måndag 8 juli 2019

Updated เกร็ดความรูู้(สำคัญ) ..ทีมพระบรม? ทรงได้คนสำหรับดูแล วัง, ศาล-กฎหมาย, ทรัพย์สินฯ แล้ว?



ทีมพระบรม?
ทรงได้คนสำหรับดูแล วัง, ศาล-กฎหมาย, ทรัพย์สินฯ แล้ว?

ผมสนใจและสงสัยมาสักระยะหนึ่งแล้วว่า เมื่อพระบรมฯขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์จะมีใครเป็น "ทีม" ที่คอยดูแลกลไกหรือเครือข่ายต่างๆของสถาบันฯ เช่นเรื่องธุรกิจ (สนง.ทรัพย์สินฯ) เรื่องประสานงานกับศาล-ตุลาการ ฯลฯ ในหลวงทรงอยู่ในตำแหน่งหลายปี ก็มีคนที่ไว้วางใจคอยดูแลพวกนี้ให้ และคนเหล่านั้นก็เป็นพวกที่จงรักภักดีต่อในหลวงเป็นส่วนพระองค์ ถ้าพระบรมเป็นกษัตริย์คงไม่ใช้คนเดิมพวกนั้นแน่ กรณีการกวาดล้างครอบครัววัชโรทัยที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็เป็นตัวอย่าง
เท่าที่สอบถามจากแหล่งข่าวหลายแหล่ง คิดว่า ปัจจุบันพระบรมฯทรงมีคนสำหรับเป็นที่ปรึกษาหรือดูแลกิจการสำคัญบางอย่างให้แล้ว ผมเลยอยากถือโอกาส "แนะนำ" ให้ใครที่ยังไม่รู้

ในรูป เรียงจากซ้ายมาขวา
- พล.อ.อ.สถิตพงษ์ สุขวิมล
ปัจจุบันเป็น "ราชเลขานุการในพระองค์พระบรมฯ" และมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการ สำนักพระราชวังด้วย ถ้าใครดูเอกสาร "พระราชบัณฑูร" ริบอำนาจดิสธร ก็จะเห็นชื่อ พล.อ.อ.สถิตพงษ์เป็นคนลงนาม "รับพระราชบัณฑูร" ในเมื่อดิสธรโดนกวาดล้างแล้ว ค่อนข้างแน่ว่าคุณสถิตพงษ์คงเป็นคนเข้าคุมสำนักพระราชวังแล้วในขณะนี้
ความน่าสนใจของคุณสถิตพงษ์อย่างหนึ่งคือ ว่ากันว่า มีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวชินวัตรอยู่ ช่วงเกิดวิกฤติ กปปส ต้นปี 2557 ถึงกับมีเอกสาร "ลับที่สุด" ฉบับหนึ่งออกมา ว่าพระบรมฯสั่งให้ใช้กำลังทหารของพระองค์ ให้การดูแลรักษาความปลอดภัยยิ่งลักษณ์ ต่อมามีการปฏิเสธว่า นั่นเป็น "หนังสือปลอม" - ดูข่าวที่นี่ มีภาพหนังสือลับที่ว่าให้ดูด้วย http://goo.gl/AqWkG9 (เรื่องหนังสือลับนี้ ความจริงเป็นอย่างไร ผมไม่มีข้อมูลยืนยันนะครับ)
ประวัติย่อคุณสถิตพงษ์ ดูที่นี่ http://goo.gl/FqXIFh

- ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์
ปัจจุบันมีตำแหน่งทางการเป็นผู้อำนวยการ ของ "สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย" (เป็นองค์การมหาชนขึ้นต่อกระทรวงยุติธรรม) ดูเรื่องของสถาบันฯดังกล่าวที่นี่ http://goo.gl/gyTsvj ถ้าใครอ่านดู ควรสะดุดใจประเด็นที่ว่าสถาบันฯนี้ตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระองค์ภาฯ
และนี่คือประเด็นที่น่าสนใจของคุณกิตติพงษ์ คือคุณกิตติพงษ์นั้น ว่ากันว่าใกล้ชิดพระองค์ภามาก (ว่ากันว่าในบ้านเขา มีรูปพระองค์ภาติดเต็มไปหมด) เขาเป็นคนที่ให้ความช่วยเหลือตอนพระองค์ภาไปทำปริญญาเอกกฎหมายที่คอร์แนล (ตัวกิตติพงษ์จบโทคอร์แนลและฮาร์วาร์ด จบเอกที่สแตนฟอร์ด)
ผมคุยๆกับหลายคน ประเมินว่า ในอนาคต ในรัชกาลพระบรมฯ พระองค์ภาจะทรงมีบทบาทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านเกี่ยวกับกฎหมาย ถ้าใครติดตามองคมนตรีของในหลวง คงพอทราบว่า มีนักกฎหมายหรือผู้พิพากษาเก่าเยอะ (ถ้าจำไม่ผิด เกือบครึ่ง) เพราะองคมนตรีต้องคอยทำหน้าที่ในการ "สกรีน" พวกกฎหมายต่างๆก่อนถวายให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธย
ในเมื่อคุณกิตติพงษ์ใกล้ชิดพระองค์ภาขนาดนี้ ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ในอนาคตคุณกิตติพงษ์มีโอกาสมากที่จะมีบทบาทในแง่ช่วยดูแลด้านกฎหมาย หรือประสานงานกับพวกศาล-ตุลาการให้พระบรมฯ
จริงๆทุกวันนี้ คุณกิตติพงษ์มีบทบาทอย่างหนึ่งที่ผมได้ทราบมา คือเป็นเหมือนที่ปรึกษาให้ ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมต.ยุติธรรม เขาไม่ได้มีตำแหน่งทางการเป็นที่ปรึกษา คือตำแหน่งทางการเขาเป็น "ผู้อำนวยการ" สถาบันฯที่กล่าวข้างต้น (เขาเคยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมอยู่นาน) แต่ที่ผมได้ยินมา เขาทำหน้าที่ให้การปรึกษาไพบูลย์ ในช่วงหลังๆนี้ ที่ไพบูลย์ออกมาพูดอะไรที่ดูฉลาดหน่อย เช่นเรื่องยาเสพติด (แน่นอน คนเสื้อแดงจำนวนมากคงไม่เห็นด้วยว่าเป็นการฉลาด แต่ผมเห็นว่าเป็น - ดูกระทู้ก่อนหน้านี้ของผมเรื่องนี้) ว่ากันว่า ก็เพราะมีที่ปรึกษาอย่างกิตติพงษ์นี่แหละ
ประวัติคุณกิตติพงษ์ อ่านได้ที่นี่ http://goo.gl/iTCMg9

- ดร.อำพน กิตติอำพน
ปัจจุบันเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเกษียณปลายเดือนนี้ แล้วไปเป็น "ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี" เขาเคยเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์ 2 สมัย
"มติชน" เพิ่งลงบทสัมภาษณ์เขา ที่เขาเปิด "ห้องจงรักภักดี" ของเขาให้ชม ซึ่งเป็นห้องเก็บพระ และของที่ระลึกต่างๆที่เขาได้รับพระราชทานจากพระราชวงศ์พระองค์ต่างๆ - ดูที่นี่ http://goo.gl/GgXeeD
ว่ากันว่า เขาคงจะได้เข้าดูแลสำนักงานทรัพย์สินให้พระบรม (ผมเคยคุยกับนักธุรกิจบางคน เขามองว่าคุณอำพน ความจริงไม่ได้มีความสามารถด้านธุรกิจ แต่ผมเดาว่า ถ้าที่ลือกันว่าพระบรมฯจะให้เขาจะเข้าดูแลทรัพย์สินฯ ก็อาจจะเพราะเขาเคยเป็นเลขาฯสภาพัฒน์ฯก็ได้กระมัง)
อ่านประวัติเขาที่นี่ http://goo.gl/ZMXzAJ
..............
ปริศนาใหญ่ที่สุดตอนนี้ ที่ผมยังไม่มีคำตอบคือ
ใครจะเป็นคนดูแลองคมนตรี-ประสานกับทหาร ให้กับพระบรม?
แน่นอน คนที่ทำหน้าที่นี้มาหลายปีให้ในหลวงคือเปรม
แต่ต่อให้เปรมมีอายุยืนอีกหลายปี พระบรมฯก็ไม่เอาเปรมแน่ ปัญหาคือใครจะมาทำหน้าที่ให้พระบรมฯ เหมือนกับที่เปรมทำให้ในหลวง?
มีบางคนเสนอความเห็นกับผมว่า เรื่องทหาร พระบรมฯอาจจะ "ดูแล" เอง คืออาจจะไม่ได้อาศัยใครในการติดต่อประสานงานกองทัพให้พระองค์ แต่พระองค์ทำเอง

มีข่าวลือว่า ตัว "ว่าที่ ผบ.ทบ." คนใหม่ตาม "โผ" ล่าสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท คือคนที่พระบรมฯ "ขอมา" (ตามข่าวลือนี้ ที่มีการ "พลิก" จากเดิมคิดว่า พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร จะได้เป็น ผบ.ทบ. แต่กลับกลายเป็น พล.อ.เฉลิมชัย ก็เพราะพระบรมฯ "ขอมา" นี่เอง - ผมยังไม่สามารถยืนยันความจริงเรื่องนี้นะ ถ้ามีข้อมูลมากกว่านี้ ผมอยากกลับมาเขียนอีก)

อันนี้ พูดจริงๆนะ โดยส่วนตัว ผมยังคิดว่า หลังพระบรมฯขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็คงไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรให้เห็น อย่างน้อยเป็นปีๆ ปีแรกนี่เป็นปีไว้อาลัย คงไม่มีอยู่แล้ว หลังจากนั้น ต่อให้จะมีความเปลี่ยนแปลง ก็ไม่น่าจะเห็นกันเร็ว คืออาจจะต้องเลย 2-3 ปีแล้ว ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ทำไมคนจึงคาดกันว่า ถ้าพระบรมฯขึ้น มีโอกาสของการมีปัญหา ความไม่มีเสถียรภาพทางสังคม หรือการเมือง? การที่ คสช มาคุมสถานการณ์เข้มงวดในขณะนี้ เหตุหลักก็มาจากความกลัวเรื่องนี้
(มีคนถามกันว่า ทำไมหุ้นต้องผันผวน เวลามีข่าวทำนองในหลวงเจ็บหนัก อาจจะใกล้สวรรคตเต็มที ก็คือปัญหาที่กำลังจะพูดนี้)

ผมว่า ก่อนอื่นเลย ก็เริ่มมาจาก "พระสไตล์" ของพระบรมฯ คือทรงทำอะไรโดยไม่ค่อย "ทรงพระแคร์" ต่อระเบียบแบบแผน หรือสายตาคนนัก อันนี้ ตัวอย่างเมื่อเร็วๆนี้ก็คงเห็นแหละ เรื่องปลดวัชโรทัยนี่ ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายอะไรทั้งสิ้น แม้แต่เรื่องใส่ชุด "คร้อปท็อป" อะไรต่อหน้าเจ้าหน้าที่เป็นสิบๆที่มิวนิค ก็ไม่ทรงรู้สึกว่าต้องห่วงอะไร (เพราะถือว่า สำหรับเจ้าหน้าที่เหล่านั้น พระองค์ทรง untouchable ไม่มีใครกล้าเอาไป "พูดต่อ" อยู่แล้ว - บังเอิญฝรั่งช่างภาพ มันไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน) ไม่ต้องพูดถึงกรณีเรื่อง เดี๋ยวถอดยศ เดี๋ยวคืนยศ เดี๋ยวเลื่อนยศ คนใกล้ชิด อย่างชนิดที่เรียกว่า "ชอบกลๆ" หรือยิ่งไปกว่านั้น กรณีหมอหยอง - อัครพงศ์ปรีชา ที่ก็เห็นกันว่า ลงเอยยังไง

คนเขาก็คาดกันว่า เมื่อพระองค์เป็นกษัตริย์ มีอำนาจมากขึ้นมหาศาลแล้ว จะยิ่งแสดงออกซึ่ง "พระสไตล์" ที่ว่านี้ใหญ่ แล้วก็เลยอาจจะถึงจุดที่มีหลายๆกรณีแบบที่ว่านี้ (ซึ่งเกิดในขณะที่ยังไม่ได้ทรงมีพระราชอำนาจเต็มที่ด้วยซ้ำ) ขึ้นมาอีก และมากกว่าเดิม จนทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้
"มิตรสหาย" ในต่างประเทศของผมบางคน เชื่อซีเรียสจริงๆว่า ถึงเวลาพระบรมฯขึ้นครองราชย์ ลักษณะ "พระสไตล์" ในการใช้อำนาจที่ว่านี้ จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นสักวัน - ผมเองโดยส่วนตัว ไม่ถึงกับแน่ใจนักนะ
ประการต่อมา - ซึ่งมีส่วนต่อเนื่องจากประเด็นที่เพิ่งพูด - เป็นที่รู้กันว่า แม้แต่ในแวดวงชั้นสูง ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไมได้ "ศรัทธา" พระองค์นัก ไม่ใช่เฉพาะกรณีองคมนตรีชุดเดิม (ซึ่งคงถูกให้ออก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่) แต่รวมถึงในอีกหลายแวดวง เช่น ธุรกิจ ศาล หมอ ฯลฯ (ที่ผมสนใจเคยโพสต์ไปว่า ใครบ้างจะเป็นคนมาคอย "ประสาน" กับวงการเหล่านี้ให้พระบรม แทนคนเดิมๆที่เคยทำงานให้ในหลวง)
ทีนี้ ความไม่ค่อย "ศรัทธา" ที่ว่านี้ ก็อาจจะนำมาซึ่งความไม่มั่นคงในหมู่กลไกหรือแวดวงต่างๆได้ เช่น ศาล ที่ผ่านมา ผู้พิพากษา ทำ "ตุลาการภิวัฒน์" ก็เพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังตัดสินคดีแทนในหลวง "ในพระปรมาภิไธย" ของในหลวง ในอนาคต ถ้าเป็นรัชสมัยพระบรมฯ ความรู้สึกแบบนี้ จะยังคงเข้มข้นอยู่หรือไม่? มีนักวิชาการที่ผมรู้จักบางคน ถึงกับคิดว่า มีความเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่แม้แต่ในกองทัพเอง ก็อาจจะเกิดการ "แข็งขืน" ต่อพระบรมฯได้

ในภาพที่กว้างออกไป เป็นที่รู้กันดีว่า ในหมู่ชนชั้นกลางกรุงเทพ (ซึ่งในหลายทศวรรษหลังนี้เป็น "ฐานมวลชน" สำคัญที่สุดของในหลวง) ก็อาจจะเกิดความไม่พอใจ จนถึงระดับที่ไม่สนับสนุน status quo หรือ"สถานภาพเดิม" ระบบสังคมการเมืองเดิมๆ ภายใต้พระบรมฯก็ได้
โดยส่วนตัว ผมยังรู้สึกว่านี่เป็นการประเมินแบบ "คาดหวังมากไป" (optimism) ในเรื่องความเปลี่ยนแปลง โดยธรรมชาติผมเป็นคนประเมินอะไรในทางร้าย (pessimism) ไว้ก่อน ดังนั้น ผมก็ไม่ถึงกับประเมินถึงระดับที่ว่านี้

อีกประการหนึ่ง ก็เป็นที่รู้กันว่า พระบรมฯทรงเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทักษิณ (แต่ไม่กี่ปีหลังนี้ ห่างกันออกไป ไม่ได้ติดต่ออะไรกันแล้ว - อันนี้ผมยืนยันได้ - แม้แต่ตัวทักษิณเอง ก็ยังเชื่อว่า ถึงเวลาในหลวงไม่อยู่ พระบรมฯขึ้น เขาสามารถหาทาง "ดีล" กับพระบรมฯได้ - อันนี้เป็นอะไรที่ผมยืนยันได้เช่นกัน) ซึ่งในแง่นี้ ก็มีความกังวลกันในหมู่คนที่ไม่ชอบทักษิณ (หรือคนที่กลัวความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ถ้าทักษิณกลับ) ว่าอาจจะนำไปสู่ปัญหาได้
..............
ผมยังเห็นว่า (ดังที่เคยเขียนไป) ยุทธศาสตร์ใหญ่สุดในเรื่อง "เปลี่ยนผ่าน" ของ คสช คือ ทำยังไง ที่จะสร้างสภาพ Monarchy without THE monarch หรือ "ระบอบกษัตริย์นิยม ที่ไม่มีในหลวง" (ซึ่งสำหรับพวกเขาและสังคมไทยอีกเยอะ ถือว่าเป็น THE monarch ไม่ใช่แค่ A monarch) คือพระบรมฯก็เป็นกษัตริย์แทนนั่นแหละ มีกษัตริย์องค์ใหม่ มีระบอบกษัตริย์นิยม แต่โดยที่ "ไม่มีกษัตริย์" คือไม่มีในหลวงอยู่สำหรับแสดงบทบาทแบบเดิมที่ผ่านๆมา ซึ่งพวกเขาก็หวังว่า จะใช้กลไกต่างๆที่มีอยู่ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ กองทัพ ฯลฯ เป็นตัว "ศูนย์กลาง" คอยแก้ปัญหาต่างๆแทน



** ข้อสังเกตบางประการกรณีตั้ง สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็น ผจก.ทรัพย์สินส่วนพระองค์ (และลำดับผู้เคยเป็นตำแหน่งนี้ในอดีต) goo.gl/b53Csi
** ออกแล้ว พรบ.บริหารราชการในพระองค์: กษัตริย์สร้างส่วนงานที่ขึ้นต่อตนเอง ทำอะไรกับส่วนงานนั้นได้ตามใจชอบ แต่อาศัยงบรัฐ goo.gl/ueNVxD

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar