รศ.นพ.ชัยชน
โลว์เจริญกูล
| |
เกิด
|
|
อาชีพ
|
เคยเป็นแพทย์,นักวิจัย
|
รู้จักในสถานะ
|
ผู้เชี่ยวชาญด้าน ประสาทวิทยาและโรคลมชัก
|
บิดามารดา
|
นายอำพัน โลว์เจริญกูล (ถึงแก่กรรม)
นางสมสุข โลว์เจริญกูล |
คุณหมอชัยชน โลว์เจริญกุล ผู้ติดตามถวายการดูแลองค์ฟ้าหญิงฯ
โดย Aum Sky Exits เมื่อ 25 กันยายน 2011 เวลา 12:33 น.
เพื่อนอาจจะงงว่า ใครคือคุณหมอชัยชน ก็ขอแนะนำว่า คุณหมอชัยชน คือบุคคลที่เคยติดตามใกล้ชิดองค์พระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าคุณหมอเป็นลูกชายร้านซักแห้งร้านหนึ่งบ้างเป็นอะไรต่ออะไรบ้าง ซึ่งที่จริงแล้ว ท่านเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดเพื่อได้ถวายการดูแล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เปรียบเสมือนกัลยาณมิตร โดยใช้วิธีการรักษาด้วยยาและธรรมโอสถ โดยมีทั้งพระสงฆ์และเขาที่คอยถวายคำแนะนำด้วย
ปัจจุบันคุณหมอที่หายหน้าตาไป เป็นเพราะท่านได้ไปบวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา สมดังที่ท่านได้ตั้งใจไว้ครับ
จึงถือโอกาสแนบเรื่องราวขั้นต้นมาให้เพื่อนๆ ได้ทราบกัน และประวัติของคุณหมอมาด้วยครับ(เป็นบุตรของนายอำพัน กับนางสมสุข โลว์เจริญกุล โดยบิดาทำงานบริษัท ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน โดยตาของเขาอพยพมาจาก ประเทศจีน ทั้งยังเคยสอน ภาษาไทย ด้วย โดยตาและบิดาของเขาชอบศิลปะและธรรมชาติ)
ประวัติคุณหมอโดยสังเขป:-
ใคร หลายคนคงเคยนึกสงสัยว่า ชายหนุ่มผิวขาวร่างสูงโปร่ง ที่มักจะตามเสด็จอยู่เบื้องหลังสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี นั้นเป็น ใคร แต่สำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก คงแทบไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เกือบทุกคนรู้ดีว่าท่านผู้นี้ คือ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชัย ชน โลว์เจริญกูล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยาและโรคลมชัก ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งหัวหน้าโครงการรักษาผู้ป่วยโรคลกชักครบวงจร ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี
ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
10 สิงหาคม 2554
มีผู้นำภาพของพระภิกษุรูปหนึ่งออกเผยแพร่ (ดูลิ้งค์) อ้างว่าเป็นนายแพทย์ชัยชน โลว์เจริญกุล บวชเป็นพระภิกษุอยู่ ณ วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดแถวภาคอีสาน
โดยในภาพเป็นภาพขณะพระภิกษุที่อ้างกันว่า"อาจจะ"เป็นนายแพทย์ชัยชนกำลัง ออก บิณฑบาต โดยมีภาพหนึ่งกำลังรับนิมนต์จากหญิงชาวบ้านที่ตักบาตรด้วยข้าวเหนียว
รูป ภาพพระภิกษุดังกล่าวมีหน้าตาคล้ายกับรองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชัยชน โลว์เจริญกุล หัวหน้าสาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการรักษาผู้ป่วยโรคลมชักครบวงจรในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
นายแพทย์ชัยชน ไม่ได้ปรากฎตัวทางสาธารณะมาช่วงระยะเวลานานพอสมควร จากที่คนไทยคุ้นเคยมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามไทยอีนิวส์ไม่ขอยืนยันว่านี่เป็นภาพจริงของพระภิกษุชัยชน จริง หรือไม่ และหากใช่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดว่าถ่ายไว้เมื่อใด และสถานที่ใด
อย่างไรก็ตามในลิ้งค์ที่มีผู้นำภาพ 2 ภาพนี้เผยแพร่ระบุไว้ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 ในเวบไซต์กูเกิ้ล ในส่วนguru googleในหัวข้อเรื่อง รศ.ดร.นพ.ชัยชน โลว์เจริญกุล หายไปไหน
ทั้งนี้นายแพทย์ชัยชนม์เคยให้สัมภาษณ์ว่า สนใจปฏิบัติธรรมมาก "ตอนช่วงปิดเทอมปี ๓ ผมก็เลยไปบวชอยู่ ๒๐ วัน ได้ความสงบบ้าง ตอนนั้นการปฏิบัติยังน้อย " นอกจากนั้นได้กล่าวว่า "เคยคิดจะบวช แต่พระอาจารย์ที่สอนผมท่านบอกว่ายังไม่ถึงเวลา คือ ท่านคงจะมีญาณรู้อนาคต ว่าเราจะต้องรับผิดชอบงานใหญ่อะไรบางอย่าง หรือยังมีภารกิจอะไรบางอย่างที่ต้องทำให้เรียบร้อย ถ้าบวชไป ใจอาจจะไม่สงบ "ได้แต่อธิษฐานไว้ ถ้ามุ่งตรงต่อกระแสพระนิพพานได้ก็พอใจแล้ว เพราะรู้สึกเบื่อภพชาติมาก ถ้าเป็นชาติสุดท้ายได้ ก็คงจะดีมาก ...สำหรับผม ธรรมะเป็นลมหายใจ ถ้าขาดลมหายใจ เราอยู่ไม่ได้ฉันใด ขาดธรรมะ ชีวิตก็ดำรงอยู่ไม่ได้ฉันนั้น ...
นายแพทย์ชัยชน ไม่ได้ปรากฎตัวทางสาธารณะมาช่วงระยะเวลานานพอสมควร จากที่คนไทยคุ้นเคยมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามไทยอีนิวส์ไม่ขอยืนยันว่านี่เป็นภาพจริงของพระภิกษุชัยชน จริง หรือไม่ และหากใช่ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดว่าถ่ายไว้เมื่อใด และสถานที่ใด
อย่างไรก็ตามในลิ้งค์ที่มีผู้นำภาพ 2 ภาพนี้เผยแพร่ระบุไว้ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 ในเวบไซต์กูเกิ้ล ในส่วนguru googleในหัวข้อเรื่อง รศ.ดร.นพ.ชัยชน โลว์เจริญกุล หายไปไหน
ทั้งนี้นายแพทย์ชัยชนม์เคยให้สัมภาษณ์ว่า สนใจปฏิบัติธรรมมาก "ตอนช่วงปิดเทอมปี ๓ ผมก็เลยไปบวชอยู่ ๒๐ วัน ได้ความสงบบ้าง ตอนนั้นการปฏิบัติยังน้อย " นอกจากนั้นได้กล่าวว่า "เคยคิดจะบวช แต่พระอาจารย์ที่สอนผมท่านบอกว่ายังไม่ถึงเวลา คือ ท่านคงจะมีญาณรู้อนาคต ว่าเราจะต้องรับผิดชอบงานใหญ่อะไรบางอย่าง หรือยังมีภารกิจอะไรบางอย่างที่ต้องทำให้เรียบร้อย ถ้าบวชไป ใจอาจจะไม่สงบ "ได้แต่อธิษฐานไว้ ถ้ามุ่งตรงต่อกระแสพระนิพพานได้ก็พอใจแล้ว เพราะรู้สึกเบื่อภพชาติมาก ถ้าเป็นชาติสุดท้ายได้ ก็คงจะดีมาก ...สำหรับผม ธรรมะเป็นลมหายใจ ถ้าขาดลมหายใจ เราอยู่ไม่ได้ฉันใด ขาดธรรมะ ชีวิตก็ดำรงอยู่ไม่ได้ฉันนั้น ...
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar