måndag 24 november 2014

ติดตามข่าวเรื่องราว.."ดำมืดคลุมเครือ" ลึกลับ สลับซับซ้อน ซ่อนงื่อน ของพวกอำมาตย์ทรราชที่ใช้สารพัดวิชามารออกมาทำลายห่ำหั่นซึ่งกันและกัน....บอกได้คำเดียวประชาชนไทย โปรดระวัง.อันตรายๆ ."วังลุกเป็นไฟใกล้กรุงแตก."..

เล่นปาหี่อะไรกัน? .ประกัน-ไม่ให้ประกัน.? ความแตกต่างในดคีข้อหา ม.๑๑๒ ..พวกเขาถูกใส่ร้ายยัดเยียดข้อหา..??
ภาพตอนก่อนค่ำวันนี้
สับขาหลอกนักข่าวครับตามข่าวนี้ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.อคฝ.บช.น.ซึ่งเดินทางมาควบคุมดูแลความเรียบร้อยให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้นำตัวผู้ต้องหามาฝากขังเพียง 6 คน ส่วน พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร.และพวกอีกคน 4 คนนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ประสงค์จะนำตัวมาฝากขัง เข้าใจว่าจะได้ประกันในชั้นพนักงานสอบสวนแล้วทว่า คล้อยหลังจากที่ พ.ต.อ.เอกรักษ์ให้สัมภาษณ์แล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 17.30 น. โดยประมาณขณะที่กองทัพสื่อที่มาเฝ้าทำข่าวนี้ตั้งแต่เช้าทยอยถอนกำลังกลับ ปรากฏว่ามีรถตู้ตำรวจนำตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ และ พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน มาอีกด้านหนึ่งของศาลอย่างเงียบๆ เพื่อนำฝากขังเหมือนกับผู้ต้องหา 6 รายก่อนหน้านี้ -





มติชนออนไลน์
24 พฤศจิกายน 2014 - 19:40                                                
เมื่อเวลา สี่โมงสิบ น. ที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว 1 ในผู้ต้องหา ร่วมกับพล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้หนึ่ง มาศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อมาฝากขังผัดแรก หนึ่งในผู้ต้องหา ได้กล่าวขณะเดินผ่านผู้สื่อข่าวในประโยคที่ว่า...พูดหมดแล้ว ใครอยากให้โดนประหารก็เอา ....!!!!!!






ให้ประกัน พงศ์พัฒน์-โกวิทย์รวม4คน ชั้นพนักงานสอบสวน - ผบ.ตร.แถลงเองพรุ่งนี้ (25พ.ย.)
พนักงานสอบสวน อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้พงศ์พัฒน์-โกวิทย์-บุญสืบ; โดยศาลให้ประกันพลเรือน 1 รายเพิ่ม ส่วนนายดาบ 3 คนฝากขัง
วันที่ 24 พ.ย. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุมตัว พันตำรวจเอกวุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ดาบตำรวจสุรศักดิ์ จันทร์เงา ดาบตำรวจฉัตรินทร์ หรือจักรินทร์ เหล่าทอง  นางสวงค์ (สะ-หวง) มุ่งเที่ยง นายชอบ ชิณประภา และ นางติยะพรรณ ชิณประภา รวม 6 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และพลเรือน ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆ แตกต่างกัน มาขออำนาจศาลอาญา รัชดา ฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 5 ธันวาคม
http://www.matichon.co.th/online/2014/11/14168244391416824464l.jpg


ทั้งนี้พันตำรวจเอกเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการกองอารักขา และควบคุมฝูงชน เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาฝากขังทั้งสิ้น 6 คน พร้อมคัดค้านการประกันตัว

โดย 2 คน คือนายชอบ ชิณประภา และ นางติยะพรรณ ชิณประภา พนักสอบสวนได้คุมตัวกลับไปสอบสวนเพิ่ม ตามกฎหมาย 48 ชั่วโมง เนื่องจากคำร้องฝากขังยังไม่เสร็จสิ้น

ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คน ประกอบด้วย พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลา พลตำรวจตรีโกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พลตำรวจตรีบุญสืบ ไพรเถื่อน และพันตำรวจเอกโกวิทย์ ม่วงนวล ผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับ ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ฯ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ และข้อหาอื่น ๆ แตกต่างกัน ได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ขณะที่พลเรือนอีก 2 คน คือ นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์ อยู่ระหว่างหลบหนี
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีการแถลงรายละเอียดในคดีนี้ เวลา 10.30น.



-ศาลไม่ให้ประกัน รอบสี่ คดี 112 ลุงวัย 67 ปีเขียนผนังห้องน้ำห้าง



ที่ศาลทหาร เจ้าหน้าที่นำตัวนายโอภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี  ผู้ต้องหาคดี 112 จากกรณีเขียนข้อความในผนังห้องน้ำห้างสีคอนสแควร์ โดยผู้ต้องหาถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.และถูกคุมขังมาจนปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เคยยื่นประกันตัวไปแล้วสามครั้งโดยใช้โฉนดที่ดินมูลค่า 2.5 ล้านบาทแต่ศาลไม่อนุญาต  ในวันนี้นายโอภาสถูกนำมาที่ศาลโดยปราศจากพนักงานสอบสวน เพื่อมายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งที่ 4 ที่ศาลทหารในช่วงเช้า ทนายความผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องคัดค้านการขอฝากขังครั้งเป็นครั้งที่ 3 โดยคัดค้านว่าพนักงานสอบสวนไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ เนื่องจากคดีมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ไม่ซับซ้อน คำให้การของผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนก็เป็นประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว ไม่มีเหตุที่ผูต้องหาจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานได้อีก 



-ศาลทหารลงโทษจำคุก 9 ปี บก.เวไทยอีนิวส์ ข้อหา ม.112


On November 24, 2014   



ศาลทหาร
   
เว็บไซต์ประชาไทรายงานว่า วันที่ 24 พ.ย. 57 ศาลทหารลงโทษจำคุก บรรณาธิการเว็บไซต์ไทยอีนิวส์ 9 ปีในข้อหาตามมาตรา 112 แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงลงโทษเหลือ 4 ปี 6 เดือน จากการเผยแพร่บทความของใจ อึ๊งภากรณ์ ในเว็บเมื่อปี 2554
บรรณาธิการซึ่งมีนามปากกาว่า สมศักดิ์ ภักดีเดช ให้การรับสารภาพต่อหน้าศาล ในการนัดสอบคำให้การในเช้าวันจันทร์ โดยสมศักดิ์กล่าวกับประชาไทว่า ไม่รู้สึกเหนือความคาดหมาย กับการถูกจำคุก 4 ปี 6 เดือน โดยส่วนตัวเชื่อว่าสรรพสิ่งทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง เบื้องต้นตนไม่ได้รับอนุญาตให้พูดอะไร แต่อยากฝากบอกคำว่า We shall overcome [เราจะชนะ]
อนึ่ง นายสมศักดิ์ถูกจู่โจมจับที่บ้านวันที่ 25 พฤษภาคม ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารประมาณหนึ่งหมวดก่อนนำมาสอบสวนในค่ายทหารและให้ตำรวจดำเนินการแจ้งความ


Inga kommentarer:

Skicka en kommentar