tisdag 30 mars 2021

ความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้เดินมาไกลมากแล้ว เกินกว่ามุ่งไล่ "หุ่นที่ถูกเชิด" แล้วการเคลื่อนไหวเพื่อลดเพดานข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่ออะไร?!?การเคลื่อนไหวเพื่อลดเพดานข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่ออะไร?!

ThaiE-News

ความขัดแย้งทางการเมืองวันนี้เดินมาไกลมากแล้ว เกินกว่ามุ่งไล่ "หุ่นที่ถูกเชิด" แล้วการเคลื่อนไหวเพื่อลดเพดานข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เพื่ออะไร?!?



พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
6h ·


มีการเคลื่อนไหวเพื่อลดเพดานข้อเรียกร้อง 3 ข้อของการชุมนุมเยาวชนและปชช.ให้เหลือแค่ขับไล่ประยุทธ์ในปัญหาล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ทั้งโดยทักษิณ พรรคเพื่อไทยกับแฟนคลับฮาร์ดคอร์ ล่าสุดคือจตุพร
นี่เป็นการเบี่ยงเบนแนวทางการชุมนุมไปเป็นเรื่องการบริหารปท.ของประยุทธ์เพียงคนเดียว แม้แต่ปัญหารธน.60 ก็พูดถึงน้อยลงๆ โดยโยนไปเป็นเรื่องหลังเลือกต็ั้งครั้งต่อไป
แต่ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ลอยๆ เขาเป็นแค่หนังหน้าไฟที่มีองคาพยพของระบอบเผด็จการทั้งชุดกำกับอยู่ ไล่ประยุทธ์1 ไปก็มีประยุทธ์2 ไล่ประยุทธ์2 ก็มีประยุทธ์3 ฯลฯ 

บทเรียนจากการไล่ถนอม-ประภาส ไล่เปรม ไล่สุจินดา ยังไม่พออีกหรือ? 

พวกที่ดันให้ลดเพดานมีจุดประสงค์อะไรถ้าไม่ใช่การเบี่ยงเบนเป้า สลายพลัง? 

ต้องการแค่เข้าไปร่วมกินโต๊ะจีนแบ่งปันอำนาจในระบอบนี้หรือต้องการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง?

ความขัดแย้งการเมืองวันนี้เดินมาไกลมากแล้วจากจุดเริ่มต้นปี 49 ไม่อาจหวนกลับได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถอยหลังไปปี 35 ที่มุ่งไล่นายกฯที่มาจากรัฐประหารแต่รักษาระบอบไว้แค่นั้น

#ยกเลิกม112 #เผด็จการจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ


นัดมวลชนรวมตัววันที่ 4 เม.ย.64 ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมเพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่า ถ้าเรายังอยู่ในสภาพบ้านเมืองแบบนี้ต่อไป ตนเชื่อได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ต้องต่ออำนาจอีก 4 ปี ดังนั้น การออกมาชวนประชาชน แม้เป็นเรื่องยากลำบาก แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ การเดิน การกำหนดจังหวะย่างก้าวต้องช่วยกันระดมความคิดกัน และต้องใจเย็นๆ สิ่งสำคัญคือ การแสดงอาการหวั่นวิตกที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนตนบอกได้ว่า ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ตนอยู่ในอุดมการณ์ อุดมคติในการต่อสู้ ส่วนใครมากล่าวหาตนนั้น การแสดงถึงความต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อไป เท่ากับตนไม่ได้ถูกหลอก
“เราเดินมาถึงปลายชีวิตแล้ว หากยังมองไม่เห็นปัญหาชาติ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ คือ ปัญหาของชาติ เราไม่รู้จะคิดอะไรกันแล้ว ผมก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการใช้กำลัง รุนแรงทั้งหลายด้วย”นายจตุพรกล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า วันที่ 4 เม.ย.นี้ หวังให้เราเป็นจุดเริ่มต้น แล้วระดมความเห็นเข้ามาอีก เราไม่ต้องารมัดมือชก ในการระดมความคิดเห็น แล้วค่อยเดินไปจนถึงจุดที่แข็งแรง เป็นฉันทานุมัติของประชาชนจึงสำแดงพลังกัน
#นายจตุพร #ประธานนปช #ประยุทธ์ออกไป #ข่าวการเมือง

 ......................................................................

(หมายเหตุ-บทพิสูจน์ "แกนนำ" ที่ไรัอุดมการณ์ ไร้ความจริงใจ ไร้ค่าไร้ราคา....

จตุพร พรมพันธ์ นักฉวยโอกาศสายตรงที่วังส่งมาแทรกแซงเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการต่อสู้เรียกร้องของประชาชน !!!่)

...............................................................................................

Somsak Jeamteerasakul


จตุพร พรหมพันธุ์ :
 

"เพื่อไทยจะต้องคิด.... อะไรคือสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ อะไรคือสู้ได้ #อะไรคือสู้ไม่ได้"
ผมบังเอิญเพิ่งดูคลิป "เบื้องลึก" ของคุณเทอดศักดิ์ เจียม ความจริงไม่ได้ดูคลิปเขามานานเป็นปีแล้วมั้ง เพราะแม้ทุกคลิปจะชื่อ "เบื้องลึก" แต่หาอะไรที่ "ลึก" จริงๆไม่ได้ บังเอิญเห็นเขาจั่วหัวเรื่อง "จตุพร เปลี่ยนไป" เลยสนใจฟังขึ้นมา เลยรู้ว่า เมื่อวานนี้ (19 สิงหาคม) "ไทยโพสต์ แทบลอยด์" ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว จตุพรพูดในลักษณะเหมือนจะขัดแย้งกับณัฐวุฒิ (ที่เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ทำนองว่า เพื่อไทยขาดทักษิณไม่ได้) โดยจตุพรพูดเป็นนัยๆเหมือนจะเสนอว่า ทักษิณควรถอนตัวจากเพื่อไทย
ตัวบทสัมภาษณ์ "ไทยโพสต์ แทบลอยด์" ของคุณจตุพรดังกล่าว อ่านได้ที่นี่ https://goo.gl/1sqTQx
สื่อที่แอนตี้ทักษิณ ทั้งไทยโพสต์เอง และทีนิวส์ เลยเอาคำสัมภาษณ์นี้มา "เล่น" กันใหญ่ (รวมทั้งคุณเทอดศักดิ์ ในคลิปที่ว่าด้วย)
ดูตัวอย่างไทยโพสต์ ที่ผมแค็พภาพมาให้ หรืออ่านตัวจริงที่ https://goo.gl/acRRBa
'จตุพร' มองต่าง 'ณัฐวุฒิ' แนะเพื่อไทยเอาทักษิณออกไป เตือนเล่นแบบเดิมระวังสะดุดหินก้อนที่สาม!"
ทีนิวส์ พาดหัว :
เดินคนละทาง? "จตุพร"สวน"ณัฐวุฒิ" ชัดวันนี้เดินคนละแนวทางกับระบอบ"ทักษิณ" (ไม่ได้แค็พภาพมา อ่านได้ที่นี่ https://goo.gl/YXGoz7)
และ
"จตุพร" ตกผลึกทางคิด เดินคนละแนวทาง “ทักษิณ” ตาม “สนธิญาณ”เคยฟันธง (อ่านได้ที่นี่ https://goo.gl/fGB9eC)
.....................
ความจริง ในบทสัมภาษณ์ "ไทยโพสต์ แทบลอยด์" (ซึ่งยาวมากๆ) ถ้าอ่านทั้งหมด คงพูดไม่ได้ว่าจตุพร "เปลี่ยนไป" มากอย่างที่สื่อข้างต้นพยายามนำเสนอ (ตัวจตุพรเองพูดไว้ตอนหนึ่งว่า "ผมก็ยังพูดคุยของผมเหมือนเดิม ผมไม่เคยเปลี่ยน") แต่ผมคิดว่ามีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างจริง อย่างน้อยในแง่ "โทนเสียง" หรือเนื้อหาที่พูดบางอย่าง (อันที่จริง ถ้าใครตามที่เขาสัมภาษณ์หลังออกจากคุก อาจจะพอสังเกตได้ว่า เหมือนๆกับมีอะไรเปลี่ยนไป แต่ไม่ได้ชัดเจน)
ประเด็นใหญ่ที่ไทยโพสต์-ทีนิวส์-เทอดศักดิ์ นำขึ้นมา "เล่น" ดังที่กล่าวข้างต้น คือเรื่องที่จตุพรเหมือนจะเสนอว่าทักษิณควรถอนตัวออกจากเพื่อไทย
สำหรับใครที่ขี้เกียจตามอ่าน ผมขอยกมาให้ดูดังนี้
.....................
[#ถาม] หากยังเป็นแบบเดิมคือมีคนในตระกูลชินวัตรขึ้นมาเป็นหัวหน้า นำพาพรรคเพื่อไทยต่อ ก็อาจเกิดปัญหาแบบเดิม?
[#จตุพร] เขาต้องคิดเอง เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่เขาก็ควรจะคิด คือถ้าเป็นภาษาสื่อมวลชนก็คือ เราไม่ควรจะสะดุดหินก้อนเดิมถึงสองครั้งติดต่อกัน สะดุดครั้งแรกก็โอเคเพื่อให้รู้ว่ามันมีก้อนหิน แต่สะดุดครั้งที่สองมันคนละอย่าง ไม่ควรสะดุดหินก้อนเดิมถึงสองครั้ง แต่ที่ผ่านมาก็เกินสองแล้ว เพราะฉะนั้นมันต้องคิด และต้องคิดให้มาก คือต้องข้าม อย่าไปห่วงเรื่องการเลือกตั้ง
(เมื่อ "ไทยโพสต์ แทบลอยด์" ยกที่ณัฐวุฒิเคยสัมภาษณ์ว่าเพื่อไทยขาดทักษิณไม่ได้)
[#จตุพรตอบว่า] ในมุมมองของผมต้องการให้การเมืองอยู่บนหลักการมากกว่าตัวบุคคล การเมืองถ้าผูกติดกับอุดมคติแนวทางอุดมการณ์มันจะยั่งยืน ส่วนตัวบุคคลสามารถถูกทำลายได้ มีขึ้นมีลง มีบวกมีลบ นี่คือโลกแห่งความจริงหนีไม่พ้น จึงควรต้องยึดแนวทางอุดมการณ์เป็นหลัก คือควรต้องนำบุคคลออกไป การตัดสินแนวทางอุดมการณ์ต้องเอาหน้าคนออกไป
และส่วนที่ผมเอามาจั่วเป็นหัวกระทู้ข้างต้น
[#ไทยโพสต์ถาม] มองเพื่อไทยวันนี้อย่างไร ต้องเปลี่ยนแปลงปฏิรูปอย่างไร
[#จตุพรตอบ] พรรคเพื่อไทยจะต้องคิดตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน จนถึงอนาคต และอะไรคือจุดแข็ง จุดอ่อน ต้องปฏิรูป....ก็ควรที่จะยกเครื่อง อย่างที่ผมบอกว่าถ้าเริ่มต้นแบบไหนก็จะจบลงแบบนั้น ปัญหาก็คือว่าอะไรคือปัญหา อะไรคือสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ อะไรคือสู้ได้ อะไรคือสู้ไม่ได้ มีหลายเรื่องต้องนำไปคิด แต่ผมคงไม่นำเสนอ แต่หากไม่เปลี่ยนแปลงเลย ไม่ปฏิรูปเลยก็จะจบลงแบบเดิม
[ขอให้สังเกตว่า "อะไรคือสิ่งที่แก้ไขไม่ได้....อะไรคือสู้ไม่ได้" เป็น "เอ๊คโค่" หรือ "เสียงสะท้อน" กับสิ่งที่ เสก โลโซ พูดและผมยกมาหลายวันก่อน]
.....................
ความจริง ประเด็นสำคัญหลักที่จตุพรเสนอในบทสัมภาษณ์คือ ทุกฝ่ายน่าจะมาพูดคุยกัน เพราะไม่เช่นนั้น เลือกตั้งไป ก็เกิดวิกฤติซ้ำอีก อาจจะมีการตายกันอีก (ซึ่งเป็นประเด็นที่เขาพูดตอนออกมาจากคุกว่า "จะแก้ก่อนตายหรือให้ตายแล้วค่อยแก้")
เรื่อง "คุยกันทุกฝ่าย" ให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไงกัน ผมบังเอิญนึกๆขึ้นมาและได้คุยกับเพื่อนบางคนเร็วๆนี้ ผมไม่แน่ใจว่าคุณจตุพรมีภาพอะไรในใจ (เพราะในบทสัมภาษณ์ที่ยาวมากนี้ เขาไม่ได้พูดรูปธรรมออกมาชัด) แต่ผมนึกถึงช่วงปลายปี 2553 - ต้นปี 2554 ที่มีการพบปะพูดคุยระหว่างตัวแทนอย่างน้อย 3 ฝ่ายจริง คือ ฝ่ายประชาธิปัตย์, ฝ่ายเพื่อไทย-นปช #และตัวแทนฝ่ายวัง ซึ่งมีส่วนสำคัญที่นำไปสู่การเลือกตั้งปี 54 แต่เรื่องนี้ คงต้องพูดกันอีกยาว ต้องไว้โอกาสอื่น
.....................
ในระหว่างอยู่ในคุก คุณจตุพรมีโอกาสได้รับการเยี่ยมเยือนและพูดคุยกับ "บุคคลสำคัญมาก" ผู้หนึ่ง ไม่แน่ใจว่า "น้ำเสียง" และเนื้อหาบางอย่างที่เปลี่ยนไปบ้างนี้ เป็นผลจากการได้พูดคุยนั้นหรือไม่เพียงใด (คนที่รู้จักเขาบางคนคิดว่าน่าจะมีส่วน)

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar