"เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า รัฐบาลพยายามใช้กฎหมายฟ้องปิดปากประชาชน ยิ่งฟ้อง ก็ยิ่งเปิด ยิ่งปิด ก็ยิ่งเปิด เพราะว่าต่อให้ลบลิงก์ยูทิวบ์ ลบทิ้งเฟซบุ๊กไลฟ์เนื้อหาการแถลง คุณคิดว่าสามารถปิดกั้นได้จริงหรือ และไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันแฟลตฟอร์มเหล่านั้นปิดกั้นการเข้าถึง ในเมื่อคำถามเหล่านั้นได้เกิดขึ้นแล้วโดยประชาชน" น.ส. พรรณิการ์ กล่าว
วัคซีนโควิด : ศาลสั่งลบโพสต์ธนาธร เหตุผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คณะก้าวหน้าบอกยังไม่เห็นคำสั่ง
คณะก้าวหน้าเผยยังไม่ได้รับคำสั่งศาลให้ลบโพสต์การแถลงของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เกี่ยวกับการตั้งคำถามและข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 พร้อมยืนยันว่าการตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นที่ฐาน
คณะก้าวหน้าออกแถลงการณ์ทางเฟซบุ๊กวันนี้ (31 ม.ค.) หลังจากสื่อมวลชนไทย เช่น เว็บไซต์ศูนย์ข่าวอิศรา ประชาชาติธุรกิจ และมติชน รายงานข่าวตรงกันว่าศาลอาญามีคำสั่งลบเนื้อหาออนไลน์ที่คณะก้าวหน้าเผยแพร่ 3 รายการ หรือ URLs ซึ่งเป็นคลิปและข้อความที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตั้งคำถามถึงการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากเข้าข่ายกระทบกระเทือนความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า ศาลอาญาได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อความภาพและคลิปวีดีโอที่มีเนื้อหาเข้าข่ายอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 3 URLs (รายการ) ประกอบด้วย การโพสต์เนื้อหาผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊กแฟนเพจ และยูทิวบ์ของคณะก้าวหน้า ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ประกอบมาตรา 20 สั่งให้ระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
ด้านกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เผยการยื่นปิดกั้นเว็บไซต์เป็นเรื่องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
บีบีซีไทยพยายามติดต่อนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อขอคำยืนยันเรื่องคำสั่งศาล แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ
คณะก้าวหน้ายืนยันว่าเนื้อหา-การตั้งคำถามเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
น.ส. พรรณิการ์ วานิช หนึ่งในกรรมการบริหารคณะก้าวหน้าบอกกับบีบีซีไทยว่า ยังไม่ได้รับคำสั่งศาลแต่ยืนยันว่าการนำเสนอเนื้อหาและการตั้งคำถามต่อการทำงานของรัฐบาลเป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนโดยสุจริต
"เราไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า หมายศาลคืออะไร เพราะว่าเรายังไม่ได้รับคำสั่งศาล และถ้าคำสั่งศาลจะมาทางยูทิวบ์ หรือเฟซบุ๊กว่ามาทางเรา แต่ยืนยันว่าทางเรายังไม่ได้อย่างแน่นอน" น.ส. พรรณิการ์ กล่าว
"ถ้าคำสั่งศาลไปทางเฟซบุ๊กและยูทิวบ์ เรายืนยันว่านี่เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เป็นเสรีภาพในการตรวจสอบรัฐบาลและก็หวังว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวที่เป็นสากลจะยึดมั่นในสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง และต้องร่วมยืนหยัดว่าจะไม่ต้องลบเนื้อหาที่เป็นการเผยแพร่โดยสุจริตและเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน"
อย่างไรก็ตาม น.ส. พรรณิการ์ เห็นว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาญของยูทิวบ์หรือเฟซบุ๊กว่า เนื้อหานั้นขัดต่อกฎหมายจริง ๆ หรือไม่ โดยทางคณะก้าวหน้ายืนยันว่า ไม่มีอะไรเป็นเท็จและเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเป็นปกติ
"เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่า รัฐบาลพยายามใช้กฎหมายฟ้องปิดปากประชาชน ยิ่งฟ้อง ก็ยิ่งเปิด ยิ่งปิด ก็ยิ่งเปิด เพราะว่าต่อให้ลบลิงก์ยูทิวบ์ ลบทิ้งเฟซบุ๊กไลฟ์เนื้อหาการแถลง คุณคิดว่าสามารถปิดกั้นได้จริงหรือ และไม่มีประโยชน์ที่จะกดดันแฟลตฟอร์มเหล่านั้นปิดกั้นการเข้าถึง ในเมื่อคำถามเหล่านั้นได้เกิดขึ้นแล้วโดยประชาชน" เธออธิบาย
ต่อมาเฟซบุ๊กแฟนเพจของคณะก้าวหน้าได้โพสต์อธิบายถึงเรื่องดังกล่าวด้วย โดยส่วนหนึ่งระบุว่ายังไม่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ว่าทั้งหมดที่นายธนาธรกล่าวไปในคลิปวัคซีนนั้น ไม่มีใครสามารถชี้ได้ว่ามีส่วนไหนที่ผิด บิดเบือนความจริง ใช้ข้อมูลเท็จ หรือก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในราชอาณาจักรอย่างไรบ้าง
ที่มาของคำสั่งศาล
คำสั่งศาลดังกล่าวเป็นผลจากวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนายพุทธิพงษ์ได้มอบหมายทีมกฎหมายไปแจ้งความที่บก.ปอท. ให้ดำเนินคดีกับนายธนาธร กรณีไลฟ์สดเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 โดยกล่าวหาว่ามีการพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กคณะก้าวหน้า ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (3) และยื่นศาลให้พิจารณาการกระทำดังกล่าว
นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า คดีความตามมาตรา 112 ที่ยื่นแจ้งความกล่าวหานายธนาธรต่อ บก.ปอท. ไว้นั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
เขายืนยันว่าเจ้าหน้าที่รัฐต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่สามารถละเว้นได้
ปอท. แจงส่งต่อคดีให้กับสน. นางเลิ้งแล้ว
พ.ต.อ. ประดิษฐ์ เปการี รองผู้บังคับกองการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) เปิดเผยกับบีบีซีไทยถึงความคืบหน้าคดีที่ดังกล่าวว่า เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนคดีเดียวกันนี้ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งด้วย และสน.นางเลิ้งได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนไปตั้งคณะทำงานไปแล้ว ดังนั้นทาง ปอท. จึงได้ส่งเอกสารหลักฐานที่กระทรวงดิจิทัลฯมาร้องเรียนทั้งหมดไปยัง สน.นางเลิ้งแล้ว
หลังจากนี้ หากมีการประสานมาจากคณะทำงานของ สน. นางเลิ้ง ปอท. จะพิจารณาให้ความร่วมมืออีกครั้ง
เมื่อสอบถามถึงรายงานข่าวเรื่องการปิดกั้นเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของคณะก้าวหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รอง ผบก. ปอท. ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนนี้
"การยื่นคำร้องเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์ต่อศาลเป็นเรื่องของกระทรวง (ดิจิทัลฯ ) ในฐานะเจ้าพนักงาน ไม่ใช่ ปอท." พ.ต.อ. ประดิษฐ์ กล่าว
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar