måndag 25 september 2023

ประเด็น....เหตุการณ์ที่ชุดตำรวจ นำหมายค้นบ้านพักของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

12 tim 
 
"โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" คือ ฉายาที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้รับจากคนรู้จักและผู้สื่อข่าวสายตำรวจ เนื่องจากทำได้สารพัดงาน พูดจาสุภาพอ่อนหวาน ยกมือไหว้ได้ทุกคน ท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตน และความใส่ใจในทุกรายละเอียด แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ก็เผชิญขวากหนามมากมาย ต่อเส้นทางสู่ ผบ.ตร.
.
บีบีซีไทย สรุปเหตุการณ์สำคัญ ในบทความนี้ https://bbc.in/4622e7H
 
ยุทธการ “ทำให้เสียชื่อ” ?
.
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในชุดตำรวจสีกากี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ สโมสรตำรวจ ถึงเหตุการณ์ที่ชุดตำรวจ นำหมายค้นบ้านพักของเขา และบ้านที่เขาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอาศัย ชี้ว่า นี่เป็นความพยายาม “ดิสเครดิต”
.
“การค้นบ้าน รอง ผบ.ตร มีพยานหลักฐานพอจะค้นได้หรือเปล่า” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งคำถาม พร้อมเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้น “มันเป็นการเมืองภายในตำรวจ”
.
“เชื่อไหมว่า วันนี้ จะค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ได้ ทั้งที่ไม่มีความผิด... มันเป็นความพยายามดิสเครดิตให้ผมเสียชื่อ เรื่องอย่างนี้ ผมเจอมาเยอะแล้ว”
.
“บิ๊กโจ๊ก” ระบุอีกว่า มีผู้ไม่ประสงค์ดี ไปขอหมายกับศาลโดยไม่ระบุว่า เป็นบ้านของเขา ศาลไม่ทราบด้วยว่าเป็นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และจนถึงตอนนี้ ยัง “หาคนสั่งไม่ได้”
.
“ใครทำต้องรับผิดชอบ... ผมเป็นนักสู้อยู่แล้ว”
.
อ่านรายละเอียด ทางนี้ https://bbc.in/3ZwA3vj
 
Kan vara en bild av 1 person, tidning och text där det står ”พล.ต.อ.สุรเซษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อ เวลา 12.45 น. วันที่ 25 ก.ย. 66 "มันเป็นการเมืองภายในตำรวจ เชื่อไหมว่า วันนี้ จะค้นบ้าน รอง ผบ.ตร. ผบ. ได้ ทั้งที่ไม่มีความผิด... มันเป็นความพยายาม ดิสเครดิต ให้ผมเสียชื่อ เรื่องอย่างนี้ ผมเจอมาเยอะแล้ว" NEWS ไทย Thai News Pix”

8 tim 
หลากหลาย "ขวากหนาม" บนเส้นทางสู่ ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
.
บีบีซีไทย สรุป 3 เหตุการณ์สำคัญ ได้ดังนี้
.
เกือบเอาชีวิตราชการไปทิ้ง ระหว่างดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ 3 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในปี 2552 เพราะถูกนายเขตสยาม เนาวรังสี นักธุรกิจร้านอาหารใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนว่าเรียกรับผลประโยชน์ จนถูก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนเกือบถูกออกจากราชการ ท้ายสุด สุรเชษฐ์ ชนะทุกข้อกล่าวหา แต่ระหว่างสู้คดี ชื่อของเขาก็หายเงียบไปนานเกือบ 2 ปี
.
ช่วง “ท็อปฟอร์ม” ที่สุดช่วงหนึ่ง คือ ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนุนให้ “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อปี 2561 เขาโชว์งานด้านการปราบปรามอาชญากรรม ออกสื่อไม่เว้นวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปมกู้นอกกฎหมาย นำคืนโฉนดที่ดิน แต่รับตำแหน่งได้ 6 เดือน ก็ถูก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ในขณะนั้น สั่งย้าย ตามด้วยถูก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 โอนเขาไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ประจำปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน จนเขาต้องไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะข้าราชการพลเรือน 2 ปีเต็ม
.
ปี 2564 สุรเชษฐ์ กลับมาผงาดอีกครั้งในตำแหน่งหลักผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่บทบาทไม่พุ่งแรงเช่นเดิม ถึงอย่างนั้น ยังมีขวากหนามคอยขวางกั้น หลัง พ.ต.อ.กฤษณะพงศ์ กัญจน์ชัยกิจ รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ได้ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ทำการทบทวนสำนวนการสืบข้อเท็จจริง คดีเรียกรับเงินจากนายเขตสยาม เมื่อกว่า 12 ปีก่อน ก่อนที่ท้ายสุด นายเขตสยามได้กลับคำให้การ และต่อมา 26 พ.ค. 2565 นายเขตสยามได้เสียชีวิตลง
.
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น เช้าวันที่ 25 ก.ย. จะเป็น "ขวากหนาม" ใหญ่ครั้งใหม่ หรือไม่
.
อ่านได้ทางนี้ https://bbc.in/3t6K1aC
 
Kan vara en bild av 1 person, tidskrift, tidning, affisch, militäruniform och text där det står ”1 หลาก "ขวากหนาม" บนเส้นทางสู่ ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.สุรเซษฐ์ สุรเซษฐ์ 2552: เกือบจบชีวิตราชการ ถูก ผบ.ตร. สอบวินัยร้ายแรง กรณีช้อกล่าวหาเรียกรับ ผลประโยชน์ จนเกือบถูกให้ออกจากราชการ และ เงียบหายไป ปี ท้ายสุด ขาrนะทุกข้อกล่าวหา ปี 2561-2562: จากดาวรุ่งสีกากี สู่ ขรก.พลเรือน พลเรือน ในปี 2561 "บิ๊กป้อม" หนุนขึ้นเป็น ผบซ.สำนักงานตรวจ- คนเข้าเมือง แต่รับตำแหน่งได้ครึ่งปี ก็ถูก ผบ.ตร. สั้งย้าย ตามด้วยถูก ม.44 โอนไปประจำ สนง.ปลัดสำนักนายกฯ พร้อมขึ้นบัญชี "บุคคลต้องได้รับการตวจสอบ" จาก ปปซ.-สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ต้องกลายเป็น ข้าราชการพลเรือน เก็บตัวเงียบ ปี ปี 2564: ปลุกคดีเก่า กลับมาเป็น รอง ผบ.ตร. ได้ไม่นาน มีการยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ให้ทบทวนคดีเรียกรับเงินเมื่อปี 2552 หลังพบ หลักฐานอ้างว่า มีการบังคับขู่เข็ญ แต่ต่อมาผู้เสียหาย ได้กลับคำให้การ NEWS ไทย ที่มา:บทความบีบีซีไทย "เกิดอะไรขึ้นกับศึกซิง 'ขวากหนาม" ช่วงโค้งสุดท้ายของ พล.ต.อ.สุรเซษฐ์ หักพาล"” 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar