fredag 31 juli 2020

ว่าเรื่องทรงผม "เกรียนวชิราลงกรณ์"

ตร.แถลงแค่เข้าใจผิด ปมโคเคนรักษาฟัน รอชี้ชัดสารที่พบในตัว‘บอส อยู่วิทยา’ ถ้ามีหลักฐานยืนยันสารทั้ง 2 ตัวเป็นสารเสพติด เตรียมเสนอแจ้งข้อหาเพิ่ม
ตร.แถลงแค่เข้าใจผิด ปมโคเคนรักษาฟัน รอชี้ชัดสารที่พบในตัว‘บอส…

ตร.แถลงแค่เข้าใจผิด ปมโคเคนรักษาฟัน รอชี้ชัดสารที่พบในตัว‘บอส อยู่วิทยา’ ถ้ามีหลักฐานยืนยันสารทั้ง 2 ตัวเ....

ข้อคิดเกี่ยวกับขอบเขตการใช้อำนาจของวชิราลงกรณ์จนถึงขณะนี้และในอนาคต
กระทู้นี้จะอภิปรายปัญหาที่กว้างออกไปกว่าเรื่องทรงผม "เกรียนวชิราลงกรณ์" แต่ก่อนอื่น ขอให้ดูเอกสารประกอบ ซึ่ง "มิตรสหายท่านหนึ่ง" เพิ่งส่งมาให้

นี่เป็นเอกสารคำสั่งของกองทัพอากาศ ในลักษณะทำนองเดียวกับเอกสารที่โพสต์ให้ดูใน 2 กระทู้ก่อน
ถ้าเทียบกับเอกสารที่โพสต์ให้ดูก่อนหน้านี้ เอกสารของกองทัพอากาศนี้ เขียนแบบกว้างๆและไม่มีการบังคับโดยตรงมากที่สุด คือเพียงแต่บอกว่า ผู้บัญชาการกองทัพอากาศให้กวดขันกำลังพลทุกคน (รวมไปถึงลูกจ้างและนักเรียนทหาร) ให้ "เป็นผู้มีระเบียบวินัย" "...โดยเฉพาะการไว้ทรงผม [ที่] ยังไม่เป็นไปตามระเบียบราชการที่กำหนด"

ไม่มีปัญหาว่า นี่เป็นคำสั่งที่เป็นผลมาจากวชิราลงกรณ์เหมือนคำสั่งอื่นๆก่อนหน้านี้แน่
ประเด็นที่น่าคิดเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการต่างของ "ระดับการบังคับ" ของหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ระดับ full-blown หรือเต็มที่ กรณีสำนักพระราชวัง-องคมนตรี (ทั้งชายหญิงต้อง "เกรียนวชิราลงกรณ์" หมด) ลงมาระดับที่บังคับทหารชายทั้งหมดของ บก.ทท. (คือยังยกเว้นหญิง) และบังคับน้อยลงไป (เขียนแบบกว้างๆมากขึ้น) กรณี ตำรวจ, กองทัพบก และกองทัพอากาศนี้ สะท้อนอะไรหรือไม่?

วชิราลงกรณ์คง "สั่ง / ขอ / ปรารภ" ให้ข้าราชการโดยเฉพาะทหารตำรวจไว้ "ทรงผมพระราชนิยม" แล้วหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อเขาโดยตรงอย่างสำนักพระราชวัง-องมนตรี ก็สั่งต่อแบบ full-blown บังคับทั้งหมดเลย ทีนี้ ระดับที่ต่างๆกันของหน่วยงานอื่นๆนี่ เพราะอะไร?
เพราะตัวผู้บัญชาการ (ผบ.สส. ผบ.ตร. ผบ.ทบ. ผบ.ทอ.) รู้สึกถึง หรือยอมรับใน อำนาจวชิราลงกรณ์มาก-น้อยต่างกัน หรือมีวิจารณญาณมีสติต่างกัน? หรือทั้่งสองเหตุผล? หรือขึ้นกับ ผบ.คนไหนต้องการ "เลีย" วชิราลงกรณ์มากกว่า? ซึ่งคงสัมพันธ์กับประเด็นตั้งแต่ว่า วชิราลงกรณ์พูดออกมาในระดับไหน

วชิราลงกรณ์อาจจะเพียงแต่ "ปรารภ" คือเปรยๆ ("ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าข้าราชการทุกคนไว้ผมแบบราชวัลลภก็ดีนะ เป็นระเบียบเรียบร้อยดี") หรือ "ขอ" ("ข้าพเจ้าอยากขอให้พวกท่านลองไปพิจารณาว่า จะทำกันได้ไหม ให้ทุกคนในสังกัดไว้ผมแบบนี้น่ะ") อะไรประมาณนี้ แล้ว ผบ.แต่ละคนก็มี response หรือตอบสนองในระดับที่ต่างๆกัน ขึ้นกับระดับการรับอำนาจ-อยากเลีย-หรือมีสติ มากน้อยต่างกันดังกล่าว
................
แต่ประเด็นที่น่าคิดและคอยจับตาสังเกตต่อ คือประเด็นที่กว้างออกไป ซึ่งผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้บ้าง นั่นคือ จากนี้ไป วชิราลงกรณ์จะเข้าแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวกับการบริหารบ้านเมืองหรือการเมืองแค่ไหนอย่างไร

ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่า ที่มีหลายคนพูดถึงการใช้อำนาจแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ (หรือการปกครองด้วยความกลัว) ของวชิราลงกรณ์นั้น #เป็นความจริงแต่ยังมีความจำกัด คือที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ จะเห็นว่า ลักษณะการใช้อำนาจดังกล่าว ยังจำกัดอยู่กับเรื่องที่เกี่ยวกับกษัตริย์โดยตรง

ตั้งแต่กรณีมาตราในรัฐธรรมนูญที่ให้แก้, การขโมยหมุดคณะราษฎร-วางหมุดหน้าใส มาถึงการสร้างอาณาจักร "ราชการในพระองค์", การกินรวบ ("ปล้น") ทรัพย์สินแผ่นดินมูลค่าล้านล้านบาท (กรณีทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์), และเรื่องการลงโทษคนที่ทำงานเกี่ยวกับกษัตริย์โดยตรง (จุมพล ถึง ดิสธร และกรณีเล็กๆลงไปอีกนับไม่ถ้วน)

แน่นอน เรื่องทุกเรื่องที่เพิ่งพูด เป็นเรื่องสาธารณะแน่ เป็นผลประโยชน์และควรเป็นอำนาจของประชาชนที่จะตรวจสอบควบคุมการใช้อำนาจแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ตามใจชอบของวชิราลงกรณ์แน่

อาณาจักร "ราชการในพระองค์" วชิราลงกรณ์จ่ายเงินเดือนเองเสียเมื่อไหร่ ใช้งบประมาณแผ่นดินทั้งนั้น แต่(ดัน)ไม่ยอมให้ใครมายุ่ง ไม่ต้องพูดถึงทรัพย์สินแผ่นดินมูลค่าล้านล้านบาทที่ปล้นไปเป็นของตัวเองทั้่งหมด หรือแม้แต่การสั่งลงโทษใครโดยไม่ต้องมีกระบวนการตามบรรทัดฐานการพิจารณาลงโทษข้าราชการ

แต่ประเด็นคือ ตราบเท่าที่วชิราลงกรณ์ยังจำกัด ไม่เอ๊กเซอร์ไซส์อำนาจออกมา "เกินรั้่ววัง" มากนัก ผลกระทบที่จะทำให้คนทั่วไป (แม้แต่ในหมู่ข้าราชการ ถ้าไม่ได้สังกัดวังโดยตรง) รู้สึกไม่พอใจหรือมีปฏิกิริยาต่อต้าน ก็จะจำกัดตามไปด้วย

อย่างว่า คนไทยเป็นคนที่ถูกสร้างให้ "เชื่อง" อยู่แล้ว แม้แต่กรณีคนรักเจ้าที่ยืนกรานมาหลายปีว่า ทรัพย์สินส่วนกษัตริย์มูลค่าล้านล้านบาทเป็นทรัพย์สินแผ่นดิน พอวชิราลงกรณ์ปล้นไปเป็นของตัวเอง ก็ยังเฉยๆอยู่.....

ผมเคยเล่าแล้วว่า มีมิตรสหายที่ผมคุยด้วยหลายคนเชื่อว่า โดยนิสัยของวชิราลงกรณ์ และเพื่อรักษาสถานะของเขาด้วย ในที่สุด เขาจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวใช้อำนาจ "นอกรั้่ววัง" มากขึ้นๆแน่

กรณี silly งี่เง่า อย่าง "ยกอกอึ๊บ" หรือ "ทรงผมเกรียนวชิราลงกรณ์" มีผลกระทบกว้างออกมากว่ารั้ววัง คือเริ่มออกมาถึงข้าราชการทั่วไปมากขึ้น อาจจะเป็น sign หรือสัญญาณเล็กๆในทิศทางนี้ แม้จะยังจำกัด คือแม้แต่ระดับการบังคับก็ยังไม่ถึงกับเต็มที่กับทุกหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น

ประเด็นใหญ่สุดที่ผู้ติดตามการเมืองกำลังสนใจคือ ปัญหาว่าวชิราลงกรณ์จะเข้าแทรกแซง กำหนดตัวคนที่จะเป็นนายกฯคนต่อไปหลัง คสช / หลังเลือกตั้ง หรือไม่ และจะเป็นใคร

เพื่อนผมหลายคนเชื่อว่า ยังไงเสีย อย่างน้อยที่สุดเพื่อประกันให้เขาเองสามารถใช้อำนาจสมบูรณาญาสิทธิ์ในวังแบบตามใจชอบอย่างนี้ต่อไปได้ วชิราลงกรณ์จะต้อง "เม้กชัวร์" หรือทำให้แน่ใจว่า นายกฯคนต่อไป จะต้องเป็นคนที่ friendly หรือขึ้นต่อเขา ไม่ว่าจะยังเป็น "ตู่" ซึ่งทุกคนเบื่อเต็มทีต่อไป หรือเป็นคนอื่น
ทุกวันนี้ ผบ.ทบ. ทั้งคนนี้ และคนที่เป็นตัวเต็ง (อภิรักษ์ ซึ่งดังที่หลายคนเห็น "เลีย" วชิราลงกรณ์ด้วยการตัดผมเกรียนแล้ว) ก็ล้วนเป็นคนที่วชิราลงกรณ์โปรดปรานให้มาเป็นอยู่แล้ว ดังนั้น ตำแหน่งอย่าง นายกฯ ยังไงวชิราลงกรณ์ก็ต้องพยายามยื่นมือเข้ามามีส่วนกำหนดแน่ ไม่ปล่อยให้เป็นไปเองจากการกำหนด-แย่งชิงของ คสช เอง หรือระหว่าง คสช กับพรรคการเมือง

แล้วเรื่องนี้ จะมีผลกระทบต่อประชาชนหรือสังคมวงกว้างอย่างมากแน่ เช่น ถ้าวชิราลงกรณ์สนับสนุนยืนยันให้ "ตู่" อยู่ต่อทั้งๆที่ประชาชนทุกฝ่ายเบื่อเต็มที หรือกำหนดให้เอาคนอื่นที่ทุกฝ่าย "ยี้" พอๆกัน..... (วันก่อนผมเพิ่งคุยกับเพื่อนบางคนว่า สมัยนี้ ฝ่ายเจ้าไม่มีใครที่เด่นหรือมีความสามารถหรืออย่างน้อยพอมี "เครดิต" จริงๆ ไม่เหมือนสมัยก่อน กรณีอย่างสัญญา หรืออานันท์ ตอนนี้พยายามนึกหาคนแบบนี้ไม่ว่าในเครื่องแบบหรือนอกเครื่องแบบ ทหาร นักการเมือง หรือเทคโนแครต ที่วชิราลงกรณ์ หรือแม้แต่ คสช. จะหนุนขึ้นมาได้ นึกไม่ออก)

เว็บสถานทูตล่ม

นางสาววิชญา สินธุเสน อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ชี้แจงกับบีบีซีไทยว่า เว็บไซต์ล่มเกิดจากปัญหาทางเทคนิค โดยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องอีเมลระบบตอบกลับ และการที่คนจำนวนมากเข้าไปในเว็บไซต์พร้อม ๆ กัน

torsdag 30 juli 2020

พอทหารไม่กล้าออกหน้า เขาก็หันไปใช้ตชด.เหมือนตอน #6ตุลา

พอทหารไม่กล้าออกหน้า เขาก็หันไปใช้ตชด.เหมือนตอน #6ตุลา อย่าลืมว่ากองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษที่เพิ่งตั้งก็ตำรวจเหมือนกัน ภาพ: ส.ส.เจี๊ยบBildBild
พบหนังสือจากกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ถึงฝ่ายอำนวยการ 3 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2563
.
ในหนังสือระบุถึงการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) และสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.)
.
รวมถึงรายงานการหาสถานที่ควบคุมตัวผู้ชุมนุมจำนวน 100 คน และแกนนำจำนวน 5 คน ไว้ด้วย
.
ทั้งนี้ต้องติดตามต่อไปว่าการเตรียมการครั้งนี้จะเป็นไปเพื่อ "จัดการ" กับการชุมนุมครั้งไหน อย่างไร
แฟลชม็อบพระนครเหนือ & อาชีวะประชาธิปไตย บริเวณลานกว้างด้านหน้าคณะศิลปศาสตร์ประยุกต์
30 ก.ค. 2563 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ได้มีการชุมนุม ปราศรัยของกลุ่มนักศึกษา และกลุ่มนักเรียนอาชีวะ และศิษย์เก่า จากหลายสถาบันได้มารวมตัวกันประมาณ 500 คน
ในช่วงแรกบนเวทีได้มีการผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย มีการพูดถึงประเด็นการรับน้องในระบบโซตัส และปัญหาการทำงานของรัฐบาล และความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล ... Visa mer
Bilden kan innehålla: en eller flera personer, folkmassa, träd och utomhus 
Bilden kan innehålla: en eller flera personer, folkmassa, träd och utomhusBilden kan innehålla: en eller flera personer, folkmassa, träd och utomhus 
(แฟลชม็อบพระนครเหนือ & อาชีวะประชาธิปไตย )
อาชีวะช่วยชาติ ปรามม็อบเยาวชนอย่าแตะต้องสถาบันฯ ย้ำหากไม่มีสถาบันกษัตริย์ลูกหลานจะอยู่อย่างไร
อาชีวะช่วยชาติรวมตัวประกาศปกป้องสถาบัน ปรามม็อบเยาวชนอย่าแตะต้องสถาบัน ย้ำคนไทยรักในหลวง ประเทศไทยต้องมีสถาบันฯ และสถาบันไม่เคยทำร้ายประชาชน ถามถ้าไม่มีสถาบันกษัตริย์ลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร พร้อมพาดพิงธนาธร ปิยบุตร อยู่เบื้องหลังม็อบเยาวชน
https://prachatai.com/journal/2020/07/88820
กลุ่ม "อาชีวะช่วยชาติ": การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อ "ท้าทาย ต่อต้าน หรือกระทั่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์"
กลุ่ม "อาชีวะเพื่อประชาชน": "ฝ่ายประชาธิปไตยไม่เคยคิดล้มล้าง แต่พอต่อต้านรัฐบาลเผด็จการเข้าหน่อย ก็มักใช้เรื่องสถาบันมากล่าวหา"

(หมายเหตุ-ขี้ครอก หมายถึง ลูกของขี้ข้า ทาสโดยกําเนิด.)

อำนาจที่แฝงอยู่จึงมีลักษณะรุนแรง #สมัยก่อนการจัดตั้งทำโดยอำนาจรัฐ #เป็นกลไกอำนาจรัฐ

การชุมนุม"อาชีวะช่วยชาติ"ผ่านไปแล้ว อย่างกร่อยๆ อันที่จริงก็ไม่น่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นนัก อย่างหนึ่งที่คนมักไม่ค่อยเข้าใจกันคือ การจัดตั้งสมัยนี้แตกต่างโดยพื้นฐานกับการจัดตั้งสมัย"14 ตุลา" นั่นคือ #สมัยก่อนการจัดตั้งทำโดยอำนาจรัฐ #เป็นกลไกอำนาจรัฐ อำนาจที่แฝงอยู่จึงมีลักษณะรุนแรง
การจัดตั้งสมัยหลัง เป็นการจัดตั้งในระดับเป็นไปเอง หรือไม่ก็เป็นของพรรคการเมือง หรือกลุ่มมวลชน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของการรวมกลุ่มทั่วไป ซึ่งไม่ค่อยมีพลัง

อาทิตย์ 14 ต.ค. 16
16.30 ไปสวนจิตร
เหตุที่เกิดใหญ่ในวันนี้ได้ความจาก พ.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และคุณทวีชัยย์ ว่า :-
(๑) กลุ่มสุดท้ายนำโดยเสกสรรค์และมี อจ.ปราโมช นาครทรรพ และ อจ. เอื้อย มาที่แนบท้ายเขาดิน สวนจิตร จะขอเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว แต่เป็นเวลาตี 4 แล้ว ในวังจึงพูดจาในส่วนตัว เขาค่อยสลาย แต่จะไปทางสี่แยกราชวิถี (ร.ร.วชิราวุธ) ซึ่งมีแถวตำรวจสกัดอยู่ (และเป็นทางที่...สวนรื่น - แต่ทางด้านวัดเบญจฯไม่มีตำรวจกั้น) -- จึงเกิดกระทบกันขึ้น - ตำรวจหาว่านักศึกษาขว้างระเบิดขวด - จึงตีเลย จึงล่อกันใหญ่ (พ.ต.อ.วสิษฐว่าความจริงแกได้.....ไปทางตำรวจแล้ว - เข้าใจว่า....- แต่.....ว่า รอง อตร.ไป.... แต่ก็ไม่ได้บอกกลับมาให้แกรู้ เมื่อเกิดเรื่องแล้ว .......หนีเข้าวัง พวก....ถึงเที่ยง)
(๒) เพราะเหตุนี้เองจึงเกิดไปขว้างปา .... ผ่านฟ้า - สำนักงาน กต.ป. กรมประชาสัมพันธ์
(๓) การยิงที่ ม.ธ.ทาง.....ทหาร..ว่าไม่ได้ยิง
17.00 น. คุณ.... โทรมาจากบ้านว่า อจ..... ม.ธ. ขอให้บอกเรา .... นักศึกษา 200 คน มีกำลังอยู่ใน .... รัฐบาล ... เวลาเพียง 18 น. นี้เท่านั้น ทหารเขาว่าเป็นแหล่งสะสมอาวุธ - ..... ไปอยู่ทำไมเล่า ก็รีบออกมาเสียสิ -- แล้วเรารีบบอก....... รีบไปบอกคุณกฤษณ์ สีวะรา ซึ่งกำลัง ..... เฝ้าอยู่ที่นี่เวลานี้
18.30 น. ฟังวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย..... ที่กองมหาดเล็ก (ที่บ้านคุณพิสิษญ์) ว่ารัฐบาลนี้ได้กราบถวายบังคมลาออกแล้ว โปรดฟังทั้งทางวิทยุโทรทัศน์ทุกสถานีต่อไป
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
หมายเหตุ : นี่เป็นบันทึกด้วยลายมือของสัญญา ธรรมศักดิ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มีบางตอนที่ไม่สามารถอ่านได้
เท่าที่อ่านได้ เหตุการณ์การปะทะในเช้ามืดวันที่ 14 ที่บริเวณหน้าสวนจิตร เกิดขึ้นโดยไม่มีการวางแผนมาก่อน
ส่วนอีกสองประเด็น - คือการที่ตำรวจระมัดระวังไม่ยอมให้ผู้ชุมนุมสลายตัวเดินผ่านทางเข้าวังจำนวนมากๆ (อันนำมาซึ่งการปะทะ) และการออกมาพบพวกที่หนีตำรวจเข้าไปหลบในวังในภายหลัง ไม่ได้แสดงความขัดแย้งในเรื่องนี้แต่อย่างใด - ทั้งสองประเด็นนี้ไม่ได้แสดงออกโดยตรงจากข้อความข้างต้น แต่สามารถส่อนัยได้โดยไม่ขัดแย้งกัน

Bilden kan innehålla: text
Andrew MacGregor Marshall Retweetade
Pro-monarchy demonstrators hold up signs at a rally in Bangkok. The sign reads “Citizen belongs to his majesty” #thailand
Bild
บีบีซีไทย - BBC Thai
การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและกิจกรรมต่อเนื่องหลังจากนั้น เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อ “ท้าทาย ต่อต้าน หรือกระทั่งล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์...” แถลงการณ์กลุ่มอาชีวะช่วยชาติระบุ


การออกมาเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยทีถูกกดขี่ขูดรีดอุ้มฆ่าจากราชาทรราชย์ไม่ใช่การก่อจลาจล

หนึ่งในหน้าที่คือ รักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันและปราบปรามการก่อจลาจล และควบคุมฝูงชน ที่มีผลกระทบต่อการถวายความปลอดภัย รอบเขตพระราชฐาน ( ประชาชนคือผู้เสียภาษีเลี้ยงดูกษัตริย์และครอบครัวที่ออกมาเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยทีถูกกดขี่ขูดรีดอุ้มฆ่าจากราชาทรราชย์ไม่ใช่การก่อจลาจล )

นอกจากเปลี่ยนชื่อจาก "กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์…




Bilden kan innehålla: en eller flera personer och text
(ผู้ทำงานรับใช้สนองฯ   หุ่นเชิดของกษัตริย์ที่ฆ่าประชาชนในนามของกษัตริย์)
จาก "ห่วงที่สุด" ถึง "ให้ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย"
เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความห่วงใยผู้ชุมนุมทางการเมืองโดยเฉพาะเยาวชนและนิสิตนักศึกษาโดยบอกว่าเขา "ห่วงที่สุด" เพราะคนเหล่านี้คือบุคลากรที่เป็นอนาคตของชาติ
วันนี้ (30 ก.ค.) นายกฯ ย้ำว่าเขากังวลเรื่องการชุมนุม และได้มอบให้ตำรวจไปพิจารณาดู "เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายได้อย่างเหมาะสม"...