12 tim
"โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" คือ ฉายาที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้รับจากคนรู้จักและผู้สื่อข่าวสายตำรวจ เนื่องจากทำได้สารพัดงาน พูดจาสุภาพอ่อนหวาน ยกมือไหว้ได้ทุกคน ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน และความใส่ใจในทุกรายละเอียด แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ก็เผชิญขวากหนามมากมาย ต่อเส้นทางสู่ ผบ.ตร.
.
บีบีซีไทย สรุปเหตุการณ์สำคัญ ในบทความนี้ https://bbc.in/4622e7H
ยุทธการ “ทำให้เสียชื่อ” ?
.
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในชุดตำรวจสีกากี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ สโมสรตำรวจ ถึงเหตุการณ์ที่ชุดตำรวจ นำหมายค้นบ้านพักของเขา และบ้านที่เขาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอาศัย ชี้ว่า นี่เป็นความพยายาม “ดิสเครดิต”
.
“การค้นบ้าน รอง ผบ.ตร มีพยานหลักฐานพอจะค้นได้หรือเปล่า” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งคำถาม พร้อมเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้น “มันเป็นการเมืองภายในตำรวจ”
.
“เชื่อไหมว่า วันนี้ จะค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ได้ ทั้งที่ไม่มีความผิด... มันเป็นความพยายามดิสเครดิตให้ผมเสียชื่อ เรื่องอย่างนี้ ผมเจอมาเยอะแล้ว”
.
“บิ๊กโจ๊ก” ระบุอีกว่า มีผู้ไม่ประสงค์ดี ไปขอหมายกับศาลโดยไม่ระบุว่า เป็นบ้านของเขา ศาลไม่ทราบด้วยว่าเป็นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และจนถึงตอนนี้ ยัง “หาคนสั่งไม่ได้”
.
“ใครทำต้องรับผิดชอบ... ผมเป็นนักสู้อยู่แล้ว”
.
อ่านรายละเอียด ทางนี้ https://bbc.in/3ZwA3vj
หลากหลาย "ขวากหนาม" บนเส้นทางสู่ ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
.
บีบีซีไทย สรุป 3 เหตุการณ์สำคัญ ได้ดังนี้
.
เกือบเอาชีวิตราชการไปทิ้ง ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในปี 2552 เพราะถูกนายเขตสยาม เนาวรังสี นักธุรกิจร้านอาหารใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนว่าเรียกรับผลประโยชน์ จนถูก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนเกือบถูกออกจากราชการ ท้ายสุด สุรเชษฐ์ ชนะทุกข้อกล่าวหา แต่ระหว่างสู้คดี ชื่อของเขาก็หายเงียบไปนานเกือบ 2 ปี
.
ช่วง “ท็อปฟอร์ม” ที่สุดช่วงหนึ่ง คือ ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนุนให้ “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อปี 2561 เขาโชว์งานด้านการปราบปรามอาชญากรรม ออกสื่อไม่เว้นวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปมกู้นอกกฎหมาย นำคืนโฉนดที่ดิน แต่รับตำแหน่งได้ 6 เดือน ก็ถูก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งย้าย ตามด้วยถูก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 โอนเขาไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ประจำปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จนเขาต้องไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะข้าราชการพลเรือน 2 ปีเต็ม
.
ปี 2564 สุรเชษฐ์ กลับมาผงาดอีกครั้งในตำแหน่งหลักผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่บทบาทไม่พุ่งแรงเช่นเดิม ถึงอย่างนั้น ยังมีขวากหนามคอยขวางกั้น หลัง พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ได้ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ทำการทบทวนสำนวนการสืบข้อเท็จจริง คดีเรียกรับเงินจากนายเขตสยาม เมื่อกว่า 12 ปีก่อน ก่อนที่ท้ายสุด นายเขตสยามได้กลับคำให้การ และต่อมา 26 พ.ค. 2565 นายเขตสยามได้เสียชีวิตลง
.
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น เช้าวันที่ 25 ก.ย. จะเป็น "ขวากหนาม" ใหญ่ครั้งใหม่ หรือไม่
.
อ่านได้ทางนี้ https://bbc.in/3t6K1aC
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar