สโมสรนิสิตจุฬาฯ แถลงขอโทษ ที่เคยเข้าร่วม กปปส.เมื่อปี 56-57 สร้างความอัปยศอดสูแก่เกียรติประวัติสถาบัน
อดีต กปปส.สีชมพูดิ้นพล่าน สโมสรนิสิตยุคนี้ไม่ได้ร่วมเป่านกหวีดปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้ง ออกมาแถลงทำไม
อ้าว ก็แถลงประจานไง พร้อม condemn รุ่นพี่ อาจารย์ ผู้บริหาร ที่ทำกรรมไว้กับรุ่นน้องรุ่นลูกรุ่นหลาน ให้ตกอยู่ใต้เผด็จการ 7 ปี ป่านฉะนี้ไม่ยอมไป ทำลายอนาคตประเทศ ถอยหลังจากประชาธิปไตย แถมยัง “โง่” จนจะพาตายหมด
สโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ทยอยแถลงบ้าง นี่คือการเขียนประวัติศาสตร์ใหม่โดยคนรุ่นใหม่ แม้ยังไม่มีอำนาจแก้ไขหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่คนรุ่นใหม่ก็ยึดครองสื่อใหม่ ที่จะถ่ายทอดต่อๆ กันไปว่า “มวลมหาประชาชน” เมื่อปี 56-57 คือพลังล้าหลังดักดาน ปูทางรัฐประหาร แม้บางคนถูกหลอก หลงผิด แต่จนป่านนี้จำนวนมากก็ไม่สำนึก
ส่วนภาพอดีตที่ซาบซึ้งของม็อบรักชาติศาสน์กษัตริย์ ปราบโกง ดาราคนดังคับคั่ง ก็จะเป็นประวัติศาสตร์อันภาคภูมิใจไปสัก 10-20 ปี จนคนรุ่นนี้หมดอายุขัย แถมถูกคนรุ่นใหม่เอาไปเสียบประจานเป็นพักๆ ลูกหลานก็อับอาย เพื่อนล้อแย่เลย พ่อแม่เคยเป่านกหวีด
สงครามออนไลน์ระหว่างคนรุ่นใหม่กับ “สลิ่ม” ช่วงนี้ดุเดือด เพราะวิกฤตโควิดไปไหนไม่ได้ คนรุ่นใหม่ก็เลย “อยู่บ้านด่าสลิ่ม” ในอารมณ์ต่อเนื่องจากม็อบปีที่แล้ว สลิ่มภาพโปรไฟล์เข้าวัดทำบุญรักหมารักแมว พออยู่ในกลุ่มตัวเองก็คลุ้มคลั่ง ยุให้ใช้ความรุนแรงปราบ “สามกีบ” แต่โคตรขำ โดนเด็กแสบอำ เช่นทำภาพดาราหนังโป๊ฝรั่ง แปะคำพูดยกย่องคุณค่าความเป็นไทย สลิ่มก็เอาไปแชร์ว่อน
ที่หัวร่อจนน้ำตาไหลคือสลิ่มโดนหลอกให้พิมพ์คำย่อ “ยสตน” แชร์ไปให้ไพศาล ไม่ทันโลกออนไลน์ ไม่รู้ว่าโดน “ดักควาย” ใครส่งข้อความโจมตีม็อบในกลุ่มไลน์ ก็เชื่อหมดยิ่งกว่านกขุนทอง
ถามว่าโหดไปไหม 7 ปีผ่านไป คนรุ่นใหม่เหลืออด มาถึงขั้นนี้แล้วแทนที่สลิ่มจะสำนึกได้ จะตายเพราะโควิดไม่ได้ฉีดวัคซีนยังหัวปักหัวปำ หนุนรัฐบาลรัฐประหารผสมพันธุ์นักการเมือง (ที่ตัวเองเคยยี้) แทนที่จะมองว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ กลับมองว่ารัฐบาลแก้โควิดไม่สำเร็จเพราะไอ้แม้วไอ้ทอนปลุกคนไม่ให้ความร่วมมือ
“วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่มีให้ฉีด” ก็พากันส่งต่อข้อดี Sinovac และเฟกนิวส์โจมตี Pfizer
“สลิ่ม คือการสูญเสียสติปัญญาและศีลธรรมอย่างเฉียบพลันอย่างรุนแรง” เพจคนรุ่นใหม่นิยาม อันที่จริงไม่ถึงกับเฉียบพลันเพราะความเชื่องมงายฝังหัว แต่พูดถูกว่า เสียทั้งสติปัญญาและศีลธรรม ด่านักการเมืองโกงซื้อเสียงแต่ยอมรับได้ถ้าถูกดูดมาอยู่ฝ่ายรัฐบาล วันๆ ก็ชื่นชม ดร.เสกสกลตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่ทีนักการเมืองที่ไม่ใช่ผู้รับเหมาผู้มีอิทธิพลชนะเลือกตั้งใสสะอาดอย่างอนาคตใหม่ กลับคั่งแค้นมุ่งทำลาย
คนพวกนี้มุ่งหวังให้เกิดรัฐประหารโหด กวาดล้างขยะแผ่นดินให้สิ้นซาก นำประเทศกลับสู่ราชาธิปไตยใต้รัฐธรรมนูญ อย่างที่ อ.นิด้าพูด แต่ภาพโปรไฟล์ดั้นด้นไปทำบุญนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับ “พระป่า” นี่คือศีลธรรม?
คนรุ่นใหม่จึงมองว่าหมดเวลาให้โอกาสสลิ่มกลับใจ ไม่แยแสไม่แคร์ว่าจะต้องดึงมาเป็นพวก แล้วถ้าใครจะกลับใจก็อยู่ที่การแสดงออก ไม่ใช่แค่คำพูด อยากดักดานก็ปล่อยให้ตายไป โลกไม่ได้หมุนรอบตัวสลิ่ม
อันที่จริงการหลุดพ้นจากสลิ่มนั้นง่ายมาก แค่แสดงความรับผิดชอบ โง่เอง โดนหลอก ไม่เห็นต้องอาย ส่วนที่อยากต้านโกงก็ไม่มีใครว่า แต่ทำไม่ได้เพราะสลิ่มระดับบนมีภาพลักษณ์เป็นคนฉลาด มีทั้งหมอ วิศวะ ศิลปิน วิชาชีพที่สังคมยกย่อง
จะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้ออันดับหนึ่ง ยอมรับได้อย่างไรว่างมงายตามก้นลุงกำนัน แต่พอเป็นอย่างนั้นก็ทำให้คนสงสัยว่าฉลาดจริงหรือเปล่า หรือฉลาดแต่เรื่องโรค เรื่องอื่นหัวกล่องกระดาษ วิเคราะห์โรคจริงหรือวิเคราะห์การเมืองช่วยรัฐบาล
พอด่าสลิ่มมากๆ เข้าก็ถูกหาว่า Bully บางคนโดนรีพอร์ตจนเฟสบุ๊คจำกัดการใช้งาน ทำให้สงสัยกันว่าผู้บริหารเฟสบุ๊คไทยเป็นสลิ่มหรือเปล่า
คนรุ่นใหม่คนรักประชาธิปไตย ต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพประชาธิปไตย แต่ถูกรัฐบาลอำนาจนิยมละเมิดสิทธิมนุษยชน ใช้กฎหมายล้าหลัง ใช้กำลังเกินกว่าเหตุจนเป็นการทำร้าย แล้วสลิ่มให้ท้ายรัฐบาล การด่าสลิ่มจะเป็น Bully ตรงไหน
การเหยียดสลิ่มผิดไหม (เหยียดนาซีผิดไหม) เพราะสลิ่มเหยียดคนอื่น เห็นคนไม่เท่ากัน มองคนคิดต่างไม่ใช่มนุษย์ฆ่าได้ทำร้ายได้ คนรุ่นใหม่เหยียดสลิ่มที่พฤติกรรม ยกตนเป็นคนดีมีศีลธรรม แต่ล้นไปด้วยอคติ โทสะโมหะ พวกใครพวกมัน พวกตัวเองต้องถูกทุกอย่าง
นี่พูดไว้ในโอกาสที่โลกของสลิ่มกำลังจะทลาย จากสัญญาณหลายอย่าง
แนะนำให้เข้าวัดตัดขาดจากโลกจริงจัง ไม่งั้นจะคลั่งใจจนความดันขึ้น
เส้นเลือดแตกหรือตีบ เป็นภาระลูกหลาน
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6424165
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar