(ตำรวจกระโดดตึกตายในค่ายทหาร หรือ ตำรวจถูกจับโยนลงมาในค่ายทหาร ???โดดตึกเสียชีวิตในค่ายทหาร... ค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์... เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน... ... หรือใครจับโยน...!!!??? หลังถูกควบคุมตัวไปคุมวินัยในค่ายทหาร ค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตอนนี้ศพอยู่ ร.พ.ทหาร )
-อดีต ผกก.1กองปราบตายกระทันหัน หลังถูกเด้งฟ้าผ่าพร้อม ผบช.ก. เผยใบมรณะบัตร ระบุชัดช่วงตีหนึ่ง วันที่ 20 พ.ย.57 สิ้นใจที่ รพ.พระมงกุลเกล้า สาเหตุ "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราwww.isranews.org รายงานว่า ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า เมื่อเวลา 01.32 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผบก.1 ป.) ที่เพิ่งถูกพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 615/2557 ให้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พร้อมกับ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน
ตายเมื่อคืน วันถัดมาเผา โอว๊มายกอด
โดยในใบมรณบัตร ระบุสาเหตุการตายว่า "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง" สถานที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุลเกล้า หนังสือรับรองการเสียชีวิต เลขที่ 1085/2557
ข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โยกย้ายนายตำรวจระดับสูงจำนวน 4 ราย จำนวน 2 ครั้งติดกัน โดยคำสั่งแรก ที่ 610/2557 ให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้รายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 12 พ.ย.2557 เวลา 10.00 น. และให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ก. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2557 เป็นต้นไป
และคำสั่งต่อมา ที่ 615/2557 ให้ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) และ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผบก.1 ป.) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2557 เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร. ภายในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 16.00 น.
คนใกล้ชิดและผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อนายตำรวจระดับสูงทั้ง 4 ราย มาระยะหนึ่ง จนกระทั่ง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ เสียชีวิตกะทันหัน ดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หรือผู้กำกับอั้ม เป็นคนโสด อายุ 41 ปี จบจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 49 เตรียมทหารรุ่น 33 เป็นนักสะสมพระเครื่อง ชอบการเล่นหมากรุก ยามว่างจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป
ต่อมา ได้มีการสอบถามไปที่ พระลูกวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ กทม. ทราบว่า มีการส่งศพ พ.ต.อ.อัคราวุฒ์ มาจากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อเวลา 13.30 น. เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) โดยมีญาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจ 6-7 นาย มาด้วย จากนั้นก็ได้มีการจัดพิธีกันอย่างเงียบๆ ก่อนจะทำการฌาปนกิจในเวลา 14.00น..
................................................................................
(หมายเหตุ -ด้วยความสงสัยว่า..นายตำรวจยศใหญ่ขนาดนั้น ไม่เคยทำความดีอะไรเลยหรือ ? ทำไมตั้งศพคืนเดียว..รุ่งขึ้นเผาเลย มันผิดสังเกต ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น.. ..ยุคมืดอะไรๆก็มืดมิดไปหมด.)
ดูประวัติส่วนตัวเป็นคนดี.มากๆ....ครอบครัวอบอุ่นรักพ่อแม่..มีจิตใจที่ดีงามช่วยเหลือสังคมที่ด้อยโอกาส...What happen?????-
แง้มชีวิตผู้กำกับหนุ่มโสด พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ บูชาหลวงปู่ทิม-เซียนหมากรุก จังหวะบรรยากาศการสนทนาเริ่มมีสีสัน ได้โอกาสล้วงลึกถึงการครองความโสด เจ้าตัวยิ้มพร้อมบอกว่า "ไม่ได้หวงความโสด พอดีแต่ละวันทำงานไม่เป็นเวลา และไม่ค่อยมีเวลา กลัวจะดูแลผู้หญิงไม่ดี ตอนนี้เลยเอาเวลามาดูแลคุณพ่อยงยุทธ หลิมรัตน์ วัย 72 ปี และคุณแม่จันทร์เพ็ญ หลิมรัตน์ วัย 69 ปี ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หากไม่มีภารกิจจะพาท่านไปกินข้าวนอกบ้าน ผมจะไม่เน้นร้านอาหารประจำ แต่จะไปกินร้านทั่วไป เป็นอาหารพื้นบ้าน เหมือนกับเวลาอยู่บ้านจะมีแม่บ้านคอยทำอาหารง่ายๆ ให้กิน หรือบางสัปดาห์คุณพ่อคุณแม่ กลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ปลูกสร้างไว้พักผ่อนและดูแลพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รับประทานเอง หากงามพอกินได้แล้วจะเก็บมาแจกเพื่อนบ้าน หรือบางสัปดาห์จะพากันไปผ่อนคลายรับลมตามชายทะเล "หากไปไหนมาไหนคนเดียว ผมจะชอบกินอาหารที่แตกต่างคุณพ่อและคุณแม่ และ น.ส.โชติกร หลิมรัตน์ หรือแอ๋ม น้องสาว รับราชการที่ กระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่สถานทูตไทยประจำประเทศคาซักสถาน ผมมักจะขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านโปรด มีร้านที่ ชอบแถวๆ ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์และราชวัตร ยิ่งเนื้อเปื่อยยิ่งชอบมาก" ผู้กำกับอั้มเล่า ทำเอาคู่สนทนาแอบน้ำลายสอ อีกกิจกรรมวันว่างที่ผู้กำกับอั้มทำเป็นประจำคือการเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ "จะมีกลุ่มเพื่อนๆ นัดแนะกันไปทำบุญ ส่วนตัวชอบ เข้าวัดทำบุญอยู่แล้ว เพราะสมัยเด็กบ้านอยู่หน้าวัดปริวาส ถนนพระราม 3 เลยเข้าวัดเป็นประจำ นอกจากนี้ มักจะไปเลี้ยงอาหาร เด็กพิการซ้ำซ้อนและเด็กกำพร้า แต่ระยะหลังไม่ได้ไปเอง จะนำเงินไปร่วมทำบุญมากกว่า เพราะเวลาเข้าร่วมกิจกรรม เห็นเด็กๆ แล้ว รู้สึกสงสาร" นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนสนิทจะรู้กันว่า มีอีกกิจกรรมที่ผู้กำกับอั้มชื่นชอบ จัดว่าเข้าขั้นมีพรสวรรค์ก็ว่าได้คือการเล่นหมากรุก ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว "ผมชอบเล่นหมากรุกเพราะได้ลับสมอง ตั้งแต่สมัยเด็ก อายุประมาณ 10 ขวบเศษ เห็นเพื่อนบ้านเล่นกัน เลยทดลองเล่นก็รู้สึกชื่นชอบ เพราะเป็นเกมใช้สมอง ใช้ไหวพริบ เป็นลักษณะการวางแผน จนกระทั่งเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เคยแข่งขัน ได้รางวัลเหรียญทอง แต่ปัจจุบันแทบไม่ได้เล่นแล้ว เพราะไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากหมากรุกกว่าจะจบเกมต้องใช้เวลาเยอะ" ส่วนช่วงเวลาชิลชิล ไม่มีโปรแกรมไปไหน ผู้กำกับอั้มจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป พอตกเย็นจะเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ที่เจ้าตัวพูดติดตลกตบท้ายว่าถนัดกว่าการวิ่งจ๊อกกิ้ง. -
ตายเมื่อคืน วันถัดมาเผา โอว๊มายกอด
โดยในใบมรณบัตร ระบุสาเหตุการตายว่า "กระดูกสันหลังส่วนอกหักหลายชิ้นเนื่องจากตกจากที่สูง" สถานที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุลเกล้า หนังสือรับรองการเสียชีวิต เลขที่ 1085/2557
ข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ ผบ.ตร. ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โยกย้ายนายตำรวจระดับสูงจำนวน 4 ราย จำนวน 2 ครั้งติดกัน โดยคำสั่งแรก ที่ 610/2557 ให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก. ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้รายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 12 พ.ย.2557 เวลา 10.00 น. และให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.ก. ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2557 เป็นต้นไป
และคำสั่งต่อมา ที่ 615/2557 ให้ พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) และ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผบก.1 ป.) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมายจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2557 เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร. ภายในวันที่ 14 พ.ย. เวลา 16.00 น.
คนใกล้ชิดและผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อนายตำรวจระดับสูงทั้ง 4 ราย มาระยะหนึ่ง จนกระทั่ง พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ เสียชีวิตกะทันหัน ดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หรือผู้กำกับอั้ม เป็นคนโสด อายุ 41 ปี จบจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่น 49 เตรียมทหารรุ่น 33 เป็นนักสะสมพระเครื่อง ชอบการเล่นหมากรุก ยามว่างจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป
ต่อมา ได้มีการสอบถามไปที่ พระลูกวัดหลักสี่ เขตหลักสี่ กทม. ทราบว่า มีการส่งศพ พ.ต.อ.อัคราวุฒ์ มาจากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อเวลา 13.30 น. เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) โดยมีญาติ และเพื่อนข้าราชการตำรวจ 6-7 นาย มาด้วย จากนั้นก็ได้มีการจัดพิธีกันอย่างเงียบๆ ก่อนจะทำการฌาปนกิจในเวลา 14.00น..
................................................................................
(หมายเหตุ -ด้วยความสงสัยว่า..นายตำรวจยศใหญ่ขนาดนั้น ไม่เคยทำความดีอะไรเลยหรือ ? ทำไมตั้งศพคืนเดียว..รุ่งขึ้นเผาเลย มันผิดสังเกต ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น.. ..ยุคมืดอะไรๆก็มืดมิดไปหมด.)
ดูประวัติส่วนตัวเป็นคนดี.มากๆ....ครอบครัวอบอุ่นรักพ่อแม่..มีจิตใจที่ดีงามช่วยเหลือสังคมที่ด้อยโอกาส...What happen?????-
แง้มชีวิตผู้กำกับหนุ่มโสด พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ บูชาหลวงปู่ทิม-เซียนหมากรุก จังหวะบรรยากาศการสนทนาเริ่มมีสีสัน ได้โอกาสล้วงลึกถึงการครองความโสด เจ้าตัวยิ้มพร้อมบอกว่า "ไม่ได้หวงความโสด พอดีแต่ละวันทำงานไม่เป็นเวลา และไม่ค่อยมีเวลา กลัวจะดูแลผู้หญิงไม่ดี ตอนนี้เลยเอาเวลามาดูแลคุณพ่อยงยุทธ หลิมรัตน์ วัย 72 ปี และคุณแม่จันทร์เพ็ญ หลิมรัตน์ วัย 69 ปี ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หากไม่มีภารกิจจะพาท่านไปกินข้าวนอกบ้าน ผมจะไม่เน้นร้านอาหารประจำ แต่จะไปกินร้านทั่วไป เป็นอาหารพื้นบ้าน เหมือนกับเวลาอยู่บ้านจะมีแม่บ้านคอยทำอาหารง่ายๆ ให้กิน หรือบางสัปดาห์คุณพ่อคุณแม่ กลับบ้านที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ปลูกสร้างไว้พักผ่อนและดูแลพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้รับประทานเอง หากงามพอกินได้แล้วจะเก็บมาแจกเพื่อนบ้าน หรือบางสัปดาห์จะพากันไปผ่อนคลายรับลมตามชายทะเล "หากไปไหนมาไหนคนเดียว ผมจะชอบกินอาหารที่แตกต่างคุณพ่อและคุณแม่ และ น.ส.โชติกร หลิมรัตน์ หรือแอ๋ม น้องสาว รับราชการที่ กระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันอยู่สถานทูตไทยประจำประเทศคาซักสถาน ผมมักจะขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านโปรด มีร้านที่ ชอบแถวๆ ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์และราชวัตร ยิ่งเนื้อเปื่อยยิ่งชอบมาก" ผู้กำกับอั้มเล่า ทำเอาคู่สนทนาแอบน้ำลายสอ อีกกิจกรรมวันว่างที่ผู้กำกับอั้มทำเป็นประจำคือการเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ "จะมีกลุ่มเพื่อนๆ นัดแนะกันไปทำบุญ ส่วนตัวชอบ เข้าวัดทำบุญอยู่แล้ว เพราะสมัยเด็กบ้านอยู่หน้าวัดปริวาส ถนนพระราม 3 เลยเข้าวัดเป็นประจำ นอกจากนี้ มักจะไปเลี้ยงอาหาร เด็กพิการซ้ำซ้อนและเด็กกำพร้า แต่ระยะหลังไม่ได้ไปเอง จะนำเงินไปร่วมทำบุญมากกว่า เพราะเวลาเข้าร่วมกิจกรรม เห็นเด็กๆ แล้ว รู้สึกสงสาร" นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนสนิทจะรู้กันว่า มีอีกกิจกรรมที่ผู้กำกับอั้มชื่นชอบ จัดว่าเข้าขั้นมีพรสวรรค์ก็ว่าได้คือการเล่นหมากรุก ที่เคยคว้ารางวัลมาแล้ว "ผมชอบเล่นหมากรุกเพราะได้ลับสมอง ตั้งแต่สมัยเด็ก อายุประมาณ 10 ขวบเศษ เห็นเพื่อนบ้านเล่นกัน เลยทดลองเล่นก็รู้สึกชื่นชอบ เพราะเป็นเกมใช้สมอง ใช้ไหวพริบ เป็นลักษณะการวางแผน จนกระทั่งเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เคยแข่งขัน ได้รางวัลเหรียญทอง แต่ปัจจุบันแทบไม่ได้เล่นแล้ว เพราะไม่ค่อยมีเวลา เนื่องจากหมากรุกกว่าจะจบเกมต้องใช้เวลาเยอะ" ส่วนช่วงเวลาชิลชิล ไม่มีโปรแกรมไปไหน ผู้กำกับอั้มจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ที่คอนโดมิเนียม อ่านหนังสือจำพวกนิตยสารและประวัติศาสตร์ทั่วไป พอตกเย็นจะเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ที่เจ้าตัวพูดติดตลกตบท้ายว่าถนัดกว่าการวิ่งจ๊อกกิ้ง. -
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar