fredag 1 september 2023

ใบตองแห้ง - เสียสัตย์ซ้ำขาดทุน

ใบตองแห้ง - เสียสัตย์ซ้ำขาดทุน

1 ก.ย. 2566 - 14:30 น.

พรรคเพื่อไทย “จำเป็น จำใจ กลืนเลือด” ตระบัดสัญญาประชาคมตอนหาเสียง ลบภาพ 17 ปีสู้เผด็จการ ข้ามขั้วตั้งรัฐบาลพรรค 2 ลุง โดยบอกกับประชาชนว่าทำเพื่อแก้ปัญหาปากท้อง และจะช่วยให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

ที่ไหนได้ พอเห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรี หงายท้อง ตกตะลึง แม้ไม่คาดหวังสูง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาตรฐานต่ำติดดินถึงเพียงนี้ ทั้งการแบ่งกระทรวง ที่ต้องเสียกระทรวงหลักให้พรรคร่วม ทั้งการจัดสรรตัวบุคคล “ต่างตอบแทน” แบบ Put the Wrong Man on the Wrong Job ผิดฝาผิดตัว

ช็อกสุดคือรัฐมนตรีมหาดไทย จากมีชื่อ “พี่อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย กลายเป็นโควตาภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นเกียรติศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูล เพราะ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เคยเป็น มท.1 สมัยอภิสิทธิ์ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร

ไม่เคยมีผู้จัดการรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ เช่นเดียวกับไม่เคยมีนายกฯ ควบรัฐมนตรีคลัตั้งแต่ยุค พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เมื่อปี 2523 โน้น

ไม่ใช่เศรษฐาไม่เหมาะสม แต่ทั้งสองตำแหน่งเป็นงานหนัก ยิ่งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ต้องทุ่มเทหามรุ่งหามค่ำ แม้ชดเชยด้วยทีมงาน รัฐมนตรีช่วย ก็ไม่เหมือนกัน

เพื่อไทยได้รัฐมนตรีกลาโหม แม้สุทิน คลังแสง ใจสู้ แต่ก็รู้กันว่าโครงสร้างปัจจุบันแทบทำอะไรไม่ได้ ประยุทธ์ แต่งตั้งทหารตำรวจไว้หมดแล้ว เพื่อไทยยังไม่ได้คุมมหาดไทย ฝ่ายปกครอง ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ถึงท้องถิ่น

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องอำนาจ แต่เป็นโอกาสสร้างผลงาน ทั้งการ กระจายอำนาจได้ใจท้องถิ่น และแก้ปัญหาสารพัดที่ประชาชนร้องเรียนผ่านจังหวัดอำเภอ

สส.เพื่อไทยหวังได้กระทรวงเกษตรฯ ด้วยซ้ำ เพราะนโยบายเพื่อไทย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” 3 เท่าใน 4 ปี เป็นหนึ่งในนโยบายเด่น ถ้าทำได้จะพลิกชีวิตเกษตรกร

หวังจะได้กิตติรัตน์ ปรากฏว่าได้ธรรมนัส ช็อกจนแช็ตไลน์หลุด

แต่ที่ประชาชนช็อกที่สุด Wrong Man Wrong Job คือศึกษาธิการ อุดมศึกษา

นี่ไม่ใช่ปรามาสภูมิใจไทย หรือ พล.ต.อ.น้องชายเนวิน แต่ภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ” หาเสียงไม่มีนโยบายการศึกษา ตัวบุคคลก็ไม่เคยแสดงความรู้ความเข้าใจ การศึกษาเป็นปัญหาใหญ่มาก ทั้งในแง่ต้องปรับการเรียนการสอนให้ทันโลก ทั้งในแง่โครงสร้างกระทรวงซึ่งยุ่งเหยิงบรรลัย

ครม.เพื่อไทย ถ้าเทียบตอนจะตั้งรัฐบาล 8 พรรค ตอนนั้นมีข่าวตกลงกันเบื้องต้น เพื่อไทยได้ต่างประเทศ คมนาคม เกษตร พาณิชย์ พลังงาน ท่องเที่ยว สาธารณสุข พัฒนาสังคม วัฒนธรรม ก้าวไกลได้กลาโหม มหาดไทย คลัง ศึกษา อว. ดีอีเอส ทรัพยากร แรงงาน อุตสาหกรรม

ก็เทียบดูแล้วกันว่าได้นายกฯ แล้วกำไรหรือขาดทุน

ภาพลักษณ์ ครม. แม้ยังไม่ใช่บุฟเฟต์คาบิเนต แต่เหมือนจับฉ่ายหรือแกงโฮะ ใส่น้ำชาบูหมาล่า จนกินไม่ได้ ครม.ผสมกันด้วยโควตา ทั้งระหว่างพรรคและในพรรค เช่นในเพื่อไทยเอง ก็มีโควตาคนที่ย้ายกลับมา คนที่ชวนมา แบบสมศักดิ์ สุริยะ เสี่ยแป้งมันโคราช กลุ่มกาญจนบุรี

มีโควตา “เยียวยา” ผู้ใกล้ชิด ผู้ได้รับผลกระทบจากรัฐประหาร 57 จากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไม่ว่ากัน ถ้าไม่ผิดที่ผิดทาง เช่นแทนที่จะตั้งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย กลับไปเอาทนายความคดีอาญา

คนทำงานให้พรรค คนเหมาะสมกับตำแหน่ง แทบไม่เหลือที่ทาง

นับไปนับมา ครม.ชุดนี้ ที่คุณสมบัติเหมาะสมตำแหน่งมีคนเดียวเท่านั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่เหลือบางคนยังต้องพิสูจน์ แต่หลายคนไม่ต้องพิสูจน์ สอบตกตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

เพื่อไทยเริ่มต้นด้วยเสียสัตย์ โพลความนิยมตกวูบ พอจัด ครม.ยิ่งร้องยี้ ที่คิดจะสร้างผลงานก็ผลักดันยาก เพราะอำนาจต่อรองน้อย มี 141+ประชาชาติ 9 ในรัฐบาล 314 เสียง โดยยังไม่พูดถึงอำนาจอนุรักษ์ครอบงำ

นโยบายสำคัญที่อยากทำอาจถูกสกัดขัดขวาง “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” ก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก “ปฏิรูปกองทัพ” กลายเป็น “พัฒนาร่วมกัน”

เงินหมื่นดิจิทัลคงได้ทำ แต่ก็ถูกตั้งคำถามมากมาย แทบไม่มีนักเศรษฐศาสตร์เห็นด้วย

“เศรษฐา 1” ไม่นานคงต้องปรับ ครม. หรือเปลี่ยนพรรคร่วม โดยมีประชาธิปัตย์เป็นอะไหล่

แต่ปรับใครออก ปรับเมื่อไหร่ ขึ้นกับเงื่อนไขหลายประการ เช่น สถานะทักษิณ, อำนาจ สว. โหวตนายกฯ ที่จะหมดใน 9 เดือน, กระแสกระหน่ำจากประชาชน

มองทางไหน เพื่อไทยก็ดิ้นยาก ทำสัญญาปีศาจไปแล้ว ผู้มีอำนาจและพรรคร่วมผลักเป็นหนังหน้าไฟ

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar