"ชาติคือประชาชน ประชาชนคือชาติ" ...และ "สถาบันกษัตริย์ไม่ใช่ชาติ"

บีบีซีไทย - BBC Thai

43 min ·

เครือข่าย “ปกป้องสถาบันฯ” เรียกร้อง ผบ.ทบ.-ผบ.ทสส. อย่านิ่งเฉยกับการชุมนุม 7 ส.ค. ด้านโฆษกรัฐบาลวอนผู้ชุมนุม “ให้คำนึงถึงประเทศชาติ”
.
ประชาชนผู้สมาชิกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน” หรือ (ศปสส.) และกลุ่ม “พสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” ราว 10 คน นำโดยนายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว และนายฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ เดินทางไปยังกองบัญชาการทหาร 2 แห่ง เพื่อเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยทหารออกมาปกป้องสถาบันฯ โดยมีนายทหารเวรเป็นผู้รับเรื่องแทน
.
ปลายทางแรก อยู่ที่กองบัญชาการกองทัพบก ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
.
อีกปลายทางคือ กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้ยื่นหนังสือถึง พล.อ. เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองทัพไทย (ผบ.ทสส.)
.
นายจักรพงศ์ระบุว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่าง ๆ หากต้องการขับไล่รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเคลื่อนไหวให้ถูกประเด็น และห้ามนำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง
.
"พวกเราทนไม่ไหว เพราะภาครัฐและฝ่ายความมั่นคงยังนิ่งเฉยกับการชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค. ที่นัดกันเคลื่อนขบวนไปพระบรมมหาราชวัง วันนี้ผมจึงมาสอบถามกองทัพบกว่าจะมีแนวทางใดบ้างที่จะจัดการกับเรื่องดังกล่าว" นายจักรพงศ์กล่าว
.
ความเคลื่อนไหวของ ศปสส. เกิดขึ้นหลังจากกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” แจ้งผ่านแฟนเฟซบุ๊กซึ่งมีผู้ติดตามราว 1.6 ล้านคน รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ของทางกลุ่ม นัดหมายชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค. นี้ โดยระบุตอนหนึ่งว่า “พบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง” เป็นผลให้ ศปสส. ประกาศผ่านเฟซบุ๊กซึ่งมีผู้ติดตามราว 3.6 หมื่นคน ทันควันว่า “จะไม่ทน”
.
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าววิงวอนผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมืองให้ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และบุคคลอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.
.
โฆษกรัฐบาลยังยกความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาตอกย้ำว่า การมีบุคคลจำนวนมากมารวมตัว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่/รับเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจจะนำไปสู่การแพร่ระบาดในครอบครัวหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น จึงอยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม “ให้คำนึงถึงประเทศชาติ และความพยายามของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพราะทุกคนคือคนไทย”

 

 

(หมายเหตุ-ฝากถึงกองทัพไทย  "สถาบันกษัตริย์ไม่ใช่ชาติ "  ไม่มีประชาชน ไม่มีชาติ ไม่มีกองทัพเช่นกัน

อย่าลืม..."ชาติ"เป็นของประชาชนทุกคนร่วมกัน ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 

กองทัพไทยสร้างขึ้นมาจากเงินภาษีของประชาชน ทหารในกองทัพคือทหารของประชาชน

หน้าที่หลักของทหารในกองทัพไทยคือปกป้องประเทศชาติและรับใช้ประชาชนเท่านั้น...  

ไม่ใช่ทหาร ข้าราชในพระองค์ ."อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" 

ขอเตือนกองทัพไทย...ประชาชนคือพี่น้องเพื่อนร่วมชาติไม่ใช่ข้าศึกศัตรู  เพื่อหลีกเลี่ยงความหายนะของประเทศชาติและบนซากศพของประชาชน   ทหารต้องเลือกอยู่เคียงข้างประชาชนเท่านั้น (หยุดคิดทำอะไรโง่ๆตามคำสั่งนาย ก่อนตายยกรัง.)..ยามบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะวิกฤตทุกสถาบันเสื่อมโทรมอ่อนแอตกต่ำสุดๆ ..เกินจะเยียวยาและคงไม่มีอำนาจใดๆจะมาหยุดยั้งพลังอำนาจของมวลชนคนรุ่นใหม่ที่มีความตื่นตัวสููงเช่นนี้ได้แน่นอน ..การออกมารวมพลังร่วมแรงร่วมใจกันของคนทุกชนชั้นทุกสาขาอาชีพเป็นระบบเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน   รวมทั้งนำเสนอแนวคิดที่ทันสมัยก้าวหน้ากว้างไกล  ด้วยการปฎิเสธไม่ยอมรับการปกครองภายใต้อำนาจรัฐเผด็จการ.. สู้เพื่อให้ทุกคนได้มีอนาคตที่ดีกว่าวันนี้.)