onsdag 25 augusti 2021

ใบตองแห้ง: ขุดซุ้มประตู

2021-08-24 07:50

“ถ้าเอาประยุทธ์ออกแล้ว เขากลัวว่าซุ้มประตูจะพังทั้งซุ้ม” อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ชี้ว่าประยุทธ์เป็นก้อนหินก้อนสำคัญ ในระบอบอำนาจที่มีคนชั้นนำหลายกลุ่มหนุนหลัง ซึ่งยังคิดไม่ออกว่าถ้าเอาประยุทธ์ออกแล้วจะทำยังไง เลยรักษาประยุทธ์ไว้ก่อน

ไม่เอาก้อนหินออกเพราะกลัวพัง อยู่อย่างนี้คิดว่าไม่พัง? จะพาพังทั้งซุ้มอยู่ดี นี่คือภาวะอับจนของเครือข่ายชนชั้นนำ ซึ่งประชาชนที่ขับไล่ไม่สนใจแล้ว เขารู้เช่นกันว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไล่ประยุทธ์ แต่คือ “ขุดซุ้มประตู”

อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่การต่อสู้กันด้วยกำลัง ซึ่งฝั่งขับไล่สู้ไม่ได้อยู่แล้ว เครือข่ายชนชั้นนำคุมหมดทั้งทหารตำรวจกระบวนการยุติธรรม แต่นี่คือ “สงครามศรัทธา” สู้เพื่อทำลายความคิดความเชื่อการครอบงำทางวัฒนธรรม ที่เป็นฐานรากของ “ซุ้มประตู”

ดังนั้น แม้ในทางอำนาจ ระบอบประยุทธ์ยังอยู่ได้ ยังสามารถใช้อำนาจปราบปรามจับกุม แกนนำราษฎรติดโควิดไม่ได้ประกัน ผู้จัดคาร์ม็อบโดนเอาผิดทั้งประเทศ สลายม็อบรุนแรงเกินเหตุ ยิงกระหน่ำแก๊สน้ำตากระสุนยาง จน “ลูกนัท” ตาบอด ชาวแฟลตดินแดงโดนยิงมั่วจนเดือดดาล

ก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ ประยุทธ์ไม่ออก พรรคร่วมไม่ถอน ยิ่งใช้อำนาจหนักขึ้นอีก ยิ่งไล่จับคน ยิ่งระดมยัดข้อหา ไปจนปลดเจ้าอาวาส ปลดศิลปินแห่งชาติ

แต่การใช้อำนาจทั้งที่รัฐล้มเหลวจัดการโควิด ก็ทำให้ยิ่งประชาชนโกรธ หมดความเชื่อถือไว้วางใจ อย่างที่ลุงต๋อย ผู้ควบคุมการเดินทางข้ามมิติ ย้อนถาม

“รัฐบาลทำอะไรกัน เวลามีม็อบคุณเอาตำรวจไปได้เป็นพันๆ ไปเฝ้าบ้านนายกฯ ทีละ 3-4 กองร้อย แต่ทำไมคนป่วยตามบ้านไม่เข้าไปช่วยบ้าง ทหารว่างๆ ก็เข้าไปดูได้”

ความโกรธเกลียด ไม่เชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่เฉพาะประยุทธ์ แต่ลามไปแทบทุกองคาพยพของโครงสร้างรัฐ ทุกองค์กรอำนาจ เช่นความเกลียดตำรวจ ที่ขยายไปหยามเหยียดเกลียดชังสถาบันตำรวจ ความไม่พอใจ ไม่เชื่อมั่น ไม่เคารพนับถือ วิพากษ์วิจารณ์สถาบันยุติธรรม

สถาบันกองทัพก็ถูกฝ่ายค้านรุมถล่มงบล้นเกิน สังคมกังขาอภิสิทธิ์ไฟเซอร์ รายชื่อ ร.พ.ภูมิพล อาจ error ก็ได้ แต่ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิกองทัพตกต่ำไปหมดแล้วไง โทษฐานรัฐประหารนำประเทศไทยมาถึงวันนี้

ผู้บริหารสาธารณสุข อาจารย์แพทย์ ก็ล้มละลายไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่ความผิดพลาด แต่เพราะพยายามปกป้องรัฐบาล แล้วยังจะอ้างด่านหน้านิรโทษกรรม

แม้กระทั่งเจ้าสัวซีพี ต้องปัดพัลวันว่าไม่มีส่วนนำเข้าซิโนแวค อาจจริงก็ได้ เพราะยังไงๆ รัฐบาลต้องซื้ออยู่ดี แต่ที่โดนอย่างนี้เพราะคนมองว่าค้ำประยุทธ์มา 7 ปี

คิดดีแล้วหรือที่ออกหมายเรียกธนาธร 112 วิจารณ์จัดซื้อวัคซีนล่าช้าแทงม้าตัวเดียว แอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบได้ครบเมื่อไหร่ ได้ฉีดเต็มแขนประชาชนหรือยัง

รัฐบาลเก่งแต่เล่นการเมืองเฉพาะหน้า เช่นฉวยเอาการปะทะที่ดินแดงกับ “มวลชนอิสระ” มาโจมตี “ม็อบป่วนบ้านป่วนเมือง” ทำลายม็อบไล่ประยุทธ์ ที่ออกมาล้นหลาม เช่นคาร์ม็อบวันที่ 15 พร้อมพรั่งตั้งแต่เหนืออีสานจรดใต้ ม็อบกลางเมืองขับไปตรงไหนมีแต่ประชาชนต้อนรับร่วมชูสามนิ้ว

รัฐปฏิเสธความจริง ไม่ยอมรับรู้ว่า ม็อบอิสระที่ดินแดงนั้นเกิดจากความโกรธความคับแค้น จนปะทุเป็นพลังที่ไม่มีใครควบคุมได้ รู้แต่ว่าตำรวจตั้งตู้คอนเทนเนอร์เมื่อไหร่ ก็กลายเป็นจุดนัดพบม็อบมอเตอร์ไซค์ โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุยังน้อยด้วยซ้ำ

ฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันยังงง พยายามศึกษาว่าม็อบอิสระมาจากไหน อารมณ์โกรธแค้นมีที่มาอย่างไร นี่มันเป็นระบอบที่เลวร้ายแค่ไหน จนทำให้เกิด Chaos เกิดพลังขับไล่รัฐบาลแบบต่างคนต่างวิถีทาง

แต่รัฐไม่สนใจ ฉวยไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง หวังทำลายขบวนปฏิรูปสามนิ้ว กวาดจับแกนนำไม่ให้ประกัน หวังค้ำประยุทธ์ก้าวข้ามศพโควิด จนประกาศ “เราชนะ” ดันทุรังต่อไป เดี๋ยวมีอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยกมือเป็นฝักถั่ว โควิดจางก็แจกเงิน อัดฉีดเรียกความนิยม

ไม่คิดบ้างหรือว่าความโกรธจะรุนแรงขึ้นแค่ไหน

รัฐอาจฉวยความกลัวมาใช้ได้ชั่วขณะ ความกลัววุ่นวาย ความกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย คือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบถอนรากถอนโคน ซึ่งทำให้คนหวาดกลัวอนาคตที่ไม่แน่นอน คาดการณ์ไม่ได้ ในโลกที่ Disrupt อยู่แล้ว

แต่คนรุ่นใหม่ที่ผลักดันอยู่ตอนนี้ไม่กลัว และมองว่านี่คือโอกาส ยิ่ง Chaos ยิ่งขุดรากขุดซุ้มประตู

เครือข่ายอำนาจยิ่งกลัวยิ่งเข้าสู่จุดอับ ความไม่พอใจต่อรัฐ ต่อองค์กรอำนาจต่างๆ จะทำให้พังเป็นกระบิ ยิ่งอุ้มก้อนหินประยุทธ์ ก็ยิ่งถ่วงน้ำไปด้วยกัน จะเปลี่ยนประยุทธ์ ตอนนี้ก็อาจไม่ทันแล้ว เพราะเหลือหนทางประนีประนอมน้อยเต็มที

ไม่ต้องพูดถึงการเรียกความเชื่อถือศรัทธา ซึ่งไม่ถึง 2 ปี พังทลายอย่างเรียกคืนไม่ได้ แพ้โดยสิ้นเชิง ยิ่งมายิ่งแพ้ ในสงครามศรัทธา

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6575498 
 

ใครบ้างเชียร์ตาลิบันยึดอัฟกานิสถาน ทั้งที่ชาวโลกกังวลว่าจะปกครองด้วยระบอบเผด็จการ เข่นฆ่าล้างผลาญ อ้างหลักอิสลามห้ามผู้หญิงทำงานนอกบ้าน ห้ามเรียนหนังสือ บังคับคลุมหน้า ใช้ศาลศาสนาพิพากษาตัดมือหรือปาก้อนหินจนตาย

แม้ยังไม่รู้ว่าจะเลวร้ายขนาดนั้นไหม เพราะตาลิบัน “สายพิราบ” ประกาศว่าจะไม่เป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่ไว้วางใจไม่ได้ ข่าวที่เล็ดลอดออกมาสวนทางกัน (พึงเข้าใจว่า สายเหยี่ยวหรือสายสุดโต่งมีอิทธิพลมากกว่าในกองกำลังอาวุธ)

กระนั้นก็ยังมีคนไทย 2 กลุ่มที่เชียร์ตาลิบันสุดจิตสุดใจ กลุ่มแรกเป็น Islamic Fundamentalist ซึ่งพอเข้าใจได้ แม้เห็นต่าง เพราะคับแค้นฝังใจต่อการรุกรานโลกมุสลิม

กลุ่มที่สองคือสลิ่ม! ซึ่งไชโยโห่ร้องสะใจ “จักรพรรดินิยมอเมริกา” แพ้แล้ว ถอยกระเจิง จีนจะเข้าไปจับมือกับตาลิบัน

พวกนี้โคตรย้อนแย้ง เพราะเอาเข้าจริงมีทัศนะชาตินิยมไทย ค่อนไปทาง Islamophobia ด่าคนเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ คัดค้านแนวทางปราบปรามใน 3 จังหวัดเป็น “โจรใต้”

แล้วสมมติมีกองกำลังอะไรสักอย่างยึดประเทศไทย สลิ่มก็จะหนีตายแห่ขึ้นเครื่องไปอเมริกา ไม่ไปจีนหรอก เหมือนสลิ่มซิโนแวค คัดค้านวัคซีน mRNA แต่พออเมริกาบริจาค แห่แย่งไฟเซอร์

เกลียดมหาอำนาจแทรกแซงแต่เชียร์จีน ใช่เลย ควรด่าอเมริกาบุกอิรักอัฟกานิสถาน หนุนรัฐประหารอียิปต์ หนุนอิสราเอลย่ำยีปาเลสไตน์ แต่ไม่ยักด่าจีนรัสเซีย หนุนเผด็จการพม่า ซีเรีย เบลารุส ฯลฯ

ที่ไหนต่อต้าน “ประชาธิปไตยตะวันตก” จีนรัสเซียไปที่นั่น ไม่ว่ารัฐบาลจะเลวร้ายเพียงไร ย่ำยีสิทธิมนุษยชน ปิดกั้นเสรีภาพ ไชโย จีนจะเป็นมหาอำนาจ แต่ทำให้คนรักสิทธิเสรีภาพทั้งโลกเกลียดจีน

สลิ่มไทยเชียร์จีนทั้งที่เคยเกลียดคอมมิวนิสต์ เพื่อคว้ามาค้ำระบอบประยุทธ์ ยกก้นจีน เผด็จการพรรคเดียวนำชาติเจริญ ทั้งที่รัฐราชการอนุรักษนิยมไทย ล้าหลังห่างไกลพรรคคอมมิวนิสต์จีน

การต่อสู้ของตาลิบัน การต่อสู้ของโลกมุสลิม อันที่จริงน่าเห็นใจ และต้องเข้าใจความเป็นมา ตั้งแต่ยุคล่าเมืองขึ้นถึงยุคสงครามเย็น ที่เกิดการต่อสู้เรียกร้องเอกราช อิสรภาพ เสรีภาพ ไปทั่วโลก แล้ว “จักรพรรดินิยมอเมริกา” ส่งออกรัฐประหาร สนับสนุนเผด็จการเข่นฆ่าประชาชน จนเกิดการต่อสู้ด้วยอาวุธ ซึ่งส่วนใหญ่นำโดยพรรคคอมมิวนิสต์ กระทั่งอเมริกาแพ้สงครามเวียดนาม

แต่หลังจากนั้นโลกสังคมนิยมก็ล่มสลาย โซเวียตแตก จีนกลับมาเป็นทุนนิยมโดยรัฐ โลกหลังสงครามเย็นยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ กลายเป็นยุคเปิดเสรีการค้า “ทุนนิยมโลกาภิวัตน์” ทุนข้ามชาติกวาดกลืน วัฒนธรรมบริโภคแผ่ขยาย แต่ก็มีความก้าวหน้าในด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิสตรี LGBTQ ต่อต้านการเหยียดผิวชาติพันธุ์

จนกระทั่งวิกฤตเศรษฐกิจทำให้เกิดแรงต้าน ปลุกชาตินิยม ศาสนา ค่านิยมต่างๆ ต้าน “ทุนสามานย์” (คุ้นๆ ไหม) ปลุกพลังอนุรักษนิยมขวางกระแสโลก ซึ่งด้านหนึ่งก็โอเคถ้าหมายถึงต่อต้านทุนข้ามชาติเอารัดเอาเปรียบ แต่ในประเทศล้าหลังส่วนใหญ่กลายเป็นเครื่องมือเผด็จการต้านประชาธิปไตยละเมิดสิทธิมนุษยชน

ที่น่าเศร้าคือ แม้พ้นยุคสงครามเย็น โลกอาหรับ ตะวันออกกลาง ก็ยังไม่พ้นการแทรกแซงของมหาอำนาจ เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์น้ำมัน โดยมีศูนย์กลางที่การต่อสู้กับอิสราเอลของชาวปาเลสไตน์ ประเทศรอบข้างก็เป็นเผด็จการหรือผูกขาดอำนาจหรือรัฐอิสลาม เกิดอาหรับสปริงก็ยังมีรัฐประหารอียิปต์ มีสงครามกลางเมือง กระทั่งเกิด IS

อัฟกานิสถานถูกรุกรานโดยโซเวียตตั้งแต่ 1979-1989 ชาว อัฟกันจับอาวุธสู้ แล้วตาลิบันซึ่งเข้มแข็งที่สุด เพราะเอาอุดมการณ์ Islamic Fundamentalism มาเป็นที่ยึดเหนี่ยว ก็ยึดครองประเทศได้

ถ้าย้อนดูอดีต จะพบว่า PLO ยัสเซอร์ อาราฟัต ขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์รุ่นแรก ไม่ได้ใช้ศาสนาเป็นอาวุธ PLO เป็นขบวนการชาตินิยม Secularism ซัดดัม ฮุสเซน ก็เป็นเผด็จการชาตินิยมอาหรับ Secularism เป็นอริกับอิหร่านที่เป็นรัฐอิสลาม

การตีความศาสนาเป็นอีกเรื่อง ไม่ขอเกี่ยวข้อง แต่มองในมุมคนเคยจับอาวุธ เข้าใจได้ง่ายมากว่า เมื่อถูกกดขี่รุกราน ถูกเข่นฆ่าซ้ำซาก สูญเสียครอบครัวคนที่รัก เกิดความโกรธแค้นจน “ระเบิดพลีชีพ” อะไรคือสิ่งยึดเหนี่ยวที่ทรงพลังที่สุด ถ้าไม่ใช่ศาสนา

ตาลิบันก็เช่นกัน ต่อสู้ในสงครามที่โหดเหี้ยม แม้โดยเนื้อแท้คือสงครามชาตินิยม แต่อาวุธทางความคิดที่ทรงพลังคือศาสนา

อย่าโทษศาสนาไหน คริสต์ในอดีตก็ฆ่ากันเอง ก็พาคนไปตายในสงครามครูเสด พุทธพม่าก็หนุนให้ฆ่าโรฮิงยา

แต่ปัญหาของตาลิบันคือ พวกเขาโผล่กลับมาในโลกสมัยใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ ไม่เห็นด้วยกับการ “ห้ามคลุมหน้า” ในยุโรป แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการ “บังคับคลุมหน้า” ในรัฐอิสลาม และยิ่งไม่เห็นด้วยกับการบังคับลงทัณฑ์

“ที่ไหนมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อสู้” แต่ไม่ลงเอยด้วยฟ้าสีทองเสมอไป กระนั้น ผู้มีอำนาจก็ควรตระหนักว่า การกดหัวปราบปรามด้วยความรุนแรง จะทำให้เกิดการตอบโต้อย่างเลือดเข้าตา

สลิ่มไทยยังโชคดี ที่ต่อสู้กับอุดมการณ์ประชาธิปไตย ซึ่งเกลียดชังสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถจับสลิ่มไปรมแก๊ส

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6574155

 

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar