บีบีซีไทย - BBC Thai
วันนี้มีประชาชนอย่างน้อย 6 กลุ่มนัดจัดกิจกรรมทางการเมือง โดย 4 กลุ่มมีการเคลื่อนขบวน และ 2 กลุ่มปักหลักชุมนุมอยู่กับที่
ชุมนุม 6 มีนา: บช.น. เตือนประชาชนร่วมชุมนุมผิดกฎหมาย 4 ฉบับ เตรียมตำรวจ คฝ. 32 กองร้อยรับมือผู้ชุมนุม 4 จุด
รัฐบาลใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกประกาศห้ามชุมนุม 6 จังหวัด ขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) จำนวน 32 กองร้อย เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยตามการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ
จุดชุมนุมใหญ่ที่ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. แสดงความเป็นห่วงมากที่สุดคือการนัดหมายชุมนุมของกลุ่ม "รีเด็ม" (REDEM - Restart Democracy) โดยเดินขบวนจากห้าแยกลาดพร้าวเคลื่อนไปศาลอาญา ถ.รัชดา เนื่องจากตามข้อมูลของผู้ชุมนุมระบุว่าไม่มีแกนนำ และที่ผ่านมาในการชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) เมื่อ 28 ก.พ. มีการใช้ความรุนแรง และปะทะกับเจ้าหน้า จึงต้องจับตาดูสถานการณ์เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท. ภัคพงศ์กล่าวว่า ได้กำชับทุกหน่วยงานที่ต้องลงพื้นที่ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการควบคุมดูแลการชุมนุม และไม่ให้ คฝ. ปฏิบัติเกินกว่ากฎหมายและหน้าที่
- เปิดเหตุผลศาล ทำไมถึงไม่ให้ประกันตัว 4 แกนนำ “ราษฎร”
- เปิดสำนวนตำรวจ ทำอะไรถึงเข้าข่าย "หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ"
- ส. ศิวรักษ์ ร่วม "เดินทะลุฟ้า" ให้ต่อสู้อย่างอหิงสา ลั่น "สิ่งที่ปลอมจะแพ้สิ่งที่เป็นจริง"
- พริษฐ์ ชิวารักษ์: จดหมายจากเรือนจำ น้ำตาของแม่และการเดินทางไกลของหญิงวัย 51 ปี
วันนี้ (6 มี.ค.) มีประชาชนอย่างน้อย 6 กลุ่มนัดจัดกิจกรรมทางการเมือง โดยที่ 4 กลุ่มเป็นแนวร่วมของผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร" เดิม ในจำนวนนี้มีอยู่ 3 กลุ่มนัดเดินขบวน และอีก 1 กลุ่มปักหลักชุมนุมอยู่กับที่ ขณะที่ประชาชนอีก 2 กลุ่มเป็นมวลชนเสื้อเหลืองที่ออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
กลุ่ม "ราษฎร" เครือข่ายภาคประชาชน People Go Network และกลุ่ม "Unme of Anarchy" จัดกิจกรรม "เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจให้ประชาชน" ต่อเนื่องเป็นวันที่ 16 โดยเริ่มเดินเท้าจากตลาดนัดเซียร์ รังสิต เวลา 09.00 น. ปลายทางแยก ม.เกษตร บางเขน กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องดั้งเดิมตั้งแต่ปี 2563 คือ 1 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวก ต้องลาออกจากรัฐบาล 2. ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอจากประชาชน 3. ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังเพิ่ม 2 ข้อเรียกร้องใหม่คือ ให้รัฐบาลปล่อยตัว 4 แกนนำราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
แนวร่วม "แดงก้าวหน้า 63" นัดรวมพลที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส รังสิต เวลา 13.00 น. ก่อน "เดินขบวนแรลลี่ขับไล่เผด็จการ" ไปยังกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร. 11 ทม.รอ.) บางเขน โดยแจ้งผ่านเพจ "ปล่อยเพื่อนเรา" ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมติดอุปกรณ์พักแรมมาด้วย
กลุ่ม "อาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" นัดชุมนุมที่ ร. 11 ทม.รอ. เวลา 15.00 น. ชู 2 ข้อเรียกร้องคือ ให้รัฐบาลและองคาพยพต้องลาออก และแก้รัฐธรรมนูญคืนอำนาจให้ประชาชน โดยตัดข้อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ ออกไป ทั้งนี้เดิมกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการได้นัดหมายชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ก่อนแจ้งเปลี่ยนสถานที่เพื่อไปสมทบกับคนเสื้อแดง
กลุ่ม "รีเด็ม" (REDEM - Restart Democracy) ซึ่งนิยามตัวเองว่า "ไม่มีแกนนำ" มีแต่แกนนัดหมายชุมนุมเป็นครั้งที่ 2 ให้รวมตัวที่ห้าแยกลาดพร้าว เวลา 17.00 น. ก่อนเดินเท้าไปศาลอาญา ถ.รัชดา ภายใต้คำขวัญ "ขนขยะมาทิ้งหน้าศาล" โดยประกาศ 3 ข้อเรียกร้องคือ 1. จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์ 2. ขับไล่ทหารออกจากการเมือง 3. ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นัดรวมพลที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า เวลา 12.00 น. ก่อนเดินทางไปสมทบกับคนเสื้อเหลืองที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์
กลุ่ม "อาชีวะปกป้องสถาบัน" นัดหมายชุมนุมแสดงพลังปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ เวลา 13.00 น.
หนึ่งวันก่อนถึงนัดหมายนัดกิจกรรมการเมืองของประชาชนหลายกลุ่ม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 5) โดยห้ามจัดชุมนุมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ, สมุทรสงคราม, นนทบุรี, นครปฐม และปทุมธานี หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตำรวจดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมไปแล้ว 22 ราย และคดีอื่น ๆ รวม 158 คดี ส่งสำนวนพนักงานอัยการแล้ว 116 คดี อยู่ระหว่างสืบสวน 42 คดี
นอกจากนี้โฆษก บช.น. ยังแจ้งเตือนประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมว่าอาจมีความผิดตามกฎหมายอย่างน้อย 4 ฉบับ และได้รับโทษ 7 ข้อหา ดังนี้
- พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 ฐานร่วมกันชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด >> จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 34(6), 51 ฐานกระทำใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตราย หรือโรคแพร่ระบาดออกไป, ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ >> ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
- พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 มาตรา 4 ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต >> ปรับไม่เกิน 200 บาท
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป โดยกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง >> จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 216 ฐานเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกไป แล้วผู้ใดไม่เลิก >> จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์สินให้เกิดความเสียหาย >> จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 140,000 บาท
- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ฐานทำให้ทรัพย์สินสาธารณะประโยชน์เสียหาย >> จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
..........................................................................................
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar