måndag 25 januari 2021

รัฐบาลของสวีเดนจ่ายค่าเยียวยาทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประสบภัยโรคระบาดโควิด-19 ในปี 2563 ทั้งหมดเป็นเงิน 374 พันล้านโครน

รัฐบาลของสวีเดนจ่ายค่าเยียวยาทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประสบภัยโรคระบาดโควิด-19 ในปี 2563 ทั้งหมดเป็นเงิน 374 พันล้านโครน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.234.200,00 ล้านล้านบาทประเทศที่มีประชากรเพียง 10 ล้านคน
 
สำหรับในประเทศไทยไม่ทราบว่ารัฐจ่ายค่าเยียวยาทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประสบภัยโรคระยาดโควิด -19 ในปี 2563 ทั้งหมดเป็นเงินเท่าไร ?สำหรับประชากรเกือบ 70 ล้านคน 
 
ในสวีเดนเขาถือว่าเงินภาษีของประชาชนได้นำมาใช้เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจให้แก่สังคมได้อย่างคุ้มค่าที่สุด  นางมาเลนน่า อันเดอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่าประชาชนผูเสียภาษีได้เป็นผู้กอบกู้สภาวะเศรษฐกิจให้แก่บริษัทธุระกิจการค้าของสวีเดนให้ฟื้นฟูกลับเข้าสู่สภาพปกติได้
 

CoronavirusetEkonomiska effekter

Statens totala kostnad för corona: 374 miljarder

............................................................

สวีเดน ประเทศที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในทุกด้าน
6 ส.ค. 2019
สวีเดน ประเทศที่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในทุกด้าน / โดย ลงทุนแมน
ประเทศที่อยู่ในแถบสแกนดิเนเวีย
มักเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ในเรื่อง ระบบการศึกษา ความเท่าเทียมกัน สวัสดิการรัฐ รายได้ต่อหัว
ลงทุนแมนเคยเขียนถึงประเทศฟินแลนด์ และนอร์เวย์ไปแล้ว
แต่มีอีกประเทศหนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
นั่นคือ สวีเดน
ประเทศนี้น่าสนใจขนาดไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
สวีเดนตั้งอยู่แถบยุโรปเหนือ อยู่ติดกับประเทศนอร์เวย์ และใกล้กับฟินแลนด์
ประเทศนี้มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม
และภูมิอากาศไม่หนาวเย็นเท่าประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในแนวละติจูดเดียวกัน
เนื่องจากได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม
สวีเดนมีพื้นที่ 449,964 ตร.กม. โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และ ภูเขาสูง
มูลค่า GDP ของสวีเดนคือ 17 ล้านล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับประเทศไทย ที่มี GDP มูลค่า 15 ล้านล้านบาท
แต่ที่ไม่ใกล้เคียงก็คือ
ประชากรชาวสวีเดน มีเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น
ซึ่งทำให้คนสวีเดนมี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1.7 ล้านบาทต่อปี สูงกว่าประเทศไทย 7 เท่า
การที่สวีเดนมีประชากรไม่มาก ทำให้ตลาดการบริโภคภายในประเทศมีจำกัด
ดังนั้นเศรษฐกิจของประเทศจึงต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
โดยผลผลิต และการส่งออกกว่าครึ่งจะเกี่ยวข้องกับภาควิศวกรรม
อุตสาหกรรมสำคัญๆ ได้แก่ ไม้ เหล็ก รวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น รถยนต์ อากาศยาน ยา เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอาวุธ
Cr. The Local
ซึ่งอุตสาหกรรมการเกษตรกรรมคิดเป็นเพียง 2% ของ GDP
ที่น่าสนใจคือ สวีเดนเป็นระบบรัฐสวัสดิการ ทำให้ภาครัฐบาลมีบทบาทอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ
โดยอัตราภาษีที่เรียกเก็บ ถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เช่น อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะสูงถึง 50-60% ของเงินได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนได้เป็นสิ่งตอบแทนกลับมา อาจมากกว่าเงินที่เสียไป
เนื่องจากรัฐบาลได้จัดหาสวัสดิการที่ดีเยี่ยมให้กับประชาชน
ไม่ว่าจะเป็น ระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน บ้านเมืองที่สะอาด เนื่องจากมีการบริหารจัดการขยะที่ดี

Cr. Swedish Cleantech
ซึ่งปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบ มีไม่ถึง 1% ของปริมาณขยะทั้งหมด
ทำให้ถึงขั้นต้องนำเข้าขยะจากต่างประเทศ เพื่อนำไปผลิตพลังงานไฟฟ้า
มีระบบบำนาญครอบคลุมประชากรถึง 100% และมีอัตราความยากจนในผู้สูงอายุที่ต่ำกว่าประเทศอื่น
ส่วนระบบการศึกษาก็ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
ซึ่งรัฐบาลสวีเดนปฏิบัติต่อโรงเรียนของรัฐ และเอกชนอย่างเท่าเทียมกัน
โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนให้โรงเรียนเอกชนในจำนวนพอๆ กับโรงเรียนรัฐ ทำให้ค่าเทอมของโรงเรียนเอกชนไม่สูงจนเกินไป
และนักเรียนสวีเดนต่างก็ได้รับอาหารเช้า และอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน
Cr. Swedish Institute
สวีเดนยังติดอันดับต่างๆ ดังนี้
ประเทศที่เหมาะแก่การทำธุรกิจ เป็นอันดับที่ 4 ของโลก
ได้ดัชนีความเท่าเทียมทางเพศ เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
มีปัญหาการคอร์รัปชันต่ำ เป็นอันดับที่ 3 ของโลก
นอกจากนี้ สวีเดนยังเป็นต้นกำเนิดของบริษัทชื่อดังระดับโลก ที่มีแบรนด์ซึ่งเรารู้จักกันดี
โดยที่เราอาจไม่ทราบว่ามาจากประเทศสวีเดน เช่น
1) H&M
เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเราคงรู้จักกันดี
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 883,200 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 695,100 ล้านบาท กำไร 41,800 ล้านบาท
2) IKEA
ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จุดเด่นของสินค้าที่นี่คือ สะดวกในการขนย้าย และถูกออกแบบให้ลูกค้าสามารถนำไปประกอบเองได้
ปี 2018 มีรายได้ 1,283,000 ล้านบาท กำไร 50,600 ล้านบาท
3) Spotify
ผู้ให้บริการ Platform การฟังเพลงออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 807,300 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 182,400 ล้านบาท ขาดทุน 2,700 ล้านบาท
4) Volvo
บริษัทผลิตรถยนต์ระดับไฮเอนด์ แต่ถูกซื้อกิจการไปแล้วโดยบริษัท Geely ค่ายรถยนต์รายใหญ่จากจีน
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 950,600 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 1,249,600 ล้านบาท กำไร 77,800 ล้านบาท
5) Ericsson
ผู้ให้บริการโครงข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ และบริษัทยังถือหุ้นใน Sony Ericsson อีกครึ่งหนึ่ง
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 889,400 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 696,000 ล้านบาท ขาดทุน 21,600 ล้านบาท
6) Electrolux
ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยคุ้นเคยกันดี
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 238,000 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 409,800 ล้านบาท กำไร 12,600 ล้านบาท
7) AstraZeneca
บริษัทยายักษ์ใหญ่ของโลก สัญชาติอังกฤษ-สวีเดน บริษัทผลิตยารักษาโรคสำคัญๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่า 3,581,000 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 679,500 ล้านบาท กำไร 66,300 ล้านบาท
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
สวีเดนมีกฎหมายที่อนุญาตให้พนักงานบริษัท สามารถลางานได้ 6 เดือน แล้วออกไปเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง เพื่อต้องการกระตุ้นให้ประชากรมีวิธีคิดแบบผู้ประกอบการ..
----------------------
----------------------
References
-https://www.businessinsider.com/sweden-lets-employees-take-six-months-off-start-own-business-2019-2
-https://en.wikipedia.org/wiki/Sweden
-https://www.wegointer.com/2018/05/best-countries-for-business/
-https://www.weforum.org/agenda/2018/12/10-best-countries-to-be-a-woman-gender-gap-report-2018/
-https://www.transparency.org/cpi2018
-http://hdr.undp.org/en/2018-update
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Sweden
-https://tradingeconomics.com/sweden/personal-income-tax-rate
-Financial Statement_2018

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar