกตั้ง สิริรวมใช้เวลา 3 ปี
อ้าง กกต.ไม่พร้อม หนึ่งปีจัดเลือกตั้งได้ทีละอย่าง เลือก ส.ส. เลือก อบจ. อบต. เทศบาล ฯลฯ เท่านั้นก็มีงานทำทั้งชีวิต มีงบประจำ 3 พันล้าน (ไม่รวมค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง) มีพนักงานเกือบ 3,000 มีงบบุคลากร 1.7 พันล้าน มีสำนักงานทุกจังหวัด เงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ แต่เวลาเลือกตั้งก็ใช้ครูใช้ตำรวจใช้ฝ่ายปกครอง
รัฐบาลวันนี้เลี้ยงดินเนอร์กันจ้าละหวั่น ทั้งพรรคใหญ่พรรคเล็ก เพื่อประคองเสถียรภาพรัฐบาล ซึ่งไม่ค่อยจะมีหรอก แต่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นรัฐบาลย่อมดีกว่าไปเดินหาเสียงเลือกตั้ง โดยยังไม่รู้อนาคตว่าจะได้กลับมาไหม
แม้กระทั่งเศษพรรค ก็ไม่ได้อยากให้ยุบสภา เพราะมีโอกาสแค่ 0.0001% ที่จะได้กลับมาเป็น ส.ส. ภายใต้ระบบเลือกตั้งที่แก้ไขแล้ว ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่สามารถย้อนไปใช้สูตรปัดเศษแบบปี 62
รัฐบาลคงพยายามยื้อไปเรื่อย ๆ โดยใช้ข้ออ้างสารพัด เช่นอ้างประชุมเอเปก เป็นหน้าตาประเทศชาติ แต่ขณะเดียวกันก็ลดแรงกดดัน เช่นประวิตรบอกว่าหลังเอเปกจะยุบสภาเป็นของขวัญปีใหม่ “ขอเวลาอีกไม่นาน”
เห็นชัด ๆ ว่าอ่อยให้ประชาชนตั้งความหวัง “ขอเวลาอีกไม่นาน” อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวประยุทธ์ก็ไปแล้ว ระหว่างนี้ก็ท่องคาถา “สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย…” ไปพลางๆ
คำถามคือจะกดให้ประชาชนอดกลั้นได้จริงไหม ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างแย่ลง ทั้งโควิด เจอแจกจบ จบเห่จริง ๆ คนติดวันเป็นแสนไม่มีที่ให้รับยา ปล่อยไปตามยถากรรม อาศัยว่าโอมิครอนไม่รุนแรง ตายน้อย “แค่วันละ 70” ขณะที่เศรษฐกิจก็โทษยูเครนไม่ยอมแพ้รัสเซียเสียดี ๆ ทำให้น้ำมันแพง ปุ๋ยแพง ไข่แพง มาม่าแพง
รัฐบาลนี้อยู่ได้เพราะเครือข่ายอำนาจหนุนหลัง รัฐราชการทหารตำรวจกระบวนการยุติธรรมองค์กรอิสระ สามัคคีกันรัฐประหารแล้วสืบทอดอำนาจ ประชาชนไม่สามารถขับไล่ ถูกปราบถูกจับกุมคุมขัง ได้แต่ตั้งความหวังรอเลือกตั้งใหม่
แล้วรัฐบาลก็แขวนเหยื่อล่อให้มีความหวังไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเลือกตั้ง ๆ ๆ จนกระทั่งครบวาระปีหน้าโน่นแหละ ซึ่งประชาชนอาจทำอะไรไม่ได้อยู่ดี แต่ความโกรธความไม่พอใจจะยิ่งรุนแรง
ท่ามกลางปากท้องที่แย่ลง คนไทยยังต้องทนฟังประยุทธ์สั่งสอนรายวัน
ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ www.kaohoon.com/column/520523
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar