Prachatai
1 ชม.รัฐราชการไทยใหญ่โต แต่ไร้ประสิทธิภาพ อ่อนแอ แต่ก็ปรับตัวเก่ง ทั้งยังมีเครื่องมือแก้ปัญหาอย่างการรัฐประหาร ร่วมสำรวจความเปลี่ยนแปลงรัฐราชการไทยจากยุคสฤษดิ์ถึงยุค คสช. และแนวทางจัดดุลอำนาจให้ระบบราชการใช้อำนาจอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น
อ่านรายงานสัมภาษณ์ ชัชฎา กำลังแพทย์ ผู้เขียนหนังสือ ‘ประยุทธ์ไม่ใช่สฤษดิ์: พลวัตรัฐราชการไทยจากยุครุ่งเรืองสู่ยุคเสื่อมถอย’ เปรียบเทียบรัฐราชการ 2 ยุค ความเข้มแข็ง ความอ่อนแอ และการปรับตัวของรัฐราชการไทย ได้ที่ : https://prachatai.com/journal/2022/03/97788
- นิยามรัฐราชการแบบเดิมไม่สามารถอธิบายปัจจุบันได้ ชัชฎาจึงนิยามใหม่ว่ารัฐราชการคือเครือข่ายของตัวแสดงของกลุ่มเครือข่ายข้าราชการ ทหาร พลเรือนที่เปิดให้ภาคประชาสังคมและกลุ่มทุนบางกลุ่มเข้ามาแบ่งปันอำนาจและสร้างเครือข่ายในการบริหารด้วยกัน
- ระบบราชการยุค คสช. ขยายตัวกว่ายุคสฤษดิ์มากและต่างมีอิสระของตนเอง ทำให้อำนาจการบริหารปกครองอยู่ที่กรมหรือกรมาธิปไตย แต่มีประสิทธิภาพต่ำเพราะไม่บูรณาการการทำงานร่วมกัน
- รัฐราชการไทยอ่อนแอ แต่มีการปรับตัวสูง เห็นได้จากการแบ่งปันอำนาจให้เครือข่ายอื่นๆ เข้ามาช่วยบริหารและขับเคลื่อนนโยบาย
- รัฐราชการไทยมีเครื่องมือหลายอย่างในการจัดการความขัดแย้ง ทว่า เมื่อใดก็ตามที่ความขัดแย้งไปถึงจุดที่ไม่สามารถจัดการได้ รัฐประหารจะเป็นเครื่องมือสุดท้ายในการรีเซ็ตทุกอย่าง
- เพื่อการจัดสมดุลอำนาจที่ไม่เทไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ราชการ หรือกลุ่มทุน จำเป็นที่ภาคประชาสังคมต้องสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มอำนาจต่อรอง
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอาญายกฟ้องเสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตแกนนำ นปช. ในข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3) ศาลชี้ทำคลิปชวนขับไล่ คสช. ไม่เป็นเหตุให้ประชาชนก่อความไม่สงบ หลังสู้คดีมานานกว่า 2 ปี
อ่านเพิ่มเติมที่ : https://prachatai.com/journal/2022/03/97789
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar