måndag 30 april 2018

เฮ้อ... น่าเสียดาย... คนไทยก็ต้องอยู่กันในภาวะต้องปฏิเสธความจริงง่ายๆพื้นๆกันต่อไป

Somsak Jeamteerasakul added 2 new photos.


เฮ้อ... น่าเสียดาย... คนไทยก็ต้องอยู่กันในภาวะต้องปฏิเสธความจริงง่ายๆพื้นๆกันต่อไป

เฮ้อ... น่าเสียดาย... คนไทยก็ต้องอยู่กันในภาวะต้องปฏิเสธความจริงง่ายๆพื้นๆกันต่อไป
ในกระทู้ที่แล้ว ผมโพสต์ถึงการที่กษัตริย์ให้ออกข่าวจัดงานวันเกิดให้ "คุณที" (ตามรายงานบอกเองว่า ภาพงานเป็น "ภาพพระราชทาน") ซึ่งสื่อทุกช่องทุกฉบับ ก็รับมาออก โดยไม่เอ่ยแม้แต่คำเดียวว่า งานจัดที่เยอรมัน
และผมได้โพสต์ให้ดูว่า มีเพียง "มติชน มาแปลก" คือเป็นสื่อเดียวที่พาดหัวและรายงานว่า งานจัดขึ้นที่ตำหนักในเยอรมัน ซึ่งก็เป็นความจริงพื้นๆ
ผมโพสต์ไป เพราะเห็นว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ และจริงๆ ก็เป็นพัฒนาการที่ positive หรือในทางบวก เพราะแค่การที่กษัตริย์อยู่เยอรมัน ซึ่งคนไทยทุกคนก็รู้กันหมด แต่ในศตวรรษนี้แล้ว เรายังต้องมาทำเป็นไม่รู้อีก มันพิลึกมาก
แต่ขณะนี้ "มติชน" ได้ตัดสินใจ "ลบ" ส่วนที่เขียนถึงการจัดงานในเยอรมันเสียแล้ว (ดูรูปประกอบเปรียบเทียบของเดิม กับขณะนี้ หรือดูเองได้ที่นี่ https://www.matichon.co.th/news/936366)
..............
ปล. โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่า ถึงผมไม่โพสต์ ในที่สุด "มติชน" ก็คงเอาข้อความเรื่องเยอรมันออกอยู่ดี อาจจะช้ากว่านี้หน่อยเท่านั้น ประเด็นสำคัญของกระทู้ที่แล้ว เพื่อไฮไลต์ให้เห็น "ความไม่ปกติ" ของการที่คนไทยยังต้องทำไม่รู้ไม่ชี้กับอะไรที่เป็นความจริงพื้นๆมากๆแบบนี้


"มติชน" มาแปลก... ใครที่ดูข่าวสองทุ่ม คงเห็นแล้วว่า มีการรายงานข่าว-ภาพ "พระราชทาน" งานวันเกิด "คุณที" ซึ่งก็ตามปกติ สื่อต่างๆที่รับข่าวมา ไม่มีการเอ่ยว่างานดังกล่าวจัดที่เยอรมัน แต่ทุกคนดูจากรูปก็รู้ ที่น่าสนใจคืือ มติชน พาดหัวเลยว่าจัดที่เยอรมัน


Somsak Jeamteerasakul added 2 new photos.

"มติชน" มาแปลก... ใครที่ดูข่าวสองทุ่ม คงเห็นแล้วว่า มีการรายงานข่าว-ภาพ "พระราชทาน" งานวันเกิด "คุณที" ซึ่งก็ตามปกติ สื่อต่างๆที่รับข่าวมา ไม่มีการเอ่ยว่างานดังกล่าวจัดที่เยอรมัน แต่ทุกคนดูจากรูปก็รู้ ที่น่าสนใจคืือ มติชน พาดหัวเลยว่าจัดที่เยอรมัน

"มติชน" มาแปลก...
ก็ดูเอาเบาๆขำๆนะครับ
ใครที่ดูข่าวสองทุ่ม คงเห็นแล้วว่า มีการรายงานข่าว-ภาพ "พระราชทาน" งานวันเกิด "คุณที"
ซึ่งก็ตามปกติ สื่อต่างๆที่รับข่าวมา ก็จะไม่มีการเอ่ยว่า งานดังกล่าวจัดที่เยอรมัน แต่ทุกคนดูจากรูปก็รู้ (จนป่านนี้ ยังไม่เคยมีการเอ่ยในสื่อทางการในไทยแม้แต่ครั้งเดียว เรื่องกษัตริย์อยู่เยอรมันปีละอย่างน้อย 6-7 เดือน รวมถึงในขณะนี้)
ภาพประกอบแรก เอามาจากช่าวช่อง 7 ดูที่นี่ http://news.ch7.com/detail/283589
ช่อง อส.มท. ก็ออกข่าวโดยไม่มีการเอ่ยถึงเยอรมัน ดูที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=uqbibx9KcoI
ไทยรัฐ ลงข่าว (ไม่เอ่ยถึงเยอรมัน) ที่นี่ https://www.thairath.co.th/content/1269397
ผู้จัดการ ลงข่าว (ไม่เอ่ยถึงเยอรมัน) ที่นี่ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000042554
ข่าวสด ลงข่าว (ไม่เอ่ยถึงเยอรมัน) ที่นี่ https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1028696
ที่ "แปลก" และน่าสนใจคือ มติชน พาดหัว และรายงานในข่าวเลยว่า จัดที่เยอรมัน (ดูภาพประกอบที่สอง ดูเองได้ที่นี่ https://www.matichon.co.th/news/936366) ความจริงเนื้อข่าวของ มติชน เห็นได้ชัดว่า เป็น "ข่าวแจก" อันเดียวกับสื่ออื่นๆข้างบน แต่เฉพาะเรื่องจัดที่เยอรมันนี่แหละ ที่มติชนน่าจะใส่เข้าไปเองImage may contain: 3 people, text

หลักการและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐไท

หลักการและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐไท

1.สหพันธรัฐไทปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีบทบัญญัติของกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ด้วยมติที่มีคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภา และมีเจตนารมณ์เพื่อความมั่นคงของรัฐ หรือ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หรือเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังของสหพันธรัฐไท ทั้งนี้จะใช้บังคับได้ไม่เกิน 2 ปี
ประชาชนทุกคนของสหพันธรัฐไทอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติหรือการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะกระทำมิได้
มิให้สหพันธรัฐไทแต่งตั้งฐานันดรใดๆแก่บุคคลใดๆ และให้ออกกฎหมายยกเลิกฐานันดรที่มีอยู่ทั้งหมด
 

2. สหพันธรัฐไทประกอบด้วยรัฐจำนวน 10 รัฐ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ ภายใต้เอกภาพของสหพันธรัฐ ห้ามรัฐที่เป็นสมาชิกของสหพันธรัฐไททำสัญญาเป็นสมาชิก หรือเป็นสมาชิกของสหพันธรัฐอื่น
 

3. อำนาจนิติบัญญัติทั้งปวงเป็นของรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐไท ประกอบด้วย วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร
รัฐสภามีอำนาจในการกำหนดและจัดเก็บภาษีอากร ภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิตรในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ
รัฐสภามีอำนาจในการกู้ยืมเงิน ควบคุมจัดระเบียบพาณิชย์กับนานนาประเทศและระหว่างรัฐ กำหนดกฎเกณฑ์การแปลงสัญชาติ คดีล้มละลาย การผลิตเหรียญกษาปณ์ การรักษาค่าเงินทั้งในสหพันธรัฐไท และต่างประเทศ รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานการชั่ง ตวง วัด
ให้รัฐสภามีอำนาจในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาตร์ และศิลปะความรู้ที่มีคุณค่า
ให้รัฐสภามีอำนาจในการก่อตั้งศาลที่มีระดับรองจากศาลสูง
ให้รัฐสภามีอำนาจในการประกาศสงคราม การจัดตั้งสนับสนุนกองทัพ การจัดหาระดมกำลังอาสาสมัคร การรักษากฏหมายของรัฐ การปราบปรามความไม่สงบภายใน การขับไล่ศัตรูภายนอกและพวกติดอาวุธ
ให้รัฐสภามีอำนาจทางด้านนิติบัญญัติทุกกรณีในดินแดนอันเป็นที่ตั้งของสหพันธรัฐไท
ให้รัฐสภามีอำนาจในการตรากฎหมายที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อให้มีอำนาจในการปกครองประเทศ
 

4. สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกทีมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในแต่ละรัฐทุก 2 ปี คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ให้แต่ละรัฐออกรัฐบัญญัติกำหนด
 

5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องกำหนดโดยรัฐบัญญัติของแต่ละรัฐ อัตราส่วนผู้แทนราษฎรหนึ่งคนต่อประชากรสามหมื่นคน และจะต้องกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละรัฐทุกสิบปี แต่ละรัฐจะต้องมีผู้แทนราษฎรอย่างน้อยหนึ่งคน หากตำแหน่งผู้แทนราษฎรในรัฐใดว่างลงให้ฝ่ายบริหารของรัฐนั้นจัดการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง
 

6. ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐสภา
7. รัฐสภาของแต่ละรัฐออกรัฐบัญญัติเลือกสมาชืกวุฒิสภารัฐละสองคน มีวาระการดำรงตำแหน่งหกปี สมาชิกวุฒิสภาของแต่ละรัฐมีสิทธิออกเสียงได้คนละหนึ่งเสียง
8. การประชุมรัฐสภาครั้งแรก สมาชิกวุฒิสภาจะถูกแบ่งเป็นสามกลุ่ม จำนวนเท่ากันทุกกลุ่ม สมาชิกวุฒิสภากลุ่มแรกจะหมดวาระลงในปีที่สอง กลุ่มที่สองจะหมดวาระลงในปีที่สี่ กลุ่มที่สามจะหมดวาระลงในปีที่หก เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งในสาม แทนตำแหน่งที่ว่างลงทุกสองปี หากมีตำแหน่งว่างลงด้วยเหตุอื่นที่มิใช่หมดวาระทุกสองปี และไม่อยู่ในสมัยประชุม ฝ่ายบริหารของรัฐนั้นต้องแต่งตั้งสมาชิกชั่วคราวให้ปฏิบัติหน้าที่ จนกว่ารัฐสภาจะเปิดสมัยประชุมครั้งต่อไป เพื่อเลือกสมาชิกวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่างลง
9. บุคคลที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้คือ มีอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่มีสัญชาติไทย และไม่ได้มีภูมิลำเนาในรัฐที่ตนเองได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
บุคคลที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้คือ มีอายุไม่ถึง 30 ปี ไม่มีสัญชาติไทย และไม่ได้มีภูมิลำเนาในรัฐที่ตนเองได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาวุฒิสภา
10. รัฐสภาแต่ละรัฐต้องเปิดประชุมอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง สมัยประชุมจะเริ่มมีขึ้นในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม แต่ละรัฐต้องกำหนดเวลา สถานที่และหลักกเณฑ์การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐนั้นๆ
องค์ประชุมของทั้งสองสภาให้ใช้เสียงข้างมาก
การตัดสินผลการเลือกตั้ง และคุณสมบัติของสมาชิกแต่ละสภาให้สภานั้นๆเป็นผู้กำหนด
ค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมายที่สนอโดยกระทรวงการคลัง
การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในระหว่างการประชุมย่อมได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายมิให้ถูกฟ้องร้อง
12. ให้รองประธานาธิบดีสหพันธรัฐไทเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง แต่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียง เว้นแต่กรณีที่มีการลงคะแนนเสียงข้างละเท่ากัน
13. วุฒิสภามีอำนาจเลือกเจ้าหน้าที่ของวุฒิสภาเอง และเลือกประธานวุฒิสภาชั่วคราวในกรณีที่รองประธานาธิบดีปฏิบัติหน้าที่มิได้ หรือกรณีที่รองประธานาธิบดีต้องปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไท
14.ให้วุฒิสภาเท่านั้นที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกฟ้องร้องทางอาญา กรณีที่ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทถูกพิจารณาคดี ให้ประธานศาลสูงทำหน้าที่ประธานในการพิจารณาคดี การพิพากษาลงโทษต้องใช้มติไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิก ที่เข้าร่วมพิจารณาลงคะแนนเสียงพิพากษา
15.ห้ามมิให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งใดๆหรือได้รับผลประโยชน์ใดๆอันเป็นการขัดกับการปฏิบัติหน้าที่ของตน และจะต้องไม่ดำรงตำแหน่งอื่นใดในสหพันธรัฐไท
16. ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทต้องให้ความเห็นชอบและลงนามในร่างกฎหมายทุกฉบับที่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจึงจะมีผลบังคับใช้
กรณีที่ประธานาธิบดีไม่เห็นชอบ หรือไม่ลงนามรับรองภายในกำหนดเวลาอันสมควร ให้ส่งร่างกฎหมายนั้นกลับคืนสู่สภาผู้เป็นเจ้าของร่าง หากสภานั้นมีมติยืนยันตามร่างกฎหมายเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่าสองในสามของสมาชิกสภานั้น ให้ส่งร่างกฎหมายนั้นไปให้สมาชิกอีกสภาหนึ่งพิจารณา หากมีมติยืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย การลงคะแนนเสียงของทั้งสองสภาให้ทำโดยเปิดเผยโดยการขานชื่อและบันทึกไว้ในรายงานประชุมของแต่ละสภา กรณีที่ประธานาธิบดีไม่ลงนามส่งร่างกฎหมายนั้นกลับมาสู่สภาภายในสิบวันทำการ ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย
กรณีที่รัฐสภาปิดสมัยประชุม และประธานาธิบดีไม่ลงนามรับรองร่างกฎหมาย ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นตกไป
17. มติหรือการลงคะแนนเสียงที่ผ่านวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ยกเว้นช่วงปิดสมัยประชุม จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีจึงจะมีผลบังคับใช้ หากประธานาธิบดีไม่เห็นชอบ รัฐสภาจะต้องนำกลับพิจารณาใหม่ หากมีมติยืนยันไม่ต่ำกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภาจึงจะมีผลใช้บังคับเป็นกฏหมายได้
18.อำนาจบริหารสหพันธรัฐไทเป็นอำนาจของประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐ มีวาระการดำรงตำแหน่งสมัยละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันเกิน 2 สมัยไม่ได้ รองประธานาธิบดี ซึ่งได้รับเลือกตั้งพร้อมกัน ดำรงตำแหน่งเวลาเดียวกัน
18.1 วิธีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี
ฝ่ายนิติบัญญัติของแต่ละรัฐแต่งตั้งคณะผู้เลือกตั้งมีจำนวนเท่ากับสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐนั้นมีอยู่ คณะผู้เลือกตั้งต้องไม่เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น
ให้คณะผู้เลือกตั้งประชุมพร้อมกันในรัฐของตนเอง โดยลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี โดยหนึ่งในสองตำแหน่งนี้จะต้องไม่อาศัยอยู่ในรัฐเดียวกัน บัตรลงคะแนนต้องระบุชัดเจนเลือกใครเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี
ให้คณะผู้เลือกตั้งลงนามรับรองผลการเลือกตั้ง แล้วส่งมอบโดยการปิดผนึกถึงประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้เปิดเอกสารในการประชุมร่วมของวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนับคะแนนเสียง โดยให้บุคคลผู้มีคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นประธานาธิบดี แต่ต้องเป็นคะแนนเสียงข้างมากของผู้เลือกตั้งทั้งหมด
กรณีที่บุคคลที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเท่ากัน ให้สภาผู้แทนราษฎรลงคะแนนเสียงด้วยบัตรเพื่อเลือกบุคคลเป็นประธานาธิบดีเพียงหนึ่งคน
ให้รัฐสภากำหนดวันเลือกคณะผู้เลือกตั้งและวันที่ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยกำหนดให้เป็นวันเดียวกันทั่วดินแดนที่เป็นอาณาเขตของสหพันธรัฐไท
18.2 ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดหรือการแปลงสัญชาติ และมีภูมิลำเนาอยู่ในสหพันธรัฐไทเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี
18.3 กรณีที่ประธานาธิบดี และ/หรือ รองประธานาธิบดี ถูกปลดจากตำแหน่ง ตาย ลาออก หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รัฐสภาแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นใหม่
18.4 ให้ประธานาธิบดีได้รับค่าตอบแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ค่าตอบแทนดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการดำรงตำแหน่ง หรือจะได้รับรายได้อื่นจากสหพันธรัฐหรือรัฐใดอีกไม่ได้
18.5 ก่อนเข้าบริหารงานในตำแหน่งประธานาธิบดี จะต้องกล่าวคำสาบานว่า “ข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทอย่างซื่อสัตย์ และจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามความสามารถของข้าพเจ้า เพื่อพิทักษ์รักษาและปกป้องรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐไท ”
18.6 ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ รวมทั้งกำลังพลอาสาสมัครของรัฐต่างๆด้วย
และให้มีอำนาจในการออกคำสั่งบรรเทาโทษและนิรโทษกรรมต่อการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหพันธรัฐยกเว้นกรณีที่ถูกฟ้องบังคับให้ออกจากตำแหน่ง
19. อำนาจและหน้าที่ของประธานาธิบดี
ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการทำสนธิสัญญาโดยได้รับคำแนะนำและยินยอมจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ในที่ประชุม
ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเอกอัครราชทูต อัครราชทูต กงสุล คณะผู้พิพากษาศาลสูง โดยได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ทั้งนี้รัฐสภาอาจตรากฎหมายให้ประธานาธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในระดับรองลงไปได้หากเห็นสมควร และรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับรองลงมาได้
19.1 ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลตามตำแหน่งที่ว่างลงทุกตำแหน่งทีอาจมีขึ้นในช่วงปิดสมัยประชุมวุฒิสภา
ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้รับรองเอกอัครราชทูต อัครราชทูตของประเทศต่างๆ เป็นผู้รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นผู้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสหพันธรัฐทั้งหมด
19.2 ประธานาธิบดีต้องรายงานสถานการณ์ของประเทศต่อรัฐสภาตามระยะเวลาที่กำหนด และเสนอมาตรการต่างๆต่อรัฐสภา ประธานาธิบดีมีอำนาจต้ดสินใจเวลาที่เหมาะสมในการประชุมของทั้งสองสภา หรือสภาใดสภาหนึ่ง
19.3 การถอดถอนประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่ของรัฐออกจากตำแหน่ง กระทำได้ในข้อหากระทำผิดทางอาญา
20. ในการพิจารณาคดีอาญาทุกคดี ยกเว้นคดีฟ้องให้ขับไล่ออกจากตำแหน่ง ให้พิจารณาโดยคณะลูกขุนตามระบบคอมมอนลอว์หรือถือเอาตามสามัญสำนึกของผู้คนคือคณะลูกขุน โดยให้ผู้พิพากษามีอำนาจหน้าที่ปรับใช้ตัวบทกฎหมายเพื่อการพิจารณาคดี
ให้รัฐสภาจัดตั้งศาลสูง หรือศาลระดับรองลงมา และให้ผู้พิพากษาศาลสูงหรือศาลระดับรองลงมาดำรงตำแหน่งตราบเท่าที่ความประพฤติไม่เสื่อมเสียและให้ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานในระหว่างการดำรงตำแหน่ง โดยค่าตอบแทนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
20.1 การพิจารณาคดีฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหพันธรัฐไท เพื่อปลดผู้ถูกฟ้องออกจากตำแหน่งสามารถดำเนินการพิจารณาคดีต่อได้หลังจากผู้ถูกฟ้องร้องถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว
20.2 คดีความที่เกี่ยวข้องกับเอกอัครราชทูต ราชทูต กงสุล และบรรดาบุคคลที่รัฐมีคดีด้วยให้เริ่มต้นที่ศาลสูง ส่วนคดีอื่นๆให้อุทธรณ์ต่อศาลสูงทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เว้นแต่มีข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภาของสหพันธรัฐไท
20.3 การลงโทษบุคคลใดในความผิดฐานก่อการกบฏ ต้องมีพยานให้การยืนยันในการกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือผู้ที่ถูกล่าวหาเป็นกบฏจะรับสารภาพในศาลที่มีการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย
20.4 รัฐบัญญัติ บันทึกสำนวนคดี และการดำเนินคดีของศาลจะต้องได้รับความเชื่อถือจากรัฐอื่นๆ โดยเท่าเทียมกัน รัฐสภาสามารถตรากฏหมายเพื่อให้เครดิตความเชื่อถือระหว่างรัฐมีผลใช้บังคับได้
20.5 ให้พลเมืองของแต่ละรัฐมีเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของความเป็นประชาชนแห่งสหพันธรัฐไทเหมือนกัน
บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญา หากหนีคดีอาญาไปยังรัฐอื่น ให้ฝ่ายบริหารรัฐของเจ้าของคดี ขอให้อีกรัฐหนึ่งส่งตัวผู้ร้ายข้ามมาดำเนินคดีในเขตอำนาจของศาลต่อไป
21. การรับรัฐใหม่ๆ เข้าเป็นสมาชิกสหพันธรัฐไทเป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ไม่ให้มีรัฐใหม่ที่ตั้งซับซ้อนพื้นที่ที่เป็นเขตอำนาจของรัฐที่มีอยู่ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากรัฐสภาของรัฐนั้นและของรัฐสภาสหพันธรัฐไท
21.1 ให้สหพันธรัฐไทค้ำประกันให้รูปแบของรัฐบาลทุกรัฐเป็นรูปแบบสาธารณรัฐ และสหพันธรัฐไทจะให้ความคุ้มครองแต่ละรัฐจากการถูกรุกราน รวมทั้งการถูกรุกราน รวมทั้งเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหารของรัฐร้องขอหากเกิดความไม่สงบภายในรัฐ
22. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระทำได้เมื่อจำนวนสมาชิกของรัฐสภาจำนวนไม่ต่ำกว่าสองในสามของที่มีอยู่ เสนอให้มีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ได้ต้องดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และรัฐสภาของรัฐสมาชิกจำนวนไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของทั้งหมดให้สัตยาบัน หรือที่ประชุมของรัฐทั้งปวงให้สัตยาบันด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่าสามในสี่ แต่จะกำหนดให้รัฐสมาชิกมีจำนวนสมาชิกวุฒิสภาไม่เท่ากันไม่ได้
23. รัฐธรรมนูญฉบับนี้รวมทั้งกฎหมายต่างๆของสหพันธรัฐไทที่จะตราออกมา รวมทั้งสนธิสัญญาทั้งหมดที่ได้เข้าร่วมเป็นภาคี ให้ถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
ผู้พิพากษาของรัฐทุกรัฐต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายของรัฐ จะขัดหรือแย้งไม่ได้
สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและตุลาการทั้งหมด และรัฐต่างๆของสหพันธรัฐไท จะต้องผูกมัดกับคำสาบานหรือคำยืนยันในการปฏิบัติตาม หรือสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้
สหพันธรัฐไทมีเจตน์จำนงค์ที่ชัดเจนที่จะให้พลเมืองทุกคนของแต่ละรัฐมีความเป็นอยู่ที่ดี ที่ได้รับความปลอดภัย โดยมุ่งจัดสวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นให้พลเมืองทุกคน


องค์การสหพันธรัฐไท
 

30 เมษายน 2561

โฉมหน้าพวกสุนัขอันธพาลสันดานชั่วขี้ข้าเจ้า...

วีระ สมความคิด อัดกลับ 'สมีฟรีดอม' ขนหน้าแข้ง คสช.


อย่างนี้ละ เป็นทั้งขนหน้าแข้งและลิ่วล้อ คสช. ของแท้ จึงมีอาการศีรษะร้อนทันทีที่ได้ยิน วีระ สมความคิด ทวงถามความรับผิดชอบของพวกที่เป็นนั่งร้าน กวักมือเรียกทหารเข้ามายึดอำนาจปกครองจากตัวแทนประชาชน
สุวิทย์ ทองประเสริฐ บุคคลอุตรินุ่งห่มสบงจีวรยกตนเท่าศาสดา ครั้งหนึ่งเคยอ้างจะไปเป็นพุทธเจ้า เลยสถาปนาตนเองเป็น พุทธะอิสระ(ภาษาปะกิดว่า สมีฟรีดอม) โพสต์ข้อเขียนอย่างยาวบริภาษณ์นักต่อต้านคอรัปชั่นว่าไม่สำนึกบุญคุณ ที่ช่วยให้ได้ออกจากคุกเขมร
หลังจากเลิกเวทีมาใหม่ๆ ภรรยาหรือญาติของคุณวีระมาขอพบฉันที่วัด เพื่อขอให้ติดต่อกับทหาร คสช. เจรจาช่วยคุณวีระ ให้ออกมาจากคุก...
ฉันได้ติดต่อไปยังคนใกล้ชิดคุณประวิตร จนนำมาซึ่งการเจรจาขอปล่อยตัวคุณวีระในที่สุด หลังจากคุณวีระออกมาจากคุกแล้ว ยังรีบมากราบขอบคุณฉันเลยคงจะยังจำได้”
กลับกลายเป็นว่าทั้งสองประโยคของสุวิทย์มีสิทธิ์เป็น มุสาวาจาได้ ในเมื่อเจ้าตัวเขาปฏิเสธหมดสิ้น ประเด็นแรก “ขอยืนยันว่าคนในครอบครัวผมทั้งคุณแม่ พี่สาว และภรรยาผม
ทุกคนยืนยันกับผมว่า ไม่เคยไปขอพบพุทธะอิสระที่วัดเลย แต่จะเป็นผู้ใดที่ไปแอบอ้างนั้น ผมมิอาจทราบได้”
ส่วนเรื่อง “มากราบขอบคุณฉัน” นั้น “ก็ไม่เป็นความจริง เรื่องนี้เกิดจากการ์ดของผมชื่อเม่น ซึ่งเคยไปอยู่เป็นการ์ดให้พุทธะอิสระในช่วงที่ผมยังอยู่ที่เขมร ได้มาชักชวนให้ผมไปพบพุทธะอิสระที่วัดเพื่อทำความรู้จักกัน”
เรื่องอย่างนี้ผู้อ้างตนเป็น พญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ อาจจะสำคัญผิดไปนิดก็ได้ “การไปพบในวันนั้นก็อยู่ท่ามกลางคนนับร้อย ไม่ใช่ไปกราบเพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือผมแต่อย่างใด แทบจะไม่มีเวลาพูดจาอะไรกันเลยด้วยซ้ำ” อดีตคนเคยคุกขี้ไก่เขมรลำดับความตามที่ตนได้เจอะเจอจริง
นอกจากนี้ผมรู้ว่า ฮุนเซน เป็นคนสั่งปล่อยผมชนิดที่คนในรัฐบาลเขมรเองก็ยังไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้เลย ฮุนเซนทำเรื่องนี้เงียบๆ คนเดียว”
ที่สุวิทย์บอกว่าได้ติดต่อไปยังคนใกล้ชิดของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงทำให้ทางการเขมรปล่อยตัววีระ นั่นก็อาจเป็นเพราะสุวิทย์คิดไปเอง (ภาษาสมัยนิยมเขาเรียก มโน)

 
กับอีกข้อที่สุวิทย์อ้างว่า “ากคุณวีระจะมาทวงถามความรับผิดชอบแก่พวกเราพี่น้อง กปปส. คุณวีระก็ควรจักมีใจเป็นธรรมบ้าง ในฐานะที่คุณวีระเป็นนักสู้ภาคประชาชน และทำเพื่อประชาชนจริงๆ...”
วีระเขาจึงช่วยฟื้นความจำของแท้ว่า “อีกประการที่พุทธะอิสระกล่าวว่าผมไปย่ำยีพวก กปปส.นั้น ผมก็ไม่ทราบว่าการกระทำใดของผมที่เป็นการไปย่ำยี กปปส. ช่วยเอาหลักฐานมายืนยันด้วยครับ การกล่าวหาเช่นนี้ไม่ค่อยเป็นธรรมกับผมสักเท่าใด”
ลงท้ายวีระบอกว่า “คนที่จะเดือดร้อนเสียหายจากการทำหน้าที่ของผม จะมีแต่คนโกงชาติ คนขายชาติ และคนที่สนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้เท่านั้นครับ”
เขาเขียนอย่างนี้ ไม่รู้จะมีใครรู้สึกรู้สาหรือเปล่าล่ะ

ขอต้อนรับคุณสมยศกลับคืนสู่อืสระภาพ

ขอต้อนรับ "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยเรา สู่อิสระภาพ

ปล่อยตัว "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" ผู้ต้องหาคดี 112 หลังถูกคุมขัง 7 ปี

บีบีซีไทย - BBC Thai
Image may contain: 5 people, people smiling, camera and outdoor
ปล่อยตัว "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" ผู้ต้องหาคดี 112 หลังถูกคุมขัง 7 ปี
"ผมผิดหวังหน่อยเดียวที่ออกมาแล้วไม่เจอกับประชาธิปไตย เพราะยังอยู่ในบรรยากาศที่ถูกควบคุมโดยคำสั่ง คสช. ซึ่งมีข้อจำกัดการแสดงความคิดเห็น" คือความรู้สึกของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่กล่าวกับว๊อยซ์ทีวี ภายหลังได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ช่วงเช้าวันนี้ หลังถูกคุมขังมาเป็นเวลา 7 ปี
บรรยากาศหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีประชาชน นักกิจกรรม มารอบมอบดอกไม้ให้กำลังใจ รวมทั้งบ...
คลิกดูเพิ่ม-See More
ปล่อย 'สมยศ' ผู้ต้องขังคดี 112 กับ 7 ปีเต็มที่อยู่ในคุกโดยไม่ได้สิทธิประกันตัว สมยศกล่าวขอบคุณคนที่สนับสนุน แ....
ปล่อย 'สมยศ' ผู้ต้องขังคดี 112 กับ 7 ปีเต็มที่อยู่ในคุกโดยไม่ได้สิทธิประกันตัว สมยศกล่าวขอบคุณคนที่สนับสนุน และกล่าวถึงประสบการณ์ในคุกที่ไม่ได้รับความไม่เป็นธรรม ด้านลูกสาวกล่าวนี่ไม่ใช่ตอนจบที่แฮปปี้เอนดิ้ง มองภาพรวมแล้วไม่ใช่ความสำเร็จ

Thai Democratic Movement in Scandinavia

Thai Democratic Movement in Scandinavia
The Thai Democratic Movement in Scandinavia is a group of Thai patriotic
people living abroad who struggle for democracy and justice for their
beloved country. We are therefore gathering together to found the Thai
Democratic Movement in Scandinavia, with the purpose of supporting the Thai
Revolution Movement for democracy to overthrow the absolute monarchy - the
king's dictatorship in Thailand.

The government system in Thailand is an absolute monarchy where the king
enjoys absolute power over the country, and exercises his power through the
executive, legislative.and judicial bodies. He is also the Commander in
Chief of the military, navy and airforce. The King has the power to appoint
all high ranking officials, including army and police. He is the biggest
capitalist in Thailand and has monopolised large sections of the whole
economy and commercial system by using the Crown's Properties office as an
instrument to exploit the country and the people for his own benefit
and as such, he has become one of the richest persons in the world.

The absolute monarchy in Thailand is of the worst kind Thailand has ever had
since the revolution in 1932. The Thai people who struggled for freedom and
democracy were brutally killed successively one after the other, e.g. on 14
October 1975, 6 October 1978, in 1986 and 2009, as well as on 10 April and
19 May 2010 when over 90 people were killed and over 2000 were wounded.

The lèse majesté law paragraph 112 is now widely used to suppress and jail
people who are fighting for freedom and democracy.

We are the Thai people in Denmark, Norway, Sweden and Finland, organising the struggle to abolish the absolute monarchy in Thailand and to
establish fully democracy in a country where the power should come from the entire people and the people's power should be exercised through an elected
Government.

Thai Democratic Movement in Scandinavia

        1 May 2011


ขบวนการประชาธิปไตยในสแกนดิเนเวีย

ขบวนการประชาธิปไตยในสแกนดิเนเวีย คือกลุ่มของชาวไทยในต่างแดนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยรักความเป็นธรรมที่มีความห่วงใยกับประเทศชาติบ้านเมือง เราจึงรวมตัวกันจัดตั้งขบวนการประชาธิปไตยขึ้นเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติของประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยการโค่นล้มระบอบราชาธิปไตยหรือระบอบกษัตริย์เผด็จการ

การปกครองในเมืองไทยเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชที่กษัตริย์มีอำนาจสูงสุด กษัตริย์ใช้อำนาจในการปกครองโดยผ่านฝ่ายนิติบัญัติ คือรัฐสภา ฝ่ายบริหารคือรัฐบาล และฝ่ายตุลาการ คือศาลและเป็นจอมทัพของสามเหล่าทัพมีอำนาจแต่งตั้งยศให้แก่นายทหารตำรวจข้าราชการพลเรือนชั้นสูงในทุกๆหน่วยงานราชการ

กษัตริย์เป็นนายทุนที่ใหญ่ทีสุดในเมืองไทยผูกขาดระบบเศรษฐกิจการค้าทุกอย่างไว้ในมือโดยอาศัยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือขูดรีดประเทศชาติและประชาชนจนกลายเป็นบุคคลที่รำรวยที่สุดในโลก

ภายใต้ระบอบราชาธิปไตยปัจจุบันเป็นการปกครองที่เลวทรามที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยหลังจากการปฏิวัติ ๒๔๗๕ เป็นต้นมา ประชาชนที่ต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยถูกฆ่าตายอย่างป่าเถื่อนมาครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่ ๑๔ ตุลาคม
๒๕๑๖ และ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙  และปี๒๕๓๕  และ ปี ๒๕๕๒ มาจนถึงวันที่ ๑๐ เมษายน  และ ๑๙ พฤษภา ๒๕๕๓ เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุด

ต่อมากฎหมายหมิ่นมาตรา ๑๑๒ ได้ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับทำการข่มขู่จับกุมประชาชนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างป่าเถื่อน อยู่ในเวลานี้

เรากลุ่มคนไทยในเดนมาร์ค นอรเวย์ สวีเดน และฟินแลนด์จึงร่วมกันต่อสู้เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงจากการปกครองระบอบราชาธิปไตยมาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยอำนาจสุงสุดมาจากปวงชน และปวงชนเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น

ขบวนการเพื่อประชาธิปไตยในสแกนดิเนเวีย

๑ พฤษภา ๒๕๕๔  

การเลือกตั้งภายใต้ระบอบราชาธิปไตย หรือระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช

ประชา ประสพดี...งานนี้เพิ่งเริ่มต้น


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ประชา ประสพดี...งานนี้เพิ่งเริ่มต้น
โดย กาหลิบ

นับว่าโชคดีที่ คุณประชา ประสพดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ รอดชีวิตมาได้จากการลอบสังหารที่พระประแดง อันเป็นเรื่องที่ชี้ไปสู่ปมการเมืองอย่างชัดแจ้ง เรื่องนี้จะเป็นโชคดีหรือฝ่ายตรงข้ามต้องการเพียง ส่งสัญญาณเตือนผ่านกรณีคุณประชาฯ เรายังไม่ทราบชัด ที่ชัดคือ กรณีนี้เป็นคำเตือนอีกครั้งสำหรับผู้ที่นึกฝันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม ปลอดจากอำนาจรัฐแทรก จะได้ตระหนักเสียทีว่า ระบอบที่ครอบ ระบบเลือกตั้งนั้นเป็นฉันใด
มัวแต่นั่งตอบอย่างเท่ว่า รู้ว่าสู้กับใคร แต่ไม่อยากจะพูดให้โง่ สุดท้ายอาจไปเท่อยู่บนสวรรค์โน่น
ไม่ใช่ความลับอันใดที่ฝ่ายตรงข้ามเตรียม เก็บผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยเป็นจำนวนมาก และเขารู้ดีว่าโอกาสของเขาคือในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ๓ ก.ค. ขณะนี้จึงมีมืออาชีพถูกเรียกตัวเข้า รับงานเป็นจำนวนมากกว่าปกติ
สถานการณ์การเมืองไทยชัดเจนว่าเป็นระยะเผชิญหน้ากันระหว่างระบอบเก่ากับระบอบประชาชนซึ่งกำลังก่อรูปขึ้นอย่างช้าๆ แต่มั่นคง การเลือกตั้งเที่ยวนี้เป็นเพียงบทพิสูจน์ว่าทั้งสองฝ่ายจะอยู่ร่วมกันได้บ้างหรือไม่ในระบอบเดิม
ถ้าไม่มีอะไรนอกบท ก็อาจจะร่วมเตียงกันไปชั่วระยะหนึ่ง แต่ต่างฝ่ายต่างก็จะระแวงกันจนรัฐบาลพังลงในที่สุด
ถ้าเล่นนอกบทและชัดแจ้ง เช่น ใบแดงมากผิดปกติ แย่งชิงจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร้มารยาททางการเมือง เดินหน้ายุบพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ยุขบวนประท้วงข้างถนนให้รบกับรัฐบาล เป็นต้น รัฐบาลนั้นก็จะถึงแก่กาลกิริยาในลักษณะที่ไม่ต่างจากครั้งคุณสมัคร สุนทรเวชและคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และก็จะมีคนออกมาป่าวประกาศเรียกประชาชนออกมารวมตัวกันสู้กับเขาอีก
เงื่อนไขของการลุกขึ้นสู้เมื่อพินาศแล้วนี่เอง ทำให้เขาต้อง เก็บคนหลายคนเสียก่อนที่วันนั้นจะมาถึง
แกนนำที่มีชื่อเสียงก็มีอันตราย แต่ผู้ที่จะอันตรายกว่าคือแกนนำประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นที่ไม่เป็นที่รู้จักเท่าคนบนเวทีและออกโทรทัศน์ช่องแดง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการระดมมวลชน และถูกเชิญจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้ไปช่วยเลือกตั้งกันเป็นจำนวนมากในขณะนี้
ผู้นำประชาธิปไตยท้องถิ่นที่มีฐานะปานกลางถึงยากจน ย่อมไม่มีงบประมาณจ้างคนมาอารักขา แต่จะต้องออกเดินสายทั่วไปในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบ เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าทำร้ายได้มาก
ฝ่ายตรงข้ามเขารู้ว่าตรงนี้เป็นกลไกสำคัญ ถ้าเขาเก็บแกนนำท้องถิ่นได้ เขาก็กดหัวชาวบ้านให้อยู่ในความกลัวได้
อย่าลืมเป็นอันขาดว่ากลุ่มพลังต่างๆ ในฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นอยู่กับแกนนำท้องถิ่นผู้เสียสละและกล้าหาญเหล่านี้ทั้งสิ้น เราเห็นขบวนประท้วงที่มีผู้คนล้นหลาม ทั้งน่าชื่นใจและน่าครั่นคร้ามสำหรับฝ่ายตรงข้าม เราต้องไม่ลืมบทบาทของแกนนำท้องถิ่นที่อดตาหลับขับตานอนและทำให้การระดมพลังเช่นนี้เกิดขึ้นได้ทุกครั้งคราว
ขอเตือนว่า ตัวแทนในระดับชาติของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส. มีหน้าที่ในการคุ้มครองดูแลให้ความปลอดภัยอย่างดีที่สุดสำหรับแกนนำท้องถิ่นในพื้นที่ของตน การประกันอย่างสมบูรณ์นั้นย่อมทำได้ยาก แต่อย่างต่ำต้องวางแผนและรับรู้ซึ่งกันและกันมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อลดโอกาสและความเสี่ยงอันตรายจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีทั้งคู่แข่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่แอบแฝงตัวอยู่ในพื้นที่
อย่าเอามือดีไปล้อมรอบตัวเองไม่รู้จักกี่รอบจนดูคล้ายเจ้าพ่อมาเฟีย ในขณะที่แกนนำสำคัญของตัวต้องเดินล่อนจ้อนปราศจากกลไกป้องกันตัวใดๆ ต้องแบ่งกำลังมาดูแลกันบ้าง
การยิงคุณประชา ประสพดีแล้วรอดได้ แปลว่า ฝ่ายตรงข้ามคงกำลังทบทวนบทเรียนของในรายต่อๆ ไปให้ได้ผลยิ่งขึ้นสำหรับเขา จะไปคิดประมาทว่ามือไม่ถึงหรือขาดความสามารถไม่ได้
ข่าวลือลอยลมมาว่า ในรายชื่อมี ๑๒๐ คน หรือมากกว่านั้นบ้าง ก็ควรสดับตรับฟังด้วยสติ
เลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันสูงกว่าทุกคราว เพราะจะยืนยันว่าระบอบใดคืออนาคตของลูกหลานไทยกันแน่ ฝ่ายตรงข้ามเขาก็ย่อมระดมสรรพกำลังเพื่อพิสูจน์ว่าฝ่ายประชาชนเป็นผู้ผิด
สุนัขจนตรอกยังอันตรายนี่ครับ.

วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....

วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....กะลาแลนด์ แผ่นดินนี้ มีเรื่องเล่า....เทพเจ้า เอากะลา มาครอบหัว....เดินไม่ได้ ไปไม่เป็น เห็นแต่ตัว....ตามืดมัว หัวเกรียนโกร๋น โดนกะลา(ครอบ)


ขุนเขาบอก :

วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....

กะลาแลนด์ แผ่นดินนี้ มีเรื่องเล่า
เทพเจ้า เอากะลา มาครอบหัว
เดินไม่ได้ ไปไม่เป็น เห็นแต่ตัว
ตามืดมัว หัวเกรียนโกร๋น โดนกะลา(ครอบ)

ป่วยเหลือเกิน เดินตามหมา กะลาครอบ
ผิดเป็นชอบ กรอบกำหนด เป็นกฎหมา
ตราถ้อยคำ ทำมะนูน คุณขอมา
ครอบกะลา พาลงเหว เลี้ยวลงคลอง

คอรอมอ ไม่ต้องเสือก กูเลือกเอง
ชงกันเอง เบ่งกันไป ไม่เสียของ
ไม่ต้องถาม ทำตามกู เพื่อปรองดอง
กินขิงดอง แทนขิงแก่ แน่กะลา(แลนด์)

อัยการ กูไม่สึก ใครจะทำไม
สึกเมื่อไร ได้ฉิบอ๋าย ตายอย่างหมา
การท่องเที่ยว ไม่ต้องฝัน มันไม่มา(ฝรั่ง)
เรื่องการค้า อย่าได้หวัง นั่งตบยุง

มีไอ้บ้า สั่งฆ่าคน โดนฟ้องสาน
โทษประหาร สานไม่ฟ้อง กลัวของสูง
ปฏิวัติ กันทำไม (แค่)จับไม้พยุง
ป้ากับลุง ขุดหน่อไม้ ได้ตะราง

กะลาเอ๋ย กะลาแลนด์ แดนพิศวง
ยังเดินหลง เป็นวงกต หัวจดหาง
ประชาชน โดนโขกสับ ลับลวงพราง
วิถีทาง ประชาธิปไตย ไกลเหลือเกิน.....

กษัตริย์ภูมิพลและลูกชายวชิราลงกรณ์ คือผู้ผลิตกลุ่มทหารเผด็จการแห่งชาติ

กษัตริย์ภูมิพลและลูกชายวชิราลงกรณ์ คือผู้ผลิตกลุ่มทหารเผด็จการแห่งชาติ สฤษดิ์ ธนรัตน์ จอมเผด็จการ โหด และประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าเผด็จการ คสช.คนปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นมาโดยพ่อลูกในตระกูลมหิดลคือกษัตริย์ภูมิพลหัวหน้าจอมเผด็จการทั้งหลายและลูกชาย เพื่อให้ทำหน้าที่ อย่างเดียวกันคือ ปล้นประเทศชาติ ปล้นประชาชน เพื่อรักษาอำนาจ และผลประโยชน์ให้แก่ หัวหน้ามาเฟียจอมโหดคือกษัตริย์ภูมิพล และครอบครัว...



๑๙ ก.ย.๔๙  อำมาตย์ให้ทหารยึดอำนาจปล้นประเทศฉีกรัฐธรรมนูญ.





กษัตริย์ไทยรับรองให้หัวหน้ากบฎปกครองประเทศได้ นี้คือกษัตริย์กับหัวหน้ากบฎก็คือพวกเดียวกัน เพราะกษัตริย์เป็นผู้สั่งให้ประยุทธ์ยึดอำนาจเอง

Thailands kung uppmanar kuppledare att styra landet
Oroligheterna i Thailand Den general som tog kontroll över Thailand i en militärkupp förra veckan har fått ett godkännande från Thailands kung att styra landet, uppger internationella medier.
Inför journalister i Bangkok uppgav general Prayuth Chan-O-Cha att hans militärjunta nu ska inrätta en kommitté och införa reformer i landet, enligt nyhetsbyrån AFP.

สิ่งที่ควรรู้..เมื่อต้องสู้กับอีTom.....

สิ่งที่ควรรู้..เมื่อต้องสู้กับอีTom.....

สิ่งที่ควรรู้เมื่อจะสู้กับอีทอมขาถ่าง ร่างเตี้ย..ไม่รู้ว่าตัวผู้หรือตัวเมีย ....สิ่งที่ควรรู้..เมื่อต้องสู้กับอีTom......... อีTom.คือคน.ในร่างหญิง...ทั่วไป.มักใจร้าย...สับสนกาย.ชายหรือหญิง ทอม...หญิงใจร้ายนางกาลีในร่างหญิง....


ขุนเขาบอก :
 

สิ่งที่ควรรู้..เมื่อต้องสู้กับอีTom.....
 

Tom.คือคน.ในร่างหญิง...แต่แท้จริง.ใจเป็นชาย
Tom.ทั่วไป.มักใจร้าย...สับสนกาย.ชายหรือหญิง
Tom.นิยม.ไว้ผมสั้น...เพราะTomนั้น.ใช่ชายจริง
Tom.คือใคร.ในร่างหญิง..โหดจริงๆ.ชอบวิ่งราว

 

Tom.ชอบจด.รายละเอียด...เก็บความเครียด.ไว้เต็มหัว
Tom.เก็บกด.โทษร่างตัว...ผมบนหัว.จึงหงอกขาว
Tom.อกหัก.แต่รักพ่อ...เพียงพ่อยอม.Tomวิ่งราว
Tom.ส่วนมาก.ยังเป็นสาว...อายุราว.หกสิบปี

 

Tom.ทั่วไป.ไม่ระหง...อรอนงค์.ทรงเตี้ยล่ำ
Tom.คนนี้.ผิวสีคล้ำ...หน้าไม่ทำ.ผมไม่หวี
Tom.นั้นเล่า.เท่าที่เห็น...ตอนเย็นๆ.ออกทีวี
Tom.เป็นใคร.ละทีนี้..ดูทีวี.จักรู้เอง


Tom.ไม่ชอบ.มอบบทเพลง..แต่ครื้นเครง.ชอบฟ้อนรำ
Tom.ไร้คู่.ดูน่าขำ...จิตใจดำ.ชอบข่มเหง
Tom.ไปไหน.คนคอยถ้า..เดินนำหน้า.ท่านักเลง
Tom.เป็นใคร.คิดเอาเอง...ใครไม่เจ๋ง.อย่าเทียบTom

 

เป็นเช่นนี้.แลพี่น้อง...พี่ไม่ต้อง.น้องทำเอง
ประเทศนี้.มันเส็งเครง...เดินตามเอ๋ง.แล้วขี้หอม
คนดีไซร์.ใส่ชฎา...ไพร่ขี้ข้า.ชฎาปลอม
เป็นคนดี.ต้องมีTom...ขี้ไม่หอม.ใช่คนดี

 

สรุปแล้ว.สรุปอีก...ยากจะหลีก.คงต้องรบ
Tomคนนี้.ไม่น่าคบ.. Tomสมคบ.กับมือผี
Tomคนดี.มีทหาร...ประจำการ.พร้อมราวี
อยู่เบื้องหลัง.ม็อบทำดี...เป็นสตรี.มีชาติตระกูล....
    

..อวสานผ้าพันคอสีฟ้า เมื่อปลาวาฬเกยตื้น...

..อวสานผ้าพันคอสีฟ้า เมื่อปลาวาฬเกยตื้น...

'ตูนเก่าเล่าใหม่:อวสานพันธมิตร

อวสานเมื่อปลาวาฬเกยตื้น... คือวันสิ้นสุดของพวกผ้าพันคอสีฟ้า    
โดย   แสงตะวัน
ไอ้สนธิ ลิ้มดอกทอง  ก้าวเข้าสู่วงการเมืองนอกสภาด้วยวิธีที่สกปรกที่สุด  โดยใช้เล่ห์หลอกหลวงตาเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาดเป็นสะพานเชื่อมเดินเข้าสู่ประตูวัง หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เป็นกิ๊กสมสู่กับพวกหญิงชาววังศักดินาชั้นสูง   ต่อมากลายเป็นพระยาเทครัว ไม่เว้นจากแม่จนถึงลูกหลาน  ไอ้ลิ้มชัดเรียบ จนคนเล่าลือรู้ไปหมดทั่วบ้านทั่วเมือง  เช่นตัวอย่างเรื่องการเอาเบียร์ลาดหน้าท้องปลาวาฬแล้วถ่ายคลิปลับเอาไว้เพื่อเป็นการต่อรอง  ไอ้ลิ้มจอมแบล๊คเมล์ถือเป็นไพ่อยู่ในมือซึ่งทำให้พวกกิ๊กหญิงชาววังสูงศักดิ์ต้องยอมไอ้ลิ้มทุกอย่าง  ไอ้ลิ้มดอกทองจึงกลายมาเป็นบุคคลที่มีอำนาจโดดเด่นขึ้นในสังคมวงการเมืองนอกสภา มีอำนาจข่มขู่ได้ทั้งทหารและตำรวจรวมไปจนถึงพรรคประชาธิปัตย์  ไม่ว่าไอ้ลิ้มจะทำอะไรผิดก็ไม่ได้รับโทษเพราะได้รับการช่วยเหลือทุกอย่างจากหญิงสูงศักดิ์ โกงเงินธนาคารก็ไม่ผิด   พาลูกน้องยึดสนามบินก็ไม่ผิด  มีคดีติดตัวอยู่จนนับไม่ถ้วนแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้นเพราะเป็นคนของวัง   ไอ้ลิ้มก็กระโดดออกมาจัดตั้ง        "องค์กรพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย" ขึ้น เพื่อขับไล่รัฐบาล ทักษิณ   จนกระทั่งมาถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์  ก็อาศัยการสนับสนุนจากทางวังหนุนหลังทำให้ไอ้ลิ้มกลายเป็นบุคคลสำคัญขึ้นมาทันที   ทำให้ไอ้ลิ้มดอกทองมีอำนาจชี้นำทางการเมืองให้แก่พรรคประชาธิปัตย์แบบสกปรกที่สุด     ตามแนวคิดแบบเก่าของพวกจีนโพ้นทะเล สมัย พรรคก๊กมินตั๋ง ( กั๋วหมินตั๋ง )  จีนชาตินิยมที่พ่อของไอ้ลิ้มเคยสังกัดอยู่ในเวลานั้น  จนมาถึงขณะนี้เมื่อทางวังโดยเฉพาะหญิงสูงศักดิ์ นางมารี อังตัวเนต (  Marie Antoinette )  ของเมืองไทยมีอาการป่วยหนัก   หมดสิ้นอำนาจลง เปรียบเสมือนปลาวาฬเกยตื้น   ดังนั้นไอ้ลิ้มดอกทองก็หมดที่พึ่งไม่มีอำนาจหนุนหลังเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องประกาศยกเลิก" องค์กรพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย "

โดย   ปั้นจิ้ม
พธม.
การประกาศ บาทบท หมดลงสิ้น
แท้คือดิ้น หนีตาย หมายสังหาร
อุตริ อวดฤทธิ์เดช มาช้านาน
เหมือนอันธพาล ครองเมือง เรื่องจัญไร...
พอเรื่องแดง เพราะเสื้อแดง แผลงฤทธิ์บ้าง
หมดสิทธิ์อ้าง โหนฟ้า มาปราศัย (ขอแก้คำ...เดิมคือ....ขานไข)
ดึงฟ้าต่ำ มาละเลง ลุกเป็นไฟ
ทำไปได้ ทำร้ายใจ ไทยทั้งมวล...
เมื่อฟ้าลอย สูงลับ จับไม่ถึง
ต้องตลึง กรรมเคยก่อ ก็เริ่มหวล
ไม่มีสิทธิ์ โต้แย้งกรรม หรือคร่ำครวญ
มันจึงชวน กันถอยทัพ กลับพารา...
กูรู้...แท้จริง วิ่งหนีผิด
สุดชีวิต รักษาไว้ ไอ้พวกหมา
แต่เอาเหอะ มึงรอดตาย ได้สักครา
กูมองว่า มึงตายโหง พวกโกงเมือง...
หรืออย่างน้อย คอยร่อนเร่ พเนท่อง
ที่เคยจ้อง ระรานแกล้ง แก๊งค์เสื้อเหลือง
กรรมเคยก่อ ให้ร้าย ระคายเคือง

หลากหลายเรื่อง สลื่มทำ สวนกรรมดี...

ปาก แดงๆ ไว้ใจได้กา ปากแดงใส่ชฎา หายหน้าไปไหน

ปาก แดงๆ ไว้ใจได้กา ปากแดงใส่ชฎา หายหน้าไปไหน ไม่มาร้องเห่ ให้โรงลิเกไท หายหน้าไปไหน หรือไปกรุงลงกา ..... ลุงทศกัณฑ์ตาเดียวจอมโหดได้ลาโลกตาม " อากง " ไปแล้วเหลือแต่นางมณโฑปากแดงกำลังนอนลิ้นอุดปากอยู่ต้องให้คนรับใช้เปลี่ยน ผ้า diaper หรือ แพลมเพอส อยู่ตลอดเวลา ไม่ช้าก็คงตามลุงทศกัณฑ์ไปกับ " อากง " ...


โดย ขุนเขาจากแดนไกล
ขุนเขาบอก :
อย่าคิดมากก็แค่เรื่องของนางมณโฑปากแดงกับลุงทศกัณฑ์....

ปากแดงๆ ไว้ใจได้กา
ปากแดงใส่ชฎา หายหน้าไปไหน
ไม่มาร้องเห่ ให้โรงลิเกไท
หายหน้าไปไหน หรือไปกรุงลงกา

ตุเรงตุเรง เสียงบรรเลงระนาด
ปากแดงปานแต้มชาด ผู้คนหวาดผวา
แอบอ้างคำสั่งลุง ให้เผากรุงลงกา
ฆ่าคนเหมือนหมา ใส่ชฎาปากแดง

ร่าย..

เคยงามเลิศ่เทิดชั้น เทวีศรี
ทรงฤทธี ไพร่ขี้ข้าอย่ากำแหง
เหยียบหัวไพร่ใส่ชฎา ทาปากแดง
นคราแรง ร้อนฤทธิ์พิษอนงค์

มาบัดนี้ ปากหมดสีที่แต้มชาด
เหลิงอำนาจขาดศิลห้า กาเป็นหงส์
ไร้เรี่ยวแรง ร่างชรายามอ่าองค์
ทรงเครื่องหงส์ ยังเป็นกาน่าอัศจรรย์

หลังความตายหวังกรายใกล้ เขาไกรลาศ
ปากแต้มชาด พร่ำพ้อต่อสวรรค์
ขอชีวีในปั้นปลาย คลายโทษทัณฑ์
อนงค์นั้นเคยบัญชา ฆ่าคนตาย

สวรรค์เลี่ยง เสียงประสงค์อนงค์นาถ
ปากแต้มชาด กลายเป็นผีความดีหาย
ร่างสดสวยย้วยยาน ปานจะตาย
สูญสลายกลายร่าง...”นางมณโฑ”.....อย่าคิดมากก็แค่เรื่องของนางมณโฑปากแดงกับลุงทศกัณฑ์....

söndag 29 april 2018

รายการสหพันรัฐไท กับสามทหารเสือ

คลิกฟัง-สหพันรัฐไท กับสามทหารเสือ ตอน : จับให้มั่นคั้นให้ตาย

รายการสหพันรัฐไท กับสามทหารเสือ
ตอน : จับให้มั่นคั้นให้ตาย
โดย : ส.ข้าวเหนียว–ส.ยังบลัด-ส.ร้อย-ลุงสนามหลวง
วันอาทิตย์ : 29/04/2018 เวลา 21.00 น. ประเทศไทย
https://www.youtube.com/watch?v=kFXnZvm_ORs&feature=youtu.be ...
ดูเพิ่มเติม

หลักการและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐไท

หลักการและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญสหพันธรัฐไท

1.สหพันธรัฐไทปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ การจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีบทบัญญัติของกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ด้วยมติที่มีคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภา และมีเจตนารมณ์เพื่อความมั่นคงของรัฐ หรือ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หรือเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเงิน และการคลังของสหพันธรัฐไท ทั้งนี้จะใช้บังคับได้ไม่เกิน 2 ปี
ประชาชนทุกคนของสหพันธรัฐไทอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติหรือการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะกระทำมิได้
มิให้สหพันธรัฐไทแต่งตั้งฐานันดรใดๆแก่บุคคลใดๆ และให้ออกกฎหมายยกเลิกฐานันดรที่มีอยู่ทั้งหมด
2. สหพันธรัฐไทประกอบด้วยรัฐจำนวน 10 รัฐ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ ภายใต้เอกภาพของสหพันธรัฐ ห้ามรัฐที่เป็นสมาชิกของสหพันธรัฐไททำสัญญาเป็นสมาชิก หรือเป็นสมาชิกของสหพันธรัฐอื่น
3. อำนาจนิติบัญญัติทั้งปวงเป็นของรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐไท ประกอบด้วย วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร
รัฐสภามีอำนาจในการกำหนดและจัดเก็บภาษีอากร ภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิตรในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ
รัฐสภามีอำนาจในการกู้ยืมเงิน ควบคุมจัดระเบียบพาณิชย์กับนานนาประเทศและระหว่างรัฐ กำหนดกฎเกณฑ์การแปลงสัญชาติ คดีล้มละลาย การผลิตเหรียญกษาปณ์ การรักษาค่าเงินทั้งในสหพันธรัฐไท และต่างประเทศ รวมทั้งการกำหนดมาตรฐานการชั่ง ตวง วัด
ให้รัฐสภามีอำนาจในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาตร์ และศิลปะความรู้ที่มีคุณค่า
ให้รัฐสภามีอำนาจในการก่อตั้งศาลที่มีระดับรองจากศาลสูง
ให้รัฐสภามีอำนาจในการประกาศสงคราม การจัดตั้งสนับสนุนกองทัพ การจัดหาระดมกำลังอาสาสมัคร การรักษากฏหมายของรัฐ การปราบปรามความไม่สงบภายใน การขับไล่ศัตรูภายนอกและพวกติดอาวุธ
ให้รัฐสภามีอำนาจทางด้านนิติบัญญัติทุกกรณีในดินแดนอันเป็นที่ตั้งของสหพันธรัฐไท
ให้รัฐสภามีอำนาจในการตรากฎหมายที่จำเป็นและเหมาะสมเพื่อให้มีอำนาจในการปกครองประเทศ
4. สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกทีมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในแต่ละรัฐทุก 2 ปี คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ให้แต่ละรัฐออกรัฐบัญญัติกำหนด
5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องกำหนดโดยรัฐบัญญัติของแต่ละรัฐ อัตราส่วนผู้แทนราษฎรหนึ่งคนต่อประชากรสามหมื่นคน และจะต้องกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละรัฐทุกสิบปี แต่ละรัฐจะต้องมีผู้แทนราษฎรอย่างน้อยหนึ่งคน หากตำแหน่งผู้แทนราษฎรในรัฐใดว่างลงให้ฝ่ายบริหารของรัฐนั้นจัดการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง
6. ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐสภา
7. รัฐสภาของแต่ละรัฐออกรัฐบัญญัติเลือกสมาชืกวุฒิสภารัฐละสองคน มีวาระการดำรงตำแหน่งหกปี สมาชิกวุฒิสภาของแต่ละรัฐมีสิทธิออกเสียงได้คนละหนึ่งเสียง
8. การประชุมรัฐสภาครั้งแรก สมาชิกวุฒิสภาจะถูกแบ่งเป็นสามกลุ่ม จำนวนเท่ากันทุกกลุ่ม สมาชิกวุฒิสภากลุ่มแรกจะหมดวาระลงในปีที่สอง กลุ่มที่สองจะหมดวาระลงในปีที่สี่ กลุ่มที่สามจะหมดวาระลงในปีที่หก เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งในสาม แทนตำแหน่งที่ว่างลงทุกสองปี หากมีตำแหน่งว่างลงด้วยเหตุอื่นที่มิใช่หมดวาระทุกสองปี และไม่อยู่ในสมัยประชุม ฝ่ายบริหารของรัฐนั้นต้องแต่งตั้งสมาชิกชั่วคราวให้ปฏิบัติหน้าที่ จนกว่ารัฐสภาจะเปิดสมัยประชุมครั้งต่อไป เพื่อเลือกสมาชิกวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่างลง
9. บุคคลที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้คือ มีอายุไม่ถึง 18 ปี ไม่มีสัญชาติไทย และไม่ได้มีภูมิลำเนาในรัฐที่ตนเองได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
บุคคลที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้คือ มีอายุไม่ถึง 30 ปี ไม่มีสัญชาติไทย และไม่ได้มีภูมิลำเนาในรัฐที่ตนเองได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาวุฒิสภา
10. รัฐสภาแต่ละรัฐต้องเปิดประชุมอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง สมัยประชุมจะเริ่มมีขึ้นในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม แต่ละรัฐต้องกำหนดเวลา สถานที่และหลักกเณฑ์การเลือกตั้งวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐนั้นๆ
องค์ประชุมของทั้งสองสภาให้ใช้เสียงข้างมาก
การตัดสินผลการเลือกตั้ง และคุณสมบัติของสมาชิกแต่ละสภาให้สภานั้นๆเป็นผู้กำหนด
ค่าตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นไปตามกฎหมายที่สนอโดยกระทรวงการคลัง
การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในระหว่างการประชุมย่อมได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายมิให้ถูกฟ้องร้อง
12. ให้รองประธานาธิบดีสหพันธรัฐไทเป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง แต่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียง เว้นแต่กรณีที่มีการลงคะแนนเสียงข้างละเท่ากัน
13. วุฒิสภามีอำนาจเลือกเจ้าหน้าที่ของวุฒิสภาเอง และเลือกประธานวุฒิสภาชั่วคราวในกรณีที่รองประธานาธิบดีปฏิบัติหน้าที่มิได้ หรือกรณีที่รองประธานาธิบดีต้องปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไท
14.ให้วุฒิสภาเท่านั้นที่มีอำนาจในการพิจารณาคดีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกฟ้องร้องทางอาญา กรณีที่ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทถูกพิจารณาคดี ให้ประธานศาลสูงทำหน้าที่ประธานในการพิจารณาคดี การพิพากษาลงโทษต้องใช้มติไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิก ที่เข้าร่วมพิจารณาลงคะแนนเสียงพิพากษา
15.ห้ามมิให้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดำรงตำแหน่งใดๆหรือได้รับผลประโยชน์ใดๆอันเป็นการขัดกับการปฏิบัติหน้าที่ของตน และจะต้องไม่ดำรงตำแหน่งอื่นใดในสหพันธรัฐไท
16. ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทต้องให้ความเห็นชอบและลงนามในร่างกฎหมายทุกฉบับที่ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจึงจะมีผลบังคับใช้
กรณีที่ประธานาธิบดีไม่เห็นชอบ หรือไม่ลงนามรับรองภายในกำหนดเวลาอันสมควร ให้ส่งร่างกฎหมายนั้นกลับคืนสู่สภาผู้เป็นเจ้าของร่าง หากสภานั้นมีมติยืนยันตามร่างกฎหมายเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่าสองในสามของสมาชิกสภานั้น ให้ส่งร่างกฎหมายนั้นไปให้สมาชิกอีกสภาหนึ่งพิจารณา หากมีมติยืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย การลงคะแนนเสียงของทั้งสองสภาให้ทำโดยเปิดเผยโดยการขานชื่อและบันทึกไว้ในรายงานประชุมของแต่ละสภา กรณีที่ประธานาธิบดีไม่ลงนามส่งร่างกฎหมายนั้นกลับมาสู่สภาภายในสิบวันทำการ ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นมีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย
กรณีที่รัฐสภาปิดสมัยประชุม และประธานาธิบดีไม่ลงนามรับรองร่างกฎหมาย ให้ถือว่าร่างกฎหมายนั้นตกไป
17. มติหรือการลงคะแนนเสียงที่ผ่านวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ยกเว้นช่วงปิดสมัยประชุม จะต้องได้รับความเห็นชอบจากประธานาธิบดีจึงจะมีผลบังคับใช้ หากประธานาธิบดีไม่เห็นชอบ รัฐสภาจะต้องนำกลับพิจารณาใหม่ หากมีมติยืนยันไม่ต่ำกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งสองสภาจึงจะมีผลใช้บังคับเป็นกฏหมายได้
18.อำนาจบริหารสหพันธรัฐไทเป็นอำนาจของประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐ มีวาระการดำรงตำแหน่งสมัยละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันเกิน 2 สมัยไม่ได้ รองประธานาธิบดี ซึ่งได้รับเลือกตั้งพร้อมกัน ดำรงตำแหน่งเวลาเดียวกัน
18.1 วิธีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี
ฝ่ายนิติบัญญัติของแต่ละรัฐแต่งตั้งคณะผู้เลือกตั้งมีจำนวนเท่ากับสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐนั้นมีอยู่ คณะผู้เลือกตั้งต้องไม่เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น
ให้คณะผู้เลือกตั้งประชุมพร้อมกันในรัฐของตนเอง โดยลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี โดยหนึ่งในสองตำแหน่งนี้จะต้องไม่อาศัยอยู่ในรัฐเดียวกัน บัตรลงคะแนนต้องระบุชัดเจนเลือกใครเป็นประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี
ให้คณะผู้เลือกตั้งลงนามรับรองผลการเลือกตั้ง แล้วส่งมอบโดยการปิดผนึกถึงประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้เปิดเอกสารในการประชุมร่วมของวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรเพื่อนับคะแนนเสียง โดยให้บุคคลผู้มีคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นประธานาธิบดี แต่ต้องเป็นคะแนนเสียงข้างมากของผู้เลือกตั้งทั้งหมด
กรณีที่บุคคลที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเท่ากัน ให้สภาผู้แทนราษฎรลงคะแนนเสียงด้วยบัตรเพื่อเลือกบุคคลเป็นประธานาธิบดีเพียงหนึ่งคน
ให้รัฐสภากำหนดวันเลือกคณะผู้เลือกตั้งและวันที่ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยกำหนดให้เป็นวันเดียวกันทั่วดินแดนที่เป็นอาณาเขตของสหพันธรัฐไท
18.2 ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดหรือการแปลงสัญชาติ และมีภูมิลำเนาอยู่ในสหพันธรัฐไทเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี
18.3 กรณีที่ประธานาธิบดี และ/หรือ รองประธานาธิบดี ถูกปลดจากตำแหน่ง ตาย ลาออก หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รัฐสภาแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นใหม่
18.4 ให้ประธานาธิบดีได้รับค่าตอบแทนจากการปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ค่าตอบแทนดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างการดำรงตำแหน่ง หรือจะได้รับรายได้อื่นจากสหพันธรัฐหรือรัฐใดอีกไม่ได้
18.5 ก่อนเข้าบริหารงานในตำแหน่งประธานาธิบดี จะต้องกล่าวคำสาบานว่า “ข้าพเจ้าขอสาบานว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐไทอย่างซื่อสัตย์ และจะปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดตามความสามารถของข้าพเจ้า เพื่อพิทักษ์รักษาและปกป้องรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธรัฐไท ”
18.6 ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ รวมทั้งกำลังพลอาสาสมัครของรัฐต่างๆด้วย
และให้มีอำนาจในการออกคำสั่งบรรเทาโทษและนิรโทษกรรมต่อการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสหพันธรัฐยกเว้นกรณีที่ถูกฟ้องบังคับให้ออกจากตำแหน่ง
19. อำนาจและหน้าที่ของประธานาธิบดี
ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการทำสนธิสัญญาโดยได้รับคำแนะนำและยินยอมจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ในที่ประชุม
ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเอกอัครราชทูต อัครราชทูต กงสุล คณะผู้พิพากษาศาลสูง โดยได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ทั้งนี้รัฐสภาอาจตรากฎหมายให้ประธานาธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในระดับรองลงไปได้หากเห็นสมควร และรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับรองลงมาได้
19.1 ให้ประธานาธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลตามตำแหน่งที่ว่างลงทุกตำแหน่งทีอาจมีขึ้นในช่วงปิดสมัยประชุมวุฒิสภา
ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้รับรองเอกอัครราชทูต อัครราชทูตของประเทศต่างๆ เป็นผู้รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัดและเป็นผู้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสหพันธรัฐทั้งหมด
19.2 ประธานาธิบดีต้องรายงานสถานการณ์ของประเทศต่อรัฐสภาตามระยะเวลาที่กำหนด และเสนอมาตรการต่างๆต่อรัฐสภา ประธานาธิบดีมีอำนาจต้ดสินใจเวลาที่เหมาะสมในการประชุมของทั้งสองสภา หรือสภาใดสภาหนึ่ง
19.3 การถอดถอนประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่ของรัฐออกจากตำแหน่ง กระทำได้ในข้อหากระทำผิดทางอาญา
20. ในการพิจารณาคดีอาญาทุกคดี ยกเว้นคดีฟ้องให้ขับไล่ออกจากตำแหน่ง ให้พิจารณาโดยคณะลูกขุนตามระบบคอมมอนลอว์หรือถือเอาตามสามัญสำนึกของผู้คนคือคณะลูกขุน โดยให้ผู้พิพากษามีอำนาจหน้าที่ปรับใช้ตัวบทกฎหมายเพื่อการพิจารณาคดี
ให้รัฐสภาจัดตั้งศาลสูง หรือศาลระดับรองลงมา และให้ผู้พิพากษาศาลสูงหรือศาลระดับรองลงมาดำรงตำแหน่งตราบเท่าที่ความประพฤติไม่เสื่อมเสียและให้ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานในระหว่างการดำรงตำแหน่ง โดยค่าตอบแทนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
20.1 การพิจารณาคดีฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของสหพันธรัฐไท เพื่อปลดผู้ถูกฟ้องออกจากตำแหน่งสามารถดำเนินการพิจารณาคดีต่อได้หลังจากผู้ถูกฟ้องร้องถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว
20.2 คดีความที่เกี่ยวข้องกับเอกอัครราชทูต ราชทูต กงสุล และบรรดาบุคคลที่รัฐมีคดีด้วยให้เริ่มต้นที่ศาลสูง ส่วนคดีอื่นๆให้อุทธรณ์ต่อศาลสูงทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เว้นแต่มีข้อยกเว้นตามกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภาของสหพันธรัฐไท
20.3 การลงโทษบุคคลใดในความผิดฐานก่อการกบฏ ต้องมีพยานให้การยืนยันในการกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือผู้ที่ถูกล่าวหาเป็นกบฏจะรับสารภาพในศาลที่มีการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย
20.4 รัฐบัญญัติ บันทึกสำนวนคดี และการดำเนินคดีของศาลจะต้องได้รับความเชื่อถือจากรัฐอื่นๆ โดยเท่าเทียมกัน รัฐสภาสามารถตรากฏหมายเพื่อให้เครดิตความเชื่อถือระหว่างรัฐมีผลใช้บังคับได้
20.5 ให้พลเมืองของแต่ละรัฐมีเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของความเป็นประชาชนแห่งสหพันธรัฐไทเหมือนกัน
บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางอาญา หากหนีคดีอาญาไปยังรัฐอื่น ให้ฝ่ายบริหารรัฐของเจ้าของคดี ขอให้อีกรัฐหนึ่งส่งตัวผู้ร้ายข้ามมาดำเนินคดีในเขตอำนาจของศาลต่อไป
21. การรับรัฐใหม่ๆ เข้าเป็นสมาชิกสหพันธรัฐไทเป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ไม่ให้มีรัฐใหม่ที่ตั้งซับซ้อนพื้นที่ที่เป็นเขตอำนาจของรัฐที่มีอยู่ เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากรัฐสภาของรัฐนั้นและของรัฐสภาสหพันธรัฐไท
21.1 ให้สหพันธรัฐไทค้ำประกันให้รูปแบของรัฐบาลทุกรัฐเป็นรูปแบบสาธารณรัฐ และสหพันธรัฐไทจะให้ความคุ้มครองแต่ละรัฐจากการถูกรุกราน รวมทั้งการถูกรุกราน รวมทั้งเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหารของรัฐร้องขอหากเกิดความไม่สงบภายในรัฐ
22. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระทำได้เมื่อจำนวนสมาชิกของรัฐสภาจำนวนไม่ต่ำกว่าสองในสามของที่มีอยู่ เสนอให้มีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะมีผลบังคับใช้ได้ต้องดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และรัฐสภาของรัฐสมาชิกจำนวนไม่ต่ำกว่าสามในสี่ของทั้งหมดให้สัตยาบัน หรือที่ประชุมของรัฐทั้งปวงให้สัตยาบันด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่าสามในสี่ แต่จะกำหนดให้รัฐสมาชิกมีจำนวนสมาชิกวุฒิสภาไม่เท่ากันไม่ได้
23. รัฐธรรมนูญฉบับนี้รวมทั้งกฎหมายต่างๆของสหพันธรัฐไทที่จะตราออกมา รวมทั้งสนธิสัญญาทั้งหมดที่ได้เข้าร่วมเป็นภาคี ให้ถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
ผู้พิพากษาของรัฐทุกรัฐต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายของรัฐ จะขัดหรือแย้งไม่ได้
สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและตุลาการทั้งหมด และรัฐต่างๆของสหพันธรัฐไท จะต้องผูกมัดกับคำสาบานหรือคำยืนยันในการปฏิบัติตาม หรือสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้
สหพันธรัฐไทมีเจตน์จำนงค์ที่ชัดเจนที่จะให้พลเมืองทุกคนของแต่ละรัฐมีความเป็นอยู่ที่ดี ที่ได้รับความปลอดภัย โดยมุ่งจัดสวัสดิการพื้นฐานที่จำเป็นให้พลเมืองทุกคน
องค์การสหพันธรัฐไท
30 เมษายน 2561 1.01 น. ประเทศไทย

ข่าวดี ! พรุ่งนี้เช้า เตรียมปล่อย 'สมยศ พฤกษาเกษมสุข'

เพจเพื่อนสมยศแจ้ง สมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องขังในคดี 112 จะได้รับการปล่อยตัวพรุ่งนี้เช้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังถูกคุมขังมาเป็นเว

( หมายเหตุ- "ขอคารวะ  " คุณ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ทรนง แน่วแน่ มั่นคง เชื่อมั่นศรัทธาในตัวเอง  )

เลือกตั้ง..พลังดูด? (การเมืองเรื่องดักดาน)

“โอ๊ค” โพสต์รูป 2อดีตนายกฯ เหน็บพลังดูด
https://www.matichon.co.th/news/934958



คลิกดู-“หญิงหน่อย”เตรียมจัดทำบุญวันคล้ายวันเกิด1 พ.ค.นี้


คลิกดู-"วาดะห์" แฉ โดนคสช.กดดันก่อนใคร ชู "วันนอร์" คีย์แมน "พรรคประชาชาติ"



คลิกดู-แกนนำพท.อีสานโต้'นายกฯ'พูดเรื่องการดูด ส.ส.เป็นเรื่องปกติ ขัดคำพูดที่สัญญาไว้กับปชช.






คลิกดู-'พท.'ซัดดูดส.ส.ไม่ใช่ครรลองปชต.ไทย ชี้แค่วิธีให้นักการเมืองศิโรราบ





คลิกดู-'จาตุรนต์'ยก 10 เหตุผลค้าน'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯหลังเลือกตั้ง
‘ธนาธร’ ชู 4 ด้านกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำประชามติล้มรธน.ปี’60 ก่อนตั้งกก.ร่างรธน.ใหม่
#prachachat


(หมายเหตุ- ประชาชนและประเทศชาติได้อะไร???ใครเป็นใคร?ชอบแบบไหน?ประชาชนคือผู้เลือกและตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่าให้ใครบังคับ)