torsdag 27 januari 2022

ใบตองแห้ง: เก่งจับ เก่งรีด , ทุจริตประเทศปรสิต


ปศุสัตว์พลิกภาพเป็นพระเอก ไล่จับสต๊อกหมูตามคำชี้แนะพี่โทนี่ พบห้องเย็นที่สงขลา ก็ตีปี๊บ “จับใหญ่” ขนสื่อไปทำข่าวยังกะจับโกดังกัญชา ที่ไหนได้ กลายเป็นห้องเย็นเบทาโกร ก็ยังตั้งข้อหาจนได้ หาว่าห้องเย็นไม่แจ้งปริมาณการครอบครอง ทั้งที่เบทาโกรแจ้งพาณิชย์แล้ว สต๊อกหมู 2 แสนกิโล ขาย 8 จังหวัดใน 7 วัน มันผิดปกติตรงไหน

ดิ้นรนให้พล่านทั้งพาณิชย์ เกษตร ภายใต้รัฐมนตรีพรรคเดียวกัน โทษหมูแพงเพราะกักตุน เพราะพ่อค้าเก็งกำไร ไม่ได้เป็นเพราะหมูตาย ไม่ได้เป็นเพราะไร้ฝืมือบริหาร กรมปศุสัตว์ไม่ได้ปกปิดข้อมูล ว่าซั่น!

ราคาสินค้าเป็นปัญหาดีมานด์ซัพพลาย ต้นทุนวัตถุดิบ อาหารสัตว์ ฯลฯ กลับโยนความผิดง่าย ๆ ให้คนขาย แบบกรมการค้าภายในไปจับแม่ค้าขายไข่ ไข่ไก่เบอร์ศูนย์ฯ ฟองละ 4.80 บาทมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 1.4 แสนบาท ต้องประกันตัววงเงิน 1 แสนบาท

อยากสร้างผลงานหรือต้องการเรียกเสียงด่าก็ไม่ทราบเหมือนกัน กระทั่งกรณ์ จาติกวณิช เจ้าของไอเดียชั่งไข่ขาย ยังงงกระทรวงพาณิชย์ใช้สมองส่วนไหนคิด ของบ 1,480 ล้านไปปล่อยรถพุ่มพวงขายลดราคา

รัฐบาลใช้จุดเด่นของตัวเอง ของรัฐราชการ คือใช้อำนาจปราบปรามกับลดแหลกแจกแถม แต่ไม่มีฝีมือบริหารเศรษฐกิจ คิดว่าการออกประกาศควบคุมราคาสินค้า คุมสต๊อก แล้วใช้ตำรวจ พาณิชย์ ปศุสัตว์ ฝ่ายปกครอง “สนธิกำลัง” นำนักข่าวไปตรวจปูพรม “ฮึ่มสั่งฟัน” หาแพะมาสังเวย แล้วจะสร้างความพึงพอใจให้ประชาชน ทั้งที่ควบคุมราคาสินค้าไม่ได้จริง ชาวบ้านเดือดร้อนไปหมด ยังซ้ำเติมพ่อค้าแม่ค้า

ร้านอาหารจะไม่ขึ้นราคาได้อย่างไร หมูแพงไก่แพง ขึ้นค่าแก๊สค่าไฟ น้ำมันแพง น้ำมันปาล์มก็แพง ค่าครองชีพสูง พาณิชย์อ้างว่าเงินเฟ้อทั้งโลก ใช่เลย อเมริกาเงินเฟ้อ 6-7% แต่จีดีพีสองปี 63-64 รวมกันเป็นบวก ไม่เหมือนไทยติดลบร่วม 5%

น้ำมันแพงตามตลาดโลก ก็ใช่อีก แต่ทำไมยังต้องเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5.99 บาท จนสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน อดรนทนไม่ไหว เรียกร้องให้คลังลดภาษี แทนที่จะเอากองทุนน้ำมันไปอุ้ม จนตอนนี้ติดลบ 8 พันกว่าล้าน

ทำไมต้องดันทุรังเก็บภาษีสูงลิบทั้งที่รู้ว่าน้ำมันแพงกระทบเศรษฐกิจทุกภาคส่วน กระทบค่าครองชีพประชาชน ลดภาษีน้ำมันสิ ช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ได้ผลที่สุด ใครก็รู้ ทำไมไม่ทำ

ถังแตกสิครับ เพราะงบขาดดุลมหาศาล จัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า รายจ่ายบานเบอะ ส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เช่นงบ 65 เป็นเงินเดือนสวัสดิการข้าราชการ 40% หรือ 1.2 ล้านล้านบาท รัฐราชการไร้ประสิทธิภาพแต่ใหญ่โตขึ้นทุกวัน

คลังแถลงจัดเก็บรายได้ 2 เดือนแรก “เกินเป้า” (เพราะลดเป้าลงมาแล้ว) แต่เกินเฉพาะสรรพากร สรรพสามิตต่ำกว่าเป้า ทำอย่างไรก็คงไม่ลดภาษีน้ำมัน ท่ามกลางความเดือดร้อนชาวบ้าน รัฐมนตรีคลังยังคุยจีดีพีปีนี้จะพุ่ง 3.5-4.5%

ฟังแล้วก็ขำ ย้อนหลังปี 64 ทีแรกสภาพัฒน์คาดการณ์จีดีพี 3.5-4.5% ลดลงเหลือ 2.5-3.5% สุดท้ายกลายเป็น 1.2% ปีนี้ก็มาอีกละ 3.5-4.5%

รัฐบาลอยู่ได้ด้วยการขายฝันเหมือนปั่นหุ้น ออกข่าว PR รายวัน ในทางปกครองก็อยู่ด้วยกระแสดราม่า แบบจับแม่ค้าเครื่องไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือขายเกินราคา หลังเป็นดราม่าออนไลน์ ไล่ออกนาวาเอกกร่าง อวดเบ่ง แอบอ้าง หลังโดนแพร่คลิป เหมือนสนองความพึงพอใจสังคม แต่ไม่เคยแก้ปัญหาเชิงระบบ

การเมืองเข้าทางตันก็ไม่ปรับไม่ยุบ “อย่ายอมแพ้” ของแพงไม่ขึ้นค่าแรง ใช้ตำรวจไล่จับ ใช้อำนาจปราบปรามแก้ปัญหากลไกราคา ลอยหน้าอยู่บนโพลแหกตา คะแนนนิยม 82% พรรคแตก=กำจัดคนชั่ว ทั้งที่สมสู่กันมาแต่ต้น

หลอกคนโง่ได้ แต่เศรษฐกิจปากท้องเป็นของจริง หลอกคนส่วนใหญ่ไม่ได้

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ  www.kaohoon.com/column/509195

2022-01-27 22:40

ดัชนีรับรู้การทุจริตประเทศไทย ปี 2564 ร่วงอีกแล้ว จากอันดับ 104 ลงไป 110 จาก 36 คะแนนลดเป็น 35 บางคนอาจบอกว่าไม่แย่เท่าไหร่หรอก แค่คะแนนเดียว แต่เวียดนามแซงไปแล้ว และไม่ได้ครึ่งของสิงคโปร์

รัฐประหารอีกทีไหม จะได้ “ปราบโกง” โถ ๆ ๆ ส.ว.วันชัย สอนศิริ ยังยอมรับ รัฐประหารแก้ทุจริตไม่ได้ วงจรอุบาทว์หนักกว่าเดิม แค่ทำให้ทนายวันชัยได้เป็น 250 ส.ว. เท่านั้นเอง

ว่าที่จริง ดัชนีคอร์รัปชั่นขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ในช่วงรัฐประหารใหม่ ๆ ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับนัก เพราะองค์กรในประเทศไทยพัวพันกับ “คนดี” ที่สนับสนุนรัฐประหาร รังเกียจนักการเมืองจากเลือกตั้ง เข้าไปทำงานกับ คสช.โดยหวังว่าจะ “ปราบโกง” จนกระทั่งมูลนิธิในไทย “ถอนตัว” จากองค์กรนานาชาติ ซึ่งให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยมากขึ้น

บางคนอาจมองว่าย้อนแย้ง ให้ความสำคัญประชาธิปไตย งั้นทำไมเวียดนามแซงหน้าไทย (39 คะแนน) สิงคโปร์เป็นอำนาจนิยม รัฐบาลพรรคเดียว ทำไมคะแนนสูงลิบ 85 มาทุกปี

นี่เป็นคำถามเดียวกัน ทำไมทหารไทยรัฐประหารกี่ครั้ง ๆ ใช้อำนาจขึงขัง ไม่เคยปราบโกงสำเร็จ ซ้ำยังอื้อฉาวด้วยข่าวซื้ออาวุธ ตั้งแต่สมัย รสช. คมช. มาถึง คสช. ทหารเป็นเสียเอง GT200 เรือเหาะ รถถังยูเครน เรือดำน้ำจีน ฯลฯ เอื้อผลประโยชน์เอกชน ทั้งการประมูล ให้สิทธิสัมปทาน

เครือข่ายอุปถัมภ์ในสังคมไทยนั้นเหนียวแน่น ความสัมพันธ์เชิงอำนาจก็ซับซ้อน มีทั้งมือที่มองเห็นและมองไม่เห็น อำนาจเผด็จการอยู่บนผลประโยชน์ร่วมกันของรัฐราชการ และ elite ชนชั้นนำ ซึ่งไม่ได้หมายถึงใครคนเดียว แต่เป็นเครือข่ายปรสิตที่ฝังรากลึกมาหลายสิบปี

ปัดโธ่ ดูง่าย ๆ ประยุทธ์ปราบลอตเตอรี่แพงมา 8 ปี ไม่สำเร็จ มีเผด็จการประเทศไหนกระจอกขนาดนี้ ทีคนเรียกร้องประชาธิปไตย ยัดข้อหาได้เป็นสิบ ๆ คดี

สิงคโปร์ต่างจากไทยในหลายเงื่อนไข เป็นประเทศเกิดใหม่ มีหลายเชื้อชาติศาสนา ต้องผนึกกันใต้ลีกวนยูเพื่อเอาตัวรอด แม้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ แต่ก็เปิดประเทศรับการลงทุนการแข่งขัน

เวียดนามสร้างประเทศใหม่ จากการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ-รวมชาติ เมื่อสี่สิบกว่าปีนี้เอง จึงเอื้อต่อการรวมศูนย์อำนาจ จำกัดสิทธิเสรีภาพ (แต่นานไปก็จะมีแรงต้านมากขึ้น) พรรคคอมมิวนิสต์ไม่ใช่ไม่มีคอร์รัปชั่น หลังเปิดประเทศทางเศรษฐกิจ ทั้งจีน เวียดนาม ก็ทุจริตเกร่อ แต่เป็นทุจริตแบบที่พรรคคอมมิวนิสต์ยังรวมศูนย์อำนาจได้ เดี๋ยว ๆ ก็หลับตาข้างหนึ่งให้เศรษฐกิจโต เดี๋ยว ๆ ก็ปราบใหญ่ แบบให้สี จิ้นผิงเป็นพระเอก

คนไทยตามัวมักอยากเห็นประเทศไทยเป็นเผด็จการแล้วเจริญแบบจีน เวียดนาม สิงคโปร์ ไม่ตระหนักว่าเงื่อนไขหลายอย่างต่างกัน ประเทศเหล่านั้นมีปัจจัยบวกเฉพาะหน้า รัฐไทยยิ่งเผด็จการยิ่งถอยหลัง ยิ่งเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ ยิ่งเอื้อคอร์รัปชั่น เพราะเครือข่ายอุปถัมภ์โยงใยไปหมด

รัฐไทยยิ่งปราบโกงยิ่งขยายหน่วยงานใหญ่โต ป.ป.ช. ป.ป.ท. ศาลทุจริต กฎหมายยิ่งเข้ม โทษหนัก แล้วเป็นไง ทุจริตยิ่งหนัก ข้าราชการแบ่งเป็นสองพวก คือพวกกลัวความผิดก็เคร่งครัดกฎระเบียบจนงานไม่เดิน พวกเขี้ยวลากก็รู้ช่องทางเส้นสายหลีกเลี่ยงได้สบาย

สถานการณ์ช่วงนี้ยิ่งเลวร้าย รัฐประหารสืบทอดอำนาจกวาดต้อนนักการเมืองมาค้ำประยุทธ์ ในปีสุดท้ายที่ความนิยมเสื่อม อำนาจระส่ำระสาย ประยุทธ์เพียงยื้ออยู่เพื่อลงจากอำนาจโดยปลอดภัย พรรคร่วมรัฐบาลจะยิ่งไม่มีใครเกรงใจ เป็นโอกาสที่จะใช้อำนาจเพื่อสะสมกระสุนไว้เลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งแทบทุกพรรคจะเอาชนะตามคำพูดปารีณา ใครซื้อ (ใจ) เก่งกว่า

พูดอย่างนี้อาจกลายเป็นว่า ยิ่งเลือกตั้งยิ่งทุจริต แต่เราไม่ได้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยจริง เป็นแค่ประชาธิปไตยปลอมเพื่อค้ำอำนาจ จำกัดสิทธิเสรีภาพไม่ให้ไล่รัฐบาลไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ

ประเทศไทยจะปราบโกง ต้องเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ที่ไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง แต่ต้องรื้อโครงสร้างอำนาจรื้อระบบอุปถัมภ์

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ www.kaohoon.com/column/509718

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar