โครงการราชทัณฑ์ปันสูขแต่ในคุกมีคนติดโควิค - 19 กันเป็นเบือ !!!

 

วชิราลงกรณ์ยังเป็นประมุขของประเทศอยู่อีกหรือ ? ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน ?

 

ประเทศไทยมีโรงงานผลิตวัดซีนของ ร.10 รวมทั้งมี " โครงการราชทัณฑ์ปันสุข " ที่ ร.10 เองเป็นประธาน แต่ปรากฏว่าไม่มีวัคซีนเพียงพอจะฉีดให้กับคนไทย เพราะการผูกขาดโดยโรงงานของกษัตริย์ ไม่มีการนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น

ทำให้โรคโควิด - 19 ระบาดหนักกระจายไปทั่วประเทศ มีผู้ติดเชื้อขยายออกไปอย่างรวดเร็วรวมทั้งผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดร้ายแรงนี้เป็นจำนวนมาก 

ในเรือนจำที่กรมราชทัณฑ์รับผิดชอบโดยตรงภายใต้ " โครงการราชทัณฑ์ปันสุข  " ของวชิราลงกรณ์ ก็มีผู้ติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก 

คำถามถึง "วชิราลงกรณ์"ประมุขประเทศที่เป็นทั้งเจ้าของ"โรงงานผลิตวัคซีน"รวมทั้งเป็นประธานที่ปรึกษา " โครงการราชทัณฑ์ปันสุข " มีความรับผิดชอบอะไรไหม?กับความเป็นความตายของประชาชนในประเทศที่กำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส   จากวิกฤติระบาดหนักของไวรัสโควิด-19และปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังคุกคามชีวิตของคนไทยอยู่ในเวลานี้ นอกจากฉวยโอกาสหาผลประโยชน์จากความตายของประชาชนทั้งประเทศ.

iLaw

14h ·

#โควิดเรือนจำ 29 วัน ผู้ต้องขังติดเชื้อทะลุสามหมื่นคน บางเรือนจำติด 100 %

ระหว่างวันที่ 13-9 มิถุนายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำทั้งสิ้น 30,657 คนเสียชีวิต 25 คน กรมราชทัณฑ์รายงานว่า พบการแพร่ระบาดในเรือนจำ 12 แห่ง เท่าที่สามารถเก็บข้อมูลได้พบว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นเรือนจำที่มีอัตราการติดเชื้อมากกว่า 100% คือจำนวนไม่น้อยกว่า 3,014 คน ขณะที่เรือนจำกลางบางขวางเป็นเรือนจำที่พบผู้ติดเชื้อในจำนวนมากที่สุดคือ 5,531 คน ส่วนเรือนจำกลางเชียงใหม่เป็นเรือนจำในพื้นที่ต่างจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ 4,170 คน

เรือนจำที่มีการติดเชื้อของผู้ต้องขังจำนวนมากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคสูงอยู่แล้วคือ กรุงเทพมหานครและเชียงใหม่ ซึ่งทั้งสองจังหวัด ศบค. จัดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ขณะที่ในปัจจุบันยังมีการรายงานผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำแห่งใหม่เรื่อยๆ เช่น เรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทรา เริ่มพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 29 เมษายน 2564 ที่จำนวน 11 คนในแดนแรกรับ มีการขยายวงการติดเชื้อจากหลักสิบเป็นหลักร้อย จนกระทั่งขยับเป็นหลักพันในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2564 ล่าสุดวันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำกลางฉะเชิงเทราจำนวน 1,950 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,722 คน

รายละเอียดผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำแต่ละแห่ง เช่น

๐ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เท่าที่สามารถติดตามได้จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 3,014 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 3,012 คน (สถิติเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564) หรือคิดเป็นมากกว่าร้อยละ 100 ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด (จำนวนผู้ติดเชื้อที่มากกว่าจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมดอาจเป็นผลจากการเข้าออกของผู้ต้องขังรายเก่าและใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในระบบเรือนจำ)

๐ เรือนจำกลางคลองเปรม วันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 5,014 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 8,021 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 62.51 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำกลางบางขวาง วันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 5,536 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 5,829คนหรือคิดเป็นร้อยละ 94.97 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด ยังรอผลตรวจหาเชื้ออีก 339 คน

๐ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง วันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 843 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 6,011 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 14.02 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำพิเศษธนบุรี เท่าที่สามารถติดตามได้จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 3,671 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 3,921 คนหรือร้อยละ 93.58 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี เท่าที่สามารถติดตามได้จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 2,163 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมดที่ 2,595 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 83.35 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำกลางเชียงใหม่ วันที่ 5 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 4,170 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 6,501 คนหรือร้อยละ 64.14 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทรา วันที่ 9 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 1,950 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,722 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.64 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

๐ เรือนจำจังหวัดสงขลา วันที่ 8 มิถุนายน 2564 มีผู้ต้องขังติดเชื้อจำนวน 268 คนจากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,131 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 12.58 จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

ร่วมลงชื่อในแคมเปญข้อเรียกร้องเร่งด่วน ป้องกันโควิดในเรือนจำเพื่อยื่นต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง : http://chng.it/ZV42n7HBj6