onsdag 30 november 2011

ไทย - เวียตนาม นายก ยิ่งลักษณ์ เยือนเวียตนาม

รูปภาพไทย-เวียดนาม ยกระดับความสัมพันธ์ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 35 ปี (30/11/2011)
วันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมคารวะนายเหวียน มิง เจี๊ยต ประธานาธิบดีเวียดนาม และหารือข้อราชการกับ นายเหวียน เติ๊น สุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม

เหี้ยหง่อยสี่ขาให้หมาจูง...... เหี้ยผีดิบฆาตกรแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย เพื่อรักษาบัลลังค์เลือดด้วยความบ้าคลั่ง โดยทำทุกอย่างด้วยการใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่ของตน เพื่อกลบเกลื่อนธาตุแท้ของความเป็นฆาตกรอำมหิต นี่คงจะเป็นลางบอกเหตุถึงวาระสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์ก่อนจะล่มสลายไปกับปีศาจผีดิบตาเดียว

รูปภาพ 

เมื่อคนชั่ว มุ่งร้าย ทำลายบ้าน
หวังรุกราน สิทธิชน คนทั้งผอง
ใช้กลเกม เล่ห์กล พวกตนครอง
ฉีกครรลอง แห่งวิถี อันดีงาม....

มันขีดเส้น เป็นแนว แล้วเหยียบมิด
สร้างจริต มารยา น่าเกรงขาม
หวังผงาด อวดตัว ทุกชั่วยาม
พวกเฮตาม ก็ชื่นชม อย่างสมใจ....

มันสร้างภาพ หลอกลวง เป็นบ่วงบาป
มันถูกสาป ยังเริงร่า ว่ายิ่งใหญ่
หวังขุดหลุม ฝังตน พร้อมคนไทย
หายนะ มันเข้าใกล้ ไม่รู้ตัว....

ช่างมืดมน หนทาง ทุกย่างก้าว
แผ่นดินร้าว ฟ้ามืดมิด ปิดสลัว
เดี๋ยวร้อน-หนาว เดี๋ยวฝน จนน่ากลัว
ใจสั่นรัว มองไป ไร้ทิศทาง....

ระบอบเหิ้ย ครองเมือง เรื่องวิบัติ
พวกใจสัตว์ วางแผนชั่ว หัวยันหาง
ต่างนั่งรอ ความฝัน อันเลือนลาง
หรือจะปล่อย ชาิติอับปาง ช่างหัวมัน....

๓ บลา / 30 พ.ย.๕๔ (บ่าย)


คุณ สิรวิชญ์  ขอต่ออีกชุด

ไอ้หน้าเหีัย เหี้ย เหี้ย ขึ้นเป็นใหญ่
ลุอำนาจ สั่งการไป ไร้เหตุผล
เพียงเพื่อครอง ซึ่งอำนาจ ของพวกตน
เหี้ยทุกตน เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ยจริง จริง

เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ย เหี้ยจริงหนอ
เหี้ยกำมะลอ เหี้ยทุกหน่วยงาน เหี้ยที่เกี่ยวข้อง
เหี้ยตัวผู้ แลตัวเมียตก นรกจอง
เหล่าทั้งผอง เหี้ย เหี้ย เหี้ย โดยสันดาน

เหี้ยแสนเหี้ย เหี้ยกลั่นแกล้ง แสร้งใส่ร้าย
มุ่งทำลาย คนที่ดี เพราะมือเหี้ย
พวกเหล่าเหี้ย รุมทึ้ง ถึงโลมเลีย
ไอ้หน้าเหี้ย แม่งมึงทำ ได้อย่างไร?

ขอเวรกรรม จงสนอง ไอ้พวกเหี้ย
ทั้งตัวเมีย ตัวผู้ ให้แสบสันต์
ตกนรก หมกไหม้ บรรลัยกันต์
ให้สะบั้น ไอ้-อีเหี้ย โดยเร็วพลัน

tisdag 29 november 2011

ถ้าประชาชนไม่โค่นล้มหัวหน้าปีศาจร้ายนักฆ่าแห่งลุ่มนํ้าเจ้าพระยาตนนี้ลง มันก็จะหลอกหลอนและคร่าชีวิตชาวไทยอยู่เรื่อยไป

ขุนเขาบอก :

มีเกิดก็มีดับ ก็แค่เรื่องศาลเพียงตาที่โจรมันตั้งบูชาก่อนออกปล้น....ก็แค่นั้น......

ทุกเขตรั้วบ้าน มีศาลพระภูมิ
เป็นที่มั่วสุม ของกลุ่มเทพไท้
มีสัมภเวสี แลผีจัญไร
มาอยู่อาศัย ตามใจศรัทธา

แต่ที่เล่าขาน คือศาลแห่งเจ้า
มันคือศาลเจ้า ที่เราเรียกหา
ศาลนี้ยิ่งใหญ่ ใช่ศาลธรรมดา
สั่งขังสั่งฆ่า นานกว่าห้าสิบปี

มีรูปบูชา นั่งหน้าแข็งขัน
สักเสกเลขยันต์ ไว้กันภูตผี
สุดแสนยิ่ง ใหญ่ในปฐพี
อำนาจฤทธี มีมากประมาณ

นฤบาลคนชั่ว กดหัวคนดี
ศาลเจ้าแห่งนี้ มีมาตรฐาน
คนดีมีชัย อยู่ได้ไม่นาน
ถูกสั่งประหาร คาศาลอธรรม

กฎหมายศาลนี้ มี112ข้อ
กฎแต่ละข้อ ก็แสนจะขำ
ห้ามหมิ่นท้องฟ้า ห้ามด่าผู้นำ
ห้ามเผยแพร่ซ้ำ ห้ามล้ำหัวกู

ห้ามจิตคิดร้าย ห้ามกายล่วงล้ำ
ห้ามการกระทำ ส่อเสียดเบียดถู
ห้ามกล่าวปราศรัย ห้ามใครด่ากู
ห้ามลบห้ามหลู่ พวกกูเทวดา

มีอีกหลายกฎ ยังไม่หมดศาล
กฎเสียกระบาล ขี้คร้านจะหา
เป็นกฎทรงไทย หัวใส่ชฎา
กฎหมายแห่งฟ้า เทวดาครอบครอง

เราเป็นแค่ไพร่ ได้แต่ก้มหน้า
หากแหงนมองฟ้า ถูกฆ่าสยอง
ศักดินาจัญไร มันมีไม้พลอง
เอาไว้ทุบถอง พี่น้องไพร่เลว

ก็แค่เรื่องเล่า เรื่องเจ้าเรื่องศาล
อย่าคิดคัดค้าน จะพาลลงเหว
ก็แค่ศาลโจร ของคนๆเดียว
จะดีจะเลว เดี๋ยวมันก็ตาย...........มีเกิดก็มีดับ ก็แค่เรื่องศาลเพียงตาที่โจรมันตั้งบูชาก่อนออกปล้น....ก็แค่นั้น......

คลิป " เพื่อไทยเตรียมนำคดี ๙๑ ศพ ฟ้องศาลโลก " โดย ดร. สุนัย ดร. นิติภูมิ ดร. จารุพรรณและ น้องเดียร์

ดร. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลวิจารณ์นางธิดาว่าออกแถลงการณ์ไม่ตรงกับความจริง

สมศักดิ์ เจียมฯวิจารณ์ธิดา

ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เขียนในเฟซบุ๊คว่า ไม่ได้อยากจะต้องมาคอยโต้แย้ง อ.ธิดา บ่อยๆ แต่ขอโทษเถอะว่า ถ้าอาจารย์เอาแต่ออกแถลงการณ์ที่ไม่ตรงความจริง และ ไม่เพียงพอ แบบนี้บ่อยๆ จะยิ่งชวนให้อาย ในฐานะทีชอบอ้างเป็น "กองหน้า" ของ "ขบวนการประชาธิปไตย" เปล่าๆ

แถลงการณ์วันนี้ ของ อ.ธิดา ที่เล่าเรื่องการไปยื่นหนังสือให้ ประชา เมื่อหลายวันก่อน มีข้อความ ที่ (ก) ไม่ตรงความจริง และ (ข) สะท้อน ความไม่เพียงพอ อย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน

ผมจะพูดเฉพาะ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้

(1) อ.ธิดา อ้างว่า "เป้าหมายทางยุทธศาสตร์" ของ นปช. "ไม่ต่างอะไรกับแนวทางนิติราษฎร" เรื่องนี้ ไม่เป็นความจริง ข้อความเต็มๆ ของ อ.ธิดา ในเรื่องนี้ (ซึ่งมีที่ "แขวะ" เป็นนัยๆ ถึงข้อวิจารณ์ของผมอยู่) มีดังนี้


"ถ้าคนที่ติดตาม นปช. ในการแถลงข่าวมาตลอดก็จะรู้เป้าหมายยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอยู่นานแล้วว่า ไม่ต่างอะไรกับแนวทางนิติราษฎร และเราก็แถลงสนับสนุนมาตลอด จนบางคนกล่าวว่าเราเอากลุ่มนิติราษฏรมาผูกโยงกับ นปช. รึเปล่า บางคนไม่เห็นด้วย แต่เราได้แถลงเป็นประจำถึงเป้าหมายยุทธศาสตร์ นโยบาย และภาระหน้าที่ของ นปช. ซึ่งเราต้องปฏิบัติตามหลักการนี้ ไม่ใช่เรื่องสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนกลุ่มใด แต่เราเดินไปตามหลักการที่วางไว้ และได้รับการเห็นชอบมาก่อนแล้ว เมื่อเป็นไปตามแนวเดียวกัน การพูดสนับสนุนก็เป็นธรรมดาที่พูดกันเป็นประจำ ปัญหาเรื่องสนับสนุนนิติราษฎรหรือไม่ จีงมีเฉพาะผู้ที่ไม่ติดตามเรื่องราวของเราเท่านั้น จีงไม่ทราบหรือทราบแต่ตั้งใจจะให้ร้ายป้ายสีก็เป็นได้"

ข้อความนี้ เต็มไปด้วย ความไม่จริง ดังนี้

(1.1) เฉพาะข้อเสนอในวาระ 19 กันยา ที่ผ่านมาของ นิติราษฎร์ มีจุดที่ ต่างกันอย่างชัดเจน กับสิ่ง นปช. ทำอยู่จนถึงบัดนี้ คือ

- นิติราษฎร์ เสนอให้ยกเลิกผลการรัฐประหาร ซึ่งมีนัยยะว่า จะต้องนำตัวผู้ทำรัฐประหาร มาลงโทษ สิ่งที่ อ.ธิดา พูดมาตลอดหลังจากการเสนอของนิติราษฎร์ ก็มีแต่เพียงเรื่อง "ทำความจริงให้ปรากฎ" ซึ่ง มีนัยยะ หมายถึงเฉพาะเหตุการณ์ปีกลายเท่านั้น (เพราะถ้าหมายถึง การรัฐประหาร มีอะไรที่ จะ ยัง "ไม่ปรากฏ" บ้าง ว่าใครเป็นคนทำ? คมช. ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ) ซึงแม้แต่เรื่องนี้เอง ณ ปัจจุบัน ก็ยังจำกัดแค่ "ทำความจริงให้ปรากฏ" เท่านั้น เรื่องลงโทษ อะไร ก็ไม่ได้เสนออย่างซีเรียสแล้ว (ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ นปช. ผูกอยู่กับ "นโยบายทางการ" ของรัฐบาล คือ "ปรองดอง" มากไป)

แต่ทีสำคัญ จะเห็นว่า นปช. ไม่เคยเรียกร้อง ให้ลงโทษ คณะรัฐประหาร 19 กันยา ตามที่ นิติราษฎร์ เสนอแต่อย่างใด

(1.2) ทีชัดเจนยิ่งกว่านั้น ในข้อเสนอของ นิติราษฎร์ มีข้อเสนอเรื่องแก้ไข 112 อยู่ด้วย นปช. นั้น อย่าว่าแต่หยิบยกเรื่อง 112 มาอภิปรายเลย แม้แต่ที่ตอนนี้ ออกมารวมเอา ผู้ต้องหา 112 เข้าไว้ด้วย ก็เป็นการเพิ่งมาทำเหมือนกัน (หลังสุรชัย สมยศ โดยจับ เป็นเวลาหลายเดือน นปช. มีท่าทีอะไรหรือ? เห็นมีแต่บรรดา "ลูกศิษย์" และ "ลูกน้อง" สุรชัย สมยศ ไปจัดชุมนุม จัดอภิปรายกันเองทุกสัปดาห์)

ขอย้ำว่า จนถึงบัดนี้ หลังจาก คนอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พากันเรียกร้องจนเรื่อง 112 กลายเป็น "วาระสาธารณะ" โดยเฉพาะในต่างประเทศ ทีกลายเป็นประเด็นทีไทยถูกวิพากษ์อย่างหนัก นปช. จึงค่อยๆ มา "แตะ" เรื่อง 112 แบบ น้อย มากๆ คือ แค่ "รวม" เอาผู้ต้องหา 112 เข้าไว้ในรายการทียื่นต่อประชา (และนี่ ก็ยังต้องทำ ภายใต้การอ้าง "คนอื่น" คือ คอป. ด้วยซ้ำ ไม่ได้กล้าพอจะเสนอเป็นข้อเสนอของตัวเองมาก่อนเลย)

ขอให้สังเกตด้วยว่า แถลงการณ์นี้ อ.ธิดา เขียนวันนี้ (29 พฤศจิกายน) ที่ กรณี "อากง" เป็นเรื่อง "ช็อค" ไปทั่วโลก และในไทยเอง อ.ธิดา ก็ไม่รู้สึกว่า เป็นเรื่องเหมาะสม ที่จะหยิบประเด็น 112 มาอภิปราย และชี้ให้เห็นความไม่เป็นธรรมของกฎหมายนี้ ทีทำให้เกิดกรณีอย่าง "อากง" ขึ้น

(1.3) "แนวทางนิติราษฎร์" นั้น พวกเขากล่าวไว้ชัดเจน (เช่นเดียวกับ บรรดา เสื้อแดงกลุ่มย่อยๆอื่น และเสื้อแดง ระดับล่างๆอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน) คือ การ "กลับไปหา 2475" แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม คือ ให้ถือ รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ของ คณะราษฎร เป็นแนวทาง

รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับดังกล่าว มีจุดสำคัญที่เด่นชัดอย่างหนึ่ง เมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญสมัยหลังๆ คือ ไมมีองคมนตรี

ปัญหา องคมนตรี นั้น จริงๆ แต่ไหน แต่ไร นปช. ไม่เคย เสนอเลย มีแต่ โจมตี องคมนตรีในแง่ตัวบุคคล ซึ่ง ก็ไม่ได้ทำมาเป็นปีๆแล้ว (ขออนุญาต เล่าอะไร "ส่วนตัว" เล็กน้อย ในต้นปี 2552 ผมพบกับพี่จรัล ซึงตอนนั้น เป็นแกนนำ นปช. คนหนึง ผมได้พยายามเสนออย่างจริงจังว่า แทนที่ นปช. จะเอาแต่ "ด่า เปรม" ควรเสนอให้แก้ไข รธน. หมวดพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะ คือ ยกเลิก ตำแหน่ง องคมนตรีเสีย แต่ พี่จรัล ก็ไม่ยอมรับ และ นปช. โดยรวม ก็ไม่เคยแตะ)

เฉพาะประเด็นองคมนตรี ประเด็นเดียว ก็ย่อมหมายถึงว่า ตาม "แนวทางนิติราษฎร์" จะต้องมีการแก้ไข "หมวดพระมหากษัตริย์" แน่นอน ซึงเป็นสิ่งที่ นปช. ไม่เคยแตะด้วยซ้ำ

ไม่ต้องพูดถึง "แนวคิด" ใหญ่ เกียวกับ "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" ที่เกิดขึั้น หลังรัฐธรรมนูญ คณะราษฎร เช่นกัน ซึ่งการที่ นิติราษฎร เสนอให้กลับไปสู่ รธน. คณะราษฎร ย่อมหมายถึง การต้องทบทวนแนวคิดนี้แน่นอน ...

ในประเด็น (1.2) และ (1.3) ที่เกี่ยวกับ 112 และสถานะของสถาบันกษัตริย์ในรัฐธรรมนูญ (ซึ่งมีเรื่องการไม่มีองคมนตรี เป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่ง) ผมจะไม่พูดละเอียดด้วยซ้ำว่า ไม่เพียง นปช. จะไม่พูด ไม่แตะ เท่านั้น วันดีคืนดี ดังทีรู้กันไปทั่ว นปช. ยังใช้ นโยบาย ให้การ์ด จับคนไปส่ง ตำรวจข้อหา 112 (จนมีคนโดนตัดสินติดคุกไปแล้ว อย่างน้อย 1 คน และเกือบจะโดนข้อหาอีกอย่างน้อย 1 คน) และวันดีคืนดี ยังออกมายืนยันเรื่อง "ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" ในลักษณะไม่ต่างจากอุดมการณ์ของพวก "อำมาตย์" ที่ นปช. โจมตี ด้วยซ้ำ

[ยังมีประเด็นใหญ่ ประเด็นที่ 2 ต่อ - ขออภัย ไม่มีเวลาเขียนให้จบครั้งเดียว และเห็นว่า ค่อนข้างจะยาวมากแล้ว คืนนี้ มีเวลา จะมาเขียนต่อ ประเด็นที่ 2 เกียวกับเรื่องที่ อ.ธิดา ไปยื่น ประชา ครั้งนี้ คือ การย้ายที่คุมขัง ฯลฯ]

*********

söndag 27 november 2011

นื้คือคำประกาศิตจากซาตานอำมหิต สั่งให้ศาลเลวใช้ ๑๑๒ จำคุก " อากง " ๒๐ ปี

ดุจเงา ความมืดดำ......ที่ตอกย้ำ อธรรมชั่ว
สีทอง เริ่มหมองมัว.....เติมหวาดกลัว คืบคลานมา
ด้วยแสง สุดแรงฤทธิ์.....อ้างถูกผิด แล้วตราหน้า
คำรัก เคยศรัทธา......ต้องเบือนหน้า เจ็บปวดใจ
เหมือนคลื่น ความบ้าคลั่ง......กระทบฝั่ง จนหวั่นไหว
เปิดโปง ประจานใคร......สว่างโร่ ทั่วพารา
เงามืด ยังปกปิด.......แผ่อำมหิต ทั่วแผ่นฟ้า
สันดาน ผู้มารยา......เผยดวงหน้า เหล่าทุรชน
ความดี ไม่เหลือซาก.....ปากต่อปาก เสียงด่าบ่น






เทวดา มายากล.......หลอกผู้คน ให้งมงาย
เหลือเงา ความมืดดำ......ยิ่งตกต่ำ ย้ำฉิบหาย
อับปาง รอชีพวาย......ด่าวดิ้นจม ทุกข์ทรมาน
ตาชั่ง เปื้อนรอยชั่ว.....สร้างหม่นมัว สมกล่าวขาน
อัปรีย์ คำบนบาน.......สนิมร้าย ประจานเมือง
๓ บลา / วันอาทิตย์สีแดง ๒๗ พ.ย.๕๔

ณ แผ่นดินแห่งเมืองสารขันธ์ ซึ่งกลายมาเป็น เมืองตอแหลแลนด์ แดนอัปรีย์ ที่ยังมีการปกครองแบบระบอบทาสภายใตัหัวหน้าคณะลิเกลวงโลกอัจฉริยะกำมะลอ ที่ใช้ลูกทาสสารเลว ๓ กลุ่มเป็นเครื่องมือ ...... ศาลเลว.....สื่อเลว...... นักวิชาการเลว ทำร้ายประเทศชาติและประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

ณ แผ่นดิน..เลื่องลือ..ชื่อตอแหล
ความจริงแท้..แดนมนุษย์..สุดน่าขัน
สังคมเมือง..เรืองไสว..วิไลวรรณ
คำโจษจัน..สวรรค์สร้าง..ต่างร่ำลือ....

ในโซเซียล..มีเม้นท์-ไล้ท์..ไว้แยกสี
ทั้งชั่ว-ดี..เลวระยำ..ทำไขสือ
นักแสดง..พวกดารา..หน้ากระบือ
ต่างยืมมือ..กดเม้นท์-ไลท์..ไว้ประจาน....

ถึงคราวยุค..มืดมน..จากคนรัฐฯ
ออกกฎมัด..เม้นท์-ไลท์..ให้ฟุ้งซ่าน
พอได้คืบ..จะเอาศอก..บอกสันดาน
เผยสามานย์..ซ้ำซาก..จากรัฐมนตรี....

ยุคบ้านป่า..แดนเถื่อน..เหมือนเมืองทาส
เติมอุบาทว์..ให้ผองชน..หม่นหมองศรี
ช่างสมชื่อ..ตอแหลแลนด์..แดนอัปรีย์
ชอบย่ำยี..ประชาราษฎร์..ใต้บาทตน....

๓ บลา / บ่าย ๒๗ พ.ย.๕๔

lördag 26 november 2011

ลดเลิก เพิกถอน ก่อนตาย.......... "กฎหมายเทวา" ซึ่งเป็นกฎหมายเถื่อนป้องกันบัลลังค์ของซาตานตาบอดอำมหิต

ขุนเขาบอก :

ลดเลิก เพิกถอน ก่อนตาย.......”กฎหมายเทวา”...

เหม่อมองฟ้า ข้านี้หรือ คือผู้ผิด
ถูกลิขิต ติดคุกนาน จากศาลสูง
เหนื่อยเหลือเกิน เดินไม่ไหว ไม้พยุง
อายุสูง ลุงถูกชี้ คดีแดง

เหนื่อยเหลือเกิน เดินไม่ไหว ไพร่ถูกเหยียด
แค่ส่อเสียด ถูกกล่าวหา ว่ากำแหง
เป็นแค่ไพร่ ไอ้ขี้ข้า อย่าตะแบง
ขาไม่แข็ง แรงอ่อนล้า อย่าค้าความ

ห้ามส่อเสียด ห้ามเกลียดข้า ไอ้หน้าไพร่
ข้ายิ่งใหญ่ ห้ามไอ้อี มีคำถาม
ต้องทับศัพท์ ต้องกำกับ สรรพนาม
พูดเหยียดหยาม ข้าไม่ได้ ไพร่จัณฑาล

แตกต่างกัน ท่านกับข้า ฟ้ากับเหว
หนึ่งแสนเลว หนึ่งแสนดี มีหลักฐาน
ท่านเพียงฟ้า ข้าธุลี มีสันดาน
อันธพาล ฐานหมิ่นฟ้า นภาพราย

สูงเทียมฟ้า มาเกลือกดิน ก็สิ้นศักดิ์
หมื่นคนภัค หากรักสูญ ก็บุญหาย
ไม่เกินร้อย อายุท่าน ประมาณตาย
สุดเสียดาย ตายเป็นผี มีคนชัง

เลิกเสียที คดีแดง ทีแบ่งฟ้า
เหยียดนภา ประชาชน โดนคุมขัง
ไร้เหตุผล คนถูกฆ่า คาบัลลังก์
อนิจจัง สังขารท่าน ไม่นานก็ตาย........... ลดเลิก เพิกถอน ก่อนตาย......”กฎหมายเทวา”.



fredag 25 november 2011

สนนท. แถลงรัฐควรยกเลิกมาตรา ๑๑๒

สนนท. แถลงกรณี 'อากง' ชี้รัฐควรยกเลิกมาตรา 112
Thu, 2011-11-24 20:08

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ออกแถลงการณ์เนื่องในกรณีการตัดสินคดี 'อากง' ส่ง SMS ชี้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่เป็นประชาธิปไตย แนะควรแก้ไขหรือยกเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าว

สืบเนื่องจากกรณีการตัดสินคดีของอำพล (สงวนนามสกุล) ที่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปีเนื่องในข้อหาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จึงได้ออกแถลงการณ์ว่าด้วยกรณีดังกล่าว โดยชี้ว่าการตัดสินดังกล่าวมีปัญหา เนื่องจากมีความคลุมเครือในการใช้พยานหลักฐาน ประกอบกับความไม่เป็นประชาธิปไตยของตัวบทกฎหมายของกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่มีหลักพิจารณาและมีโทษสูงเกินความจำเป็น สนนท. จึงได้เรียกร้องให้ทำการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายดังกล่าวด้วย

แถลงการณ์การตัดสินคดี ลุง sms มีความผิดหมิ่นสถาบันฯ จำคุก 20 ปี

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2554 ศาลเทเลคอนเฟอร์เรนซ์อ่านคำพิพากษานายอำพล(สงวนนามสกุล) หรืออากงฐานส่งข้อความทางโทรศัพท์หรือ SMS อันอาจเป็นการดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และหมิ่นประมาทใส่ความให้ร้ายสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทั้งหมด 4 ครั้ง ผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) และ (3) ลงโทษกรรมละ 5 ปีรวมจำคุก 20 ปี

ซึ่งการตัดสินคดีดังกล่าวมีปัญหา 2 ประเด็น โดยในประเด็นแรกคือปัญหาในด้านการตัดสินของศาลและประเด็นสำคัญคือปัญหาของประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 โดยจะอธิบายอย่างชัดเจนดังต่อไปนี้

1. ปัญหาในด้านการตัดสินของศาลที่มีความไม่ชัดเจนและยังคงคลุมเครือ ดั่งสำนวนส่วนหนึ่งในคำพิพากษาคดีที่ว่า "..แม้โจทก์จะไม่สามารถนำสืบพยานให้เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าจำเลยเป็นผู้ที่ส่งข้อความตามฟ้องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องดังกล่าว ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของนายสมเกียรติ แต่ก็เพราะเป็นการยากที่โจทก์จะสามารถนำสืบได้ด้วยประจักษ์พยาน เนื่องจากจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวย่อมจะต้องปกปิดการกระทำของตนมิให้บุคคลอื่นได้ล่วงรู้ จึงจำเป็นต้องอาศัยเหตุผลประจักษ์พยานแวดล้อมที่โจทก์นำสืบเพื่อชี้วัดให้เห็นเจตนาที่อยู่ภายใน.." จากส่วนสำนวนคำตัดสินคดีข้างต้นดังกล่าวจะเห็นได้ว่าแม้แต่ศาลยังยอมรับเองว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งทุกคนล้วนรู้ดีว่าหลักพื้นฐานคดีอาญาคือการพิสูจน์ให้สิ้นสงสัย ถ้าทำไม่ได้ต้องยกให้เป็นประโยชน์ของจำเลย แต่สิ่งที่ศาลได้กระทำคือการตัดสินคดีที่ไร้หลักฐานที่เพียงพอ เพียงเพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการจับขังนายอำพล แม้วิธีการจะไร้ซึ่งความชอบธรรมก็ตาม
2. ส่วนปัญหาของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นตัวบทกฎหมายที่ใช้อ้างอิงสาระสำคัญหลักในคดีนี้จะพบว่าผิดทั้งที่มาและความชอบธรรม ด้วยด้านที่มากฏหมายมาตราดังกล่าวมิได้มีความยึดโยงกับประชาชนของรัฐแม้แต่น้อยซึ่งผิดตามหลักนิติรัฐ-นิติธรรมดั่งอารยประเทศที่มีที่มาจากความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่กลับมีฐานที่มาจากรัฐธรรมนูญเผด็จการรัฐประหารทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยแม้แต่น้อย ส่วนในด้านความชอบธรรมกฏหมายสองฉบับดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อปิดปากผู้ที่คิดแตกต่างจากรัฐเท่านั้นซึ่งผิดตามหลักสิทธิเสรีภาพพลเมืองเท่าที่ควร

การวิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งของหลักสิทธิเสรีภาพซึ่งตั้งอยู่บนหลักของประชาธิปไตย ซึ่งการวิจารณ์ดังกล่าวต้องตั้งอยู่โดยเจตนาสุจริต มิได้เป็นการโจมตีหรือใช้ความเท็จทำให้เสื่อมเสียย่อมไม่สมควรโดนตั้งข้อหาเหมือนอาชญากร แต่หากการวิจารณ์นั้นทำไปโดยการจงใจให้เสื่อมเสียโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ก็สมควรได้รับโทษตามแบบโทษหมิ่นประมาททั่วไปไม่ใช่โทษอาชญากรเช่นเดียวกับโทษของประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ส่วนในด้านโทษของคดีดังกล่าวถือได้ว่าร้ายแรงเทียบเท่ากับคดีฆาตกรรมก็ว่าได้ เนื่องด้วยโทษจำคุกมากถึง 20 ปี ถือกันว่าเอากันตายเลยทีเดียว และเพียงการส่งข้อความทางโทรศัพท์หรือ sms ดังกล่าว ใครอาจส่งก็ได้ เช่น เพื่อน พ่อแม่และคนอื่นๆ ดังนั้นแล้วความชัดเจนของการตัดสินที่ยังคงคลุมเครือ

จากการตัดสินคดีดังกล่าว เราในนามสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ขอคัดค้านและขอประนามการกระทำดังกล่าวที่ไม่ได้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพและหลักนิติรัฐ-นิติธรรม และมีข้อเสนอต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนดังต่อไปนี้

1.  ควรมีการพิจารณาตัดสินคดีที่มีความชัดเจนและไร้คลุมเครือ เช่น หลักฐานที่ใช้ประกอบคำตัดสิน เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีต่อไป เพราะจากคดีดังกล่าวที่มีความไม่ชัดเจนและคลุมเครืออันจะนำไปสู่บรรทัดฐานที่ผิดในทางตุลาการไทย
2.  จากโทษที่ใช้ในการตัดสินดังกล่าวเปรียบเสมือนดคีฆาตกรรมซึ่งมีความร้ายแรง ปรากฎจากศาลสั่งจำคุก 20 ปี ซึ่งเปรียบได้กับอีกครึ่งชีวิตที่ควรอยู่ ดังนั้นควรพิจารณาตัวบทกฏหมายใหม่และลดโทษในกฏหมายอื่นๆเพื่อเป็นแบบอย่างของประเทศที่เจริญในด้านการตุลาการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความศิวิไลซ์ของรัฐ
3.  ควรยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพราะเป็นมาตราที่มีปัญหาทั้งด้านที่มา ความชอบธรรม และการนำไปใช้ เพราะสามารถถูกนำไปใช้ทุกสถานการณ์ สามารถนำไปใช้กับศัตรูได้และการอ้างที่สามารถฟ้องโดยใครก็ได้ ทั้งที่หลักฐานประจักษ์พยานไม่เพียงพอก็สามารถฟ้องได้ สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้จากวงการตุลาการไทยเลยแม้แต่น้อย

จากแถลงการณ์และข้อเสนอดังกล่าวจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคงตระหนักถึงความไม่สมบูรณ์ของวงการตุลาการซึ่งเป็นส่วนสำคัญในระบอบประชาธิปไตย และขอเป็นกำลังใจให้นายอำพลยืนหยัดสู้ต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
24 พฤศจิกายน 2554

การปรองดองกับภูมิพล กษัตริย์จอมเผด็จการเป็นการยอมจำนนต่อหัวหน้าโจรอำมหิตเพราะไม่มีสัจจะในหมู่่โจร ถ้าพื่น้องฝ่ายประชาธิปไตยยอมจำนนก็จะถูกหัวหน้าโจรสั่งฆ่าต่อไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีทางเดียวคือประชาชนต้องรวมตัวกันลุกขึ้นมาโค่นล้มกษัตริย์จอมเผด็จการลง

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง อวสานปรองดอง

โดย กาหลิบ


แนวคิดปรองดองเป็นเรื่องจอมปลอมมาตั้งแต่ต้นสำหรับผู้สังเกตการณ์การเมืองที่เอาจริงเอาจังและไม่หลอกตัวเอง แต่เมื่อคำพิพากษาในคดีของนายอำพล ตั้งนพกุล ผู้ที่ชาวประชาธิปไตยเรียกขานอย่างเคารพและเห็นใจว่า “อากง” ปรากฏขึ้น ความจอมปลอมก็กลายเป็นการหลอกลวงอย่างสมบูรณ์

“อากง” ในวัย ๖๑ ปี ถูกพิพากษาให้จำคุก ๒๐ ปี เพราะส่งข้อความผ่านระบบ SMS รวม ๔ ครั้งไปยังโทรศัพท์ของลูกน้องคนหนึ่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ข้อความเหล่านี้ถูกชี้โดยศาลว่าเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ บวกด้วยฐานความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ในที่สุด “อากง” ก็ต้องคำพิพากษาให้รับราชทัณฑ์รวม ๔ กระทง กระทงละ ๕ ปี รวมทั้งสิ้น ๒๐ ปี

“อากง” มีสิทธิ์ยื่นขออุทธรณ์ภายใน ๓๐ วันก็จริง แต่ความโหดเหี้ยมที่เกิดขึ้นในกระบวนการขั้นแรกก็ทำให้มวลชนประชาธิปไตยรู้สึกถึงรสขมในปากและลำคอ จนไม่ปรารถนาจะพึ่งพากระบวนการ “ยุติธรรม” ที่เหลืออีกต่อไป

ใครที่ยังหลงละเมอกับ “การปรองดอง” และ “ความยุติธรรม” ในระบอบปัจจุบัน ถึงเวลาตื่นจากฝันและดื่มด่ำความจริงจากคดีของ “อากง” ได้แล้ว

“อากง” คือบุคคลสามัญธรรมดา ไม่ใช่ผู้นำการเมืองและไม่ใช่แม้กระทั่งนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ความรู้ในเครื่องมือสื่อสารและเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็จำกัด อายุอานามก็กว่าหกสิบปี เป็นเพียงชายในวัยเริ่มชราคนหนึ่งที่เจ็บปวดกับความไม่ถูกต้องของบ้านเมืองและประสงค์จะแสดงสิทธิความเป็นคนของตนเองตามเสรีภาพที่เผลอคิดว่าตัวเองมีอยู่เท่านั้น

แกคงเหมือนคนไทยอีกหลายล้านคน ผู้เคยเชื่อในความดีงามของระบอบเก่าๆ และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่เขียนประกันสิทธิและเสรีภาพไว้อย่างหรู

คนไทยใจบริสุทธิ์เหล่านี้คงยังมีอีกมาก มิฉะนั้นเหยื่อทมิฬของระบอบเก่าในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงคงจะไม่มากเต็มเมืองถึงขนาดนี้

ในชั่วโมงนี้ข่าว “อากง” กำลังแพร่สะพัดไปตามสื่อระดับโลกอย่างรวดเร็ว เพราะเครือข่ายข่าวที่เราช่วยกันสร้างขึ้นมาด้วยใจ สำนักข่าวฝรั่งเศส, BCC, CNN ฯลฯ เพิ่งจบสิ้นการรายงานข่าวชิ้นแรกของ “อากง” ออกไปสู่โลก และจะมีรายงานข่าวตามมาอีกมาก ทุกรายงานเน้นน้ำหนักที่ความรุนแรงที่ปรากฏในคำพิพากษา

คดีของ “อากง” อาจจะเป็นเส้นแบ่งที่สำคัญของสังคมไทยในอนาคตอันใกล้ เพราะเป็นหลักฐานอันชัดเจนว่าหนทางปรองดองมิได้นำไปสู่ความสงบสุขของสังคมไทยเลย

คอลัมน์หายไปนานหลายสัปดาห์ เพราะติดตามสถานการณ์น้ำการเมืองที่ไหลท่วมคนจนและผู้ที่เริ่มตั้งตัวขึ้นมาด้วยกิจการขนาดเล็กและกลางอย่างที่เรียกกันว่า SMEs อย่างใกล้ชิด จนสรุปได้ว่าคนที่เป็นเจ้าพ่อน้ำเมืองไทยอยู่คนเดียวเป็นคนขนาดไหน น้ำที่เก็บไว้อย่างจงใจเจตนาและการวางแผนอันแยบยลร่วมกับหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจที่จงรักภักดีต่อตัวเขาจนไม่ฟังรัฐบาลของประชาชน ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือประหัตประหารอย่างเลือดเย็นเมื่อพบว่าตัวเขารู้สึกว่ากำลังสูญอำนาจเบ็ดเสร็จไปทีละน้อยๆ ตามวัฏสงสารและสันดานชั่วร้ายของตนเอง

มาตรการหลายอย่างในฝ่ายประชาธิปไตยจึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อให้สมกับความเหี้ยมโหดของคนสั่งการทำลายและทำร้ายประชาชน แต่ก่อนการประดาบกันในแง่มุมนั้นจะเกิดขึ้น คดี “อากง” ก็ปรากฏขึ้นเสริมสถานการณ์อย่างสอดคล้องต้องกัน

เหมือนฟ้าดินจะช่วยฉีกกระชากรูปทองให้ออกจากตัวเป็นๆ ของเขาให้ทันใจ

ขอให้พี่น้องไทยทั่วโลกและครอบครัวญาติมิตรที่เป็นคนชาตินั้นๆ ช่วยรวมตัวประท้วงให้ปรากฏชัด ณ สถานเอกอัครราชทูต หรือ สถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศและเมืองต่างๆ โดยเอาตัวอย่างจากคดี “อากง” เป็นคำอธิบายต่อคนที่ยังไม่เข้าใจในปัญหาวิกฤติไทย สื่อสากลทั่วโลกซึ่งเริ่มเข้าใจว่าผู้ร้ายแห่งการเมืองไทยตัวจริงคือใคร คงจะเข้าช่วยเหลือเผยแพร่กิจกรรมของท่านเพื่อเร่งปฏิกิริยาในระดับสากลต่อไป

ดิ้นรนทำลายตัวเองนักก็ดีแล้ว ขอประกาศรับลูก ณ บัดนี้.

---------------------------------------------------------------------------------

torsdag 24 november 2011

ขอแสดงความรำลึกในวันครบรอบ ๒ ปีที่ท่านอดีตนายกสมัคร สุนทรเวช ได้จากไป



จากใจ "สมัคร สุนทรเวช" ถึง "ฟ้า"

เสมือนสวมพระเครื่องอันเรืองเวทย์
ประนมเดชมอบดวงใจให้ทุกสิ่ง
แต่องค์พระ กลับเข้าช่วงชิง
จนได้รู้ความจริงอันเจ็บใจ

สิ่งที่สูงกลับต่ำนั้นดำเนตร
ใจสมัครสุนทรเวชจึงหมองใหม้
เฝ้าจงรักภักดีมิรู้คลาย
ขอกัดฟันลาตาย? ไม่ถวายพระพร

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ของประเทศไทย (ผู้ประพันธ์)
มอบให้ในอุ้งมือคุณหญิงภรรยาของท่านไว้ก่อนสิ้นใจไม่นาน

ไม่มีแล้วเทวดาบนฟ้านี้ ...... คือความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจคนไทยเกือบทั้งประเทศในวันนี้ที่มีแต่ความเจ็บปวดและเคียดแค้นชิงชังทับถมขึ้นเป็นทวีคูณ จากพลังแค้นนี้จะทำให้ประชาชนลุกขึ้นโค่นล้มระบอบเทวดาลงให้สิ้นไปจากแผ่นดินไทย

ไม่มีแล้วเทวดาบนฟ้านี้...

เมื่อสิ้นรักหักสวาทขาดสะบั้น
ก็สิ้นชาติขาดกันแต่เพียงนี้
ที่เคยหลงจงรักและภักดี
มาบัดนี้ไม่มีเยื่อไม่เหลือไย

เห็นกงจักรเป็นดอกบัวชั่วชีวิต
เคยหลงผิดถึงขั้นตายแทนได้
หลงตามลมชวนเชื่อทุกเมื่อไป
บัดนี้ไทยตาสว่างเห็นทางธรรม

เมื่อสิ้นรักหักสวาทขาดสะบั้น
ก็จบกันเลิกเลี้ยงชุบอุปถัมภ์
จะตอบแทนให้สาสมโสมมระยำ
ให้หลาบจำกรรมชั่วต้องชดใช้!

ไม่มีแล้วเทวดาบนฟ้านี้
และไม่มีเหนือมนุษย์ฉุดรั้งได้...
ประเทศชาติประชาชนประชาธิปไตย
คือหลักชัยไทยทั้งชาติประกาศทวง


โดย ปีกซ้าย

onsdag 23 november 2011

การตัดสินลงโทษจำคุก " อากง " ๒๐ ปี เป็นการตัดสินภิพากษาโดยใช้กฏหมายเถื่อนไม่มีในสารบบกฏหมายยุติธรรมที่ใช้ปกครองในประเทศที่เจริญแล้ว ขบวนการของเราจึงขอเรียกร้องมายังรัฐบาลไทย โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ต้องรีบให้สัตยาบันรับรองสนธิสัญญากรุงโรม เพื่อนำคดี 91 ศพสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ คนส่วนมากที่รักความยุติธรรมทั้งในและต่างประเทศ ต่างก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกับอาจารย์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กรณีการตัดสินคดี "อากง"

จากหน้าเฟสบุ๊ค อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

" ผมเข้าเน็ตประมาณช่วงเที่ยงๆ เพื่อเช็คข่าวว่า ผลการตัดสินคดี "อากง" เป็นอย่างไร

พอเห็นข่าว พูดไม่ออกเลย

ทั้งเศร้าลึกๆ และโกรธ มากๆ ผสมกันไป

จนร้องไห้อยู่พักนึง (ครับ ผุ้ชายก็ร้องครับ)

เขียนอะไรไม่ออก ที่อยากเขียนขึ้นมาทันทีในใจ ก็คงเขียนออกมาไม่ได้

สงบสติอารมณ์ อยุ่ครึ่งวัน (อ่านหนังสือ สุบหรี่ ดูน้ำเน่าหน้าบ้าน ฯลฯ) จนเมือครู่นี้ จึงนึกคำออกมาได้เท่านี้ ดังที่โพสต์ข้างล่าง

ยังไม่ใช่ที่อยากจะพูดจริงๆหรอก แต่มีปัญญาพูดได้เท่านี้

ศาล " เหี้ยมหาทรราช " ตัดสินจำคุก " อากง " ๒๐ ปี คดีหมิ่น ๑๑๒ ทีปราศจากหลักฐานที่ชัดเจน แต่คดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดหมิ่นกษัตริย์ ยึดทำเนียบ ยึดสนามบินนาๆชาติมีหลักฐานพยานอย่างชัดเจน ศาลกลับยกฟ้อง นื่คือระบบ " ศาลเหี้ยสั่งฆ่า " ของกษัตริย์เผด็จการ ! ! สั่งฆ่าโดยตรง ๙๑ ศพ บาดเจ็บอีกมากมาย ปล่อยนํ้าท่วม ๕๐๐ กว่าศพ ใช้มาตรา ๑๑๒ จับขังคุกอีกเท่าไหร่ แล้วยังจะเอาระบอบกษัตริย์เผด็จการไว้ฆ่าคนต่อไปอีกหรือ !!

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา รัชดา วันนี้ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายนายอำพล (สงวนนามกุล)
อายุ 61 ปี หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “อากง” ซึ่งถูกฟ้องว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
โดยข้อกล่าวหาว่าส่งเอสเอ็มเอสที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยังโทรศัพท์
ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี

ศาลพิพากษ์ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
และพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14 อนุ 2 และ 3
"ลงโทษจำคุก 20 ปี"

ทั้งนี้ ศาลใช้วิธีอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอรเรนซ์
เนื่องไม่สามารถนำตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาได้เพราะน้ำท่วมเรือนจำ
หลังฟังคำพิาพากษา ภรรยา ลูกและหลานๆ ของนายอำพลพากันร่ำไห้
ขณะที่มีประชาชนผู้สนใจคดีดังกล่าวร่วมฟังคำพิพากษาราว 30 คน
รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

måndag 21 november 2011

กษัตริย์หนุ่มนักประชาธิปไตยแห่งภููฏานและพระราชินี เสด็จ ฯ เยีอนประเทศไทย โปรดสังเกตุความเรียบง่ายของกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย กับระบอบของกษัตริย์เผด็จการไทย

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏานพร้อมพระชายา เสด็จฯ เยือนประเทศไทย

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:14:09 น.


รูปภาพ


รูปภาพ


น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี เข้าเฝ้าและรับเสด็จฯ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วยพระชายา สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เนื่องในโอกาสเสด็จฯ เยือนประเทศไทย พร้อมร่วมแสดงความยินดีในโอกาสอภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้จัดเลี้ยงถวายอาหารกลางวันแก่ทั้ง 2 พระองค์ ที่โรงแรมเอ็มโพเรียม สวีต เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน

ฉากสุดท้ายขององค์ราณี มเหสีขององค์ราชันย์แห่งเมืองสารขันธ์ หัวหน้าคณะลิเกลวงโลก

 เรื่องเล่าเคล้านิยาย  กับสายวารี......." ราณีแห่งราชันย์  " .......
 
ขุนเขาเล่านิยาย :

เรื่องเล่าเคล้านิยาย กับสายวารี.....

ร่าย.....
กาลครั้งหนึ่งเนิ่นนาน ณ.เมืองบาดาลเมืองหนึ่ง
คนบูชาศิวะลึงค์ ไม่คำนึงถึงศาลสูง
พระราชาเดินไม่ได้ ต้องมีไม้เดินพยุง
มเหสีดั่งนกยุง แม้นอยู่สูงมุ่งกามา…………

กลอน............
ครองบัลลังก์ ดั่งฟ้า มาเนิ่นนาน
ปกครองเมือง บาดาล นานหนักหนา
พระราชา องค์นี้ มีปรีชา
เป็นสุดยอด ราชา แห่งราชันย์

แต่กระไรไพร่ฟ้า หน้าหม่นหมอง
ไม่ปรองดอง เช่นเมืองฟ้า เมืองสวรรค์
ต่างรุกเร้า เข้าห้ำหัน กันและกัน
ไพร่โทรจัน เข้าพันตู สู้ศักดินา

หัวระแหง แดงเดือด ด้วยเลือดไพร่
เลือดหลั่งไหล ไพร่ตายจาก มากหนักหนา
สีเหลืองแดง แบ่งแยกสี แบ่งฎีกา
พระราชา ข้านี้ไซร์ ไม่เหลียวแล

คนชั่วช้า เป็นกาฝาก มากสำนัก
คนสูงศักดิ์ ตำหนักล่าง สร้างกระแส
จากขี้ข้า มาเป็นนาย สบายแฮ
ไพร่แท้ๆ แค่เพียงดิน สิ้นทางเดิน

ฝ่ายราณี ผู้มีศักดิ์ ยังมักมาก
มิอาจพราก จากกามกล จนห่างเหิร
แปรจากร่าง ข้างราชันย์ แยกกันเดิน
สราญเพลิน เจริญกาม นามระบือ

ฤาถึงกาล บาดาลเมือง ต้องเปลื้องผ่าน
บริบาล ทานไม่ไหว กระไรหรือ
เมืองจะล่ม จมโลกันต์ กระนั้นฤา
คำเล่าลือ กระพือนั้น มันจะจริง

ร่ำลือกัน วันที่ดิน สิ้นราชา
เมืองธารา คทาถือ ด้วยมือหญิง
น้ำแห้งหาย ลายที่เร้น จักเป็นจริง
สรรพสิ่ง จักสิ้นลับ กับราชันย์............เรื่องเล่าเคล้านิยาย กับสายวารี.....

söndag 20 november 2011

นี้คือนารีขี่ม้าขาวตัวจริง ไม่เหมือนนางอึ่งอ่างปลาวาฬยักษ์ที่อวดอ้างว่าตัวเองเป็นหงส์ทองสูงศักดิ์ แต่ที่จริงเธอคือนางกากีบ้ากาม


โดย ตะขบดอง

: น้องสาวสวยคนเล็ก
@แพ้ชนะ กันเด็ดขาด คงไม่ใช่
แต่ต่อไป ฝ่ายเรา คงแข็งขัน
ฝ่ายโน้น มีแต่แก่ ลงทุกวัน
แถมขยัน ทำแต่เลว ใครจะแล

@กระแสโลก เป็นประชา ธิปไตย
หน้าไหน จะมาสวน ทวนกระแส
บ้านเมืองต้อง อยู่ด้วย ขื่อและแป
อำมาตย์เน่า รอวันแพ้ ทุรนทุราย


ความเป็นอัจฉริยะที่แท้จริงของ อดีตท่านนายกทักษิณที่เสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน นอกจากนั้นยังได้สร้างความเจริญให้แก่ชาติบ้านเมือง ประชาชนมีการกินดีอยู่ดี มีงานทำมีการศึกษาที่เท่าเทียมกัน เป็นผู้วางรากฐานประชาธิปไตยให้แก่สังคมไทยทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก เปรียบเทียบกับเหี้ยอัจฉริยะกำมะลอ ที่เป็นตัวการขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองของชาติมาอย่างยาวนาน เป็นตัวการที่ปล่อยนํ้าท่วมทำลายประเทศชาติเสียหาย ประชาชนเดือดร้อนล้มตายไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีงานทำ นอกจากนั้นยังสั่งฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยอย่างป่าเถื่อน

จม.จากทักษิณขอให้ลืมเรื่องเก่าๆ และไม่ขอรับอภัยโทษ


ทักษิณเขียนจดหมายไม่ขอรับการอภัยโทษ เชื่อรัฐบาลจะไม่ทำการใดๆ ที่ให้ประโยชน์แก่ตนหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ชี้ช่วงนี้ต้องนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤตจากน้ำท่วมใหญ่เท่านั้น วอนผู้สนับสนุนอย่าได้ผิดหวัง "เมื่อแสงแห่งธรรมปรากฎ" ทุกอย่างจะจบเอง บ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้
วันนี้ (20 พ.ย. 54) นายนพดล ปัทมะ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เขียนด้วยลายมือ จากเมืองดูไบ สหรัฐสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผ่านเฟซบุค โดยเนื้อหาในจดหมายยืนยันที่จะไม่ขอรับประโยชน์จากการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวมี เนื้อหาดังนี้
พี่น้องไทยที่เคารพรัก เนื่องด้วยขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตจากปัญหาน้ำท่วม ผมเป็นห่วงและต้องการให้ประเทศและพี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ว ซึ่งต้องการความสามัคคีปรองดองภายในชาติ จึงจะร่วมกันฟันฝ่าภัยธรรมชาติในครั้งนี้ได้
ผมขอสนับสนุนทุกมาตรการที่จะนำไปสู่ความปรองดองในชาติและไม่อยากเห็นความ พยายามใดๆ ที่จะทำให้บรรยากาศนี้เสียหาย และผมพร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัว ทั้งๆที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมมากว่า 5 ปีแล้ว เพื่อพี่น้องประชาชนผมจะอดทน
จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 ปี จึงมีข่าวว่าอาจจะมีผมรวมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่า รัฐบาลจะไม่ทำการใดๆที่ให้ประโยชน์แก่ผม หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำใดๆในช่วงนี้ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤต จากภัยธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่เท่านั้น
อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด และผมก็มั่นใจว่าท่านนายกฯของเรามีแนวคิดและความตั้งใจเช่นเดียวกับผม


สำหรับพี่น้องที่สนับสนุนผม ห่วงใยผม ก็ขออย่าได้ผิดหวังเพราะเมื่อแสงแห่งธรรมปรากฎทุกอย่างจะจบเอง เพราะบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้


ท้ายนี้ผมขอเรียกร้องทุกฝ่ายที่รักชาติบ้านเมืองจริง ต้องรู้จักคำว่า "FORGIVE AND FORGET" คือรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกันลืมเรื่องเก่าๆ เข้าสู่มิติใหม่ของวันพรุ่งนี้เพื่อบ้านเมืองและลูกหลานเราครับ

บทกลอนเปิดโปงแผนชั่วของปีศาจอัจฉริยะกำมะลอ คิดว่าหงส์จึงได้หลงด้วยลายย้อม ช่างแปลกปลอมท่วงทีดีนักหนา แท้เป็นเหี้ยเรี่ยดินสิ้นราคา ปลอมมหาวารีขยี้คน

ขุนเขาบอก :


ก็แค่ของปลอมที่ไร้ราคา.......


การวางแผน ที่เหนือแผน คือไร้แผน
แผนซ้อนแผน หากไร้แผน แสนสับสน
แผนลึกล้ำ สักเพียงได หากไร้คน
ไร้มวลชน คนร่วมแผน แสนยากเย็น


ความขัดแย้ง ที่แบ่งไทย ใครผู้เริ่ม
คุณผู้เพิ่ม เติมเชื้อไฟ ใครก็เห็น
คุณเชื้อเจ้า เขาแค่ไพร่ ไยเลือดเย็น
คนเขาเห็น คุณเข่นฆ่า ประชาชน


ทุกเหตุการณ์ ที่พานพบ ทุกศพร่าง
คุณผู้พราง วางแผนสร้าง อย่างฉ้อฉล
สร้างภาพเห็น เป็นรูปร่าง อย่างแยบยล
เหมือนใช่คน คุณปล้นฆ่า ประชาไทย


ใช้ตัวช่วย สวยแต่รูป จูบไม่หอม
ภมรตอม ดอมดมรูป จูบไม่ไหว
เสื่อมทั้งคน หม่นทั้งรูป จูบยังไง
ชนชาวไทย ใช่ม้าลา ขี้ข้าคุณ


เลิกหลบเร้น เป็นมือผี ผู้มีศักดิ์
ผู้บุญหนัก แต่หักหาญ ปานสถุล
เหยียบย่ำคน จนดั่งไพร่ ไร้สกุล
ให้เทิดทูล คุณผู้นำ กำมะลอ


อภัยได้ อภัยเถิด ประเสริฐล้น
ค่าของคน คุณปล้นได้ เยี่ยงไรหนอ
หลายขวบปี ที่คุณได้ หรือไม่พอ
หรือต้องรอ ให้เวรกรรม กระทำตน


การวางแผน ที่เหนือแผน คือไร้แผน
เขาเปลี่ยนแค้น เป็นแรงใจ ใช้เหตุผล
เพิ่มความรัก ความเข้าใจ ในตัวตน
รวมมวลชน คนรักเขา เข้าต่อกร


ริดคำสอน รอนคำสั่ง ที่ฝังใจ
ปลุกคนไทย ให้รักกัน บั่นคำสอน
ลบภาพสร้าง ร่างภาพนั้น นิรันดร
คือขั่นตอน แผนที่สร้าง อย่างแยบยล


โอ้สิ้นแล้ว ไม่แคล้วตาย หายนะ
แพ้ชนะ อยู่ที่แผน แสนฉงน
ความพ่ายแพ้ เกิดแก่เรา เจ้าแห่งคน
หนีไม่พ้น โดนตราหน้า “เทวดาปลอม”..........ก็แค่ของปลอมที่ไร้ราคา.......

lördag 19 november 2011

ขอแนะนำ บทวิเคราะห์การเมืองที่น่าสนใจสำหรับผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทั้งหลาย โดยปูนนก

เหตุการณ์นับตั้งแต่ท่านนายกยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารงานเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน ถ้าพิจารณาในแง่มุมต่างๆ อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน จะเห็นได้ว่า การขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ในแต่ละย่างก้าวทั้งฝ่ายเพื่อไทย (อนุมานว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย... ชั่วคราว) และฝ่ายต่อต้าน (อนมานว่าเป็นฝ่ายเผด็จการอมาตย์...ถาวร) ล้วนเป็นการต่อสู้กันทางการเมืองอย่างเอาเป็นเอาตาย และแหลมคมทุกช็อต ทุกเม็ด...

ทันทีที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์เข้ามารับตำแหน่ง.. น้ำก็เริ่มท่วม.. ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประเทศและประชาชนเรียกได้ว่าถึงขั้น “หายนะของประเทศ” เพราะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันเกือบทั่วทั้งประเทศ และเขตเศรษฐกิจอีกนับไม่ถ้วน..

คลื่นแห่งความสูญเสีย, ความขัดแย้ง และการกล่าวหาถาโถมเข้าใส่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ อย่างชนิดที่ปัดป้องไม่ทันตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง ท่านนายกและทีมงานต้องระดมสรรพกำลังอย่างเต็มความสามารถแก้ไข และบรรเทาหายนะในครั้งนี้ ขณะที่ผู้ก่อการ และพรรคพวก ได้แต่นั่งดูการแก้ไขของรัฐบาล และทีมงาน อย่างกระหยิ่มยิ้มเยาะ.. และให้สมุนรับใช้ออกมาถากถางกล่าวหาท่านนายกเป็นระยะๆ ตามแต่โอกาสจะอำนวย รวมทั้งมีการวางยาในการทำงานจาก ผู้ว่า กทม. อีกต่างหาก.. ทั้งหมดก็เพียงเพื่อจะทำลายความน่าเชื่อถือของคำทำนายที่มีมานานจนหาต้นกำเนิดไม่ได้ว่า

“จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง” ....นารีหมายถึงผู้หญิง..กริยาขี่ คือการเดินทาง..หรือควบคุม.. ม้าขาวหมายถึงความบริสุทธิ์, ความดีงาม.. คทาหมายถึงอำนาจ หรือสิทธิอำนาจที่มีอยู่ หรือได้รับมา.. มุ่งสู่ดาวหมายถึง..การเดินทางเพื่อไปสู่สิ่งที่ไกลกว่า หรือดีกว่าปัจจุบัน.. สร้างความหวังความหมายก็น่าจะตรงตัวตามข้อความ.. ทั้งหมดเป็นการพิเคราะห์และตีความตามความเข้าใจของผมเอง ไม่ขอกล่าวอ้างว่า ถูกหรือผิด แต่ผมเข้าใจเช่นนี้..

เหล่านี้คือคลื่นที่ถล่มโจมตีท่านนายกยิ่งลักษณ์จนซวนเซในเบื้องแรก.. ถึงขั้นที่ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ต้องยกเลิกการเดินทางไปร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปคครั้งที่ 19 ในระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย. ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้มอบหมายให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปร่วมประชุมแทน..เพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชน และตั้งรับทางการเมืองให้เต็มที่...


ในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปด้วยการทำงานที่ตั้งใจจริง อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ท่านนายกยิ่งลักษณ์และทีมงานก็เริ่มตั้งหลักได้.. และได้รับความนิยมชื่นชอบ, ความศรัทธาจากประชาชนในแทบทุกพื้นที่ที่ท่านนายกย่างกรายไปโดยไม่ต้องสร้างภาพด้วยใจจริง ข้อกล่าวหา, คำถากถาง, หยามเหยียดได้กลับกลายเป็นหอกแหลมคมที่ย้อนกลับไปทิ่มแทงผู้กล่าวหา และฝ่ายเผด็จการอมาตย์อย่างเจ็บปวดแทบทุกครั้ง ที่ประชาชนได้นำการทำงานที่เห็นตรงหน้าของรัฐบาลท่านนายกยิ่งลักษณ์ ไปเปรียบเทียบกับการทำงานสมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ ทำให้เสียงของคำกล่าวหาเริ่มเบาลง



และในที่สุดไม้เด็ดที่เกิดจากการขยับตัวทางการเมืองของฝ่ายพรรคเพื่อไทยโดยการปล่อยข่าวว่า มีการประชุมลับของ ครม. เรื่องจะทูลเกล้าให้ออก พรฎ. อภัยโทษ (ซึ่งผู้ที่ได้รับผลจาก พรฎ. นี้จะมีท่านนายกทักษิณรวมอยู่ด้วย) ก็ถูกปล่อยออกมา (โดยใครไม่แน่ชัด) แต่ที่แน่ๆ กลายเป็นประเด็นทางการเมืองใหม่ที่ร้อนแรงขึ้นมาทันที.. และร้อนแรงชนิดที่สภาต้องเปิดการประชุมพิเศษเพื่อให้ฝ่ายค้านได้ตั้งกระทู้ถามสดขึ้น.. ความร้อนแรงของประเด็น พรฎ. นี้มีมากจนแทบทุกสังคม แม้แต่ใน Social Network ก็เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นที่พูดถึงกันอย่างครึกโครม.. นั่นหมายความว่า..
1. รัฐบาลสามารถทำให้กระแสการโจมตีท่านนายกยิ่งลักษณ์ ที่ฝ่ายเผด็จการอมาตย์กำลังใช้ความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนมาเป็นเครื่องมือนั้น หยุดลงได้อย่างสิ้นเชิง เพราะหันมาสนใจเรื่อง พรฎ. แทน

2. ท่านนายกยิ่งลักษณ์สามารถใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตน.. ความเป็นสตรี.. ความเป็นคนนิ่งและสุขุมลึกซึ้ง ทำงานช่วยเหลือประชาชนต่อไปได้โดยไม่มีใครมาขวางอีก


3. ท่านนายกยิ่งลักษณ์สามารถดำเนินการทางการเมืองระดับนานาชาติได้ โดยปราศจากพรรคฝ่ายค้านหรือสมุนเผด็จการอมาตย์มาโจมตีได้เลย

4. ท่านรองนายกเฉลิม ได้พูดในสภาอย่างชัดเจนว่า “สิ่งที่รัฐบาลทำได้ทำอยู่ภายใต้กฏหมายโดยไม่ผิดเพี้ยน.. และเรื่อง พรฎ. ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังต้องนำไปให้อีก 2 องค์คณะเป็นผู้พิจารณา จึงจะสามารถนำทูลเกล้าได้”.. ซึ่งก็หมายความว่าเรื่อง พรฎ. นี้อาจจะไม่ผ่านก็ได้.. หรืออาจจะมีการแก้ไขอีกก็ได้.. สรุปก็คือ ทุกอย่างยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ณ ปัจจุบัน


5. ฝ่ายเผด็จการอมาตย์หลง เข้าไปเล่นในประเด็น พรฎ. จนกระทั่งเปิดช่องให้ รัฐบาลเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมืองได้อย่างชนิดที่แก้ตัวไม่ได้เพราะ.. a. รัฐบาลไม่ได้ทำในสิ่งใดที่ผิดกฏหมาย.. b. เรื่อง พรฎ. ก็ยังไม่มีข้อสรุป.. c. ท่านนายกยิ่งลักษณ์ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเพราะไปช่วยประชาชนที่ จ. สิงห์บุรี (ไม่ได้หนีไปมัลดีฟ)

6. รัฐบาลสามารถดำเนินการเรื่องที่สำคัญที่สุดได้โดยไม่มีใครมาให้ความสนใจอีกเลย..(ระดับลิ่วล้ออมาตย์) คือ การค่อยๆ พิจารณาและดำเนินการที่จะออกแถลงการณ์ หรือประกาศยอมรับอำนาจของ ICC (ศาลอาญาระหว่างประเทศ) โดยไม่จำเป็นต้องขอการอนุมัติจากสภาฯ

จากข้อสังเกตทั้ง 6 ประการนั้นสามารถเห็นได้ชัดเจนถ้าสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นสักเล็กน้อย.. โดยเฉพาะข้อที่ 6 ถ้าไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้ในทางลับ พอ. สรรเสริญ (ไก่อู) คงไม่ออกมาปัดความรับผิดชอบจากคดีสังหารหมู่ประชาชน 91 ศพ เมื่อปี 2553 ว่า ทำตามคำสั่งของ ศอฉ. อย่างแน่นอน แม้แต่ก่อนหน้านั่น ผบ.ทบ. ก็ออกข่าวยืนยันว่า “ทหารไม่เคยมีมติว่านายกบกพร่องใน 12 เรื่องที่เป็นข่าวออกมานั้น”... เหล่านี้หมายความว่าอะไร

หมายความว่า ทหาร เริ่มออกตัวว่า ถ้าจะมีความรับผิดชอบใดๆ เกิดขึ้นจากกรณีสังหารหมู่ประชาชน 91 ศพ.. ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบก็คือ นายกอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้สั่งการ..

ผมไม่ทราบว่าใครเป็นทีมงานในเรื่องการดูแลการขับเคี่ยวทางการเมืองของท่านนายกยิ่งลักษณ์บ้าง.. แต่เชื่อแน่ว่าไม่ว่าจะเป็นใครคนเหล่านั้น “ไม่ธรรมดา” และไม่ธรรมดาชนิดที่บอกได้ว่า “เป็นมือมหากาฬ” เลยทีเดียว

หลังจากน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติปีหน้านี้แหละครับ..เราจะได้เห็น “ของจริง” ที่ท่านนายกยิ่งลักษณ์ และทีมงานจะนำมาต่อกรกับเผด็จการอมาตย์.. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นพี่น้องประชาชนที่รักประชาธิปไตยทุกท่าน จะได้เห็น

“จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง” ของจริง

ปูนนก

ฟ้าหลังฝน อยุธยาเข้ารอบสุดท้าย จัดงานยักษ์อันดับ ๓ ของโลก ในขณะเดียวกันหมาแก่ตาเดียวกำลังจะถูกเจ้าของทิ้งให้ตายอย่างโดดเดี่ยว !!

องค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) ได้ประกาศผล 5 เมืองที่เข้ารอบสุดท้าย ที่จะได้เป็นเจ้าภาพ
จัดนิทรรศการนานาชาติ (World Expo or Universal Expo or World's Fair) 2020
โดยจะทำการตัดสินในปี 2013


5 เมือง ที่เข้ารอบสุดท้าย ได้แก่
1. อยุธยา
2. อิซเมียร์ ตุรกี
3. เซาเปาโล บราซิล
4. เยกาเตรินเบิร์ก รัสเซีย
5. ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์


ว่ากันว่ามหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ 3 อันดับแรก อันดับ 1 ต้องยกให้กีฬาโอลิมปิค
รองลงได้หนีไม่พ้นฟุตบอลโลก และ เวิร์ล เอ็กซ์โป ตามลำดับ


เวิร์ล เอ็กซ์โป เป็นนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งด้านเทคโนโลยี
สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม จัดขึ้นทุก 5 ปี แต่ละครั้งนาน 6 เดือน


ในอีก 19 ปีข้างหน้า หากอยุธยาได้เป็นเจ้าภาพ ถึงเวลานั้นมั่นใจว่าพวกห่าคงตายกันหมด ประเทศไทย
คงได้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ พร้อม ๆ กับได้จัดงานใหญ่เฉลิมฉลองกัน 6 เดือนเต็ม ๆ


จากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ทำให้ทั่วโลก โดยเฉพาะไอ้กันเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของประเทศไทย
ซึ่งเป็นฐานผลิตทั้งอาหาร และอุตสาหกรรม แหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อีกทั้งความเข้มแข็งของอาเซียน
ดูจากท่าทีของไอ้กัน น่ากลัวมันจะเป็นเห็บตัวแรก ๆ ที่โดดออกจากหมาแก่ที่กำลังจะตาย


การรัฐประหารทุกครั้งที่ไอ้กันรับรองนั้น ไอ้กันคงเดาออกว่า ครั้งต่อไปจะเป็นครั้งสุดท้าย กลียุคที่จะเกิด
ในประเทศไทย ไม่น่าจะส่งผลดีต่อผลประโยชน์ของไอ้กัน และจะผลักให้อาเซียนแนบแน่นกับจีนยิ่งขึ้น

อดีดประธานาธิบดีฟิลิปปีนโดนรวบในโรงพยาบาลขณะที่กำลังป่วย โดยข้อหาโกงการเลือกตั้ง นี้คือตัวอย่างที่เมืองไทยก็ต้องระวังตัวเมื่อประชาชนมีอำนาจก็จะได้รับผลเช่นเดียวกัน เปิดดูจากลิงค์ข้างล่างครับ

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/joPser6IAK4&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3%22%3E%3C/param%3E%3Cparam name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/joPser6IAK4&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

fredag 18 november 2011

๑๘ พย. ๕๔ นายกยิ่งลักษณ์ ประชุมสุดยอดอาเชี่ยน เปิดชมตามลิงค์ข้างล่างครับ

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/LmNLig9sUPE&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3%22%3E%3C/param%3E%3Cparam name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/LmNLig9sUPE&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

๑๘ พย. ๕๔ นายกยิ่งลักษณ์ เข้าร่วมประชุมอาเชี่ยน -สหรัฐฯ

รูปภาพ

นายกปูเยี่ยมประธานาธิบดีอินโดนิเซีย


รูปภาพ
รูปภาพ

ยุคปีศาจศักดินาครองเมือง โดย :- ขุนเขาบอก : เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ........ สรุปกันแล้ว ไม่ต้องแจวละพี่น้อง เอากายเข้าป้อง เอาท้องเข้าถู ป้องเมืองสวรรค์ ชนชั้นของกู ยกย่องเชิดชู อยู่คู่เทวา นายกไม่เกี่ยว ขอเดี่ยวตัวเอง ผู้ว่าเส็งเคร็ง อยากเป็นเต็งจ๋า สำแดงให้เห็น ว่าเป็นศักดินา ปลุกจิตอาสา ขอท้านที เอาชีพเข้าแลก เพื่อแบกน้ำไว้ มิให้ลามไหล ในรัศมี แบ่งกั้นเบื้องฟ้า แลมหานที ปกป้องชีวี ผู้มีบุญญา สวรรค์ชั้นใน อย่าให้กระเซน แม้นน้ำกระเด็น ก็เป็นปัญหา อุ้งตีนของกู ต้องคู่ประชา ล้นลามน้ำท่า อย่ามาเปื้อนตีน รีบเร่งขุดคลอง ประคองน้ำไว้ เร่งสูบโดยไว ป้องไว้ทรัพย์สิน อย่าระเคืองข้า พวกข้าแผ่นดิน หากน้ำเบื้อนดิน หมิ่นข้าทันที น้อมรับคำสั่ง มานั่งเหนือเกล้า ผู้ว่าเชื้อเจ้า ขี้เมาไม่หนี เชิญคำสั่งมา บัญชาทันที นครแห่งนี้ ห้ามมีน้ำมา กั้นสูงถุงทราย กั้นสายน้ำสูง เปิดคลองพยุง ชักจุงมหา วารีวนไหล ไกลนครา ท่วมชีพประชา เพื่อฟ้าเปรมปรีดิ์ เป็นเยี่ยงนี้แล พ่อแม่พี่น้อง เมืองพี่เมืองน้อง ต้องขนของหนี ชีพชนวอดวาย กับสายนที ปกป้องชีวี “เทวีเทวา”...........เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ........

torsdag 17 november 2011

นายกยิ่งลักษณ์ประชุมนาๆชาติอาเชี่ยน

พวกคลั่งเจ้าฝุ่นใต้ตีนจอมโจรเผต็จการ ที่ปล่อยนํ้าท่วมประเทศ และสั่งฆ่าประชาชน เห่าไม่หยุด !!

 รูปภาพ

พวกใส่ร้าย ป้ายสี คอยตีข่าว
สร้างเรื่องราว ปั่น-ปลุก สนุกสนาน
หลอกสาวก โง่งม สมดักดาน
ให้ฟุ้งซ่าน สับสน จน..ชิงชัง....

พิษจากภัย น้ำท่วม อ่วมไปหมด
มีวันลด เร็วไว ไม่สิ้นหวัง
แต่พวกชั่ว พวกอัปรีย์ ไม่อีนัง
แถมบ้าคลั่ง โจมตี บี้รายวัน....

ด้วยโมหะ อคติ อุตริคิด
แถมวิปริต เฉไฉ ไม่สร้างสรรค์
หวังโค่นรัฐ ให้อับปาง ถึงทางตัน
แผนชั่วมัน แยบยล หลอกคนไทย....

หนังสือพิมพ์ ทีวี บี้ไม่หยุด
ให้เร่งรุด ใส่ความ หยามถึงไหน
พวกเบื้องหน้า เบื้องหลัง ยังจัญไร
หวังสุมไฟ ให้แหลกราน เผาผลาญชน....

แม้นหวังพึ่ง รัฐมนตรี อีนางเฉย
เงียบดั่งเคย หมดท่า น่าฉงน
หรือปล่อยให้ พวกเปรต พวกเศษคน
ไล่บี้จน..รัฐบาล..ซมซานตาย....

(แถมครับ)
ทั้งไทยลัด เดลี่นิ่ว บิ้วไม่หยุด
ไทยโป้ดผุด ความระยำ ทำฉิบหาย
อีกเนชั่ว มั่วย้อนยอก หลอกพวกฟาย
เบื่อน้ำลาย..พวกบัดซบ ตลบตะแลง....

๓ บลา / ๑๗ พ.ย.๕๔
http://3blabla.blogspot.com

เปิดโปง กทม. วางยาการระบายนํ้าฝั่งตะวันตก

ขอให้ศปภ เข้าไปตรวจสอบแล้วสั่งฟ้องผู้ออกคำสั่งเพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูโดยด่วนมิฉะนั้นการเล่นเกมของกทม จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและขัดขวางการแก้ปัญหาของรัฐบาลอีกไม่รู้จักจบสิ้น

สืบเนื่องจากศปภ มีคำสั่งให้ปิดประตูน้ำทุกบานที่ปากคลองชายทะเลตั้งแต่วันที่ 11 พย เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง แต่กทมกับมีคำสั่งให้เปิดประตูทุกบานในแถบคลองชายทะเลบางขุนเทียนเป็นเหตุให้น้ำทะเลหนุนกลับเข้ามายังพื้นที่ฝั่งตะวันตก ถึงแม้กรมชลฯจะระดมดูดน้ำ ผลักดันน้ำออกแต่น้ำก็ดันกลับหมุนเวียนอยู่อย่างนี้ตั้งแต่วันที่ 11 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า จุดประสงค์อาจต้องการให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมอาหารในจังหวัดสมุทรสาครเพื่อต้องการให้เกิดความปั่นป่วน

ถึงตอนนี้ระดับน้ำทะเลเริ่มลดลงและจะลดต่ำสุดในวันที่ 18 พย นี้ กทม จึงสั่งให้ปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อไม่ให้น้ำระบายลงทะเล

ลองให้ตำรวจไปสอบสวนเจ้าหน้าที่ควบคุมประตูน้ำดูก็จะรู้ว่าใครเป็นคนออกคำสั่งนี้ เริ่มต้นที่ประตูระบายน้ำคลองหัวกระบือก่อนแล้วไล่ไปอีกทุกประตูที่เหลือ อย่างน้อยก็สามารถเอาผิดในข้อหาขัดคำสั่งของรัฐบาลตามมาตรา 31 หรือ ประมาทเลินเล่อก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ถ้าจะให้ดีต้องเล่นหนักด้วยข้อหากบถ และก่อวินาศกรรม

ต้องเอาเข้าคุกแล้วออกข่าวประจานความชั่วช้าให้ชาวฝั่งตะวันตกรวมถึงปทุมธานี นนทบุรี ได้รู้ความจริงว่าที่ยังคงเดือดร้อนกันอยู่ทั่วหน้าเป็นเพราะฝีมือใคร สอบให้มั่น คั้นให้ตาย เอาเป็นเหตุผลในการสั่งปลดผู้ว่าเอ๋อได้ ความผิดจะแจ้งขนาดนี้ คนในพื้นที่นับร้อย นับพันพร้อมเป็นพยาน ถ้ายังเอาผิดไม่ได้อีกคงต้องทำใจอดทนกันต่อไป

onsdag 16 november 2011

นาง ฮิลลารี่ คลินตัน รมว . ต่างประเทศสหรัฐ เข้าเยี่ยม คารวะ นายก ฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ๑๕ พย. ๕๔

นายกฯขอบคุณสหรัฐ-ฮิลลารีเสียใจน้ำท่วมไทยยันช่วยเต็มที่
นายกรัฐมนตรี แถลงร่วมต้อนรับ ‘ฮิลลารี คลินตัน’ ขอบคุณในความช่วยเหลือ ด้าน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ยันช่วยเต็มที่ พร้อมกู้สนามบินดอนเมืองด้วย

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกันระหว่างไทย และสหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมสำหรับการหารือระหว่าง นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซียด้วย รวมไปถึงการพูดคุยถึงสถานการณ์อุทกภัยในประเทศไทย เพราะสหรัฐฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และต้องการที่จะแสดงการสนับสนุนแก่ไทย ในการจัดการกับวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ และหลังจากการหารือเสร็จสิ้น นางฮิลลารี และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมีการแถลงข่าวร่วมกัน หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปยังสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ต่อไป





นายกฯ แถลงต้อนรับ "ฮิลลารี คลินตัน" ขอบคุณในความช่วยเหลือ


เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวร่วมกับ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในโอกาสมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และหารือถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมในประเทศไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวขอบคุณ ความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการหารือ นอกจากเรื่องความช่วยเหลือที่ส่งมาก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ที่จะตามมาอีก รวมถึง สิ่งที่ทั้ง 2 ชาติสนใจ และเตรียมที่จะเข้าพบหารือกับ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ในการประชุมผู้นำอาเซียนซัมมิท ที่อินโดนีเซีย ด้วย

ขณะที่ นางคลินตัน กล่าวว่า ขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่นของไทย ในการกลับมาเยือนเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับยืนยันว่า สหรัฐฯ
พร้อมกลับมาผูกสัมพันธ์ทางการทูตการค้า และความช่วยเหลือด้านอื่นๆ กับไทย ในการฝ่าวิกฤติน้ำท่วม ในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยวางแผนช่วยเหลือในการกู้สนามบินดอนเมือง ให้กลับมาใช้ได้เร็วที่สุด ตลอดจนช่วยฟื้นฟูสถานีตำรวจ ในการที่จะเปิดให้บริการได้อีกครั้ง รวมไปถึงโบราณสถานสำคัญต่างๆ

พันเอก สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.ยอมสารภาพชัดทอดแล้วว่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เป็นผู้ออกคำสั่งให้ปราบปรามผู้ชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปีกลาย เราเคยพูดเสมอว่า เมื่อความผิดจะมาถึงตัวกษัตริย์ภูมิพลจะโยนความผิดให้แพะรับบาป ซึ่งเป็นวิธีการเอาตัวรอดทุกครั้ง แต่ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายของกษัตริย์ภูมิพลเพราะประชาชนรู้ทันแล้ว ว่าใครเป็นผู้สั่งฆ่า

tisdag 15 november 2011

รุกฆาตกลางสายนํ้า

โดย วิถีชน เมื่อวันอังคาร ที่ 15 พฤศจิกายน 2011

รุกฆาตกลางสายนํ้า

ทุกสงครามที่ก่อเกิดในโลก เกิดจากตัณหาทั้งสิ้น
บ้างคิดขยายดินแดนแสวงผลประโยชน์
บ้างพยายามรักษาอำนาจที่ตนมีอยู่
ฝ่ายรุกราน แน่นอนละว่าต้องเข้มแข็งกว่า

แต่ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน

ตรรกะนี้ใช้ได้เสมอมา
มิมีผู้กระหายอำนาจคนใดสังวร

สยามประเทศก็ดุจเดียวกัน ผลประโยชน์ที่ถูกตักตวงฝ่ายเดียว
มาจากการเอารัดเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า
และตามไปด้วยการปราบปราม
อาวุธสงครามทุกประเภทถูกสาดสัดใส่
หัวกระสุนที่ซื้อด้วยหยาดเหงื่อภาษีทะลุทะลวงผ่านร่างประชาชน
ประชาชนที่บังอาจเผยอหน้าลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ชนชั้นสูงพอเพียงสักที
ประชาชนที่ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าเศษของความเพียงพอที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้

ยามนี้ผู้ที่ถูกกดขี่เชิดหน้ายืดอกกู่ก้องตระโกนว่า
"พอกันที"
ความอยุติธรรมจักต้องหมดไป
สิ่งที่เขาต้องการแค่มีที่ที่ยืนได้
ก็แค่นั้นเอง

ณ.ขณะนี้ยอดขุนพลของประชาชนถูกกวาดออกจากกระดานเกือบหมดสิ้น
สิ่งที่เหลือแก้ขัด มีเบี้ยธรรมดาๆที่ผลักออกไปเผชิญเหล่าขุนศึกกระหายเลือด

เบี้ยที่แลธรรมดา
เบี้ยที่ก้มหน้าก้มตาเดิน
เบี้ยที่เดินแบบอ่อนน้อมถ่อมตน
เบี้ยที่ขุนศึกมองข้าม
ขุนศึกที่รบตามตำราพิชัยสงคราม
ขุนศึกที่ซ่อนตนหลังม่านหมอก
ขุนศึกผู้ใช้กลยุทธทำลายขุนม้าเรือโคนของฝ่ายตรงข้าม

เหลือแต่เบี้ย เบี้ยที่หลุดไปยังแนวหลังข้าศึก
เบี้ยตัวนี้ใช้การไม่แปรเปลี่ยนรับการแปรเปลี่ยน

แต่ทว่า

เบี้ยที่ดูด้อยค่ากำลังจะหงาย

"เพื่อรุกฆาตกลางสายนํ้า"

กลางสายนํ้าที่ขุนศึกฝ่ายตรงข้ามกระหยิ่มใจ
กระหยิ่มใจด้วยเป็นผู้เชี่ยวชาญศึกนี้ที่สุด
เพราะตนได้วางหมากไปแล้วทุกองคาพยบ

มันคงเป็นสงครามสุดท้ายที่จะสั่งสอนว่า
อย่าเผยอหน้า
อย่าต่อรอง
อย่าร้องขอ
จงก้มหน้าก้มตาอยู่เยี่ยงไพร่ดั่งบรรพบุรุษ

แต่เขามิได้ฉงนใจในสิ่งหนึ่ง
สิ่งนั้นคือ
นํ้ามิเข้าใครออกใคร
นํ้านี้จะแปรเป็นสายนํ้า
สายนํ้าที่แปรเป็นแรงกดดัน
แรงกดดันที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นำที่เข้าใจประชาชนแบบผิวเผิน
แรงกดดันนั้นได้รั่วซึมตามรอยปริแตก และกำลังทะลักหลั่งไหลตามทุกซอกทุกมุมของเมืองไทย
มันรุนแรงเกินกว่าที่ผู้นำคนไหนก็หยุดกระแสนี้ไม่ได้

ไม่ได้แม้นแต่เทพเทวดา(ถ้ามีอยู่จริง)
ด้วยเหตุที่สายนํ้านี้จะเป็นกลยุทธสุดท้ายที่เขาเองมิทันได้คิดว่า

"กระดานนี้มันหมดตาเดินเสียแล้ว"

ด้วยจิตคาราวะ
วิถีชน
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

måndag 14 november 2011

อนาคตยิ่งลักษณ์ อนาคตประเทศไทย

โดย วิถีชน เมื่อวันเสาร์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2011

อนาคตยิ่งลักษณ์ อนาคตประเทศไทย

ระยะที่ผ่านมาผมนั่งอ่านข่าวนํ้าท่วม อ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ ต่างๆนานา
ตะลุยอ่านทั้งข่าวไทยข่าวเทศ พบปะพูดคุยเพื่อนร่วมทุกข์เดียวกันสารพัดสี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอภิปรายในสภา และจับประเด็นแบ่งกลุ่มออกมา
สิ่งที่แบ่งแยกแตกต่างเห็นได้ชัดเจนคือ

กลุ่มหนึ่งที่เป็นนักการเมืองใต้อำนาจแฝงและชนชั้นกลางถึงสูง
กลุ่มนี้จะเสพสื่อหรือโซเชียลเนตเวิร์ค

อีกกลุ่มหนึ่งชาวบ้านทั่วไปทุกระดับที่ประสพภัยนํ้าท่วม
จะฟังวิทยุอ่านหนังสือพิมพ์บ้างและปากต่อปาก

ชาวบ้านร้านถิ่นทั่วไปมองว่ามันเป็นคราเคราะห์ของตนและบ้านเมือง
มันเป็นภัยจากธรรมชาติ
ที่แตกย่อยออกมาและมองอย่างหวาดระแวงว่า
ใคร
เทวดาตนไหน มันทำ
และเมื่อไรความซวยจะมาเยือน

ในขณะเดียวกันชนชั้นกลางหรือสูงเลือกที่จะเชื่อตามจิตวิทยารวมหมู่
เชื่อว่า ความอ่อนหัดของรัฐบาลบวกนัยยะแอบแฝงทำให้ภัยนี้รุนแรง
คนกลุ่มนี้และนักการเมืองชั่วๆพร้อมที่จะเชื่อข่าวลือหรือกระพือสร้างกระแส
ให้สังคมเกลียดชังลดความเชื่อถือของรัฐบาล
ทำได้แม้นกระทั่งโกหก
โกหกเพื่อทำลายหรือโกหกเพื่อปลอบใจตัวเอง

ชนแอบแฝงกลุ่มนี้ตระหนกตกใจที่นึกว่า
จะได้ผู้หญิงอ่อนหัดไม่ผ่านการเมืองมานั่งตำแหน่งนายก
ผู้หญิงคนนี้คงทนแรงเสียดทานไม่ได้นานนัก

พวกเขาเหล่านั้นนอนใจ เพราะที่ผ่านมา
นายกจากการเลือกตั้งคนแล้วคนเล่า
ต่างหลุดออกจากตำแหน่งด้วยวิธีการพิเศษ

แต่ทว่า ผู้หญิงคนนี้
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งตียิ่งทุบ
ยิ่งเวียนหน้าเปลี่ยนคนเข้าทำลาย
ผู้หญิงคนนี้กลับยิ่งคงทนต่อธารอำมหิตที่โหมใส่เธอ

"เขา"พลาดอย่างถนัด
พลาดที่ให้โอกาศเธอได้รับใช้ประชาชนอย่างใกล้ชิด
พลาดที่ทำให้เธอได้หยิบยื่นความช่วยเหลือแบบมือต่อมือ
พลาดที่ให้โอกาศประชาชนสัมผัสตัวตนของเธอ
พลาดที่ให้เวลาเธอ เวลาที่เธอจะแสดงศักยภาพการบริหารแบบมืออาชีพ
และที่พลาดมากที่สุดคือรังแกผู้หญิงคนหนึ่ง
รังแกอย่างแสนสาหัส

เมื่อยิ่งพลาด ยิ่งอ่านเธอไม่ออก

"เขา"อ่านเธอไม่ออก ไม่เข้าใจว่าทำไม
ทำไมเธอถึงอึด นิ่ง
เธอไม่หวั่นไหวกับเสียงด่าทอ
แต่ เธอหวั่นไหวกับแค่ประชาชนโผกอด
หวั่นไหวจนหลั่งนํ้าตาให้

หรือเพราะหน้าที่
หรือเพราะพี่
หรือเพราะพวก
หรือเพราะผลประโยชน์
อะไรกันแน่

"เขา"จะมิมีวันที่เข้าใจหรืออ่านออกหรอก
เพราะ"เขา"ไร้หัวใจ
หัวใจเชกเช่นของผู้หญิงชนบทธรรมดา
ที่ก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เธอมิได้ทำตามหน้าที่

แต่เธอทำด้วยหัวใจ
หัวใจที่จะมิทรยศต่อเสียงของชาวไทย

เธอจะมิมีวันลาออก
จนกว่า เธอจะวางรากฐานความสุขให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
และเมื่อนั้น เธอ จะจากไปประหนึ่ง "หงษ์"

อนาคตของเธอได้วางไว้แล้วในมือคนไทย
คนไทยที่เธอมิมองว่าสีอะไร
คนไทยที่พร้อมจะเป็นป้อมปราการป้องกันเธอ
และก็เช่นเดียวกัน
อนาคตประเทศไทยอยู่ในมือผู้หญิงธรรมดาๆ
ผู้หญิงที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ด้วย จิตคาราวะ
วิถีชน
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔

ยิ่งลักษณ์ นายกหญิงแห่งประเทศไทยกำลังหว่านกล้าปลูกข้าวหลังนํ้าท่วมที่จังหวัดสิงห์บุรี

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

söndag 13 november 2011

ขุนเขาบอก :

XXX…….รหัสลับทลายโลก..........

เห็นคำร่ำลือ หรือคือเรื่องจริง
ทุกสรรพสิ่ง ล้วนอิงสิ่งนี้
มันคือความลับ ชั้นดับชีวี
เรื่องราวมันมี ที่มาที่ไป.......

ไอ้Xที่ว่า มันมาสามX
ไม่ใช่เรื่องSex เรื่องเอ็กซ์ที่ไหน
แต่เป็นเรื่องเล่า เบาๆของไทย
แต่มันยิ่งใหญ่ ดังไป ทั้งโลกา

X หนึ่งยังเด็ก คือXให้เป็น
มือมองไม่เห็น ตั้งเป็นนายกหมา
เรียกเข้ามาทราบ หมอบราบกราบลา
เป็นนายกหมา ขี้ข้าใต้ตีน

อุบัติโหด อุบัติเหตุ
นายกผีเปรต เจอเหตุสุดหิน
เข่นฆ่าคนไทย ดังไปทั้งแผ่นดิน
อำนาจจึงสิ้น ถูกตีนตกบัลลังก์

X ตัวที่สอง คือน้องธารา
มันคือมหา ธาราหนหลัง
ที่กักเก็บไว้ ยิ่งใหญ่พลัง
ปล่อยตามสั่ง X ตัวหลังสั่งการ

เหตุที่ต้องสั่ง ให้หลั่งธารา
นายกกราบหมา ถูกฟ้าสังหาร
ได้นายกใหม่ ฟ้าไม่ประทาน
ฟ้าจึงส่งสาร แหวกม่านนที

นทีที่ว่า นี้มาจากเขื่อน
มันเปรียบเสมือน เขื่อนผาเขื่อนผี
มันสร้างขึ้นมา เพื่อคร่าชีวี
ชื่อมันนั้นมี อิทธิพลมากมาย

Xตัวสุดท้าย คือเครื่องหมายX
มันคือโคตร X เล็กๆไม่มีขาย
X ตัวนี้หนอ ก่อความวุ่นวาย
สร้างความฉิบหาย มาหลายชั่วคน

ผู้อยู่เบื้องหลัง สั่งยิงสั่งฆ่า
ปลิดชีพประชา จนโกลาหล.
Xที่ว่านี้ มีอิทธิพล
เหยียบหัวคนจน ปล้นประชาธิปไตย

สุดท้ายคนไทย อยู่ใต้ตีนX
ผู้ใหญ่หรือเด็ก ยังกราบXกันอยู่ไหม
หรือจะปลดแอก ที่แบกทิ้งไป
แล้วสร้างเมืองใหม่ ชื่อ New Thailand………XXX..รหัสลับทลายโลก...

X=  เหี้ยสั่งฆ่าตาเดียว

ถอดรหัส เหี้ย-ม ส่องกระจก

กระจกวิเศษ บอกข้าเถิด.... ใครเลวเสิศ ในปัฐพี
สมอง ของข้ามี...... กี่รอยหยัก ข้าชักงง

หรือว่า ข้าแก่เฒ่า.....จึงหูเบา มัวเมาหลง
ปัญญา ดั่งห่าลง..... เห็นกงจักร เป็นดอกบัว

สองตา ข้ามืดบอด.....จึงหลงกอด แต่ความชั่ว
ฆ่าเข่น เห็นแก่ตัว......ภาพหม่นมัว ในมายา

อำนาจถือ คือคำสั่ง.....ส่งเสียงดัง ไปทั่วหล้า
สายเลือด และนํ้าตา.....จึงไหลบ่า ไปทั่วเมือง

ตราบาป เสียงสาปแช่ง.....ก็ไหลแรง แข่งต่อเนื่อง
บรรจถรณ์ อ่อนเเสงเรือง....เปลื้องเปลี่ยนไป กลายเป็นดำ

คันฉ่อง ส่องเห็นหน้า.....ยามอ่อนล้า ข้ายิ่งตํ่า
สิ่งใด ได้กระทำ.......รหัสกรรม มาซํ้าตาม

กระจกส่อง มองความเหี้ยม ...นรกเยี่ยม มาเยือนถาม
ความทุกข์ เฝ้าคุกคาม.....ลุกลามกิน จนสิ้นลม

_________________
**สูญเสีย แต่ไม่ สูญเปล่า**


นี่คือกฎแห่งกรรมไม่มีใครฝืนกฎแห่งธรรมชาติได้ คนที่คิดดีทำดีเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เช่นรัฐบาลของนายกยิ่งลักษณ์ ยอมได้รับกรรมดีตอบสนอง ประชาชนทุกหมู่เหล่าทั่วทั้งประเทศมอบหัวใจให้ และยินดีให้การสนับสนุนยืนอยู่เคียงข้างนายกคนดีของประเทศไทยตลอดไป ส่วนคนที่คิดชั่วที่หวังทำลายคนอื่นโดยเอาประเทศชาติบ้านเมืองความทุกข์ยากลำบากของประชาชนเป็นเดิมพันจนบ้านเมืองเสียหายพังพินาศ จมอยู่ใต้บาดาล จะต้องได้รับผลกรรมตอบสนองให้ทุกข์ทรมานกระอักเลือด พังพินาศสิ้นสลายดับสูญ ไปกับมวลนํ้ามหาศาลที่มันสั่งให้ปล่อยลงมาท่วมประเทศชาติตามผลกรรมชั่วที่พวกมันได้กระทำขึ้น

ทำไมมันถึงกล้าฟันธง ....... ว่าให้อยู่ถึงแค่ธันวาคม 

ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ ว่ามันจะมั่นใจอะไรกันขนาดนั้น ถึงกล้าฟันธงว่าให้แค่หกเดือน แถมบอกว่าไม่เกินธันวา ลาโรงแน่นอน
ผมมองไปที่ไอ้พวกสางเขียว แต่ดูหน้าแต่ละตัวแล้ว คงไม่ง่ายอีกแล้วที่จะเอาปืนมาไล่ยิงคนมือเปล่าบนถนนอย่างที่มันเคยทำอีก
เพราะหากมันทำครั้งนี้ ทุกอย่างจะจบเห่อย่างรวดเร็ว....แล้วจะจบอย่างสวยงามแบบถอนรากถอนโคน ถึงใจคนเสื้้อแดงเสียด้วยสิ..
คราวนี้มึงไม่ได้ยิงพวกกูฟรีๆแน่นอน.....

จนแล้วจนรอด พอมาเจอสายน้ำมหากรุณาอันเชี่ยวกราก ที่เทวดาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์ ประทานมาให้ผ่านเขื่อน ภูมิพล และเขื่อนสิริกิตต์
ผมเลยถึงบางอ้อ....มิน่าล่ะ เพราะมันมีลิลิตโองการสั่งน้ำได้นี่เอง ไอ้พวกลิ่วล้อทั้งหลายมันถึง ตีปีกกระดี๋กระด๋ากันนัก ถึงขั้นฟันธงให้เลยว่า
ธันวา...นายกปูและคณะจะต้องพ้นจากวงโคจร...

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยครับ ว่าทำไมขบวนการแมงสาปและสื่อเลวที่ขายตัวขายชาติทั้งหลาย จะต้องออกมาทำหน้าที่จัดหนักกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ในช่วงนี้ เพราะมันเป็นยุทธการที่ต่อเนื่องกันตามหลังกระแสน้ำ มวลน้ำอันมหาศาลที่อย่าว่าแต่นายกปูเลย จะเทวดาหน้าไหนก็แก้ได้ยากทั้งนั้น...
มันเลยคิดว่ามวลน้ำอันมหาศาลนี้แหละจะพัดพาความนิยมชมชอบของประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทยให้หลุดลอยตามไปด้วย พวกมันเพียงแต่ออกมาช่วยกัน
สร้างกระแส เร่งเร้าให้เห็นว่ารัฐบาลมีความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำให้หนักเข้าไว้เท่านั้นเอง แล้วรัฐบาลก็จะแพ้ภัยตัวเอง...จะต้องเป็นไปตามหมากที่วางไว้ทั้งหมด...

ถ้าเป็นรัฐบาลอื่น ผมก็คิดว่าแผนของมันมีโอกาสสำเร็จได้ไม่ยากนัก...แต่รัฐบาลท่านนายกปู ก็คือนายกปู ต่างกับรัฐบาลไอ้ฟักราวฟ้ากับเหว.....นอกจากจะเป็นปูไม่กลัวน้ำแล้ว
ยังออกลุยน้ำทำหน้าที่อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อยชนิด ไม่ต้องหยุดหายใจกันเลย กลางวันก็ออก แม้กลางคืนดึกๆดื่นๆก็ยังออกเยี่ยมประชาชน....แม้เป็นชายอกสามศอกก็ไม่แน่นักว่าจะลุยได้เหมือนอย่างท่าน....

ความรักความห่วงใยต่อประชาชน ด้วยน้ำใสใจจริงของท่านนายกปู ที่มากับกระแสน้ำครับนี่แหละที่ประชาชนเขามองออก เขาเห็นได้ สัมผัสได้ เขาเข้าใจได้ ต่อให้กระแสโจมตีบิดเบือนกล้าแข็งหนักหน่วงขนาดไหนก็ตาม
หากท่านนายกยังอยู่เคียงคู่ร่วมสุขร่วมทุกข์กับประชาชนแล้วไซร้ ท่านจะอยู่ในดวงใจของเขาตลอดไปครับ ประชาชนเท่านั้นที่จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กที่ถาวรให้กับท่าน ไม่ต้องกลัวสิ่งใดทั้งนั้น มวลมหาประชาชนย่อมมีอานุภาพเหนือทุกสิ่ง....
ขอชื่นชมท่านนายกและทีมงานที่ตังใจแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยใจจริงของผมครับ.......จอมดาบหิมะแดง


มันเหี้ยจริง ๆ เหี้ยมันเตรียมแผนนี้ไว้ หวังว่าจะทำให้รัฐบาลนี้ถูกชาวบ้านด่าเละ
จะได้ให้สางเขียวมารัฐประหาร
แต่อนิจจา.....ประชาชนกลับรู้ความจริงว่า น้ำท่วมครั้งนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ผิด ไม่ใช่ต้นเหตุ
แต่ต้นเหตุคือเหี้ย และรัฐบาลไอ้สัตว์มาร์ค ประชาชนจึงเห็นใจรัฐบาล
และรอวันจัดการกับเหี้ยและรัฐบาลสัตว์เหี้ยมาร์ค

ช่วงกรกฎาคม 2554 น้ำในเขื่อนภูมิพลมีระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งวันที่ 3 สิงหาคม 2554 น้ำในเขื่อนภูมิพลสูง 9 พันล้านลูกบาศก์มตร
มีการปล่อยน้ำออกอย่างช้า ๆ จนปริมาณน้ำสูงถึง 1.3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร

ต้องดูว่า ช่วงเวลาดังกล่าวใครมีอำนาจในการควบคุมระดับน้ำในเขื่อน

3 กรกฎาคม 2554 เลือกตั้งเสร็จ และกว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งใช้เวลา 30 วัน
จนถึงวันที่ 3 สิงหา 2554 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรยังไม่ได้บริหารประเทศ
ช่วงนั้น.....ไอ้มาร์คยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

8 สิงหาคม 2554 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
แต่ยังบริหารประเทศไม่ได้เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ช่วงนี้......ไอ้มาร์คยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ครม.ใหม่ที่ยังไม่มีอำนาจบริหารประเทศ ต้องง่วนอยู่กับการเตรียมเสนอนโยบาย
ซึ่งการเป็นรัฐบาลผสม....ก็ต้องจัดทำนโยบายร่วมกันระหว่างพรรคร่วม จึงไม่อาจดันเฉพาะนโยบายของเพื่อไทย
ทำให้การจัดทำนโยบายต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ (ระหว่าง 8-22 สิงหาคม 2554)
ช่วงนี้.....ไอ้มาร์คยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

23-25 สิงหาคม 2554 เป็นช่วงแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ช่วงนี้......ไอ้มาร์คยังรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

26 สิงหาคม 2554 ยิ่งลักษณ์ จึงมีอำนาจบริหารประเทศอย่างสมบูรณ์ และเริ่มมีการประชุมบิ๊กข้าราชการ
และเริ่มหาทางแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะที่น่าน และวางแผนเตรียมการป้องกันน้ำท่วมภาคกลาง

----------------------------------------------------------
ดังนั้น......ตั้งแต่ 3 กรกฎาคม (วันเลือกตั้ง) ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ความรับผิดชอบในการบริหาร
และสั่งการเกี่ยวกับการป้องกันน้ำท่วม จึงเป็นความรับผิดชอบที่ไอ้ฟักมาร์คไม่สามารถปฏิเสธได้

ช่วงเวลานั้นเอ็งมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่พร่องน้ำออกจากเขื่อน
และปล่อยให้น้ำสะสมถึง 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้อย่างไร

--------------------------

ถ้าทะเหี้ยออกมารัฐประหารโดยอ้างเรื่องน้ำท่วม พวกมันจะพังทั้งระบอบ

lördag 12 november 2011

ถึงวาระสุดท้ายของเฒ่าสารพัดพิษหัวหน้าคณะลิเกลวงโลก จึงส่งลูกสาวออกมาเล่นบทหลอกลวงประชาชน แต่สายไปเสียแล้วเพราะประชาชนรู้ทัน


กระบวนการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องสุขภาพนายภูมิพลทำงานต่อเนื่อง
สำนักข่าว Reuters รายงานว่านางจุฬาภรณ์ แจ้งว่านายภูมิพลเสียสติไปชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะโลหิตไหลภายใน นางจุฬาภรณ์ฉวยโอกาสอ้างว่าเป็นเพราะนายภูมิเครียดเรื่องน้ำ [ดูhttp://www.reuters.com/article/2011/11/12/us-thailand-king-idUSTRE7AB05B20111112?feedType=RSS&feedName=worldNews ]
     ลูกสาวดึงสุขภาพพ่อมาเพื่อโฆษณาชวนเชื่อว่าเครียดเรื่องน้ำท่วม เพราะเป็นห่วงชาวไทย แต่ถ้านายภูมิพลเป็นห่วงเรื่องนี้จริง จะสละสมบัติทั้งหมด หรืออย่างน้อย50% ของสมบัติมหาศาล ให้ประชาชนเพื่อให้รัฐบาลกู้ชีวิตและสร้างงานหลังน้ำท่วม ไหนๆ ใกล้ตายแล้วจะหวงไปทำไม? นอกจากนี้จะออกมาบอกว่าไม่ต้องฉลองวันเกิดปีนี้ จะออกมาขอให้กองทัพเสียสละเพื่อชาติ โดยยอมตัดงบประมาณทหารให้เหลือแค่เงินเดือนเจ้าหน้าที่ แต่นายภูมิพลไม่มีวันทำอย่างนี้ เพราะเขาไม่เคยกล้าขัดผลประโยชน์ทหารหรือชนชั้นปกครองในไทยเลย เขาไม่เคยปกป้องประชาธิปไตยกับรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย และไม่เคยห้ามทหารที่ฆ่าประชาชน ตลอดชีวิตนายภูมิพลสนใจแต่จะดูแลตัวเองและทรัพย์สมบัติเท่านั้น
     ลูกสาวคงขยันโฆษณาพ่อ เพราะกลัวว่าหลังพ่อจากไป เขาเองจะไม่มีที่กอบโกยต่อเหมือนเดิม แต่เราต้องถามว่า “ลูกสาวแบบไหน” ที่ไม่ยอมให้พ่ออยู่เฉยๆ ในวัยชราและยามป่วยหนัก ลูกสาวแบบไหน ทหาร(ที่ชอบอ้างว่าปกป้องกษัตริย์)แบบไหน ที่ขยันทำให้สุขภาพคนชราคนนี้กลายเป็นการเมืองอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการหมอแบบไหนที่ให้คนชรานอนรอตายในโรงพยาบาลเป็นปีๆ แทนที่จะให้กลับไปพักผ่อนที่หัวหิน? นี่ละครับคือแง่ของการเป็นเหยื่อรับใช้ทหารและอำมาตย์ของนายภูมิพล แต่ในมุมกลับนายภูมิพลก็ได้ประโยชน์ในแง่ทรัพย์สินมาตลอด

ใจ อึ๊งภากรณ์

จตุพร อภิปรายในสภาวันที่ ๑๑๑๑๑๑

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/5gjrjWrm0nk?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ณัฐวุฌิอภิปรายในสภาวันที่ ๑๑๑๑๑๑

<iframe width="640" height="360" src="http://www.youtube.com/embed/Gp73tBCdtTw?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

fredag 11 november 2011

พิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่สาม ( นครพนม - คำม่วน ) ๑๑-๑๑-๑๑

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/6H9uDLFqb6I&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3%22%3E%3C/param%3E%3Cparam name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/6H9uDLFqb6I&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

ประชาชนสิ้นหวังกับนางเฉย !!

สื่อมวลโจร..ยังตั้งหน้า..จ้องด่ารัฐ
โคตร..อึดอัด..จังเลย..นังเฉยจ๋า
อมสากอยู่..หรือไร..ไม่นำพา
เบื่อระอา..เหลือล้น..จนเกินเซ็ง....

แสร้งปิดหู..ปิดตา..น่าสมเพช
ความทุเรศ..มันจำเพาะ..ช่างเหมาะเหม็ง
บอกคุมสื่อ..เหตุไฉน..ใยเส็งเคร็ง
เหมือนมะเร็ง..เกาะกินรัฐ..ขัดหูตา....

ตาบอดสี..หรือไร..มองไม่เห็น
เช้าจรดเย็น..พวกสำราก..ยังปากหมา
เรื่องกวนตีน..สารพัด..มันจัดมา
ตอกใส่หน้า..ให้เห็น..ไม่เว้นวัน....

ประชาชน..สิ้นหวัง..กับ..นังเฉย
เบื่อจังเลย..คนเฉไฉ..ไม่สร้างสรรค์
จะเส้นเล็ก..เส้นใหญ่..ไม่ว่ากัน
ที่สำคัญ..บื้อจังเลย..แถมเฉ

torsdag 10 november 2011

กรุงเทพ ฯ เมืองฟ้าอมรถูกสาปจมอยู่ใต้บาดาล เพราะ" เหี้ย " จอมเผด็จการสั่งท่วม เพียงเพื่อทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดูจากลิงค์ข้างล่าง

RE: น้ำท่วมลาดพร้าว-จตุจักร 09-11-2554
http://www.youtube.com/watch?v=NgM0BPJva9I

จะเป็นกำลังใจให้เธอทุกวัน !!

ขุนเขาบอก :

จะเป็นกำลังใจให้เธอทุกวัน.........

หลั่งไหลไม่หยุด จนฉุดไม่อยู่
แต่นายกปู สู้จนเลือดไหล
ใช้สายเลือดปู สู้น้ำท่วมไทย
เลือดปูหลั่งไหล สู้ภัยธารา

สายน้ำยิ่งใหญ่ แพ้ใจอนงค์
เด็ดเดี่ยวมั่นคง แก้ตรงปัญหา
สายน้ำยิ่งใหญ่ แพ้ใจกานดา
มหาธารา อำลานารี

ถอนมนต์สะกด เปล่งโกญจนาท
ปลดแอกอำมาตย์ บ่วงบาศมือผี
หลุดพ้นมนต์ดำ ครอบงำชีวี
อำนาจฤทธี เทวีเทวา

สลายเมฆดำ ครอบงำประเทศ
จากมือผีเปรต กิเลสตัณหา
นางผู้อสัตย์ กับภัสดา
เจ้าของคอกม้า ถึงคราลาโรง

ท่องไปทุกแห่ง ใจแกร่งดั่งเพชร
หยาดเหงื่อทุกเม็ด ดั่งเกล็ดของหงส์
เดินท่องสายน้ำ แสนงามอนงค์
ยามนางอ่าองค์ ดั่งทรงเครื่องทอง

ใต้ทิฆัมพร เมื่อตอนพลบค่ำ
สองเท้าเดินย่ำ สู้น้ำทั้งผอง
มืดค่ำย่ำน้ำ ข้ามน้ำข้ามคลอง
แจกข้าวแจกของ พี่น้องของเธอ

เป็นกำลังใจ ให้นายกหญิง
เป็นกำแพงพิง ให้อิงเสมอ
ขอกราบกรให้ จิตใจของเธอ
รักเธอเสมอ เธอผู้...พิไล............จะเป็นกำลังใจให้ท่านทุกวัน.........


ท่านนายกยิ่งลักษณ์ได้แสดงภาวะการเป็นผู้นำโดยร่วมกับคณะรัฐบาล ข้าราชการ กองทัพ พร้อมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งมีนายกยิ่งลักษณ์เป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติเพื่อช่วยเหลือผู้ประสพมหาอุทกภัยในครั้งประวัติศาสร์ กรุณากดลิงค์ข้างล่าง

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/Fl1ZauTd1ZM&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3%22%3E%3C/param%3E%3Cparam name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/Fl1ZauTd1ZM&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

กะจะล้มรัฐบาลด้วยนํ้าท่วม แต่ประชาชนรู้ว่า " เหี้ยสั่งท่วม "

เครดิตโดย ราษฎร์ ประสงค์
กะจะล้มรัฐบาลด้วยน้ำท่วม แต่ประชาชนรู้ว่า “ใครสั่งท่วม”
กระแสตีกลับ ประชาชนเห็นใจรัฐบาล และร่วมมือกันมากขึ้น
เมื่อผู้ว่ากทม.มัวแต่เอ๋อ ทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง
ประชาชนกว่า 23 จังหวัดที่น้ำไม่ท่วม ช่วย กทม.เขตที่ท่วม
ร่วมมือกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เสนอตัวช่วยทำครัวจังหวัดละเขต
ประชาชนจากต่างจังหวัด ร่วมกับ สส. และผู้ว่า เข้าดูแลคนกรุง
ขณะที่ ผู้ว่ากทม. และสส.แมลงสาบกทม. หนีหน้าอ้างไม่ใช่หน้าที่
จำเอาไว้คนกรุง เที่ยวหน้ามาขอเสียง ไล่ไปไกลๆเลย แมลงสาบสกปรก
ไอ้เตี้ย หนามเตย ที่ขู่รัฐบาลว่าจะก่อม็อบจราจล สร้างความวุ่นวายแก่ชาติ
เปลี่ยนเป็น เอาครัวจากจังหวัดตรัง มาช่วยกรุงเทพสัก
รูปภาพ



นํ้าลดความหวังผุด

มาร่วมด้วย ช่วยเติม เพิ่มความหวัง
เป็นพลัง กันและกัน อย่าหวั่นไหว
หลังน้ำลด ต้องมีหวัง กำลังใจ
สู้ต่อไป เถิดหนอ อย่ารอรี....

แม้เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า อย่าทดท้อ
นับวันรอ เติมฝัน อันสุขศรี
แล้วฟื้นฟู เร็วพลัน สู่วันดี
เช็ดน้ำตา ล้นปรี่ ให้..มีพลัง....

กี่ล้าน..ความทุกข์ยาก ลำบากทั่ว
กี่หวาดกลัว ที่ตรงนี้ ยังมีหวัง
กี่ย่อยยับ ถูกพัดโหม จนจมพัง
กี่บ้าคลั่ง ที่ถูกซัด กระจัดกระจาย....

ให้ความหวัง ผุดผาด ผงาดสู้
ร่วมฟื้นฟู เมืองนี้ ที่จมหาย
ลืมความโกรธ เกลียดชัง หวังทำลาย
สู่จุดหมาย ปลายทาง สว่างงาม....

หล่อหลอมรัก ช่วยกัน สร้างวันสวย
แต่งแต้มด้วย ความรุ่งเรือง สู่เมืองสยาม
เพื่อความสุข ทั้งประเทศ ทุกเขตคาม
เลื่องลือนาม สมชื่อ คือ..คนไทย....

ให้กำลังใจพี่น้องทุกๆ คน ที่ประสพภัยครับ

onsdag 9 november 2011

เย็นศิระเพราะพระบริบาล นํ้าพระราชทานที่ดอนเมือง จากบรมกษัตริย์ไทย สาธุ !!!

รูปภาพ
ภาพเครื่องบินจมน้ำ ผมดูแล้วประมาณ 10 ลำครับ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
ภาพนี้จะไปกั้นน้ำ แต่ถูกน้ำกั้นเสียก่อน

รูปภาพ

นายกฯ ลงพื้นที่ฟื้นฟูเกาะเมืองอยุทธยา ดูจากลิงค์ข้างล่าง

<object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/YvleLox4EPw&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3%22%3E%3C/param%3E%3Cparam name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/YvleLox4EPw&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>

เสียงจากนายกหญิงเหล็กแห่งประเทศไทย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร " รัฐบาลที่มาจากประชาชนไม่ทอดทิ้งประชาชน " เป็นคำพูดที่มาจากส่วนลึกในหัวใจของนายกของประชาชน ในนามของ ขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนเวีย ขอเป็นกำลังใจให้แก่ท่านและรัฐบาลของท่าน สัญญาว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะอยู่่ในสภาพการอย่างไร ขบวนการของเราจะยืนอยู่เคียงข้างท่านตลอดเวลา ขอให้สู้ต่อไป !!

   ให้ความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" และ"หญิงไทย"บ้าง โดย ฐิติมา ฉายแสง

   


     รูปภาพ

tisdag 8 november 2011

พท ตั้งณัฐวุฒิ เป็นหัวหน้า PR

http://www.youtube.com/watch?v=ICS5avzV7V8<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="https://www.youtube.com/v/ICS5avzV7V8?version=3&feature=player_embedded"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="https://www.youtube.com/v/ICS5avzV7V8?version=3&feature=player_embedded" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>&feature=player_embedded