ทรัมป์: การเดินทางเพิ่งเริ่มต้น
.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
โพสต์คลิปวิดีโอแรกบนทวิตเตอร์ทันทีที่บัญชีของเขากลับมาใช้งานได้อีกครั้งหลังถูกระงับไป
12 ชั่วโมงช่วงเกิดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภา
.
ทรัมป์กล่าวว่าขณะนี้สภาคองเกรสได้รับรองผลการเลือกตั้งแล้วและรัฐบาลใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ในวันที่
20 ม.ค.
สิ่งเขาให้ความสำคัญในขณะนี้คือทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างเรียบร้อยและราบรื่น
.
ในช่วงท้ายเขายังฝากไปถึงผู้สนับสนุนของเขาด้วยว่า
“ถึงผู้สนับสนุนที่ยอดเยี่ยมของผมทุกคน ผมรู้ว่าพวกคุณผิดหวัง
แต่อยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่าการเดินทางอันน่าทึ่งของพวกเราเพิ่งเริ่มต้น”
.
https://bbc.in/3pYZliH
ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนใดที่ถูกปลดจากตำแหน่งโดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 นี้
เลือกตั้งสหรัฐฯ : เปิดบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เครื่องมือปลด “ทรัมป์”
นายโดนัลด์ ทรัมป์ เหลือเวลาที่จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่อีกเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ แต่กรรมาธิการในคณะกรรมาธิการตุลาการ สภาผู้แทนราษฎร จากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาเรียกร้องให้ถอดถอนเขาจากอำนาจ หลังผู้สนับสนุนนายทรัมป์บุกเข้าไปก่อเหตุในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม
กรรมาธิการจากพรรคเดโมแครต ส่งจดหมายถึงรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ให้ดำเนินการปลดนายทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่าเขาคือผู้สนับสนุนให้เกิดการจลาจล และ "พยายามบ่อนทำลายความเป็นประชาธิปไตย"
บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25
สิ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงคือการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือ The 25th Amendment เปิดทางให้โอนอำนาจให้รองประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือตลอดไป
บทบัญญัติดังกล่าวอนุญาตให้รองประธานาธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีได้ หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เช่น เมื่อประธานาธิบดีอยู่ในสภาพเป็นบุคคลไร้ความสามารถเนื่องจากอาการป่วยทางกายหรือทางจิต
รายละเอียดที่เกี่ยวข้องคือมาตราที่ 4 ซึ่งอนุญาตให้รองประธานาธิบดี และสมาชิกส่วนใหญ่ในรัฐบาล ประกาศว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยจะต้องลงนามในจดหมายส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ระบุว่าประธานาธิบดีไม่สามารถปกครองหรือไม่สามารถ "ปฏิบัติอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งได้" เมื่อถึงจุดนี้ นายไมค์ เพนซ์ ก็จะขึ้นดำรงตำแหน่งโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ยังมีโอกาสที่จะตอบเป็นลายลักษณ์อักษรและหากเขามีความเห็นแย้ง ก็จะเป็นหน้าที่ของสภาคองเกรสที่จะตัดสินใจ แต่การจะปลดประธานาธิบดีจากอำนาจจะต้องอาศัยเสียงส่วนมาก 2 ใน 3 ทั้งจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานาธิบดีจะเป็นผู้ทำหน้าที่ประธานาธิบดี ไปจนกว่าจะได้ข้อสรุป
จริง ๆ แล้วเคยมีการหารือเรื่องการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 นี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่นายทรัมป์ ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในขณะนั้นมีความกังวลกันว่าเขาจะป่วยหนักเกินกว่าจะบริหารประเทศได้
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เสนอให้มีการร่างคำร้องเพื่อถอดถอนนายทรัมป์ โดยอาศัยความตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25
เคยมีการใช้บทบัญญัตินี้มาก่อนไหม
บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 ผ่านการลงมติเมื่อปี 1967 สี่ปีหลังเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี บทบัญญัติดังกล่าวกำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางจัดการในกรณีประธานาธิบดีกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ
และด้วยเหตุผลนี้ เคยมีประธานาธิบดีหลายคนที่ใช้บทบัญญัตินี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา 3 เพื่อมอบอำนาจเป็นการชั่วคราวให้รองประธานาธิบดี
ยกตัวอย่างในปี 2002 และ 2007อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช มอบอำนาจให้รองประธานาธิบดีรักษาการแทนตอนที่เขาเข้าโรงพยาบาลเพื่อส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นการตรวจตามที่แพทย์นัด อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ก็ทำเช่นเดียวกัน ตอนที่เข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็ง ในปี 1985
อย่างไรก็ดี ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนใดที่ถูกปลดจากตำแหน่งโดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 นี้
จะมีวิธีอื่นในการถอดถอนทรัมป์ได้อีกไหม
มีเสียงเรียกร้องให้ดำเนินกระบวนการถอดถอนนายทรัมป์จากตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 โดยนางอิลฮาน โอมาร์ วุฒิสมาชิกหญิงรัฐมินเนโซตาจากพรรคเดโมแครต ออกมาประกาศว่าเธอกำลังร่างคำร้องเพื่อยื่นเรื่องถอดถอนนายทรัมป์ ซึ่งวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตหลายคนก็สนับสนุน
นายทรัมป์ เคยถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่งมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2019 โดยถูกกล่าวหาว่าได้ขอความช่วยเหลือจากยูเครนอย่างไม่ถูกไม่ควรเพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง ได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาทำหน้าที่ต่อในปี 2020
ในครั้งนั้นนายทรัมป์เผชิญข้อกล่าวหา 2 กระทง คือใช้อำนาจในทางที่ผิดและขัดขวางการดำเนินงานของสภาคองเกรส แต่เขารอดพ้นจากการถูกถอดถอนมาได้หลังวุฒิสภาซึ่งฝ่ายรีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ ลงมติว่าเขาไม่มีความผิด
นายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกยื่นถอดถอนจากตำแหน่ง โดยในขั้นของวุฒิสภา จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ และในประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดถูกลงมติถอดถอนจนต้องพ้นจากตำแหน่งมาก่อน และยังไม่เคยมีประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งถูกยื่นถอดถอนเป็นครั้งที่สองด้วย
สิ่งที่เป็นคำถามในเวลานี้คือจะมีเวลาเพียงพอไหมที่จะยื่นถอดถอนทรัมป์ก่อนที่เขาจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง เมื่อนายโจ ไบเดน จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar