นับตั้งแต่ “ชายชุดดำ” ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อ 13 ปีที่แล้วในคืนวันที่ 10 เม.ย.2553 ใช้อาวุธสงครามเข้าปะทะกับกองกำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามที่กำลังสลายการชุมนุมของ นปช.หรือ “คนเสื้อแดง” มาตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนั้นภายใต้การสั่งการของ ศอฉ.
.
อ่านทั้งหมดที่ https://prachatai.com/journal/2023/11/106895
.
หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นผ่านไปหลายจนกระทั่ง คสช.ทำรัฐประหารในปี 2557 เรื่องของชายชุดดำก็ถูกพูดถึงอีกครั้งเป็นข่าวใหญ่ว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมพวกเขาสำเร็จแล้วในวันที่ 5 ก.ย.2557 โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ทยอยจับกุมบุคคลไปเข้าค่ายทหารได้ 5 คน
.
กิตติศักดิ์ สุ่มศรี หรืออ้วน, ปรีชา อยู่เย็น หรือไก่เตี้ย, รณฤทธิ์ สุวิชา หรือนะ, ชำนาญ ภาคีฉาย หรือเล็กและปุณิกา ชูศรี หรืออร คือกลุ่มบุคคลที่ทหารเข้าจับกุมและควบคุมตัวไปสอบสวนในค่ายทหารหลายวันก่อนนำตัวมาแถลงข่าว
.
หลังการแถลงข่าวเมื่อคดีของพวกเขาเข้าสู่การพิจารณาของศาลเรื่องก็เงียบหายไปอีก 3 ปี จนวันที่ 31 ม.ค.2560 ศาลชั้นต้นจึงมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย 3 จาก 5 คนและพิจารณาลงโทษกิตติศักดิ์และปรีชาว่ามีความผิดตามฟ้อง แต่ภายหลังเมื่อคดีเข้าสู่ชั้นอุทธรณ์ศาลก็ยกฟ้องกิตติศักดิ์ไปด้วยเนื่องจากเห็นว่าพยานที่เป็นทหารเชื่อถือไม่ได้และศาลฎีกาก็ยกฟ้องตามมาอีก
.
แม้ว่าศาลจะยกฟ้องไปแต่พวกเขายังต้องวนเวียนอยู่กับความเป็น "ชายชุดดำ" ไม่สิ้นสุด เพราะปัจจุบันยังคงมีคดีใหม่เพิ่มขึ้นมาและรอการพิจารณาคดีอยู่ และจำเลยบางคนอย่างกิตติศักดิ์ก็เพิ่งได้ประกันตัวหลังจากติดคุกนานกว่า 8 ปี
.
ประชาไทชวนกิตติศักดิ์และปรีชา 2 จำเลยในคดีมาเล่าถึงที่มาที่ไปที่ทำให้พวกเขาถูกโยงใยเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้มาเกือบ 10 ปีแล้วและยังจะเกี่ยวต่อไปอีกนานแค่ไหนยังไม่มีใครทราบ กับสิ่งที่พวกเขาถูกกระทำจากกระบวนการยุติธรรม และชีวิตของพวกเขาหลังได้ออกจากเรือนจำ
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar