Thai E-News
ไอหยา น่าสนใจ น่าสนใจ แม้จะเหลือเชื่อ !!! ข่าวจาก Bild
อ้างแหล่งข่าวในราชสำนักว่าวชิราลงกรณ์ขนของมีค่าไปเยอรมัน
"ด้วยความกลัวจะถูกโค่น"
Somsak Jeamteerasakul
7h ·
ข่าวจาก Bild อ้างแหล่งข่าวในราชสำนักว่าวชิราลงกรณ์ขนของมีค่าไปเยอรมัน "ด้วยความกลัวจะถูกโค่น"
ผมเอาข่าวนี้มาให้ดู
ไม่ใช่เพราะเชื่อ แต่เห็นว่าเป็นการเสนอข่าวออกไปโดย Bild และหนังสือพิมพ์
The Telegraph ของอังกฤษเอาไปลงต่อ โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยเชื่อข่าวนี้นัก
ตามข่าวบอกว่ามีการขนเครื่องบินไปทั้งหมด 14 เที่ยว
Saiseema Phutikarn ·
ทฤษฏีที่ว่าขนสมบัติไปเยอรมนีเพราะกลัวถูกโค่นแบบเจียงไคเช็กนี่ฟัง"เหลือเชื่อ"จริงๆ
แต่ถ้าดูจากบันทึกการบินเส้นทาง กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ TG924/925
ของการบินไทย
ที่บินถี่ยิบแทบจะวันเว้นวันแล้วก็อดสงสัยว่าเป็นเที่ยวบินขนส่งมากกว่าที่จะเป็นการบินเพื่อรับผู้โดยสารปกติเพราะ
- 1 ผู้โดยสารเส้นทางนี้ในช่วงก่อนโควิดก็ไม่ได้มากขนาดนี้
-
2 ในเว็บการบินไทยไม่ขายตั๋วเที่ยว กรุงเทพ-มิวนิค
แบบเที่ยวบินตรงให้คนทั่วไป ที่มีขายเป็นแบบไปต่อเครื่องที่แฟรงเฟิร์ต
หรือยุโรปเมืองอื่น
ที่ในข่าวของ Telegraph บอก 14
เที่ยวนั่นน่าจะนับถึงวันที่ปิดต้นฉบับ แต่ถึงวันนี้มีการบินเที่ยวบิน
กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ ไปแล้ว 17 เที่ยว ไม่นับของวันที่ 7-8 พย.
ที่เป็นเที่ยวบิน VVIP
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการขนส่งจาก
"กรุงเทพไปมิวนิค" หรือจาก "มิวนิคไปกรุงเทพ" กันแน่
เพราะถ้าดูความคืบหน้าการก่อสร้าง V Complex กลางกรุงมูลค่าหลายหมื่นล้าน
จะเห็นว่ามีอาคารใหม่ๆเพิ่มอีกหลายอาคาร อาจมีความต้องการเฟอร์นิเจอร์
เครื่องประดับ เครื่องใช้ ที่อาจหาไม่ได้ในไทย
ส่วนสาเหตุที่การขนส่งของโดยการบินไทยต้องใช้เครื่องบินโดยสาร
แทนที่จะไปใช้เครื่องบินขนส่ง
ก็เพราะการบินไทยไม่มีเครื่องบินขนส่งโดยเฉพาะ เครื่องบินขนส่งลำสุดท้าย
(747) ของการบินไทยถูกขายไป 5-6 ปีแล้ว ที่ผ่านมา Thai Cargo
ที่กิจการเฟื่องฟูในช่วงโควิดก็ใช้เครื่องบินโดยสารปกตินี่แหละขนส่งเอา
ทหารจะไม่เอาแล้วหรอ ฮ่าๆๆ
มิตรท่านหนึ่ง
อ่านความเห็นต่อที่
https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/4497697473616830
............................................................................................................................
๑๑๒ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่อง ‘คชสารในห้อง’ มากไปกว่า ‘กระป๋องเต็มไปด้วยหนอน’
แล้วละ จากกรณีที่นิตยสาร บิลด์ ตามกัด ‘ไทยโคนิก’ หลังจากที่นักข่าวของตนถูกราชองครักษ์ข่มขู่ ให้ลบภาพถ่ายการเสด็จที่โรงแรมมูนิคแอร์พอร์ตเมื่อต้นเดือน
คราวนี้บิลด์ตีข่าวแรงเรื่องกษัตริย์ไทยขนราชทรัพย์
“งานศิลปะ วัตถุล้ำค่า และศฤงคารจากวิหารโบราณ” ไปยังนครมูนิค เยอรมนี
แม้นว่าเหตุอ้างของบิลด์ที่ว่าเป็นเพราะพระองค์ทรงรู้สึกไม่มั่นคงนัก
ในสถานะประมุขของประเทศ ดูจะแย้งกับสภาพการณ์ที่เป็นอย่างมาก
เนื่องจากปัจจุบันมีการดำเนินคดีต่อผู้ที่เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เป็นว่าเล่น
มีผู้ถูกตั้งข้อหาและดำเนินคดีในความผิดอาญามาตรา ๑๑๒
มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง ๑๕๖ ราย หลายคนถูกคุมขังโดยยังไม่เริ่มดำเนินคดีเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
บางเหตุที่อ้างว่าเป็นความผิดก็ไร้สาระเสียจน
ทำให้กระบวนการศาลไทยแสดงออกถึงการด้อยจิตสำนึกและปัญญาวุฒิ
เช่นการใส่เสื้อคร็อปท้อปเดินห้าง เป็นการให้ร้ายองค์พระมหากษัตริย์ได้อย่างไร
ในเมื่อก็ทรงฉลองพระองค์เช่นนั้นมาก่อน
แสดงว่ารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ได้ทำการปกป้องพระเจ้าอยู่หัวและปกปิดภาพร้ายอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
ขนาดที่ประยุทธ์เองสนับสนุนให้ ‘ม็อบเชิดสิงโต’
ชุมนุมขับไล่แอมเนสตี้อินเตอร์แน้ทชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์การสิทธิมนุษยชนสากลที่ทั่วโลกยกย่อง
นั่นแสดงว่ารัฐบาลประยุทธ์ทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐวายร้ายที่ต่อต้านการเชิดชูสิทธิมนุษยชน
เพียงเพื่อจะเชิดชูสถาบันกษัตริย์ แล้วอย่างนี้จะว่ารัชกาลที่ ๑๐ ทรงรู้สึกว่าความมั่นคงแห่งสถานะของพระองค์ถูกคุกคามได้อย่างไร
หากแต่ประเด็นเที่ยวบิน ๑๔ ครั้งที่อ้าง มีหลักฐานรองรับ
ปรากฎว่า “บันทึกการบินเส้นทาง
กรุงเทพ-มิวนิค-กรุงเทพ TG924/925 ของการบินไทย
ที่บินถี่ยิบแทบจะวันเว้นวัน” ๑๗ เที่ยวนั้น ไม่ปกติเป็นอย่างยิ่ง ‘พูติกาล ศายษีมา’ โพสต์ถึงความสมเหตุสมผลของเที่ยวบินเหล่านั้นไว้ว่า
“หนึ่ง ผู้โดยสารเส้นทางนี้ในช่วงก่อนโควิดก็ไม่ได้มากขนาดนี้
สอง ในเว็บการบินไทยไม่ขายตั๋วเที่ยว กรุงเทพ-มิวนิค แบบเที่ยวบินตรงให้คนทั่วไป
ที่มีขายเป็นแบบไปต่อเครื่องที่แฟรงเฟิร์ต หรือยุโรปเมืองอื่น”
แสดงว่าเป็นเที่ยวบินพิเศษ VVIP แน่ๆ
พิเศษด้าน Cargo
ในเมื่อ “การขนส่งของโดยการบินไทยต้องใช้เครื่องบินโดยสาร
แทนที่จะไปใช้เครื่องบินขนส่ง ก็เพราะการบินไทยไม่มีเครื่องบินขนส่งโดยเฉพาะ เครื่องบินขนส่งลำสุดท้าย
(747) ของการบินไทยถูกขายไป ๕-๖ ปีแล้ว”
Saiseema Phutikarn
สันนิษฐาน “ถ้าดูความคืบหน้าการก่อสร้าง V
Complex กลางกรุงมูลค่าหลายหมื่นล้าน
จะเห็นว่ามีอาคารใหม่ๆเพิ่มอีกหลายอาคาร อาจมีความต้องการเฟอร์นิเจอร์
เครื่องประดับ เครื่องใช้ ที่อาจหาไม่ได้ในไทย”
จึงเป็นไปได้ว่ารายงานของบิลด์อาจไม่ถูกต้อง
แต่มันก็เป็นการเปิดกระป๋องเจอหนอนยั้วเยี้ย เมื่อ Nanthida Rakwong เก็บเอาไปเล่นที่ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ว่ามี “สื่อประเทศสวิตเซอร์แลนด์รายงาน”
(เกี่ยวเนื่องที่มีเที่ยวบินการบินไทยใช้ส่วนพระองค์บินไปซูริค)
“พฤติกรรมการขนเงิน+ของมีค่าประเทศแล้วเอาไปฝากที่ธนาคาร
ตปท.ของสถาบันกษัตริย์ไทย มีมาตั้งแต่สมัย ร.๕ เท่าที่รู้”
เธออ้างหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูล เมอร์คิวรี่ ลงข่าวใน พ.ศ.๒๔๔๐ เรื่อง “ร.๕ มีรายได้
๘ ล้านเหรียญดอลล่าหรือมากกว่านั้น+มีเงินฝาก ๔๐ ล้านดอลล่าสหรัฐ”
ที่สำคัญเธออ้าง ‘The
King Never Smiles’ ถึงพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
หรือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ของรัชกาลที่ ๙ ว่าเมื่อคราว ‘เสด็จฯ ๘๐’ “ใช้จ่ายเงิน
(ภาษี) ไปกับศัลยกรรมความงาม ซื้อบ้านหรู แหวนเพชร
และยังแอบเอาเงินไปฝากไว้ในธนาคาร ตปท.เผื่อไว้เวลาที่ต้องลี้ภัย”
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ‘TKNS’ อย่างไรเป็นอีกเรื่อง แต่ว่าหลังเสด็จฯ ๘๐
พักใหญ่เกิด ‘เมษาฮาวาย’ ฮือฮามากเมื่อ
‘ยังเติร์ก’ ลูกป๋าแท้ๆ
พยายามยึดอำนาจป๋าไม่สำเร็จเพราะ ‘สมเด็จฯ’ ทรงช่วยไว้ด้วยการส่งเฮลิค้อปเตอร์ไปรับจากบ้านสี่เสาฯ
ก่อนหน้านั้นมีหนึ่งในยังเติร์กเดินทางไปนครลอส
แองเจลีส เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงว่ามีราชวงศ์ไทยนำศิลปะโบราณจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไปขายให้แก่ห้าง
‘Neiman Marcus’ และมีการซื้ออสังหาริมทรัพย์กับโรงแรมที่นั่นหรือไม่
ยังเติร์กได้เรื่องกลับไปแค่ไหนไม่รู้
ทราบจากข่าวภายหลังว่าความพยายามยึดอำนาจล้มเหลว แต่ใครไปเดินห้างนีมานมาร์กัสในเบฟเวอรี่ฮิลส์ช่วงนั้น
จะเห็นเทวรูปครึ่งร่างทรงขอมขนาดเท่าคน
ตั้งเป็นวัสดุตกแต่งไว้ในที่สูงเห็นได้จากทั่วห้อง
(https://twitter.com/ThaiPolitica/status/1417079319961210880, https://www.nau.ch/people/welt/thai-konig-maha-vajiralongkorn-bringt-seine-schatze-in-sicherheit-66053967 และ https://www.facebook.com/photo/?fbid=3013872182261622&set=p.3013872182261622)