อัพเดทข่าวทั่วไป ข่าวรายวันที่เกิดขึ้นในสังคมเสื่อมทรามบัดซบเกินจะเยียวยา " ยุคมืด"ของประชาชนไทย...

ศาลทหารตัดสิน คดี 112  จำคุก 10 ปีลดกึ่งหนึ่ง 'คฑาวุธ'
ปัจจุบันคดี112ต้องไปขึ้นศาลทหาร."ไม่มีชั้นอุทธรณ์-ฎีกา."...ปิดประตูลับตัดสินคดี..ยุคทหารครองเมือง.




เวลา 12.00 น. ที่ศาลทหาร มีนัดสอบคำให้การคดี 112 ที่นายคฑาวุธ (สงวนนามสกุล) เป็นจำเลย จำเลยถูกนำตัวจากเรือนจำมายังศาล โดยญาติต้องรอด้านนอกเนื่องจากพิจารณาคดีลับ ทนายความจำเลยแจ้งว่า อัยการทหารฟ้องจำเลยในความผิดตามมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาและมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 กรรม จำเลยให้การรับสารภาพ และศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือกึ่งหนึ่งคือ 5 ปีผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โดยส่วนใหญ่คดี 112 ที่ได้รับการพิจารณาในศาลยุติธรรม ศาลจะลงโทษจำคุก 3-5 ปี ต่อ 1 กรรม -


...............................................................
ข่าวที่จังหวัดเลย... ผอ.และรอง ผอ.  ขายหวยใต้ดินในโรงเรียน??
ความจริงคืออะไร?ส่งผ่านให้ "คสช"ติดตามด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักเรียนโรงเรียนเหมืองแบ่งวิทยาคม ต.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเลยได้ร่วมตัวประท้วงกว่า 400 คน ที่หน้าประตูโรงเรียนห้ามครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่เข้าออก เพื่อขับไล่ นายวีระพร จำปาอ่อน ผอ.โรงเรียนฯ โดยขอให้นายก อบจ.เลย ย้ายออกจากโรงเรียน มีผู้ปกครองเข้าร่วม พร้อมชูป้ายขับไล่และกล่าวหาการบริหารไม่สุจริต

โดยนายณัฐปคัลถ์ ซุ่นกลาง นักเรียนชั้นม.5 ได้กล่าวโจมตี ผอ.รร.ว่า การกระของ ผอ.โรงเรียนไม่เคยสนับสนุนการกิจกรรม เช่นส่งเสริมในการกีฬา และด้านวิชาการต่างๆ แม้กระทั้งการไปทัศนศึกษา แต่ทางโรงเรียนไม่เคยจัดไป เท่าที่ทราบมีแต่โครงการและเบิกเงินไป แต่ไม่มีไปทัศนศึกษาที่ไหนเลย
และอีกเรื่องก็คือเรื่องหวยใต้ดิน โดยทาง ผอ.และรอง ผอ.ได้เอาโพยใต้ดินมาขายในสถานที่ราชการ ทุกวันวันที่ 1และ 16 ของเดือน จะมีรถมารับส่งโพยหวยของแต่ละหมู่บ้าน และให้แม่บ้านในโรงเรียนเป็นผู้เดินโพย โดยใช้บ้านพักครูเป็นแหล่งรวมโพยหวย ช่วงบ่ายๆ ก็ใช้แฟกซ์ของโรงเรียนส่งให้เจ้ามือใหญ่อีกที ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ นักเรียนและครูรวมทั้งผู้ปกครองทราบเรื่องนี้ทั้งตำบลกันอยู่แล้ว

............................................................................................
ที่จังหวัดเลย...ข่าวสิบแปดมงกุฎ   ท้าทายอำนาจ"คสช."
โครงการพระราชดำริตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ???

ความจริงคืออะไร?ส่งผ่านให้ "คสช"ติดตามด้วย ที่จังหวัดเลย...อีกแล้ว 

ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย พ.ท.กิติพัฒน์ จีระชนะพันธ์ รองหน.กอ.รมน.จังหวัดเลย พ.ต.ภูมิเพชร ดวงพุฒ นสห.จทบ.ลย. พร้อมกับนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ ป้องกันจังหวัดเลย นำกำลังทหารและ อส. เข้าทำการควบคุม นายราชศักดิ์ โสรัชชาติ หรือนายธีร์รัฐ ปกรณ์รัตน์ศักดิ์ อายุ 45ปี 44/148 หมู่ที่ 8 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ประทุมธานี ที่แอบอ้างโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขายพันธุ์กล้าไม้มะขามป้อมยักษ์ (พันธุ์ทวาย) ให้กับ อบต.ต่างๆ ทั้งภาคอีสาน

โดยชุดจับกุม ค้นตัวพบเอกสารบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำแหน่ง คดีพิเศษชำนาญการ ภาค 8 และบัตรเจ้าพนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเอกสารหนังสือจากคสช. มอบหมายให้แต่ละ อบต. จัดงบประมาณปลูกต้นมะขามป้อมยักษ์ตามโครงการพระราชดำริ 

จากการสอบสวนนายราชศักดิ์ โสรัชชาติ หรือนายธีร์รัฐ ปกรณ์รัตน์ศักดิ์ ผู้ต้องหา ในช่วงแรกก่อนการจับกุมนั้น ได้แอบอ้างนายทหารชั้นผู้ใหญ่ใน คสช. แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้โทรสอบถาม กลับไม่พบว่ามีความเกี่ยวพันกันแต่อย่างใด 

จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงเอกสารและคำสั่งแม่ทัพภาค 2 ให้ติดตามขบวนการแอบอ้างโครงการพระราชดำริ  ผู้ต้องหาจึงได้ยอมรับว่า ตนเป็นแค่รับจ้างมาทำสัญญาให้กับนายกิตติ ประสารวงษ์ อายุ 41 ปี หมู่ที่ 9 ต.หนองขาม อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ โดยได้ค่าว่าจ้างครั้งละ 3,000 บาท ทั้งนี้ นายราชศักดิ์ยังอ้างว่า ตนเป็นอดีตปลัดอำเภออยู่ที่ภาคใต้หลายอำเภอ และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของ ดีเอสไอ แต่ได้ลาออกจากราชการด้วย

ด้านพ.ท.กิติพัฒน์ จีระชนะพันธ์ รอง หน.กอ.รมน.จังหวัดเลย ได้เปิดเผยว่า แก๊งนี้มีผู้ร่วมแก๊งจำนวนหลายคน และกำลังหลอก อบต.ในแถบภาคอีสาน จัดทำโครงการพระราชดำริ โดยให้ทุก อบต.ทำโครงการสร้างอาชีพและรายได้ โดยการปลูกมะขามป้อมยักษ์ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 

จากนั้น ให้ อบต.จัดทำงบประมาณ อบต.ละ 9,900 บาท โดยให้นำเงินไปซื้อพันธุ์ต้นมะขามป้อมยักษ์ ในราคาต้นละ 180 บาท จำนวน 550 ต้น ซึ่งการซื้อขายทำโดยการตกลงราคา ไม่มีการประมูล ถ้า อบต.ใดซื้อไปแล้ว ทาง คสช.จะจัดงบพัฒนาให้ อบต.นั้นเป็นพิเศษ 

ทั้งนี้ พบว่าที่จังหวัดเลย มี อบต. หลงเชื่อทำสัญญาซื้อขายพร้อมโอนเงินไปแล้ว คือ อบต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย ในราคา 9,900 บาท 

กระทั่งต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าจะมีการทำสัญญาซื้อขาย อบต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จึงได้นำเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม และมีขบวนร่วมแก๊งอีก 2 คน หนีไปได้ขณะเข้าทำการจับกุม

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาฉ้อโกง และสำแดงเอกสารอันเป็นเท็จ พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.นาด้วง เพื่อสอบสวนขยายผลของขบวนการของแก๊งนี้และดำเนินคดีต่อไป