lördag 30 november 2013

...ทำผิดกฎหมายเพื่อใคร?..ฟ้องด้วยภาพ ทำไมถึงให้เขาหลอกมาก่อความวุ่นวาย ทำร้ายเพื่อนร่วมชาติที่มีความคิดเห็นต่างหรือต้องมาตายแทนคนอื่นมาติดคุกแทนคนอื่น การกระทำเช่นนี้ไม่สมควรเรียกว่าเป็นการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างแน่นอน สมควรเรียกว่าป็นการกระทำของพวกนักเลงอันธพาลพวกป่าเถื่อนนอกกฎหมาย ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นอะไรในสังคมไทยเวลานี้?..


จับม็อบรามคำแหง ได้อีก 2 คน พร้อมอาวุธปืน กระสุน คาหนังคาเขาพร้อมป้ายคอการ์ดราชดำเนิน ส่งตัวให้ตำรวจแล้ว
กรูชักสงสัย ...ใครยิงนักศึกษาราม ... !!!
ตำรวจไม่มีอาวุธ มีแต่โล่กะกระบอง ...
จับม็อบรามคำแหง ได้อีก 2 คน พร้อมอาวุธปืน กระสุน คาหนังคาเขาพร้อมป้ายคอการ์ดราชดำเนิน ส่งตัวให้ตำรวจแล้ว</p>
<p>กรูชักสงสัย ...ใครยิงนักศึกษาราม ... !!!<br />
ตำรวจไม่มีอาวุธ มีแต่โล่กะกระบอง ...



กบฎไอ้เตบ บุกสนามกีฬาดับ 1
 
ความจริง ยังมีภาพอีกเยอะ ขอลงเหตุการณ์ยิงกันที่หน้าสนามกีฬาก่อน เพราะเป็นที่น่าสนใจ
ภาพอาจจะ ไม่ชัด เพราะถ่ายกลางคืน จากรั้วในสนามกีฬา ไปยังถนนอีกฝั่งหนึ่งไกลพอสมควร
และห้ามใช้แฟลชด้วย อาจจะเสียอารมณ์ จึงขออภัยมานะที่นี้ ครับ
 
คนในวงกลม คืนคนสั่งการในม๊อบ หน้าประตูทางเข้าที่ชุมนุม
 
ท่าสวยครับ
 
หลังจากสั่งให้บุกทางนั้นทางนี้ มันเดินหลบไปด้านหลัง
 
หลังจากนั้น อึดใจเดียว พวกมัน มาตะลุยทั้งยิงทั้งขว้าง ของใส่ตำรวจ
ที่กลางถนน จนตำรวจต้องนี้ เข้าไปในสนามกีฬา
 
 
 
วิ่งล้ำเส้นแบ่ง เข้ามาแล้ว เห็นต่างคนต่างวิ่ง
 
โดนลูกกระสุน 1 คน นอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นเลย ไม่รู้มาจากทิศไหน พวกมันต้องหามกันกลับ 
ยุติการบุก เข้าสนามกีฬา หลังจากนั้นตำรวจ ที่ระวังหลังให้มาบอกว่า เรียบร้อยครับพี่
คือตอนที่มันบุก ทั้งขว้างของ ทั้งยิง ทั้งระเบิดปิงปอง มันปะเคนใส่มา พอเราหาจังหวะถ่ายเสร็จ
แล้วหันมา ตำรวจหายไปแล้ว เป็นเรายืนอยู่หน้าสุดของสมรภูมิ เลยเรา …….เล่าแล้วยังเสี่ยวๆอยู่เลย เอิ๊ก เอิ๊ก
 
ยังมีภาพเด็ดอีกหลายช๊อต รวมทั้งคนสั่งการ ม๊อบหน้า ม.ราม
ภาพตัวอย่าง
คนเสื้อแดง ที่บาดเจ็บเต็มรถมูลนิธิ

 
 
รถเมล์คันที่นั่งมาชุมนุม เละทั้ง 4 ด้านและในตัวรถ
 
 

๓๐ พ.ย.๕๖..ไม่น่าให้เกิดซ้ำรอยเดิม เพราะบทเรียนความผิดพลาดในอดีตมีไว้ให้ศึกษา "แล้วใคร ? "จะเป็นคนรับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น น่าเศร้าใจ...อยากฝากให้เพื่อนร่วมชาติได้คิดประเทศไทยไม่ใช่มีแต่ผู้ดีชาวกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ประเทศเป็นของคนไทยทุกคนที่ควรช่วยกันรักและหวงแหนปกป้องไม่ให้พวกคนกลุ่มน้อยผู้ไม่เคารพกฎหมายมาทำลายความถูกต้องยุติธรรม ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประชาชนทั้งประเทศจะแสดงพลังบอกคนนอกกฎหมายเหล่านั้นว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบเผด็จการราชาธิปไตยที่พวกโจรนอกกฎหมายยัดเยียดให้ ประชาชนจงต่อสู้อย่างมีสติ ฉลาดอดทน รู้เขารู้เรา อยู่ในความสงบเพื่อรอเวลาและโอกาสอันเหมาะสม อย่าหลงกลลวง ข่าวลับ ลวงพลาง และการยั่วยุ ของพวกสมุนอำมาตย์ชั่ว โดยเอาตัวเองเข้าไปแลกให้เขาทำร้ายไม่มีประโยชน์อะไร การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังอีกยาวไกล

มีข่าว นปช. ถูกยิงทะลุหมวกกันน๊อค เสียชีวิตค่ะ T_T
   

   

   


02:40 น. หลักฐานที่การ์ดนำมาแสดง

"ม็อบคนดี หน้ารามซอย34"

ยิงเสื้อแดงทะลุหมวกกันน็อค ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว
ที่เห็นในหมวกกันน็อคคือเศษสมองของผู้เสียชีวิต

..ด่วน เหตเกิดที่ "ม็อบหน้ารามคำแหง" .. พวกโจรก่อจราจลเพื่อยั่วยุให้ทหารให้ออกมาปราบปรามเพื่อล้มล้างรัฐบาลของประชาชน เตือนประชาชนอย่าหลงกลลวงพวกโจร ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามหน้าที่


จับได้แล้วโฉมหน้าไอ้สารเลวสมุนไอ้เดรัจฉานเทือกที่ยิงนักศึกษาราม 
..ด่วน! จับได้แล้ว มือปืนยิงม็อบ นศ.รามฯ สร้างสถานการณ์ รับสารภาพ ยิงมั่วทั้งสองฝ่าย อาการเมาเหมือนเมาเหมือนเมาใบกระท่อม.
ล่าสุดตำรวจจับคนยิงได้แล้ว สารภาพ แต่งชุดตำรวจลำลอง พอยิงเสร็จ วิ่งถอดเสื้อใส่เสื้อแดงแต่ซวย โดนเสื้อแดงในสนามไล่จับได้ ขณะที่วิ่งมาพร้อมอาวุธ
ตำรวจกำลังสอบสวนเป็นกลุ่มคลั่งชาติของนายสุเทพ มีหลักฐานในมือถือ เป็นเพจเฟสบุ้คที่มีประวัติเป็นการ์ดม็อบอุรุพงษ์



[​IMG]

[​IMG]

 
    ม็อบคนดีสัตวฺนรก ตียายหน้าราม!! มึงมีความเป็นคนไหม??ม็อบนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่สนับสนุนผู้ชุมนุมโค่นระบอบทักษิณ ปะทะกันเดือดหลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนรามคำแหง 24 เมื่อเวลา 20.00น. ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิดดังกึกก้อง

    ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายบาดเจ็บกว่า 30 ราย ขณะที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนกว่า 300 นาย ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์และปิดซอยรามคำแหง 24 เพื่อไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน.
  1. [​IMG] 


  1. ------------
    21.40 น.สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นที่รามคำแหงหลังมีนักศึกษาถูกยิง 3 คน ถนนรามคำแหงตัดกับพระรามเก้ามีคนเอาสิ่งกีดขวางมาวางดักรถ นปช. ตอนนี้มีนักศึกษาทยอยเข้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงมากขึ้น ล่าสุดด้านหลังรามคำแหง (ซอย 24) มีการปะทะกัน มีเสียงปืนดัง และกลุ่มนกหวีดขัดขวางไม่ให้ นปช.เข้าพื้นที่

    [​IMG]   
  2. [​IMG]
    โจรพวกนอกกฎหมาย[​IMG]
    21.40 น.สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นที่รามคำแหงหลังมีนักศึกษาถูกยิง 3 คน ถนนรามคำแหงตัดกับพระรามเก้ามีคนเอาสิ่งกีดขวางมาวางดักรถ นปช. ตอนนี้มีนักศึกษาทยอยเข้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงมากขึ้น ล่าสุดด้านหลังรามคำแหง (ซอย 24) มีการปะทะกัน มีเสียงปืนดัง และกลุ่มนกหวีดขัดขวางไม่ให้ นปช.เข้าพื้นที่
  3.  

[​IMG] 

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG][​IMG]

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]


[​IMG]

 
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุดภายหลังเหตุปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับผู้ชุมนุมโค่นระบบทักษิณ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า ล่าสุดเหตุการณ์บานปลายเกิดความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภายหลังผู้ชุมนุมเสื้อแดงในสนามราชมังคลากีฬาสถานทราบเหตุปะทะที่เกิดขึ้น ทำให้บางส่วนไม่พอใจ ถอดเสื้อแดงออก สวมเสื้อสีอื่น ยกพวกซ้อนรถจยย. จำนวนมากออกมาด้านนอกหวังแก้แค้น

กระทั่งเวลา 20.00 น. ได้เกิดเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างกึกก้องจากการปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย ในซอยรามคำแหง 24 หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่ตำรวจไม่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากชุลมุนวุ่นวาย ประกอบกับเป็นช่วงกลางคืนไม่รู้ใครเป็นใคร ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายกว่า 30 คน นำส่งรพ.รามคำแหงและรพ.นพรัตน์ราชธานี ขณะที่ร้านค้าหลังม.รามฯ และแผงค้าจำนวนมาก ต่างเก็บข้าวข้าวหนีกันจ้าละหวั่น ด้านตำรวจได้ห้ามสื่อมวลชนเข้าพื้นที่เพราะเกรงได้รับอันตรายจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น

ด้านศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิต่างๆ ในเครือข่ายของศูนย์แพทย์เอราวัณ เหตุปะทะที่เกิดขึ้นมีผู้บาดเจ็บประมาณ 30 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย เช่น หัวแตก ฟกช้ำ รวม 20 กว่าราย บาดเจ็บสาหัส 4-5 ราย และถูกยิง 1 ราย นำส่งรพ.ใกล้เคียงหมดแล้ว ซึ่งกำลังตรวจสอบรายละเอียดกับรพ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. ตำรวจได้สั่งปิดการจราจรในซอยรามคำแหง 24 ทั้งหมด เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าของทั้ง 2 ฝ่าย โดยผู้ที่จะเข้าชุมนุมที่สนามราชมังคลาฯ ให้เข้าซอยด้านข้างสน.หัวหมาก ซึ่งเชื่อมต่อกับการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย ส่วนผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้เข้าออกประตูหน้าเพียงด้านเดียว

ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ประกาศบนเวทีห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าในพื้นที่เด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตราย เนื่องจากแยกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. กลุ่มเสื้อแดงในสนามราชมังคลาฯ กว่า 300 คน ออกมายืนพร้อมเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมในมหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ตำรวจปราบจลาจลกว่า 300 นาย ได้ผลักดันไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากัน.
 
‘ปู’ลั่นแม้เป็นหญิงแต่กล้าเผชิญทุกปัญหา-ยันไม่หนีออกนอกปท. ยอมถูกเย้ยดีกว่าทำปชช.เจ็บ

 เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบข้อซักถามของสื่อ หลังร่วมประชุมกับวอร์รูมของ ศอ.รส. ถึงกรณีที่กลุ่มกปปส.จะไปปิดล้อมสถานที่ราชการต่างๆ และประกาศไปทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่า ทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่หัวใจหลักที่เราต้องรักษาไว้ ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับส่วนราชการอื่นๆไม่น้อยกว่ากันด้วย โดยเราเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมไว้ดูแลปกป้องทรัพย์สินและสถาน ที่ราชการ รวมถึงรักษาความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน  อย่างไรก็ตามตนขอร้องต่อผู้ชุมนุมว่าอย่าบุกสถานที่ราชการ เพราะการบุกรุกสถานที่ราชการหรือเขตหวงห้ามที่มีประกาศใช้พ.ร.การรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้นเป็นการทำผิดกฎหมายซึ่งเราไม่อยากให้มีความ วุ่นวายหรือมีการดำเนินคดี นอกจากนี้ตนขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางรอบบริเวณสถานที่ราชการที่คาดว่า จะมีผู้ชุมนุมมาปิดล้อม และระมัดระวังเรื่องของมือที่สาม ขณะเดียวกันเราได้วางมาตรการต่างๆในการดูแลความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว

 เมื่อถามว่ามีแนวคิดที่จะใช้กฎหมายพิเศษขณะนี้หรือไม่เพราะหลายพื้นที่ในกทม.ซึ่งประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เราประกาศขยายพื้นที่พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดสรรบุคลากรไปดูแลป้องกันสถานที่ราชการต่างๆ เพราะเราไม่อยากบังคับใช้กฎหมายเพื่อกระทำการรุนแรงของประชาชน และขอยืนยันว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำด้วยความละมุนละม่อม รวมถึงเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักสากล ส่วนการป้องกันมวลชนกลุ่มต่างๆไม่ให้เผชิญหน้ากันนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจที่พยายามขอร้องมวลชนแต่ละกลุ่มว่าอย่าไปเผชิญหน้ากันเลย เพราะแม้แต่ละกลุ่มมาชุมนุมเรียกร้องโดยมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าการชุมนุมเรียกร้องนี้จะนำไปสู่ความรุนแรง จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์ที่มีการชุมนุมแล้วเกิดความวุ่นวายหรือความเดือดร้อนต่างๆ ซึ่งการดูแลของศอ.รส.ในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปอย่างเต็มที่และยังไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ

 ต่อ ข้อถามว่ามีรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลขึ้นปราศรัยบนเวทีของกลุ่มเสื้อแดงที่สนับ สนุนรัฐบาลจะถูกมองว่าเป็นการยั่วยุผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหรือไม่ และถือว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้ง 2 เวที กลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่คัดค้านรัฐบาลก็มีนักการเมืองขึ้นปราศรัยทั้ง 2 เวที แต่เชื่อว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมมืองต้องรู้ตัวว่าข้อจำกัดของตัวเองว่ามี อยู่แค่ไหน และจะพูดให้ประชาชนเข้าใจไปในลักษณะใด ซึ่งเป็นดุลยพินิจของผู้ที่ขึ้นเวทีต้องพิจารณา

 เมื่อถามว่าสำนักข่าวอัลจาซีรา ระบุว่ารัฐบาลไม่เข้มงวดกับผู้ชุมนุมจนเกินไป เพราะรัฐบาลเกรงว่าจะซ้ำรอยรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ นายกฯ กล่าวว่า เราเลือกที่จะถูกบอกว่ารัฐบาลอ่อนแอ ไม่ใช้กำลังจนถูกผู้ชุมนุมรุกนั้น ดีกว่าที่เราจะบอกว่ากำหนดเส้นตายเพื่อขอคืนพื้นที่แล้วสุดท้ายผลออกมาคือประชาชนเจ็บปวด เชื่อว่าภาพฝันร้ายของความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นเหตุการณ์ที่หลอนประชาชนคนไทยไปอีกนาน ซึ่งเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์นั้น จึงตัดสินใจให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยโดยปราศจากอาวุธ และทำตามขั้นตอนของกฎหมาย

 เมื่อถามว่าหากสถานการณ์บายปลายมีแนวคิดจะให้ทหารออกมาช่วยหรือไม่ นายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหม กล่าวว่า ในส่วนของพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ภายใต้การดูแลของ ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศอ.รส. มีอำนาจในการขอกำลังจากกองทัพมาช่วยสนับสนุนได้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ น่าจะเพียงพอ ก็จะดูเรื่องของการบริหารจัดการและเรื่องของกำลังเจ้าหน้าที่บุคลากรมากกว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังทำงานได้อยู่ แต่มีการขอกำลังทหารมาช่วยดูแลในบางสถานที่ ไม่ถึงขั้นที่ต้องใช้กำลังทหารทั้งหมด เพราะเราเชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือกับตำรวจในการไม่ไปถึงการใช้กำลังความรุนแรง

 เมื่อถามว่าในการชุมนุมที่ผ่านมามีการติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ และรัฐบาลมีอะไรจะบอกพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ได้เลยไปถึงจุดจุดนั้น เราคงต้องติดตามในเรื่องของจุดประสงค์เป้าหมายของผู้ชุมนุมที่ต้องการอยากจะเห็นในรูปแบบบของสภาประชาชน เราต้องติดตามว่าการทำให้รูปแบบของสภาประชาชนนั้นเกิดขึ้นจริงตามที่เรียกร้องนั้นจะเกิดขึ้นด้วยวิธีไหน เพราะว่าในส่วนของภายใต้กฎหมายหรือบทบัญญัติคงต้องมีการตรากฎหมายซึ่งต้องใช้เวลา เราก็ยินดีที่จะรับฟังอะไรที่เป็นประโยชน์โดยรวมเราก็ยินดีอยู่แล้ว

 เมื่อถามว่าถึงจุดจุดไหนที่นายกจะตัดสินใจลาออกหรือยุบสภาหรือไม่มีแนวคิดนี้อยู่ในหัวเลย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเรียนว่าดิฉันเอง เราเองไม่มีทิฐิใดๆ เรารักประเทศไม่แพ้กับทุกคน ก็เชื่อว่าคนไทยทุทกคนก็รักประเทศ ฉะนั้นก็คิดว่าอะไรที่เป็นทางออกของประเทศ อะไรที่ที่มีประโยชน์ต่อประเทศ อต่ก็ต้อขอความกรุณาด้วยความเป็นธรรม ทุกอย่างต้องคำนึงถึงเสียงหรือความต้องการของคนหมู่มากคนไทยทั้งประเทศด้วย คนส่วนใหญ่ด้วย

 “และวันนี้ดิฉันก็เชื่อว่าถ้าอะไรที่เป็นประโยชน์ กับประเทศดิฉันก็ยินดี ดิฉันจะอยู่ที่ไหนหรืออยู่อย่างไรคิดว่ายังทำประโยชน์เพื่อบ้านเพื่อเมือง ดิฉันก็ยินดีค่ะ แล้วสิ่งต่างๆ เหล่านี้การที่เราออกมาทำงานวันนี้ก็ต้องเรียนว่าภายใต้การทำงานและความมรับ ผิดชอบของในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้นก็ต้องประคองสถานการณ์ต่างๆเพื่อให้งาน ต่างๆนั้นเดินได้ วันนี้เราจะทำอย่างไร ทิ้งบ้านเมืองแบบนี้โดยที่ไม่มีทางออก ตรงนั้นก็ต้องมีคนมารับงานต่อ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เราต้องช่วยกัน ต้องช่วยกันในการให้กำลังคนไทยทั้งประเทศในการประคองประชาธิปไตยภายใต้ระบอบ ความต้องการของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ดำรงอยู่ได้ถ้าเราปล่อยให้สิ่งอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากกฎหมายเดินได้ มันก็ไม่ใช่หนทางที่จะเดินไปข้างหน้าได้ และวันนี้เรียนว่าปัญหาทั้งหมดได้เลยจุดของดิฉัน หรือในฐานะนายกรัฐมนตรีแล้ว”

 นายกฯ กล่าวอีกว่า และวันนี้ก็ควรเสนอทางออกของประเทศไทยที่คนไทยทุกภาคส่วนเปิดเวทีในการพูด คุยกันว่าข้างหน้าเราจะก้าวไปอย่างไรดีกว่าที่วันนี้เราจะบอกมาสร้างความ โกรธแค้นฝังซึ่งกันและกัน เพราะเดือนหน้าก็เป็นเดือนมหามงคลที่คนไทยทุกคนต้องพร้อมใจกันให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่ช่วยกันทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เห็น ความสามัคคีของคนไทยนั้นกลับคืนมา

 เมื่อถามว่านายกฯพร้อมจะนั่งพูดคุยด้วยตัวเองใกับนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยินดี อะไรที่ว่าถ้าจะทำให้บ้านเมืองสงบลงได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ ส่วนเวทีปฏิรูปการเมืองที่รัฐบาลทำไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะต้องชี้นำในเวทีนี้ เพราะเราเปิดเวทีนี้ไว้ให้เพื่อให้ทุกกลุ่มได้มาพูดคุยกัน แต่ที่สำคัญควรจะมาจากทุกกลุ่มที่มาจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง และสุดท้ายต้องกลับไปถามประชาชนส่วนใหญ่ว่าเห็นด้วยหรือไม่ นั่นคือทางออกและคำตอบของประเทศไทย

 เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่านายกฯจะไม่อยู่แก้ไขปัญหาในประเทศแต่จะเดินทางไปประเทศรัสเซีย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนยังอยู่ที่นี่ และยืนอยู่ที่สตช.ซึ่งเป็นหัวใจหลัก อีกทั้ง ตนได้มีโอกาสมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยในการดูแลประชาชน “ดิฉันไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ ถึงแม้ดิฉันเป็นผู้หญิงแต่ดิฉันก็กล้าเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ”

สถานการณ์เวลานี้ อ่านได้อย่างนี้ครับท่าน

วันนี้ เป็นอีกวันหนึ่งที่คนกรุงเทพเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย เหตุเพราะม๊อบประชาธิปัตย์สร้างความรู้สึกไม่ปลอดภับ พร้อมก่อการร้ายได้ทุกเมื่อด้วยการเคลื่อม๊อบไปทุกที่ ที่อยากจะไป ตามยุทธการ "หมาเยี่ยว" ซึ่งมีผกระทบอำนาจรัฐเพียงความรู้สึกเท่านั้น แต่ไม่มีผลแท้จริงต่ออำนาจรัฐ เนื่องจากสถานที่ม๊อบประชาธิปัตย์ไปยึดไว้ รัฐบาลยังสามารถบริหารงานแผ่นดิน กุมอำนาจบริหารประเทศอย่างถูกต้องชอบธรรม
จากคำประกาศของม๊อบประชาธิปัตย์ให้วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นวันประกาศชัย โดยมีแผนการณ์บุกยึดทำเนียบรัฐบาลซึ่งทางการเมืองถือว่าเป็นศูนย์กลางการ บังคับบัญชาของรัฐบาลชุดนี้ โดยนัดหมายจะเ้ข้าตีในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 30 พย. และนปช.ที่ชุมนุมอยู่ที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถาน ประกาศรวมพลต้านรัฐประหารในวันที่ 30 พย.เช่นกัน ปรากฎการณ์ทั้ง 2 ส่งผลกระทบถึงจิตใจคนกรุงเทพที่เป็นคน "หยิบโหย่ง" ตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองไปตั้งหลักดูสถานการณ์ ทำให้ม๊อบประชาธิปัตย์ไม่มีคนเติมเข้าม๊อบ ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานมีการแสดงออกทำนองเชิญชวนให้เข้ามาร่วมชุมนุมกับม๊อบประชา ธิปัตย์จากบรรดาชนชั้นนำที่คิดว่าเป็นชนชั้นที่คุมประเทศอยู่..เหตุนี้ทำให้ การเข้าตีเพื่อยึดศูนญ์กลางอำนาจรัฐต้องล้มเลิกไปก่อน เมื่อถึงเวลานัดหมายเพราะ มวลชนไม่เพียงพอที่จะทำการ

ภาพบนถนนสายรังสิต-นครนายกฯ เป็นภาพที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัดของ 2 ฝากถนน ขาออกจากเมือง เต็มไปด้วยรถเก๋ง รถกะบะ บรรทุกผู้คนออกนอกเมือง ขณะที่ขาเข้ากรุงเทพ เต็มไปด้วยรถบัส รถกะบะ ที่ติดธงแดง สัญญาลักษณ์ พร้อมผู็้คนที่โดยสารบนรถที่มาจากต่างจังหวัด เป้าหมายคือสนามกีฬารัชมังคลาฯ

ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เป็นความหวังอีกครั้งหนึ่งของม๊อบประชาธิปัตย์ ที่ต้องการหนีข้อหา "กบฎแผ่นดิน" ด้วยการยกระดับก่อการร้ายขั้นสูงสุดด้วยการเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล ประกาศชัยชนะที่อ้างว่าเป็นสงครามประชาชน ตั้งใจจะทำให้เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ แต่บัดนี้ เสียฤกษ์ ถึงเวลา กองทัพประชาชนของม๊อบประชาธิปัตย์ ยังไม่สามารถระดมพลเข้าทำศึกได้อย่างที่ต้องการ...เชื่อว่า สุดท้าย สงครามครั้งนี้จะถูกแปรสภาพเป็น"สงครามกองโจร" ด้วยยุทธการ "หมาเยี่ยว" ในไม่ช้าและรอการถูกปราบอย่างราบคราบ ในเวลาอีกไม่นาน...

สถานการณ์เวลานี้ อ่านได้อย่างนี้ครับท่าน

ความลับเผาบ้านเผาเมืองปี53กระจ่าง เทือกอำมหิต!

ความลับเผาบ้านเผาเมืองปี53กระจ่าง เทือกอำมหิต!

"ทางเซ็นทรัล ได้พยายามติดต่อร้องขอคุณสุเทพ ที่เป็นผู้อำนวยการศอฉ.ให้ยินยอมปล่อยรถดับเพลิงเข้ามาดับเพลิง แต่คุณสุเทพตอบมาเพียงว่า "เป็นเรื่องของทหาร" จากนั้นทหารที่ควบคุมพื้นที่ไว้ทั้งหมดก็ขับไล่พนักงานรักษาความปลอดภัยของ ห้างออกไป และห้ามรถดับเพลิงเข้ามา.."ผู้บริหารระดับสูงของเซ็นทรัล เปิดเผยเบื้องหลังกรณีเผาบ้านเผาเมืองในเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 

โดย ทีมข่าวInvestigative News ไทยอีนิวส์
30 พฤศจิกายน 2556

ในสถานการณ์ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังนำพาผู้สนับสนุนเขา ก่อการกบฎล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยละเมิด กฎหมาย ความลับดำมืดกรณี"เผาบ้านเผาเมือง"เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ก็ถูกเปิดเผยว่า นายสุเทพมีส่วนสำคัญที่ต้องรับผิดชอบอย่างยิ่ง

ผู้บริหารระดับสูงของเครือเซ็นทรัล เปิดเผยเบื้องหลังเหตุการณ์เผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการศอฉ.ในเวลานั้นเพิกเฉยต่อการระงับเหตุการณ์ และมีเรื่องที่เซ็นทรัลยังติดค้างคาใจมาจนทุกวันนี้

หลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้แล้ว เราได้ประสานงานติดต่อไปยังคุณสุเทพขอให้เปิดทางรถดับเพลิงเข้ามาดับเพลิงให้ทันท่วงที แต่คุณสุเทพตอบว่า เป็นเรื่องของทหาร เขาไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นใดๆว่าอยากช่วยระงับเหตุนี้เลย

ผู้บริหารระดับสูงของเครือเซ็นทรัลกล่าวว่า ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนปช.ในปี2553 ทางเครือเซ็นทรัลได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขึ้น และมีเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์พร้อมรับมือทุกอย่าง รวมทั้งการประสานงานกับทั้งฝ่ายรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และฝ่ายแกนนำการชุมนุม
เมื่อเกิดเหตุบุกรุกและวางเพลิงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ได้มีรถดับเพลิงเข้ามาจะดับเพลิง แต่ทหารที่เข้าควบคุมสถานที่เกิดเหตุได้หมดแล้ว ไม่ยินยอมให้รถดับเพลิงสามารถเข้ามาดับเพลิงได้

นี่เป็นเรื่องที่เราข้องใจและค้างคาใจ เมื่อเราประสานงานคุณสุเทพ ที่เป็นผู้อำนวยการศอฉ.ให้เปิดทางเข้ามาดับเพลิง คุณสุเทพตัดบทแค่ว่าเป็นเรื่องของทหารเขากล่าว

ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ชนะคดีในศาลชั้นต้นในการเรียกร้องค่าเสียหายชดเชยในเหตุ เพลิงไหม้และตึกถล่มในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นมูลค่าราว6พันล้านบาทเศษ โดยมีบริษัท เทเวศร์ประกันภัย จำกัด เป็นบริษัทประกันภัย แต่บริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศยังต่อสู้ในศาลชั้นอุทธรณ์

สาเหตุที่เซ็นทรัลฯชนะคดีในศาลชั้นต้นนั้น เขากล่าวว่า ทางเซ็นทรัลได้สู้ในประเด็นที่ว่า เหตุบุกรุกวางเพลิงในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุมาจากการก่อการร้าย หรือเป็นผลพวงจากการก่อการจลาจลในการชุมนุม แต่เป็นเหตุวางเพลิงของการบุกรุกโจรกรรมปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นเหตุเกินควรที่จะปกป้องทรัพย์สินได้ แต่เนื่องจากมีคำสั่งห้ามไม่ให้รถดับเพลิงเข้ามาปกป้องทรัพย์สิน และทหารที่ควบคุมสถานที่เกิดเหตุไว้ในเวลานั้นได้ขับไล่พนักงานรักษาความปลอดภัยของเซ็นทรัลออกไป

ทนายความของเซ็นทรัลได้ต่อสู้ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุบุกรุกวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับการ ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนปช. หรือมีแรงจูงใจจากแกนนำผู้จัดการการชุมนุม เนื่องจากแกนนำนปช.ประกาศยุติการชุมนุมและเข้ามอบตัวต่อทางการในเวลา ราว13.00 น.


จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงก็สลายตัวลง ผู้เข้าร่วมการชุมนุมต่างก็ทยอยออกจากพื้นที่การชุมนุม เหมือนตอนเลิกคอนเสิร์ต แล้วคนทยอยกลับบ้านจนหมด ส่วนผู้ก่อเหตุบุกรุกเข้าวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นพวกฉวยโอกาสเข้ามาเพื่อโจรกรรมทรัพย์สินในห้าง แต่ไม่มีมูลเหตุจูงใจจากการชี้นำของแกนนำการชุมนุมเวลานั้น

เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นภายหลังจากเสื้อแดงสลายการชุมนุมไปหมดแล้ว และทหารเข้าควบคุมพื้นที่ไว้ทั้งหมดแล้ว และเมื่อเกิดเหตุบุกรุกวางเพลิง ทหารได้ขับไล่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของห้างออกไป และไม่ยินยอมให้รถดับเพลิงเข้ามาได้ แม้ทางเซ็นทรัลได้พยายามติดต่อประสานงานกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศอฉ.ในเวลานั้นแล้ว แต่นายสุเทพบอกปัดว่า
เป็นเรื่องของทหาร

ต่อคำถามที่ว่า เหตุนี้พอสรุปได้หรือไม่ว่า การวางเพลิงไม่เกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงนปช. แต่เกิดจากกลุ่มฉวยโอกาสโจรกรรม และนายสุเทพกับทหารก็ยินยอมให้การเผาห้างสำเร็จ เพื่อหวังผลทางการเมือง ด้วยการป้ายความผิดให้กลุ่มคนเสื้อแดงว่าเป็นพวกเผาเมือง
? ผู้บริหารเซ็นทรัลกล่าวว่า นั่นเป็นข้อสรุปที่เราคิดว่าเป็นเช่นนั้น” ผู้บริหารเซ็นทรัลกล่าวกับทีมข่าวInvestigative Newsของไทยอีนิวส์

fredag 29 november 2013

พท.ออกแถลงการณ์ 7 ข้อ..ปมประเด็นวิกฤตการเมือง **

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย
ได้ออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทยต่อกรณีการชุมนุมทางการเมือง โดยได้
มีเนื้อหาระบุว่า จากที่มีการชุมนุมทางการเมือง และในขณะนี้การชุมนุมที่สงบได้
เปลี่ยนเป็นการชุมนุมที่มีการละเมิดกฎหมาย และมีการยึดสถานที่ราชการ ซึ่งไม่
สอดคล้องกับบทบัญญัติทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยขอแถลงว่า

(ภาพประกอบ)
[​IMG]


  1. 1. พรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมที่ยึดสถานที่ราชการซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมายและหลัก นิติธรรม ให้ออกจากอาคารและสถานที่ราชการ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐและข้าราชการสามารถให้บริหารประชาชนอย่างต่อเนื่อง

    2. พรรคเพื่อไทยสนับสนุนท่าทีของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการเปิดพื้นที่
    พูดคุยระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อแก้ความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี

  2. 3. พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยและสนับสนุนรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลผู้ที่มาชุมนุมอย่างละมุนละม่อม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

    4. เนื่องจากแกนนำผู้ชุมนุมเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชวน หลีกภัย และพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยดำเนินการให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำผู้ชุมนุมยุติการยึดสถานที่ราชการโดยพลัน



  3. 5. พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณมิตรประเทศและเลขาธิการสหประชาชาติ ที่แสดงท่าทีว่าควรยุติข้อขัดแย้งทางการเมืองโดยการพูดคุยกันอย่างสันติวิธี
    ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นด้วย



  4. 6. พรรคเพื่อไทยขอเรียนชี้แจงว่า การที่ผู้ชุมนุมหรือพรรคประชาธิปัตย์ได้ใส่ร้ายรัฐบาลว่าขาดความชอบธรรม เพราะไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญนั้นพรรคขอชี้แจงว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยประเด็นที่ มาของ ส.ว. ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะรับคดีไว้ พิจารณาและวินิจฉัยเช่นนั้น ซึ่งเป็นการประกาศว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับ
    และพิจารณาคดีนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง และมิใช่เป็นการประกาศไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญเป็นการทั่วไป และ




  5. 7. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าข้อเรียกร้องของหัวหน้ากลุ่มผู้ชุมนุมที่จะตั้งสภา ประชาชนไม่อาจทำได้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 50 พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการชุมนุมโดยสงบ เป็นการใช้เสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมายและบทบัญญัติของรัฐ ธรรมนูญ โดยเฉพาะการยึดสถานที่ราชการ ซึ่งเสมือนเป็นการใช้ประเทศและคนไทยเป็นตัวประกัน ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับระบอบประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในบ้านเมือง ที่เป็นรากฐานการปกครองประเทศที่ดีและเป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพพื้นฐาน ของประชาชนทุกคน

หนึ่งนารีขี่อาชา..กำคทารอ “อรชุน” ... รบเถิดหนออรชุน..เมื่อบุญคุณทดแทนแล้ว รวมพลังตั้งเป็นแนว..ต้องรบแล้วอรชุน บุญมันทำกรรมมันสร้าง..ต้องเลือกข้างล้างเจ้าขุน หมดสิ้นทีผู้มีบุญ..เนรคุณประเทศไทย

ขุนเขาบอก :
 

หนึ่งนารีขี่อาชา..กำคทารอ “อรชุน”
รบเถิดหนออรชุน..เมื่อบุญคุณทดแทนแล้ว
รวมพลังตั้งเป็นแนว..ต้องรบแล้วอรชุน
บุญมันทำกรรมมันสร้าง..ต้องเลือกข้างล้างเจ้าขุน
 

หมดสิ้นทีผู้มีบุญ..เนรคุณประเทศไทย
นั่งดูไพร่ถูกเข่นฆ่า..แค่มองฟ้าน่าฉงน
ต้องก้มหน้าอย่างทุกข์ทน..เกิดเป็นคนกันทำไม
แผลงศรเจ้าเกาทัณฑ์เลือด..ล้างความเกลียดร่วมสมัย
 

นำสู่ฟ้าประชาธิปไตย..ความหวังใหม่อรชุน
เทพเทวานั่งหน้าใบ้..ปล่อยอีไอ้มันผยอง
มันเหยียดหยามความปรองดอง..เพียงปกป้องผู้มีบุญ
สลายมนต์คนมีมนต์..อิทธิพลเหลืองเพียงศูนย์
 

เข็มแข็งหนออรชุน..วันสิ้นบุญใกล้มาเยือน
สมุนเทพแค่เห็บหมา..เดินก่นด่ากลางถนน
แอบอ้างสิทธิ์ฤทธิรณ..แอบอ้างคนบนดาวเดือน
นคราคราถึงคราล่ม..ความนิยมไม่เสถียร
 

กลิ่นเลือดหวนยังจวนเจียน..ใกล้ขับเคลื่อนกองกำลัง
พลังแดงเจ้าแรงฤทธิ์..พร้อมทวงสิทธิ์พิชิตเหลือง
รอวันเฉาเจ้าดาวเรือง..วันแดงเหลือลองกำลัง
อรชุนบุญเจ้าแล้ว..ประกายแก้วแห่งความหวัง
 

ดาวเรืองรวยด้วยชิงชัง..ไม้ใกล้ฝั่งวัยชรา
ศรเจ้าแน่ดั่งแงซาย..สู่เป้าหมายผู้ฉ้อฉล
ผู้มีฤทธิ์อิทธิพล..ไล่มันพ้นนครา
รบเถิดหนออรชุน..ล้มบุญคุณคำกล่าวหา
หนึ่งนารีขี่อาชา..กำคทารอ “อรชุน”…รบเถิดอรชุน….

[​IMG]

คำประกาศเจตนารมณ์ของ RED USA
กรณีม็อบประชาธิปัตย์กับระบบกษัตริย์แบบเบ็ดเสร็จ

ปรากฎการณ์แพ้แล้วพาลของพรรคประชาธิปัตย์

นับตั้งแต่การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ก่อให้เกิดความแตกแยกและการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนในประเทศ

พฤติกรรม "จระเข้ขวางคลอง" ของพรรคประชาธิปัตย์นับตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งเป็นต้นมา
ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลในทุกเรื่องทุกประเด็นถ่วงรั้งความเจริญของประเทศชาติ
ทำร้ายประชาชนทำลายความสุขของสังคมในทุกเรื่องทุกโครงการ
พฤติกรรมตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จใส่ร้ายป้ายสีผ่าน "เวทีผ่าความจริง" ของพรรคประชาธิปัตย์
ได้ยกระดับเป็น "เครือข่ายม็อบป่วนประเทศ" โดยการนำของ
"นายสุเทพเทือกสุบรรณ" ในปัจจุบัน
เป็นการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและเป็นการทำให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง
ที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งยังประกาศจะนำระบบกษัตริย์แบบเบ็ดเสร็จมาใช้ปกครองประเทศแทน

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น RED USA ขอประกาศเจตนารมณ์ไว้ ณ. ที่นี้คือ

1. ขอประนามผู้สร้างความปั่นป่วนและความเกลียดชัง ในประเทศและผู้เห็นดีเห็นงามกับ "เครือข่ายม็อบป่วนประเทศ"
ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้วางแผนและเดินเกมส์เพื่อโค่นล้มรัฐบาลและนำระบบกษัตริย์แบบเบ็ดเสร็จมาใช้ปกครอง
1.1. ขอประนาม "เครือข่ายม็อบประชาธิปัตย์" โดยการนำของ นายสุเทพเทือกสุบรรณ
1.2. ขอประนามพรรคประชาธิปัตย์กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกทุกคนของพรรคนี้
1.3. ขอประนามตลก. ที่สร้างความชอบธรรมให้พรรคประชาธิปัตย์ก่อม็อบล้มล้างการปกครอง
1.4. ขอประนามศาลที่หน่วงเหนี่ยวการออกหมายจับแกนนำม็อบที่ทำผิดกฎหมายตามคำขอของตำรวจ
1.5. ขอประนามสว. ลากตั้งที่จับมือร่วมเป็นฝ่ายค้านกับพรรคประชาธิปัตย์และให้การสนับสนุน "เครือข่ายม็อบประชาธิปัตย์"
1.6. ขอประนามคณะอธิการบดีที่สนับสนุนการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
1.7. ขอประนามนักวิชาการนอกคอกที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย
1.8. ขอประนามสื่อเลือกข้างที่ไร้จรรยาบรรณเป็นทาสเงินและขี้ข้ารับใช้อำมาตย์นายทุนผูกขาดและฝ่ายอนุรักษ์นิยม
1.9. ขอประนามข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหะกิจข้าราชการการเมืองนักการเมืองที่เห็นดีเห็นงามกับการโค่นล้มรัฐบาล และ
1.10. ขอประนามทุกไอ้อีที่สนับสนุน "เครือข่ายม็อบประชาธิปัตย์" ไม่ว่าในด้านใดในการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

2. ขอเรียกร้องให้ฟ้องร้องกล่าวโทษ "เครือข่ายม็อบประชาธิปัตย์" ในความผิดตามมาตรา 68 ตั้งแต่แกนนำผู้ร่วมกระบวนการ
ผู้ให้การสนับสนุนและบรรดาผู้ร่วมสมคบคิดในการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนคือ

2.1. ขอเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1. ถึงข้อ 1.10. ข้างต้น
2.2. ขอเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1. ถึงข้อ 1.10.ข้างต้น
2.3. ขอเรียกร้องให้เจ้ากระทรวงที่ถูกบุกรุกฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1. ถึงข้อ 1.10. ข้างต้น
2.4. ขอเรียกร้องให้แกนนำนปช. ฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1. ถึงข้อ 1.10.
2.5. ขอเรียกร้องให้ทุกท่านที่รู้และเห็นการกระทำของ"เครือข่ายม็อบประชาธิปัตย์"เพื่อโค่นล้มรัฐบาลให้ดำเนินการฟ้องร้องกล่าวโทษบุคคลทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในข้อ 1. ถึงข้อ 1.10. เช่นกัน และ
2.6. ขอเรียกร้องให้ฟ้องร้องกล่าวโทษตลก. ตามมาตรา 157 ในกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำฟ้องร้องกล่าวโทษ

3. RED USA ขอคารวะทุกท่านที่อดกลั้นอดทนในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขของประเทศ จึง:
3.1. ขอส่งกำลังใจมายังตำรวจทุกนาย ผู้ ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความสงบของสังคมประเทศตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายทุกระดับชั้น
3.2. ขอส่งกำลังใจมายังนายกฯ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่แก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศด้วยความสุขุมเยือกเย็น
3.3. ขอส่งกำลังใจมายังฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติให้ประสานความร่วมมือเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
3.4. ขอส่งกำลังใจมายังข้าราชการทุกท่านที่รักประชาธิปไตยและยืนเคียงข้างความถูกต้องจงยึดมั่นในอุดมการณ์ของท่านตราบนานเท่านาน
3.5. ขอส่งกำลังใจมายังคนเสื้อแดงทุกคนทุกกลุ่มที่มุ่งมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
3.6. ขอส่งกำลังใจมายังประชาชนไทยผู้รักสงบทุกท่านที่ต้องกล้ำกลืนทุกข์ในสถานการณ์ของการแบ่งแยก

ถ้าพวกท่านยังรักความสามัคคีและยึดมั่นในความสงบ แก๊งกวนเมืองและเหล่าผู้สร้างความแตกแยกจะถูกปราบราบคาบสิ้น


"ประเทศไทยจงเจริญ"

RED USA
November 28, 2013

สุเทพ เทือกสุบรรณปฏิบัติการบาบาร์รอสซาที่ล้มเหลวของนาซี..ใคร? คือผู้ถือธงแห่งชัยชนะ

                                  - 1 -

สงครามบาบาร์รอสซาคือยุทธการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกการสู้รบของเยอรมันนาซี ที่โจมตียุโรปตะวันออกและโซเวียตรัสเซีย ในวันที่ 22 มิถุนายน 1941 ด้วยกองทัพกว่า 3 ล้านคนของเยอรมันนาซีทำให้กองทัพโซเวียตถอยร่นเป็นกระบวน และพ่ายแพ้ในทุกสมรภูมิการรบ ทหารโซเวียตล้มตายและถูกจับเป็นเชลยนับล้านคน และได้รับความสูญเสียมหาศาล
ในขณะที่ทัพเยอรมันนาซีบุกเข้าไปในดินแดนโซเวียตอย่างคึกคะนองและแข็งแกร่ง นั้น ใครๆ ต่างก็วิเคราะห์กันว่าโซเวียตคงจะต้องพ่ายแพ้เยอรมันนาซี เหมือนดังเช่นประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในยุโรปเวลานั้น…. แต่ทว่าเมื่อรบกันเนิ่นนานไปความสูญเสียก็ทวีมากขึ้นระยะเวลามากขึ้น กองทัพเยอรมันนาซีได้พบกับการต่อต้านอันแข็งแกร่งของชาวโซเวียตรัสเซียผู้ ไม่ยอมแพ้และรวมกำลังกันต่อต้านผู้รุกรานในหลากหลายรูปแบบเช่น ปรากฏการณ์การต่อสู้ของ “วาสิลี ไซเซฟ” พล แม่นปืนที่กลายเป็นผู้สร้างขวัญกำลังใจในการต่อสู้ให้กับชาวโซเวียตรัสเซีย (ดูภาพยนตร์เรื่อง Enemies at the gate ประกอบ) ในที่สุดกองทัพเยอรมันนาซีก็ถอยร่นและพ่ายแพ้ในที่สุด... และแม้ว่าปฏิบัติการบาบาร์รอสซาของเยอรมันนาซีจะยังความสูญเสียอย่างใหญ่ หลวงมาให้แก่โซเวียตรัสเซีย... แต่ทว่าเมื่อถึงตอนท้ายผู้ชูธงแห่งชัยชนะในสงครามนี้ก็คือ “ชาวโซเวียตรัสเซีย” นั่นเอง

                                              - 2 -

 ขณะนี้ม๊อบของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เปรียบได้ไม่ต่างจาการปฏิบัติการบาบาร์รอสซา ในครั้งกระนั้น เป็นม๊อบที่มีมวลชนที่แข็งแกร่ง....มีกองกำลังกึ่งติดอาวุธประจำอยู่ในม๊อบ เพียบ... มีสื่อมวลชนทีออกข่าวคอยปลุกกระแสประชาชนให้สร้างความวุ่นวายขึ้นอยู่ตลอด เวลา... มีนักวิชาการอมาตย์... มีกลุ่มนักเลงอันธพาล... มีขบวนการรัฐวิสาหกิจที่เป็นหลืบของสังคม... ข้าราชการอมาตย์... นายธนาคาร...พ่อค้า.. และเหล่าบุคคลที่อ้างว่าเป็นชนชั้นสูงในสังคม..คอยให้การสนับสนุนในทุกวิถี ทาง เพื่อจะล้มการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสากลที่นานาประเทศให้การยอมรับลงให้ จงได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวและเป็นเป้าหมายที่มุ่งมั่นมาโดยตลอด
การปฏิบัติการต่างๆ ของม๊อบราชดำเนินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในครั้งนี้เป็นการออกอาวุธครั้งสุดท้าย ของขบวนการเผด็จการที่ต่อต้านประชาธิปไตยของประเทศนี้ เมื่อนำสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้มาพิจารณาทีละขั้นทีละตอนตั้งแต่เริ่มต้น จะเห็นได้ชัดว่า ม๊อบของนายสุเทพ นั้นได้ฉวยโอกาสในขณะที่ประชาชนกำลังไม่พอใจกับการออก พรบ. นิรโทษกรรม จากนั้นจึงขยายเรื่องมาเรื่อยๆ กลายเป็นการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยใช้วาทะกรรมว่า “โค่นระบอบทักษิณ”    

                               - 3 -

  ซึ่งการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ได้ออกมาในรูปแบบ “รวดเร็ว...รุนแรง...แข็งกร้าว...และฉับพลัน” เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับการบริหารงานของประเทศนี้ ตามขั้นตอนของการก่อการจลาจลคือ

1. สร้างเงื่อนไขในการรวบรวมมวลชน

2. สร้างสถานการณ์ให้เกิดปั่นป่วนขึ้นในมวลชนนั้น

3. ทำให้รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานในประเทศได้จนกลายเป็น “รัฐที่ล้มเหลว”

4. ยึดอำนาจรัฐ

ในการก่อม๊อบในครั้งก่อนๆ ฝ่ายเผด็จการผู้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยก็ได้พยายามเดินตามแผนการณ์นี้มา ตลอด แต่ไม่เคยสำเร็จเพราะเงื่อนไขไม่เพียงพอ และไม่สามารถรวบมวลชนได้มากพอ แต่ในครั้งนี้มีเงื่อนไขที่ทำให้มวลชนเข้ามารวมกันมากเป็นประวัติการณ์คือ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ทำให้ฝ่ายเผด็จการเชื่อว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะสามารถทำตามขั้นตอนการก่อการจลาจลและยึดอำนาจรัฐในครั้งนี้ได้ ดังนั้นเราจึงเห็นตัวละครที่อยู่ในมหากาพย์ เรื่องนี้ออกมากันครบทุกคน

                               - 4 -

แม้ว่าเวลานี้ม๊อบของสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังฮึกเหิม และก้าวร้าว ปฏิบัติการณ์ ยึดโน่น ยึดนี่ ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการต่างๆ มากมาย สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศไทยสมัยสนธิ ลิ้มทองกุล ถ้าเปรียบเทียบการยึดสถานที่ต่างๆ ของม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังห่างชั้นจากม๊อบของสนธิ ลิ้มทองกุลมากนัก เพราะสมัยสนธิ ลิ้มทองกุลถึงขั้นเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบินทั้งสองแห่งเลยเพื่อต้องการปิดประเทศเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ยังคงเป็นรัฐบาลอยู่ได้ จนต้องใช้อำนาจพิเศษที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน

สิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังกระทำเวลานี้คือการกระทำผิดกฏหมายบ้านเมือง ไม่ใช่เสรีภาพในการชุมนุมอีกต่อไป ดังนั้นความชอบธรรมในการอ้างสิทธิในการชุมนุมจึงหมดสิ้นลงไปแล้ว ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างมองดูม๊อบของนายสุเทพ ประหนึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่กำลังทำลายประเทศของตนเอง และสิ่งที่ปรากฏชัดก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ได้ถอยห่างไปจากม๊อบนายสุเทพ อย่างเห็นได้ชัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งห้ามไม่ให้สมาชิกพรรคเข้าร่วมการกระทำผิดกับนายสุเทพ นักวิชาการสายอมาตย์หลายคนเริ่มออกมากล่าวตำหนินายสุเทพ ที่กระทำสิ่งผิดกฏหมาย ซึ่งก็หมายความว่า “นายสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว” นับจากนี้ต่อไปนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะเป็นไปได้ก็คือ ใช้เวลาที่เหลือในบั้นปลายชีวิตนั้นในคุกเท่านั้น

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องการให้เกิดขึ้นมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ “การสลายการชุมนุมจากฝ่ายรัฐบาล” ไม่ว่าจะใช้วิธีใด กระบอง....แก๊สน้ำตา... ฉีดน้ำ.... ฯลฯ ถ้ารัฐบาลกระทำการใดๆ ในขณะนี้ผลที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ จะมีวีรสตรี วีรบุรุษแบบเดียวกับ “โบว์ปิงปอง...และจ๊าบซีโฟร์” เกิดขึ้นทันทีโดยการกระทำของพวกสุเทพ เทือกสุบรรณเอง แล้วทุกสื่อทุกองค์กรจะออกมาขานรับพร้อมๆ กันว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาลทรราชย์สังหารประชาชนของตนเอง โดยการโยนความเลวทั้งหมดให้กับรัฐบาล เพื่อสร้างความวุ่นวายเพิ่มขึ้นจนบริหารประเทศไม่ได้

                                                   - 5 -

พี่น้องที่รักประชาธิปไตยที่รักและเคารพทุกท่านครับ... เยอรมันนาซีเปิดปฏิบัติการบาบาร์รอสซา เพราะเชื่อมั่นว่าตนเองจะต้องเป็นฝ่ายชนะเพราะมีความพร้อมและแข็งแกร่งกว่า โซเวียตรัสเซีย... และในช่วงต้นของสงครามก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป...การสู้รบยืดระยะนานเพิ่มขึ้นในที่สุดฝ่ายเยอรมัน นาซีก็พ่ายแพ้ไปจนได้ และผู้ที่ได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะคือ กองทัพโซเวียตรัสเซีย แน่นอนว่ามีการสูญเสีย แน่นอนว่ามีความเจ็บปวดโศกเศร้า แต่ในที่สุดโซเวียตรัสเซียก็เป็นผู้ชนะ

เวลานี้ดูเหมือนว่าม๊อบสุเทพ เทือกสุบรรณ และหลากหลายองค์กรอมาตย์จะดาหน้ากันออกมารุกไล่จนฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายถอยตั้ง รับ และหลบหลีกไม่เป็นกระบวนไม่สามารถจะใช้ปฏิบัติการตามกฏหมายควบคุมผู้กระทำ ผิดซึ่งหน้าได้อย่างถนัด เพราะการบิดเบือนของสื่อ สถานการณ์เช่นนี้ยังความอึดอัด..หงุดหงิด.. และหวั่นไหวให้กับพี่น้องฝ่ายประชาธิปไตยไม่น้อย

แต่ผมขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านว่า “ในทางการเมืองสุเทพ เทือกสุบรรณได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว” ไม่มีความชอบธรรมในการประท้วงด้วยมวลชน และไม่มีทางที่จะได้รับชัยชนะและมามีอำนาจปกครองประเทศได้อย่างแน่นอน หรือถ้าแม้นจะมีทหารออกมาทำรัฐประหารและอาจจะต้องเข่นฆ่ากันเลือดนองแผ่นดิน แต่ประเทศไทยก็จะยังคงตั้งอยู่ได้เช่นเดิม และรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ก็จะยังคงเป็นรัฐบาลอันชอบธรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ และประชาชนไทยส่วนใหญ่ของประเทศต่อไป และใครก็ตามที่ออกมาทำรัฐประหารคนๆ นั้นก็จะกลายเป็นแพะบูชายันต์แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณไปเสียเอง

หน้าที่ของเราผู้เป็นประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่จะทำได้ในขณะนี้ก็คือ กินให้อิ่ม...นอนให้หลับ... ผ่อนคลาย...ไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ เฝ้ารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแต่ไม่ต้องเคร่งเครียดจนเกินไปนัก ถ้ามีม๊อบมาใกล้ๆ บ้านพักของท่าน ขอให้ท่านหลีกให้ห่างอย่าเข้าใกล้ มองดูม๊อบที่กำลังเดินมานี้เหมือน “หมาบ้า” ที่ไม่ควรเข้าใกล้เพราะจะติดเชื้อบ้าไปด้วย และท่านอาจจะได้รับอันตราย คอยตรวจสอบข่าวสารจากสื่อมวลชนฝ่ายคนเสื้อแดงและพิจารณาให้ดีอย่าตื่นตระหนก แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามมีทหารเคลื่อนรถถังออกมายึดอำนาจ หรือมีการกระทำใดๆ เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งโดยไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย เมื่อนั้นท่านก็เลือกที่จะดำเนินการตามทีท่านเห็นสมควรเพื่อต่อต้านการรัฐ ประหาร และถ้าถึงเวลานั้นจริงถ้าต้องสูญเสียก็คงไม่มีทางเลี่ยงครับ

ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องวิตก หรือหวั่นเกรง ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ถ้าพวกมันต้องการพังประเทศนี้เราก็จะต้องช่วยกันพังไปพร้อมกับพวกมันด้วย และถ้าจำเป็นจะต้องสู้ก็ขอสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยแล้วค่อยสร้าง ประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ... ประเทศไทยจงเจริญ...ขอประชาชนจงเจริญ...ประชาธิปไตยจงเจริญ... ประเทศไทยจงเจริญ...

โดย ปูนนก

[​IMG]


๓๐/๑๑/๒๕๕๖
...อันธพาล...ประกาศยึด...กรุงเทพฯ
เมือกสุเทพ...อ้างเป็น...โต้โผใหญ่
ระดมพล...มหาโจร...อันเกรียงไกร
ล้วนคนใหญ่...คนโต...ช่างโก้จริง

หวังยึดประเทศ...อ้าง...สภาประชาชน
หวังไล่คน...รัฐบาล...ออกไปที้ง
สร้างคนกบฎ...พวกตน...มาอ้างอิง
เหมือนมารสิง...ไร้ซึ่งขื่อ...ไร้ซึ่งแปร

อันคนไทย...สมัยนี้...คงไม่โง่
จะยอมโค...ให้มา...ยึดเมืองแน่
ใครที่มา...จากเลือกตั้ง...ปวงชนแคร์
อันธพาล...มาตอแย...ต้องเจอดี

มารวมตัว...รวมหัวใจ...คนไทยสู้
อันธพาล...หมาหมู่...ควรเจอตีน
มหาชน...ประชาธิปไตย...ไม่เล่นลี้น
ปราบให้สี้น...แล้วจับมัน...ไปขังกรง

Last edited: Today at 2:44 AM

TIMEหยันพรรคประชาธิปัตย์ตั้งชื่อผิด ใช้วิธีอันธพาลการเมืองก่อจลาจลเรียกทหารยึดอำนาจรัฐบาลปชต.


นิตยสาร TIME อันทรงอิทธิพลของโลกพาดหัวเสียดสีว่า พรรคประชาธิปัตย์ของประเทศไทยตั้งชื่อผิดอย่างน่าหัวร่อ ( Thailand’s Democrat Party Is Hilariously Misnamed)

ที่มา Voice TV

นิตย สารไทม์ชี้ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตยสมกับชื่อพรรค เรียกร้องให้โค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง นำม็อบยึดสถานที่ราชการ หวังกองทัพเข้ายึดอำนาจ เล่นการเมืองแบบอันธพาล

เว็บไซต์ของนิตยสารไทม์ เสนอรายงานในวันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ในชื่อ "พรรคประชาธิปัตย์ของประเทศไทยตั้งชื่อผิดอย่างน่าหัวร่อ" ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองสีเสื้อในเมืองไทยได้กลับมาปะทุอีกครั้ง เหล่าคนเสื้อเหลืองผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ายึดกระทรวงต่างๆใน เมืองหลวงและศาลากลางอย่างน้อยใน 19 จังหวัด

เมื่อวันอังคาร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำการประท้วง ได้ตอกย้ำเสียงเรียกร้อง "การปฏิวัติประชาชน" เพื่อจัดตั้งสภาประชาชนของพวกรอยัลลิสต์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง

ไทม์ได้ชี้ถึงความดีเด่นดังของประเทศ ไทยหลายประการ เช่น  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปเยือนปีละหลายล้านคน, เป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับต้นของโลก, มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประชาธิปไตยของไทยก็เป็นแบบอย่างให้แก่เพื่อนบ้านในพม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม

แต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในผู้ ปฏิบัติในด้านระบอบประชาธิปไตยที่แย่ที่สุด พวกคนเสื้อเหลืองนับหมื่นกำลังเดินขบวนทั่วประเทศ แต่การเรียกร้องให้จัดตั้งสภาของพวกรอยัลลิสต์นั้น ยากที่จะเรียกว่าเป็นการปฏิวัติประชาชน

อำนาจประชาชนได้แสดงออกเป็นที่ ประจักษ์แล้วโดยผู้ออกเสียงเลือกตั้ง 15 ล้านคน ที่ได้โหวตเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยของเธอเมื่อปี 2554 พรรคการเมืองต่างๆที่ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพเมื่อปี 2549 ได้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงข้างมากอย่างล้นหลามตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา

แน่นอน มหาเศรษฐีโทรคมนาคมผู้นี้ มีบาดแผลหลายอย่าง เช่น การทำธุรกิจของเขาในอดีต, สงครามปราบปรามยาเสพติดเมื่อปี 2546, การบงการการชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่น่าประหลาดใจที่พรรคฝ่ายค้านไม่ได้โจมตีเขาด้วยเรื่องเหล่านี้

พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งครั้ง หลังสุดเมื่อปี 2535 ฐานเสียงของพรรคคือ พวกนานทุนน้อยในกรุงเทพ พรรคนี้ไม่ได้รับความนิยมในหมู่คนยากจนในภาคอีสาน ซึ่งเป็นที่มั่นของคนเสื้อแดง แต่แทนที่จะสร้างแนวนโยบายเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียงจากคนยากจน พรรคนี้กลับยิ่งผลักไสผู้ออกเสียงเลือกตั้งกลุ่มใหญ่ ด้วยการเรียกร้องเชิญชวนให้พันธมิตรผู้มากอิทธิพล อย่างเช่น กองทัพหรือศาล ให้บ่อนทำลายคู่แข่งของตน

เวลานี้ได้กลายเป็นวงจรไปแล้ว เมื่อประชาชนเลือกพรรคที่ทักษิณสนับสนุนให้เป็นรัฐบาล พวกชนชั้นนำก็จะเข้าโค่นล้ม อาทิ กรณีการรัฐประหารเมื่อปี 2549, กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อปี 2551 เมื่อประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนนก็เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ จากนั้น พรรคที่ทักษิณสนับสนุนก็ชนะเลือกตั้งอีก

มีการโจมตีนโยบายต่างๆของรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์ แต่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ ซึ่งทั้งสองได้ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายเนื่องจากสั่งปราบปรามคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ขณะเป็นรัฐบาล ก็ได้แพ้มติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี

หลายคนเคยหวังว่า  ความขัดแย้งของคนต่างสีเสื้อจะยุติลงหลังจากเหตุการณ์น่าสลดเมื่อเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งคนเสื้อแดงได้ประท้วงการโค่นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายสุเทพกำลังเรียกร้องอยู่ในเวลานี้

น่าเสียใจที่สัญญาณทุกอย่างล้วนชี้ว่า เหตุการณ์กลับกำลังจะบานปลายยิ่งขึ้น

วันเฉลิมพระชนม์พรรษา 5 ธันวาคม กำลังใกล้เข้ามา เบนจามิน ซาแว็กกี ที่ปรึกษากฏหมายอาวุโสประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของคณะกรรมการนักกฎหมาย ระหว่างประเทศ บอกว่า นายสุเทพไม่ต้องการทำลายบรรยากาศของวันมหามงคลนี้ ดังนั้น เขาจะเร่งยกระดับการชุมนุม ด้วยความหวังว่าทหารจะทำรัฐประหาร หรือประกาศกฎอัยการศึกเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะถึงวันหยุดสำคัญนี้

"นี่เป็นการเมืองแบบอันธพาล"  รายงานของไทม์ระบุ.

ที่มา : TIME
ภาพ : Reuters

...ศึกชิงบัลลังก์ ....ใครจะขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๑๐ แทน กษัตริย์ภูมิพล ...? ระหว่างลูกสาวและลูกชาย ? .... เปิดฉาก "ลิเกคณะศิษย์ทองด้วง " ตอนต่อไป ....

พระบรมฯเสด็จพร้อมด้วยพระวรชายาเปิดนิทรรศการ


 โดย    แสงตะวัน

ปิดม่านลิเก¨ชั้น ๑๖ ปิดฉากลิเกคณะศิษย์ทองด้วงตอนจบม้วนที่ หนึ่ง

ปิดม่านชั้น ๑๖  ปิดฉากลิเกคณะศิษย์ทองด้วงตอนจบ...มว้นที่ ๑

สรรพ สิ่งยังเคลื่อนไหว ....แต่พ่อแก้วแม่แก้วมันตายแน่แล้ว " ไอ้เหี้ยสั่งฆ่าอีห่าสั่งยิง " ร่างกายแก่ชราทนต่อความเจ็บป่วย ไม่ไหว สังขารร่างกายของคนมันก็เป็นเพียงวัตถุธรรมดา  ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของมัน  ไม่ว่าจะสมมุติตัวเองเป็นเทวดาหรือเทวดี  แท้ที่จริงมันก็คือไอ้ฆาตกรใจอำมหิตที่สรวมชฎาเท่านั้นเอง  ได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์บนซากศพพี่ชายของตัวเอง เมื่อขึ้นมาเป็นกษัตริย์แล้ว ก็เนรคุณคนที่เขาแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรยศหักหลังโดยการ เนรเทศให้เขาออกจากประเทศไทยและไม่มีโอกาศได้กลับมาอีกจนต้องเสียชีวิตใน ต่างแดน  

มหาดเล็กผู้บริสุทธิ์ทีรับใช้และเลี้ยงดูกษัตริย์มาแท้ๆก็สั่งฆ่าเขาได้ อย่างเลือดเย็น   นอกจากนี้ยังทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ  โดยใช้อำนาจเผด็จการ ปกครอง ประเทศ กดขี่ห่มเหงราษฎร ทรยศคดโกงเอาทรัพย์สมบัติของชาติไปเป็นของตนเองและครอบครัว มีชีวิตอยู่อย่างฟุ่มเฟือยหรูหรา เสพสุขอยู่บนกองกระดูกกองเลือดของประชาชน  สั่งฆ่าประชาชนมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนถึงทุกวันนี้  แม้ตัวเองเฒ่าแก่ชราจวนจะตายก็ยังไม่ยอมลงจากอำนาจยังดื้อรั้นโกหกหลอกลวง ประชาชนต่อไปจนลมหายใจครั้งสุดท้าย นี้คือความเหี้ยมโหดอำมหิตของฆาตกรสรวมชฎา

บัด นี้เวรกรรมต่างๆที่เขาก่อเอาไว้ก็ตามมาสนอง ไม่มีอะไรจะฝืนกฎเกณฑ์ธรรมชาติของมันได้กษัตริย์ก็คือสัตว์โลกธรรมดา  ไม่ใช่ สิ่งศักด์สิทธิ์จริง  ตามที่สร้างภาพเอาไว้ให้คนเคารพบูชากราบไหว้   การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุด  " ช้างตาย " เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน พิสุจน์ได้อย่างชัดแจ้งว่า  ไม่มี... กษัตริย์ภูมิพล... อยู่ในโลกนี้อีกแล้ว...สองผัวเมียจอมโหดที่จองจำประเทศ ชาติประชาชนไม่ให้มีประชาธิปไตยมาเป็นเวลา 67 ปีนั้นได้หมดสภาพความเป็นคนไปแล้ว...Posted Image

ฉากที่สอง ตอนศึกชิงบัลลังก์

บัด นี้ฉากการเริ่มต้นของ " ลิเกคณะศิษย์ทองด้วง " ม้วนที่สอง ก็เริ่มต้นแล้วเป็นศึกชิงบัลลังก์กันระหว่างลูกสาวและลูกชายของกษัตริย์ภูมิ พลเอง...ซึ่งมีพวกข้าทาสบริวารให้การสนับสนุนทั้งสองฝ่ายพอๆกัน  ฝ่ายหนึ่งได้แก่ พลเอกเปรมที่เป็นตัวแทน และร่างทรงตัวจริงและเสียงจริงจากกษัตริย์ภูมิพล พร้อมด้วยบริวาร มีทั้งศาล ทหาร พรรคการเมือง พันธมิตร พวกสารพัดหน้ากากรวมทั้งพวกอำมาตย์อำนาจโบราณ พวกกากเด็นศักดินาทั้งหลาย ที่สนับสนุนให้พระเทพฯขึ้นเป็นกษัตริย์
อีก ฝ่ายหนึ่งคือรัฐบาลยิ่งลักษณ์และข้าราชบริวารต่างๆให้การสนันสนุนฟ้าชายให้ ขึ้นเป็นกษัตริย์ตามสิทธิฐานันดรศักดิ์เพราะเป็นมกุฎราชกุมารตามกฎมณเทียร บาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงค์   นี้คือธาตุแท้ของสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของสังคมไทยต้องแยกออกเป็น สองฝักสองฝ่ายในเวลานี้  เพราะความขี้ขลาดของกษัตริย์ภูมิพลเองที่ไม่ยอมตัดสินใจเด็จขาดว่าจะให้ใคร ขึ้นครองราชย์แทน แต่กลับปล่อยให้ปัญหานี้เป็นปัญหาของรัฐบาลของรัฐสภาและของประเทศชาติ 
เมื่อ เป็นดังนี้จึงเกิดการแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายโดยการเอา ประเทศชาติและประชาชนเป็นเดิมพัน ..ดังนั้นฝ่ายพลเอกเปรมจึงทำทุกอย่างเพื่อล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และจัดตั้งรัฐบาล และรัฐสภาของตนเองขึ้นมาเพื่อตัวเองจะสามารถควบคุมได้จึงจะทำให้การเปลี่ยน ผ่านเป็นไปได้สำเร็จเพื่อจะให้พระเทพฯขึ้นเป็นกษัตริย์ ส่วนอีกฝ่ายก็สนับสนุนฟ้าชาย .... ฉากต่อไปของ " ลิเกคณะศิษย์ทองด้วง "  ม้วนที่สอง.....จะจบลงอย่างไรโปรดติดตามเพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ ของแต่ละฝ่าย ไม่มีใครกำหนดได้....ระหว่างพลังเก่าโบราณหล้าหลังที่ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเพื่อรักษาระบอบเผด็จการกษัตริย์เอาไว้ เพื่อตนเองจะได้สืบทอดอำนาจและเสวยสูขต่อไปอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด กับอีกฝ่ายหนึ่งที่ต้องการ การเปลี่ยนแปลงเพื่อความก้าวหน้าและวิวัฒนาการของสังคมที่ดีขึ้น เพื่อความเท่าเทียมของมนุษยชาติ สิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตยของประชาชน...
 
พวกที่ยังต้องการรักษาระบอบกษัตริย์เผด็จการเอาไว้.....

ขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนเวีย ขอเสนอไม่ให้มีการยุบสภา เพราะประชาชนไทยส่วนมากไม่ต้องการสภา " หมาบ้า "ของสุเทพ หรือสภา " พระราชาราชทาน" และรัฐบาล " พระราชาราชทาน " ของ เจ้ทอม และป๋าเกย์ ที่ เจ้ทอมกำลังจัดตั้งขึ้น เพื่อการเปลี่ยนผ่านโดยจะให้ " เจ้ทอม " ขึ้นเป็นรัชกาลที่ ๑๐ แทนฟ้าชาย ...

  ถึงเวลานั้น ไม่ใช่แค่นายกฯยิ่งลักษณ์ รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตรเท่านั้นที่อยู่ไม่ได่้ แม้แต่แกนนำ นปช. แกนนำเสื้อแดงทั่วประเทศ มวลชนอีกมายมาย และนักวิชาการที่เห็นใจฝ่ายประชาธิปไตยก็จะไม่มีที่ยืนอีกด้วย!!

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์: บทความเกี่ยวกับข้อเสนอการยุบสภา

โดย พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
28 พฤศจิกายน 2556

คนที่เสนอให้ยุบสภาในเวลานี้มีสองกลุ่ม

 กลุ่มแรกเป็นพวกอธิการบดี ผู้บริหารมหาวิทยาลัย นักวิชาการแอ๊บเหลือง และเป็นข้อเสนอ "ภายใน" ของพรรคประชาธิปัตย์ คนพวกนี้เสนอยุบสภา ไม่ใช่เพราะอยากมีเลือกตั้ง ไม่ใช่เพราะเชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์จะชนะเลือกตั้งได้ แต่เพราะเป็น "ธง" ที่รับมาอีกที สร้างเป็นกระแสกดดันให้รัฐบาลหลงเชื่อว่า ถ้ายุบสภาแล้ว ก็จะยอมหยุดไล่รัฐบาล เลิกม็อบ แล้วไปตัดสินกันด้วยการเลือกตั้ง

 ถ้ารัฐบาลยุบสภาจริง ม็อบปชป. ที่ยึดสถานที่ราชการก็จะไม่ยอมหยุด พรรคประชาธิปัตย์จะบอยคอยการเลือกตั้ง วิกฤตการเมืองไม่มีทางออก เป็นข้ออ้างให้นำเอา "ระบอบคนดี" เข้ามาปกครองแทน พร้อมกับกวาดล้าง "คนเลว" ให้หมดสิ้น

 กลุ่มที่สองเป็นพวกที่ "หวังดี" เป็นนักวิชาการก็มี เสนอให้ยุบสภาโดยอ้างว่า "เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเนื้อของประชาชนอีก" และเป็นการแสดงความรับผิดโดยพรรคเพื่อไทยที่หักหลังประชาชนด้วยการผลักดัน นิรโทษกรรมเหมาเข่ง

 คนกลุ่มนี้เอาแต่ "ส่องแว่น" อยู่ที่พรรคเพื่อไทย โทษว่า วิกฤตทั้งหมดขณะนี้เป็นความผิดของพรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียวล้วน ๆ พรรคเพื่อไทยต้องถูกลงโทษ คนกลุ่มนี้ไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด เชื่ออย่างไร้เดียงสาว่า ยุบสภา ลงโทษรัฐบาลแล้วฝ่ายต่อต้านพอใจ เรื่องจะจบ เชื่อว่า ถึงยังไง ก็ต้องมีเลือกตั้ง ข้อเรียกร้อง "สภาประชาชนและปฏิรูปประเทศไทย" ของม็อบเทือกเป็นแค่วาทะเล่น ๆ เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์และ "เส้นใหญ่" ที่หนุนม็อบเทือกยังต้องการให้มีการเลือกตั้งอยู่

 ประสบการณ์เจ็ดปีมานี้ไม่ได้สอนอะไรแก่คนกลุ่มนี้ให้เข้าใจถึงจุดมุ่งหมาย ที่แท้จริงของพวกเผด็จการเลย การยุบสภานี่แหละที่จะนำไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่ของประชาชน เมื่อม็อบเทือกไม่ยอมหยุด ทั้งม็อบและพรรคประชาธิปัตย์บวกตุลาการ ประสานกันรุกไล่รัฐบาลรักษาการณ์ที่ไม่มีสภาคอยคุ้มกันและไม่มีอำนาจบริหาร จนตกขอบในที่สุด

 ถึงเวลานั้น ไม่ใช่แค่นายกฯยิ่งลักษณ์ รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตรเท่านั้นที่อยู่ไม่ได่้ แม้แต่แกนนำ นปช. แกนนำเสื้อแดงทั่วประเทศ มวลชนอีกมายมาย และนักวิชาการที่เห็นใจฝ่ายประชาธิปไตยก็จะไม่มีที่ยืนอีกด้วย!!

torsdag 28 november 2013

นรกส่งมาเกิด! ม็อบประชาธิปัตย์พกปืนดักรุมเสื้อแดง ก่อนบังคับแก้ผ้า

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556


นรกส่งมาเกิด! ม็อบประชาธิปัตย์พกปืนดักรุมเสื้อแดง ก่อนบังคับแก้ผ้า


28 พฤศจิกายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้มีการโพสต์และส่งต่อคลิป ระบุว่า "ม็อบประชาธิปัตย์รุมกระทืบเสื้อแดง" โดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ ซอยมหาดไทย (ลาดพร้าว122) เวลาประมาณ 19.00น. (วันที่27พฤศจิกายน2556) โดยชายกลุ่มดังกล่าวเหน็บอาวุธปืน  "คิงคอบร้า" ไทยประดิษฐ์ ขนาดประมาณ .22มม. ไว้ที่ด้านหน้ากางเกง ล้อมกรอบชายเสื้อแดง 3 คน พร้อมรุมทำร้าย และขู่บังคับให้ถอดเสื้อผ้าสีแดงที่สวมใส่ออก

เดลินิวส์: "จารุพงษ์"แจงเวทีแดงไม่มีการยึดศาลากลาง

ที่มา เดลินิวส์


เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อเวลา 21.15 น.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวบนเวทีตอนหนึ่ง ว่า ขอชี้แจงเรื่องการยึดศาลากลางจังหวัด โดยข้อเท็จจริงที่ตนได้รับรายงานในวันนี้ คือใน 61 จังหวัดไม่ได้มีการยึดศาลากลางแต่อย่างใด เป็นความจริงที่อยากให้พี่น้องเข้าใจ ทั้งนี้มีเพียงจังหวัดเดียวที่เขาเข้ายึดจริงได้คือศาลากลาง จ. สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เจรจาทำความเข้าใจกับประชาชน อย่างไรก็ตามตนถือว่าผวจ.สุราษฎร์ธานี และข้าราชการ ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เราจะไม่เอาโทษใดๆ ทั้งนี้ผวจ.สุราษฎร์ฯ ยืนยันว่ายังทำงานได้อยู่ โดยใช้จวนผู้ว่าฯเป็นสถานที่ทำงาน

นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ศาลากลางจังหวัดสร้างด้วยเงินภาษีประชาชน กระทรวงมหาดไทยอยู่มากว่า 120 ปีแล้ว เป็นสัญลักษณ์ของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เป็นศูนย์สั่งการช่วยเหลือประชาชน เขาต้องการให้เห็นว่ารัฐของเราล้มเหลวในการปกครอง ซึ่งเข้าข่ายข้อหากบฏดีๆ นี่เอง อย่างไรก็ตามตนก็บอก ผวจ.ไปแล้วว่า ต้องดูแลรักษาและคุ้มครองเก้าอี้ที่นั่งทำงานให้ดี ในขณะเดียวกันเราก็บอกว่าประชาชนที่เดินเข้ามาแล้วแสดงสัญลักษณ์มาแสดงความ คิดเห็นที่ต่างเราก็ยอมรับได้ไม่เป็นไร อย่าว่าแต่มา 100 คน มาคนเดียวก็ขึ้นศาลากลางได้ทุกคน แต่ถ้าจะมายึดศาลากลางนั้นไม่ได้เด็ดขาด


นายจารุพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีเพียง 4 จังหวัดที่มีม็อบเกิน 1,000 คน เช่น จ.สงขลา ซึ่ง ผวจ.ก็พาเดินเข้ามาด้วยตัวเอง ส่วนการเป่านกหวีดก็เป็นลูกไม้มหาดไทยผวจ.นครสวรรค์ก็เป่านกหวีดด้วยความ สนุกสนาน อย่าไปถือสาอะไร แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้รัฐบาลยอมไม่ได้ต้องพูดจากันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การเข่นฆ่ากัน ส่วนกระทรวงมหาดไทย เขาไม่สามารถเข้ามาภายในกระทรวงได้ เราไม่ใช่ต้องการท้าทายเพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้คนไทยฆ่ากัน ทั้งนี้ศูนย์กลางของการดูแลรับใช้ประชาชนคือกระทรวงทั้ง 20 แห่ง ตัวเขาเองก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ถ้ามีสติและเป็นประชาชนคนไทยที่รักชาติรักประชาธิปไตยเขาไม่ควรทำเช่นนั้น วันที่ 29 พ.ย.นี้ฝ่ายที่ต้องการเห็นอำนาจรัฐล้มเหลวก็ยังจะเดินเคลื่อนไหวไปแสดง สัญลักษณ์ตามหน่วยงานต่างๆ ภาพเห็นชัดเจนและคนที่โบกมือเปิดประตูกระทรวงการคลังรู้หรือไม่ว่าเข้าข่าย กบฏ โทษจำคุก 7 ปี อายุความ 10 ปี จึงยังไม่จำเป็นที่เราต้องรีบดำเนินการ แต่ท้ายที่สุดเราต้องมีการดำเนินคดีเอาผิดแน่นอน

go6: แพทย์ รพ.ตำรวจโวย! "ม็อบประชาธิปัตย์" ตัดไฟขณะผ่าตัดคนไข้ จนต้องยกเลิกการผ่าตัด

ที่มา เว็บไซต์ GO6
29 พฤศจิกายน 2556

จาก กรณีที่ม็อบประชาธิปัตย์ ตัดไฟสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนส่งผลกระทบถึงโรงพยาบาลตำรวจนั้น ล่าสุด ตำรวจนายแพทย์ท่านหนึ่ง ผู้ใช้ไอดี Sompob Ruxasagulwong ซึ่งคุณหมอท่านนี้เล่าให้ฟังถึงวินาทีไฟดับ ขณะที่กำลังจะลงมือผ่าตัดผู้ป่วยท่านหนึ่งว่า 


ชุมนุมแบบอวิหิงสา แล้วตัดไฟโรงพยาบาล

"ผม มีคนไข้คนหนึ่งมีข้อเท้าหัก โดยทั่วไปคนไข้แบบนี้เป็นภาวะเร่งด่วนแบบหนึ่ง เพราะถ้าปล่อยเนิ่นนานจนมันบวม ก็คืออีกหนึ่งสัปดาห์ มันถึงจะพร้อมจะทำอีกครั้ง

วันนี้ ผมต้องยกเลิกผ่าตัดคนไข้รายนี้ ซึ่งเป็นแบบที่ไม่สามารถรักษาด้วยการใส่เฝือกได้ เพื่อไฟสำรองจะได้เอาไปใช้กับที่เร่งด่วนกว่า แล้วถ้าทำผ่าตัดจริงก็ไม่รู้ไฟจะดับเมื่อไร
 
อวิหิงสาบ้านพ่อใครครับ เขาตัดไฟโรงพยาบาลกัน!

ร.ต.แซมดิน สาวกเอกสันติอโศก

สิ่งที่ผู้นำม็อบกำลังพยายาม ทำให้เกิดคือยั่วให้รัฐบาลเข้าปราบ เพื่อจะให้ฝ่ายเรามือเปื้อนเลือดเหมือนกับฝ่ายเขาบ้าง....เรารู้อย่างนี้แล้ว เราก็ต้องยืนหัวเราะในฐานะตัวเองฝ่ายดี อย่าถ่อมตัวลงไปที่ที่โจรอยู่เป็นอันขาด




November 28, 2013

เรา


หากเรามองฝูงชนที่ยึดบ้านยึดเมืองเชิงสัญลักษณ์อยู่ในขณะนี้ ในแง่กฎหมาย ระบบรัฐสภา และความยุติธรรมทางสังคม เราอาจจะปวดใจว่า ทำไมเมืองไทยจึงเป็นเช่นนี้ ความเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถยอมรับชัยชนะและความพ่ายแพ้มันหายไปไหน ทำไมความเถื่อน ดิบ และถ่อยจึงได้รับความสนับสนุนจากคนที่เรียกตนเองว่าชนชั้นกลางและปัญญาชน แต่ผมอยากบอกท่านว่าเรามองมุมนั้นไม่ได้หรอกครับ 

สิ่งที่กำลังเกิดกับสังคมไทยในขณะนี้ ไม่ใช่ความถูกต้องหรือผิดพลาดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แต่เป็นภาวะขัดผลประโยชน์อย่างรุนแรงระหว่างเมืองไทยในศตวรรษที่ ๒๐ กับเมืองไทยในศตวรรษที่ ๒๑ หรือไทยเดิมกับไทยสากลนั่นเอง โดยนำเอาทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เสื้อแดง และขบวนประชาธิปไตยมาเป็นที่ระบายทุกข์ของผู้คนที่หมดทางพัฒนาตัวเองและมีทางรอดอย่างเดียวคือปล้นชิงจากคนอื่น ทั้งปล้นอำนาจ บทบาททางการเมือง และทรัพย์ที่เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ขณะนี้กำลังปล้นเพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือ สิทธิในการเล่าเรื่องทั้งหลายจากมุมของตัวเองข้างเดียว ซึ่งได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี จากสื่อมวลชนกระแสหลักผู้รับสัมปทานจากเจ้าของประเทศไทยโดยตรง เราจึงต้องทำงานกันหนักขึ้นก่อนที่เรื่องตอแหล (นำเรื่องเท็จไปปนเปื้อนกับเรื่องจริงส่วนน้อย) จะจุดติดในระดับระหว่างประเทศ 

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเพียงฝูงเหลือบประเทศไทยรายเดิมที่ไม่ยอมตาย และแพร่พันธุ์ไปยังเลือดใหม่อีกเป็นจำนวนมากด้วยข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ จนพอที่จะหลอกออกมาได้อีกครั้งเท่านั้น ผู้ที่มาประท้วงคราวนี้แบ่งออกเป็น ๒ พวก พวกแรกคือ มวลชนจัดตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไประดมอันธพาลชาวใต้มาเป็นหัวหน้าสั่งการมวลชนกรุงเทพฯ และภูมิภาคอื่น บวกกับเสื้อเหลือง เสื้อชมพู และสลิ่มเดิมๆ ที่เคยออกมาแล้ว พวกนี้จะไม่หนีจากที่ชุมนุมเพราะไม่มีที่อื่นจะไป แถมยังมีสวัสดิการอันดีเยี่ยมไว้รองรับ ส่วนพวกหลังคือ ประชาชนตัวจริงที่รีบวิ่งมาเข้าร่วม เพราะได้ยินแว่วๆ มาว่าขบวนประชาธิปไตยจะเข้ายึดประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นจะล้มเจ้า และคดโกงประเทศจนเหลือแต่กระดูกขาวๆ 

ถามว่าคนกลุ่มหลังเขาก็มิใช่คนโง่เง่า มีการศึกษากันมาพอตัวทั้งนั้น แล้วทำไมเขาวิ่งวุ่นกันถึงขนาดนี้ คำตอบคือ ปัจเจกชน (คนแต่ละคน) นั้นมักฉลาด มีสติ และกระทำการใดๆ ด้วยปัญญา แต่ฝูงชน (คนที่มารวมกันเพราะถูกปลุกเร้าอย่างต่อเนื่อง) จะกลับกลายเป็นคนมุทะลุ บ้าคลั่ง ตามแห่ และแสดงด้านมืดในใจของตนเองออกมาทั้งหมดในที่ชุมนุมนั้น ใครเคยเห็นการครอบงำทางศาสนา ที่นักเทศน์ตะโกนเสียงดังกึกก้อง กระชากใจผู้ฟังที่กำลังหดหู่ ท้อถอย และอ่อนแอ จนผู้ฟังเพริศตาม ถึงขนาดลุกขึ้นมาตะโกนรับ เต้นแร้งเต้นกา ร้องห่มร้องไห้ ผิดไปจากบุคลิกในยามปกติ ท่านก็จะเข้าใจในจิตวิทยาฝูงชนที่เขากำลังทำกันอยู่ในขณะนี้ 

ผมมักจะนึกถึงภาพเก้าอี้ฟาดศพในเหตุการณ์ ๖ ตุลา แล้วจินตนาการว่าคนที่เคยถูกปลุกเร้าจนกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานขนาดนั้น วันนี้เขาอยู่ที่ไหนกันบ้างและยังหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร หากคนเหล่านั้นมีสำนึกผิดบาปอยู่บ้าง ขอให้ออกมาเปิดตัวต่อคนในสังคมไทยและสารภาพความผิดบาปในใจนั้นเสียโดยเร็วเถิด ความหลังของท่านอาจช่วยเตือนสติคนที่มีอารมณ์อย่างเดียวกันในวันนี้ และกำลังผลักประเทศไทยไปสู่เส้นทางแห่งการนองเลือดได้บ้างกระมัง

สิ่งที่ผู้นำม็อบกำลังพยายาม ทำให้เกิดคือยั่วให้รัฐบาลเข้าปราบ เพื่อจะให้ฝ่ายเรามือเปื้อนเลือดเหมือนกับฝ่ายเขาบ้าง ขณะนี้มือเราสะอาดสะอ้าน แต่มือเขาเปื้อนเลือดและเป็นผู้ร้าย เขาต้องการเพิ่มต้นทุนความชั่วร้ายให้กับเรา เพื่อให้เราลดระดับลงมาเป็นโจรเช่นเดียวกับเขา หลังจากนั้นก็จะได้แลกเปลี่ยนกับแบบโจร ฝ่ายเขาจะได้มีอะไรติดมือไว้บ้างก่อนประชาธิปไตยอันแท้จริงจะแผ่ซ่านไปทั่ว ประเทศไทยจนเขาสู้ไม่ไหวอีกต่อไป 

เรารู้อย่างนี้แล้ว เราก็ต้องยืนหัวเราะในฐานะตัวเอฝ่ายดี อย่าถ่อมตัวลงไปที่ที่โจรอยู่เป็นอันขาด เรามีเสียงข้างมาก เรายอมอดกลั้นอย่างสุดแสนเพื่อประชาธิปไตย เราเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำรัฐประหาร สูญเสียทำเนียบรัฐบาลให้กับม็อบ ผู้นำฝ่ายเราถูกทำให้เป็นปิศาจและถูกปล้นชิงทรัพย์สินส่วนตัว และเราก็ได้รับเลือกตั้งกลับมาแล้วกลับมาเล่าถึง ๔ ครั้งต่อเนื่องกัน ขอให้คิดดีๆ ถ้าจะลดตัวลงไปคลุกฝุ่นเปื้อนโคลนกับผู้แพ้ถาวรอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ 

ยอมถูกกล่าวหาว่าอ่อนแอสักช่วงหนึ่ง ดีกว่าเปื้อนเลือดทรราชย์ที่เราอาจล้างไม่ออกครับ.