เมื่อเร็วๆนี้ ในวงสนทนากับมิตรสหายจำนวนหนึ่งที่นี่ ผมเสนอขึ้นว่า
ความจริง ทักษิณ ถ้าได้ไปเป็นนายกฯของประเทศอย่างจีนหรือสิงคโปร์ คง "ไปได้สวย"
นั่นคือ เขา "เหมาะ" หรือสอดคล้องที่จะไปเป็นผู้นำในประเทศที่ระบบการเมืองมัน settled หรือ "ลงตัว" แล้ว เพราะในบรรดาอีลึตไทยทั้งหลาย ต้องยอมรับว่า เขามีวิสัยทัศน์หรือเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาในแง่เศรษฐกิจของประเทศในปริบทของเศรษฐกิจโลกมากกว่าคนอื่นๆ
แต่ - และนี่เป็นประเด็นสำคัญมาก - โดยที่ประเทศที่ระบบต่างๆ "ลงตัว" แล้วที่ว่า (จีน สิงคโปร์) ไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย อันที่จริง เขาอาจจะเหมาะกว่าด้วยซ้ำ กับประเทศดังกล่าว ที่มีลักษณะไปในทาง authoritarian อย่างจีน สิงคโปร์
เพราะเอาเข้าจริง ทักษิณไม่ได้มีวิสัยทัศน์ทางการเมืองแบบประชาธิปไตยอะไร วิสัยทัศน์ทางการเมืองของทักษิณ (ยิ่งโดยเปรียบเทียบกับเรื่องวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจที่กล่าวข้างต้น) ต้องนับว่าเป็น "ศูนย์" เลย ทักษิณไม่มีความเข้าใจหรือไม่มีไอเดียว่า ถ้าจะ "สร้างระบอบประชาธิปไตย" ต้องทำอย่างไรบ้าง หรือ "ระบอบประชาธิปไตย" จะต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง (นอกเหนือจากไอเดียประเภทที่เรียกว่า populism คือ เรื่องเลือกมาจากเสียงส่วนใหญ่ - จบ)
เอาเข้าจริง ทักษิณสามารถ fit in หรือเข้าได้กับ (เคยเข้าได้มาแล้วกับ) สิ่งที่เรียกว่า "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" ปัญหาว่า ทำไม ทักษิณจึงเกิดปัญหากับ "ระบอบ" ที่ว่านี้ เป็นประเด็นใหญ่ที่ไม่สามารถพูดได้ในทีนี้ นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ผมนำเสนอในการสัมมนาที่นี่เมื่อเดือนก่อน ภายใต้หัวข้อ "แฝดสยามแยกร่าง" Siamese Twin Separated ไอเดียคือทักษิณกับกษัตริย์นิยมนั้น ความจริงเป็น "แฝดสยาม" ที่ติดกันมาอย่างแนบแน่นมาก่อน จนถึงปี 2006
เรื่องนี้นำไปสู่ประเด็นสำคัญอีกเรื่องคือ เอาเข้าจริง ประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกหรือสนับสนุนทักษิณ ("เสื้อแดง") แท้จริงแล้วสนับสนุนด้วยเหตุผลในเชิงวิสัยทัศน์ในแง่การพัฒนาเศรษฐกิจดังกล่าว ไม่ใช่ด้วยเหตุผลในเชิงความเป็นประชาธิปไตยหรือการมีวิสัยทัศน์หรือข้อเสนอเกี่ยวกับการสร้างระบอบประชาธิปไตย เพราะเอาเข้าจริงทักษิณไม่มี ไม่เคยเสนอ หรือมีท่าทีจะมี หรือจะเสนอว่าจะ "เปลี่ยนระบอบ" ในแง่ทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างไร (ตั้งแต่ปัญหาสถานะสถาบันกษัตริย์ กองทัพ ไปถึงเรื่องกฎหมายต่างๆ เช่น ๑๑๒ เรื่องสิทธิ เสรีภาพ ไปจนกระทั่งแม้แต่เรื่องทำให้ศาสนาสอดคล้องประชาธิปไตย ด้วยการเอาออกจากรัฐ (อันที่จริง เสื้อแดงเป็นขบวนการเมืองเดียวที่เคยเสนอข้อเสนอลักษณะถอยหลังเข้าคลองเรื่องทำให้ศาสนาพุทธเป็น "ศาสนาประจำชาติ" ด้วยซ้ำ)
ในแง่นี้ ความเป็นขบวนการเมืองที่เรียกร้องประชาธิปไตยของผู้สนับสนุนทักษิณ ("เสื้อแดง") มีลักษณะจำกัดอย่างมาก คือจุดสำคัญแทบจะจุดเดียวที่โฟกัสคือเรื่องว่า ขอให้คนที่เลือกจากเสียงส่วนใหญ่เป็นรัฐบาล - นี่คือเนื้อหาของ "ประชาธิปไตยในความหมายของคนเสื้อแดง" - "เป้าหมายประชาธิปไตย" ในแง่นี้ เป็นอะไรที่ขึ้นต่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น คือต้องการให้ได้รัฐบาลทักษิณ (ด้วยเหตุที่เชื่อในเชิงวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจ)
...............
เรื่องนี้ (ที่ประชาชนสนับสนุนทักษิณมาจากเรื่อง "วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ" เป็นหลัก ไม่ใช่มาจากเรื่องทางหลักการประชาธิปไตย หรือการจะสร้างให้ระบอบประชาธิปไตยออกมาแบบไหน) ยังเรสปัญหาสำคัญในเชิงทฤษฎีที่น่าสนใจ
นิยมและอุตสาหกรรม]
อะไร?...คือสาเหตุที่แท้จริง... ที่ทักษิณ ชินวัตร... ไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ ....
โดย แสงตะวัน
Dr.ทักษิณ ชินวัตร คืออดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ที่กษัตริย์ภูมิพล และพวกอำมาตย์รับใช้กษัตริย์ ไม่ต้องการให้อยู่ในประเทศ ไม่ว่าจะปรองดอง หรือต่อรองด้วยวิธีใดๆก็ตาม... เพราะอำนาจทุกอย่างขึ้นอยู่กับกษัตริย์ภูมิพลเป็นผู้กำหนด โดยธาตุแท้ของภูมิพลเองแล้วเป็นคน จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต อาฆาตมาดร้าย เห็นแก่ตัว อิจฉาริษยา ทรยศคดโกง แม้แต่คนที่เคยมีพระคุณแก่ตนเองเช่น Dr.ปรีดี พนมยงค์ ที่เคยปกป้องราชบัลลังก์และช่วยเหลือภูมิพลให้พ้นจากคดีฆ่าพี่ชาย รัชกาลที่ ๘ หรือในหลวงอานันท์ฯ เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ มาแล้ว นอกจากนั้นยังเป็นผู้ได้เสนอให้ภูมิพลขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ร. ๘ หลังจากที่ถูกฆาตกรรมโดยพระอนุชา ของพระองค์เอง
เมื่อภูมิพลได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ทรยศหักหลัง ต่อ Dr.ปรีดี พนมยงค์ โดยกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการสวรรคตของรัชการที่ ๘ .จนปรีดีต้องหนีออกไปลี้ภัยในต่างแดนไม่ได้กลับประเทศอีกเลยและตายอยู่ในต่างแดน คดีที่กล่าวหาว่า นายปรีดี มีส่วนพัวพันกับการสวรรคตของ ร. ๘ คดีได้หมดอายุความไปแล้วและศาลตัดสินไปแล้วว่านายปรีดีไม่ผิดตามที่ถูกกล่าวหา แต่ นายปรีดีก็ไม่มีโอกาศได้กลับมาประเทศไทยอีกเพราะภูมิพลไม่ให้กลับ !
เมื่อสมัย ดร.ปรีดี ยังมีอำนาจดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายปรีดีได้ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลตระกูลมหิดลมาเป็นอย่างดีโดยเมื่อก่อนขึ้นมาเป็นกษัตริย์นั้น ครอบครัวมหิดลมีกันเพียง ๔ คนแม่ลูก คือ นาง สังวาลย์ ตะระภัฎ ซึ่งมาจากสามัญชนธรรมดา หลังจากแต่งงานกับ กรมหลวงสงขลานครินทร์จึงได้เลื่อนฐานะขึ้นมาเป็นหม่อม สังวาลย์ ต่อมาสามีเธอได้เสียชีวิตเมื่อเธอมีอายุเพียง ๒๙ ปีเท่านั้น หลังจากนั้นเธอก็ได้มีชีวิตอยู่กับลูกๆซึ่งเป็นชาย ๒ คน และหญิงคนหนึ่ง ชื่อ กัญลยานี เป็นลูกสาวคนโต อานันท์ฯลูกชายคนที่ ๒ และคนสุดท้อง คือ ภูมิพล หรือ เล็ก
ดร. ปรีดี ได้เอาใจใส่ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอด และได้สนับสนุนให้ลูกชายคนโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์ คือในหลวงอานันท์ รัชกาลที่ ๘ หลังจากรัชกาลที่ ๗ สละราชบัลลังก์ไปแล้ว แต่เป็นกษัตริย์ไม่กีปีก็ถูกพระอนุชาแย่งชิงราชบัลลังก์ไป เมื่อวันที่ ๙ มิถุนา พ.ศ. ๒๔๘๙ เมื่อน้องชายคือ นาย เล็ก หรือภูมิพลขึ้นเป็นกษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ ปรีดีก็ถูกขับไล่ออกจากประเทศ พวกทหารมหาดเล็กที่รู้เห็นเหตุการณ์ในวันที่ในหลวงอานันทม์ถูกลอบปลงพระชนม์ ก็ถูกภูมิพลสั่งฆ่าปิดปากไปทั้งสามคน
วันนี้มาถึงคิวของ Dr. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน… ไม่ว่าท่านจะปรองดองหรือต่อรอง อย่างไร หรือจะใช้เงินชื้อเขาอย่างไร แต่ท่านก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจกษัตริย์ภูมิพลและลูกชายที่เป็นกษัตริย์ผู้ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดดำอำมหิต และ พวกอำมาตย์ที่รับใช้เขาเปลี่ยนใจมาปรองดองได้โดยเด็ดขาดเพราะความ อิจฉาริษยา ความใจดำอำมหิต ความโหดร้าย และความเห็นแก่ตัวของพวกอำมาตย์ศักดินาเหล่านั้นมันมีมากเกินกว่าคนธรรมดาจะคิดได้
จาก เรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่กษัตริย์ภูมิพลขึ้นครองราชย์เขา ไม่เคยเมตตาปรานีให้กับใครนอกจากผลประโยชน์และความเห็นแก่ตัวของเขา เขาฆ่าได้แม้แต่พี่ชายของตัวเองและผู้ที่เคยมีพระคุณแก่เขา และลูกชายซึ่งเป็นกษัตริย์ใหม่ที่ไร้จิตสำนึกเป็นเพียงสัตว์ในร่างมนุษย์ที่มีอำนาจทุกอย่างปล้นทรัพย์สมบัติของชาติมาเป็นของส่วนตนโดยไม่มีความระอายแก่ใจจนร่ำรวยอย่างมหาศาลโดยไม่ต้องพึ่งพาคุณทักษิณเหมือนเมื่อก่อนเป็นกษัตริย์ เขาเคยสั่งฆ่าคนมาแล้วอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต
ดังนั้นเราจึงขอฝากอุทาหรณ์เหล่านี้มายังท่านนายกทักษิณ... เมื่อระบอบเผด็จการภูมิพลล่มสลายลงแล้ว เมื่อนั้นท่านจึงกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆแบบวีระบุรุษพร้อมกับการแช่ช้องสรรเสริญจากประชาชน ดังนั้นขอให้ท่านจงอดใจรอวันที่ท่านจะได้กลับประเทศไทยอย่างสมเกียรติของวีระบุรุษผู้ยิ่งใหญ่....อย่ากลับไปเป็นเหยื่อสังเวยให้แก่กษัตริย์ทรราชที่ไร้จิตสำนึกนั้นเลยเพราะชีวิตของท่านมีค่ามากกว่านั้น.
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar