เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ อนาถใจประยุทธ์เลี้ยงดินเนอร์พรรคเล็ก ชี้การเมืองถอยหลังเข้าคลอง 50 ปี เหมือนสมัยจอมพลถนอม ส.ส.มีอำนาจต่อรองสูง นายกฯ ต้องเอาใจ ไม่น่าเชื่อว่า พ.ศ.นี้ยังได้เห็นการแจกกล้วย การเมืองไทยก้าวไม่พ้นวงจรอุบาทว์เดิม ๆ ที่แย่งกันซื้อตัว ส.ส.
แหม่ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์คิดได้อย่างเทพไทคงจะดี จะได้เลิกบอยคอตเลือกตั้ง เลิกหวังยืมมือรัฐประหารตุลาการภิวัตน์ทำลายคู่แข่ง แต่น่าจะเป็นความเห็นเทพไทคนเดียว เพราะพรรคยังร่วมรัฐบาล แถมปรับโครงสร้างพื้นฐาน ชูขุนพล “บ้านใหญ่” แทนนักการเมืองปากเก่งแบบดั้งเดิม ซึ่งทยอยไหลออกจากพรรค
“วงจรอุบาทว์” เทพไทควรพูดให้ชัดว่าหนักกว่าเก่า เพราะความหมายเก่า อ้างว่านักการเมืองซื้อเสียงโกงกิน ทหารยึดอำนาจเป็นเผด็จการ แต่พอมีเลือกตั้งนักการเมืองก็กลับมา วนอยู่อย่างนี้ ประเทศไม่ไปไหนสักที
แต่ยุคนี้ทหารสืบทอดอำนาจตัวเอง กวาดต้อนนักการเมืองมาเป็นสมุน กลายเป็นรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ใต้ผู้นำระบบราชการ นักการเมืองก็แก่งแย่งผลประโยชน์ แตกเป็นก๊กเป็นก๊วน จนชาวบ้านร้องยี้
เป็นรัฐบาลที่แย่กว่านักการเมือง “วงจรอุบาทว์” เสียอีก แต่ไม่มีรัฐประหาร เพราะเป็นรัฐบาลของทหาร ของเครือข่ายอำนาจอนุรักษนิยมเสียเอง จึงครองอำนาจแช่นิ่งอยู่อย่างนี้
พูดง่าย ๆ ถ้าประยุทธ์เป็นนักการเมือง คงโดนทหารยึดอำนาจไป 3-4 รอบแล้วมั้ง ทั้งความล้มเหลวในการบริหาร ทั้งความไม่ไว้วางใจนักการเมือง ที่มีเรื่องอื้อฉาวเยอะมาก
แต่ทหารที่ไหนจะยึดอำนาจ ในเมื่อเป็นเครือข่ายเดียวกัน ประยุทธ์ ประวิตร อนุพงษ์ เป็นตัวแทนผลประโยชน์สถาบันกองทัพ ทั้งการจัดสรรงบประมาณ ตำแหน่งแต่งตั้ง หรือซื้อเรือดำน้ำหมื่นล้านไม่มีเครื่องยนต์
ไม่ใช่แค่ตัวแทนทหาร 3 ป. ยังเป็นตัวแทนเครือข่ายชนชั้นนำ รัฐราชการ กระบวรการยุติธรรม 250 ส.ว. องค์กรอิสระ โยงถึงกันหมด แล้วก็ช่วยกันค้ำ ทั้งที่รัฐบาลนี้ควรยุบสภาหรือลาออกตั้งนานแล้ว ก็ยังดันทุรังได้
ความที่ไม่ใช่รัฐบาลปกติ ไม่ใช่อำนาจปกติ ทำให้รัฐบาลยื้ออยู่ได้ทั้งที่ไม่สามารถแก้ปัญหาประชาชน เอาแต่โทษปัจจัยภายนอก โควิด สงคราม ทำให้เงินเฟ้อ ทำให้น้ำมันแพง ประเทศอื่นไม่ได้ดีกว่าเรา แย่เหมือนกัน เงินเฟ้อเหมือนกันน้ำมันแพงเหมือนกัน ฯลฯ อ้างไปเรื่อยแล้วไม่ทำอะไรสักอย่าง แต่บอกว่าอยู่แก้ปัญหาประชาชน ฝ่ายค้านอย่าโจมตีดิสเครดิต
ผู้นำแบบประยุทธ์ ไม่ใช่แค่ดีแต่พูด แต่ยังอวดอ้างสั่งสอนประชาชน สอนให้ประหยัดไฟ ล้างแอร์ เปิดแอร์พร้อมเปิดพัดลม ทำตัวเป็นพ่อให้โอวาท แต่ตัวเองใช้รถใช้น้ำมันใช้น้ำใช้ไฟจากภาษีประชาชน มีคนเคยค้นเอกสารงบปี 62 ค่าล้างแอร์บ้านพักประยุทธ์ 6.6 หมื่น
คุยโวโอ้อวด 8 ปี 10 ปี ท้าวัดผลงาน ทำอะไรบ้าง คลองโอ่งอ่าง? สถานีกลางบางซื่อ ถ้าไม่มีรัฐประหารก็เสร็จไปนานแล้ว สนามบินเบตง จัดเที่ยวบินปฐมฤกษ์สร้างภาพ วันถัดมานกแอร์ยกเลิกเที่ยวบิน ปัดโธ่ กระทั่งลอตเตอรี่ขายเกินราคา พูดตั้งแต่รัฐประหารใหม่ ๆ จนบัดนี้ยังทำไม่ได้
โควิดโอมิครอน ใช่เลยไม่ค่อยอันตราย แต่คนติดวันละเกือบแสน “เจอ แจก จบ” รับมือไม่ทัน คนติดเชื้อต้องรักษาตัวเองตามยถากรรม สีเขียวสีเหลืองหายเอง แต่สีแดง 608 ถ้าไม่สามารถเข้าระบบก็ตายเท่านั้น คนตายจึงพุ่งวันละเกือบร้อย รัฐบาลก็ยังจะเร่งให้เป็นโรคประจำถิ่น แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีวันเลิก กลายเป็น พ.ร.ก.ประจำถิ่น
ด้วยอำนาจที่ไม่ปกติ เป็นวงจรอุบาทว์เหนืออุบาทว์ รัฐบาลจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน อยู่ได้ทั้งที่ไม่มีผลงาน อยู่ได้ทั้งที่เศรษฐกิจพัง ขอเพียงมีกล้วยเลี้ยง ส.ส. เพื่อผ่านงบประมาณผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ยิ่งกว่านั้นในปีสุดท้าย ก่อนหาเสียงเลือกตั้ง การทุจริตจะโฉ่งฉ่างอย่างไม่ต้องเกรงใจประชาชน เพราะวงจรอุบาทว์คุมอำนาจไว้หมดทุกอย่าง
ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/column/521479
....................................................
กระแสเกลียดอเมริกาและโลกตะวันตก กระทั่งเข้าข้างรัสเซียรุกรานยูเครน ไม่ได้เป็นเฉพาะสลิ่มไทย แต่มีอยู่กระจัดกระจายทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ปกครองด้วยอำนาจนิยม
พูดกันจริงๆ เราวิจารณ์อเมริกาได้ แต่ไม่ใช่ยกมากลบพฤติกรรมอันธพาลของรัสเซีย แล้วโทษเหยื่อ เป็นเพราะยูเครนชักศึกเข้าบ้าน เพราะจะไปเอาอาวุธนาโต้มาตั้งประจัญ เลยโดนรัสเซียบุก สมน้ำหน้า ฯลฯ โดยไม่มองความขัดแย้งที่ผ่านมา ความต้องการเป็นอิสระ การต่อสู้อย่างกล้าหาญของคนยูเครน และความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ผู้รุกรานทำกับประชาชน (กลับเชื่อ IO ว่าแม่ท้องแก่เป็นนักแสดง)
หรือโยนกลับว่า “แล้วทีอเมริกาล่ะ” อเมริกาบุกอิรัก บุกอัฟกานิสถาน นาโต้ทิ้งระเบิดยูโก อิสราเอลถล่มปาเลสไตน์ ฯลฯ
อเมริกาทำได้งั้นรัสเซียก็ทำได้ ประเทศใหญ่รุกรานประเทศเล็กตามอำเภอใจ ตรรกะโลกาวินาศ ใช่เลยสมควรประณามอเมริกา แต่รู้ไหมตอนนั้นใครออกมาประณาม ก็ประชาชนในโลกตะวันตกที่มีเสรีภาพ ตระหนักสิทธิมนุษยชน ออกมาประท้วง บุชกันล้นหลาม คนเหล่านี้แหละที่ฮือประณามรัสเซียบุกยูเครน โดยมีมากขึ้นมหาศาลเพราะเป็นยุคที่โลกสื่อสารถึงกันหมด
แล้วรู้ไหมใครเปิดโปงอเมริกาอังกฤษ โกหกเรื่องซัดดัมมีอาวุธทำลายล้าง ก็สื่อตะวันตกนั่นแหละ ใครเปิดโปงการซ้อมทรมาน ในคุกลับที่กวนตานาโม ก็สื่อตะวันตก ที่หาว่ามีไว้ล้างสมองคน ส่วนสื่อรัสเซียนะเหรอ บรรณาธิการข่าวชูป้ายต้านสงคราม โดนอุ้มไปทันที
Ugly American เป็นผู้ร้าย ใช่เลยในยุค 60-70 ส่งออกรัฐประหาร หนุนเผด็จการถีบลงเขาเผาลงถังแดง รัฐบาลทหารในเอเชียแอฟริกาละตินอเมริกาฆ่าประชาชนไปเป็นล้านๆ จนอเมริกาแพ้สงครามเวียดนาม ยุคจิมมี่ คาร์เตอร์ จึงเปลี่ยนนโยบาย ยุค โรนัลด์ เรแกน หันไปกำหนดกติกาโลกใหม่ “การค้าเสรี”
แต่อย่าลืมว่าอเมริกาไม่ได้เปลี่ยนเองนะ มันมาจากการต่อสู้ เรียกร้องของคนหนุ่มสาวในยุคซิกซ์ตี้ ยุคบุปผาชน สี่เต่าทอง ร็อกแอนด์โรลล์ เรียกหาสันติภาพ ต่อต้านสงครามเวียดนาม ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของคนผิวสี สิทธิสตรี ซึ่งยกระดับวัฒนธรรมโลกตะวันตก ให้เป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ยึดมั่นเสรีภาพ เคารพสิทธิมนุษยชน
ยุค 80 สังคมนิยมล่มสลาย โซเวียตแตก จีนกระตุ้นทุนนิยม อเมริกาเป็นเจ้าโลกผ่านการค้าเสรี “โลกาภิวัตน์” เชื่อมโลกเป็นตลาดเดียวกันทั้งการค้าการเงิน ซึ่งต่อมาก็เชื่อมพลเมืองโลกด้วย โซเชี่ยลมีเดีย
“ทุนนิยมโลกาภิวัตน์” ฟังคุ้นๆ ไหม ที่ลุกฮือต่อต้าน “ทุนสามานย์” เมื่อปี 49 ด้วยอุดมการณ์ราชาชาตินิยม ก็ปลุกความ รักชาติต้านทุนข้ามชาติ ขายชินขายชาติ” พ่วงความคับแค้น จากต้มยำกุ้ง วิกฤต 40 ไม่ได้เกิดเพราะเราโง่เองแต่เราถูกโจมตี ค่าเงินบาท โดยพ่อมดจอร์จ โซรอส ที่เอากำไรมาให้ทุนปลุกปั่นการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยเรียกร้องสิทธิมนุษยชน
นั่นคือคำอธิบายตีขลุม conspiracy จับการแผ่ขยายของทุนโลกาภิวัตน์มาผูกกับประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน โทษว่าเป็นเครื่องมือมหาอำนาจรุกราน เพื่อปกป้องชาติศาสน์กษัตริย์ เราต้องเป็นเผด็จการต่อต้านอเมริกาต่อต้านประชาธิปไตยสิทธิมนุษยชน
ซึ่งไม่ใช่ไทยประเทศเดียว ประเทศกำลังพัฒนาที่เปลี่ยนไปเป็นอำนาจนิยมต้านโลกาภิวัตน์มีไม่น้อย ไม่ว่าจะอยู่กับมหาอำนาจข้างไหน เพราะอเมริกายุคทรัมป์ ก็เป็นฝ่ายขวาต้านโลกาภิวัตน์เช่นกัน
มองในมุมหนึ่งก็เข้าใจได้ ทุนนิยมโลกาภิวัตน์ หรือเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ที่กลืนกินไปทั่วโลก ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงลิบ คนหยิบมือรวยล้น คนยากจนได้ค่าแรงไม่พอกิน ซ้ำยังก่อวิกฤตการเงิน ฟองสบู่แตกแบบซับไพรม์ คนอเมริกันตกงานไร้บ้านทำให้แรงงานผิวขาวแห่เลือกทรัมป์
วิกฤตโควิดก็เช่นกัน มันเป็นไปได้อย่างไร ที่คนตกงานเกลื่อนโลก แต่หุ้นขึ้น เก็งกำไรคริปโต รวยกันได้เป็นร้อยล้านพันล้าน (ลองคิดในมุมเศรษฐกิจจริง พลเมืองโลก 9 ใน 10 ปลูกพืชผลทำการผลิตแต่รายได้ไม่พอกิน 1 ใน 10 ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร นั่งขุดเงินนั่งเก็งกำไรอยู่หน้าจอแต่รวยกว่า)
กระนั้นในการต้านทุนโลกาภิวัตน์ พวกอนุรักษนิยมก็ปลุกความเกลียดชังเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ว่าเป็นเครื่องมือตะวันตก แล้วอ้างชาติอ้างศาสนาหรือมรดกทางวัฒนธรรม มาปกครองด้วยอำนาจนิยม
ไม่ใช่แค่ปูตินที่ปลุกความรุ่งเรืองของรัสเซียโบราณ จีนก็ปลุกชาตินิยมลัทธิขงจื๊อค้ำพรรคคอมมิวนิสต์ ขบวนการต่อต้านอเมริกาในตะวันออกกลาง ซึ่งในอดีตเดินแนวทางสังคมนิยม ก็เปลี่ยนเป็นอัลกออิดะห์ ISIS หลายประเทศที่เคยเป็น Secular State ก็เอาศาสนานำการเมืองจนได้คะแนนนิยมล้นหลาม เช่น อินเดีย ตุรกี
ทรัมป์ก็ได้พวกเคร่งศาสนาเป็นฐานเสียงเข้มข้น ประธานาธิบดีขวาสุดโต่งของบราซิล ได้นักฟุตบอลดังๆ ที่เคร่งศาสนา เชียร์ว่าเป็นคนดีย์
สงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ไม่ใช่แค่การประจันหน้าระหว่างมหาอำนาจ ในแง่ความคิดมันเป็นการต่อสู้ระหว่างประชาชนที่รักเสรีภาพ กับเครือข่ายอำนาจนิยม ซึ่งวันนี้ปูตินพาเพลี่ยงพล้ำในเวทีการเมืองโลก จนกระทั่งจีนก็ขยาด ไม่สามารถหนุนเต็มตัวเดี๋ยวทัวร์ลง
คนรักเสรีภาพประชาธิปไตย ไม่ได้เห็นด้วยกับความเหลื่อมล้ำ
แต่เสรีภาพประชาธิปไตยต่างหากคือเครื่องมือต่อสู้ความ เหลื่อมล้ำ
โดยไม่ใช่เครื่องมือของทุนของมหาอำนาจ
แต่เป็นมรดกจากการต่อสู้ของประชาชนโลกในหลายสิบปีที่ผ่านมา
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/newspaper-column/news_6950217
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar