รัฐประหารกลิ่นโชย ยุทธ์โบ้ย ร.10 / คุยกันวันเสาร์ค่ำ ตอนที่2
คุยกันวันเสาร์ค่ำ 31 กรกฎาคม 2564 / ช่วยกันจับโกหกคนวัง, รับของบริจาคฝรั่งทำไมสั่งแต่วัคซีนจีน
กองทัพบก โต้ข่าว “รัฐประหาร” ลือทหารบุกคุมตัว ‘ประยุทธ์’ ที่บ้านพัก แจ้งจับคนปล่อยเฟกนิวส์แล้ว ทำลายชื่อเสียงกองทัพและรัฐบาล
เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 30 ก.ค.2564 พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้กองทัพบกตรวจสอบพบว่า มีการปล่อยข่าวเผยแพร่ลงในโซเซียลมีเดีย อ้างว่าผู้บัญชาการทหารบกได้ทํารัฐประหาร และนํากําลังทหารเข้าควบคุมบุคคลสําคัญแล้ว
กองทัพบกขอเรียนว่า เรื่องดังกล่าว “เป็นข่าวเท็จ” สร้างเรื่องหวังให้เกิดความวุ่นวายในสังคม เป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย ทําลายชื่อเสียงของกองทัพและรัฐบาล ขณะนี้ผู้บัญชาการทหารบกมอบให้ผู้อํานวยการสํานักงานพระธรรมนูญทหารบก เข้าดําเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดําเนินการตามกฎหมาย ต่อผู้ปล่อยข่าวเท็จดังกล่าวแล้ว จึงขอเรียนให้ประชาชนได้รับทราบไว้ ณ โอกาสนี้
วันนี้เป็นอีกครั้งที่หมอในกระทรวงสาธารณสุขออกมาส่งสัญญาณต่อสาธารณะว่าควรมีมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้ยอดผู้ป่วยหน้าใหม่ทะลุ 4 หมื่นคนตามการคาดการณ์ของแบบจำลองคณิตศาสตร์
การรีแบรนด์ของ
ทักษิณ ชินวัตร เป็น โทนี่ วู้ดซัม ถูกมองว่า “เหนือกว่า”
สิ่งที่นักการเมืองอย่าง สุเทพ-เนวิน เคยทำ และส่งผลโดยตรงต่อการ
“รีเทิร์น”
ทว่าสมาชิกกลุ่มแคร์กับนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ให้คำจำกัดความแตกต่างกัน
.
นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี : “ผมคิดว่าความตั้งใจของคุณโทนี่คือกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน”
.
ดร. สติธร ธนานิธิโชติ : “เขาอาจคิดการใหญ่กว่าการรีแบรนด์เพื่อเปลี่ยนสถานะ แต่ต้องการรีเทิร์น”
จดหมายทูตอังกฤษเล่าบทสนทนากับกษัตริย์ภูมิพลระหว่างเป็นแขกรับประทานอาหารกลางวันที่สวนจิตรลดา (5 มิถุนายน 2509) https://facebook.com/somsakjeam/pos
ใบตองแห้ง
คนไทยจะตายอีกเท่าไหร่ในปี 2564 ดูบทวิเคราะห์ของกองระบาดวิทยา ที่ปลัดสาธารณสุขนำมาโพสต์เอง ถ้าล็อกดาวน์ได้ผล มาตรการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุได้ผล น่าจะช่วยให้ใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน เสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปถึงเดือนธันวาคม
ไม่เกิน 200 รายต่อวัน แปลว่าค่าเฉลี่ยยังเกินร้อย เท่ากับเดือนละ 3,000-5,999 คน คูณด้วย 5 บวกด้วย 4,562 ณ วันที่ 29 ก.ค. ก็ประมาณ 20,000-30,000 คนภายในสิ้นปี
แต่นี่ไม่ใช่ตัวเลข นี่คือชีวิตคน คือครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง ผู้เป็นที่รักของใครอีกหลายคน อาจเป็นคุณอาจเป็นผม ญาติคุณญาติผม ซึ่งต้องทำใจ อาจต้องตายคาบ้านเพราะระบบสาธารณสุขรับไม่ไหว ให้ถือเสียว่า “โชคร้าย”
ตายแล้วครอบครัวก็ต้องปิดปากให้สนิทด้วย ถ้าขืนโวยวาย ตายเพราะรัฐบาลบริหารจัดการล้มเหลว “รัฐบาลฆาตกร” จัดหาวัคซีนล่าช้า แทงม้าตัวเดียว สุดท้ายต้องใช้ “วัคซีนไร้ประสิทธิภาพ” ฉีดสองเข็มยังตาย หรือ “รอวัคซีนมานานแล้วรัฐบาลไม่ทำ…อะไรเลย”
ก็จะมีความผิดฐานหมิ่นรัฐบาล โพสต์ลงเฟสบุ๊คก็ผิดเฟกนิวส์ ประชาชนทั้งประเทศต้องก้มหน้ารับกรรม นักการเมือง สื่อ นักวิชาการ ดาราคนดัง ต้องทนดูโศกนาฏกรรมคนแก่ตายคาบ้าน จักรยานยนต์รับจ้างคว่ำหน้าตายกลางถนน ฯลฯ Call Out วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไม่ได้
เพราะจะถูกเอาผิดเฟกนิวส์ตามคำสั่งประยุทธ์ “ชายชาติทหารไม่ทิ้งประชาชน” คนตายเท่าไหร่ วิกฤตแค่ไหน ก็ไม่ลาออก แล้วแทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาปราบโควิด ก็ปิดปากประชาชนก่อน
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีดีอีเอส ยังตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ใช้มาตรการทางปกครอง ทางภาษี และทางสังคม มาเล่นงาน นี่แปลว่าอะไร ขู่ตรวจภาษีย้อนหลัง Influencer ที่ด่ารัฐบาล?
น่าสมเพชประยุทธ์ แทนที่จะขอโทษประชาชน ผิดไปแล้ว ล้มเหลวไปแล้ว จากนี้จะปรับปรุงตัว ก้มหน้าก้มตาทำงานกอบกู้สถานการณ์ จะใส่ชุด PPE ไปตรวจโรงพยาบาลสนาม ตามโทนี่แนะนำ ฯลฯ ก็ยังพอเรียกความเห็นใจได้บ้าง นี่อะไร เห็นประชาชนเป็นภัยคุกคามยิ่งกว่าไวรัส
แล้วคิดหรือว่าจะปราบได้ มีแต่ทำให้คนลุกฮือ คอยดูคาร์ม็อบวันอาทิตย์ ถ้ารถ-คนล้นหลาม ตำรวจก็ได้แต่ทำตาปริบๆ
“เฟกนิวส์” ก็ย้อนเข้าตัว ใครวะ บอกว่าวัคซีนจะเต็มแขนประชาชน ประเทศไทยมีวัคซีนมากที่สุดในอาเซียน ไม่มีใครมาตัดคิววัคซีนของคนไทยได้ “สามเข็มน้องๆ ไฟเซอร์” แต่เดี๋ยวก็เปลี่ยนสูตรใหม่
120 วันเปิดประเทศ อีกกี่วัน ไม่มีคนสนใจ ที่แน่ๆ 90 วันอันตราย นับจากนี้ไป สิงหา-กันยา-ตุลา คือช่วงเวลาที่การระบาดจะพุ่งถึงขีดสุด โดยยังไม่มีวัคซีน mRNA ไฟเซอร์ โมเดอร์นา มาไตรมาสสี่ ต่อให้มา 1 ตุลา ก็ไม่ใช่ฉีดแล้วมีภูมิคุ้มกันทันที ระหว่างนี้จะมีแต่ Sinovac + AstraZeneca ซึ่งมาขยักขย่อน ไม่มีความแน่นอน ขณะที่เชื้อพรึ่บไปแล้วทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และกำลังลาม ตจว.
สถานการณ์ช่วงนี้ จะรอดได้ จะตายน้อยที่สุด อยู่ที่สมองและฝีมือบริหารวิกฤต สั่งการเป็นเอกภาพ ระดมสรรพกำลังฉับไว ใช้ความเฉียบขาดตัดสินใจให้ถูกต้อง วางมาตรการดูแลรองรับประชาชน ไม่ใช่ใช้ปราบประชาชน
รัฐบาลต้องทำอะไร ก็อย่างที่แพทย์ชนบท แพทย์ด่านหน้า เห็นพ้องกัน ระดมตรวจ Antigen Test ให้มากที่สุด คัดแยกคนติดเชื้อเข้าระบบ Home Isolation หรือ Community Isolation ซึ่งกรมการแพทย์ สปสช. เริ่มวางระบบแล้ว แต่กำลังไม่พอ ทหารมีไว้ทำไม? หน่วยงานรัฐต้องระดมจัด Community Isolation รองรับคนหลายแสนคน
การจัดสรรวัคซีน มีน้อยอยู่แล้วยังแก่งแย่งทางการเมือง กทม.-สธ.-ประกันสังคม วัคซีนกระจุกไม่กระจายจนคนวอล์กอินล้น นักวิชาการนิด้าโทษนักการเมืองขัดแย้งกัน อ้าว ประยุทธ์เป็นหัวตอหรือไง มีอำนาจล้นหลามทำไมไม่ทุบโต๊ะ
ยิ่งมั่วยิ่งแย่งประชาชนยิ่งไม่ไว้วางใจ ระบอบ VIP อภิสิทธิ์ชน เส้นสาย ไฟเซอร์ 1.5 ล้านให้แพทย์พยาบาลด่านหน้า จะโดนพวกหน้าด้านงาบไปหรือไม่ กรมสารบรรณทหารเอกสารหลุด ตำรวจบุรีรัมย์ภาพหลุด ตำรวจนครบาล คฝ. เอกสารรั่ว นี่เฟกนิวส์ไหม
รัฐบาลคงต้องล็อกดาวน์อีกยาว แล้วไหนล่ะ มาตรการเยียวยาที่จะพยุงชีวิตคน ชดเชยนายจ้างที่ต้องจ่ายลูกจ้าง แรงงานนอกระบบที่ตกงาน ไม่ใช่เอาแต่ผลักเข้าประกันสังคม ต้องลดภาษี ต้องไล่บี้ลดค่าเช่า ต้องพักชำระหนี้ยาวๆ ไม่ใช่มัวแต่กลัวไม่มีงบให้ส่วนราชการใช้ ซื้อโต๊ะเก้าอี้ สร้างตึก ทำป้าย ซื้อรถประจำตำแหน่ง ซื้อตู้แช่ไวน์ ซ่อมสนามเทนนิส ฯลฯ รู้ไหม พยาบาลด่านหน้ายังเบิกค่าโอทีค่าเสี่ยงภัยไม่ได้เลย
กองเชียร์รัฐบาล สต. อ้างว่าอย่าเปลี่ยนม้ากลางศึก ใครเป็นนายกฯ
ก็สั่งวัคซีน mRNA ไม่ทัน ใช่เลย แต่ 3 เดือนอันตราย ถ้ายังขี่ม้าตัวเก่า
นายพลรบแพ้ แพ้จนเสียศูนย์ เสียเซลฟ์ เสียความเชื่อมั่น
คนไทยก็อาจตายเป็นเบือ มากกว่าที่กองระบาดวิทยาคาดการณ์ ซ้ำตายแล้วด่ารัฐบาลยังมีความผิดติดตัว
ช่วยกันยามวิกฤต
.
ประเทศไทยซึ่งกำลังต่อสู้กับวิกฤตการระบาดอย่างหนักของโควิด-19
ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันใกล้ถึง 2 หมื่นรายเข้าไปทุกที
ขณะที่ผู้เสียชีวิตเกินร้อยรายติดต่อกันมาหลายวัน
ได้รับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศที่พากันบริจาคทั้งวัคซีนและอุปกรณ์จำเป็นมาสนับสนุนการต่อสู้กับโรคระบาด
.
บีบีซีไทยรวบรวมไว้ว่าประเทศไหนช่วยอะไรเราแล้วบ้าง
ในช่วงวิกฤติชาติตอนนี้ อานนท์ นำภาได้นำข้อเสนอต่อสถาบันอย่างเร่งด่วน !!
อานนท์ นำภา
เมื่อวานนี้ เวลา 11: 12 น.
ไม่อยากจะพูดว่าสถาบันกษัตริย์ควรเสียสละให้มากกว่านี้ในวิกฤติโควิค เดี๋ยวพวกมินเนี่ยนแม่ก็เอาไปเป็นเรื่องถอนประกันอีก แต่ด้วยความห่วงใยต่อสถาบันฯถ้าวิกฤติผ่านไปโดยที่พวกท่านทำได้แค่นี้หรือกระทั้งทำให้คนเข้าใจว่าพวกท่านหาประโยชน์จากวิกฤติครั้งนี้ โอกาศที่ประชาชนจะเสนอระบอบการปกครองใหม่โดยไม่มีสถาบันกษัตริย์เป็นไปได้สูงมาก
อย่าทำให้คนเขารู้สึกว่ามีอยู่ก็ไม่เกิดประโยชน์มีแต่จะกัดกินชาติ อย่าทรนงตนว่าด้วยเครือข่ายอำนาจที่มีอยู่จะกดคนได้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วคนมีสำนึกเรื่องบทบาทหน้าที่ของทุกองค์กรที่มีต่อรัฐแล้ว
อยากให้คนในสถาบันตระหนักเรื่องนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป
ข้อเสนอผมต่อสถาบันอย่างเร่งด่วนคือ
1. ให้ในหลวงรัชกาลที่ 10 นำเงินโอนไปจากกองกลางของราชบัลลังก์ทั้งหมดมาใช้แก้ปัญหาโควิคเฉพาะหน้าคือเอาจัดซื้อวัคซีนให้ประชาชน
2. เปิดปราสาทราชวังที่ราชวงค์ไม่ได้พักอาศัยเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรักษาประชาชนในช่วงวิกฤตินี้
ถ้าทำได้ดังนี้ย่อมกอบกู้วิกฤติศรัทธากลับมาไม่มากก็น้อย
ด้วยความเคารพครับ
อานนท์ นำภา
27 กรกฎาคม 2564
( ดูประกอบจากคลิป สุนัยวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 )
ข้าราชการปลดแอก-Free Thai Civil Servant
@liberatecivilTH
·19h
#เปลี่ยนซุ้มเป็นวัคซีน #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา #ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด #ข้าราชการปลดแอก
Failed state #ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด #ผนงรจตกม pic.twitter.com/xEP0S19q6O
— Myth (@Gunlm) July 28, 2021
ที่มาภาพ https://twitter.com/Gunlm
แด่ประเทศที่สูญเสีย ศักดินาจงพินาศ ศิลปะจงเจริญ #ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด #28กรกฎาร่วมใจใส่ชุดดํา pic.twitter.com/Gf5nUsxSkm
— Myth (@Gunlm) July 27, 2021
นักศึกษา มช. จัดกิจกรรมพร้อมแต่งดำรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในวันที่ 28 ก.ค. บริเวณอ่างแก้ว ก่อนจะโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบป้ายผ้าในงาน
— prachatai (@prachatai) July 28, 2021
ดูเพิ่มเติมที่ https://t.co/sgnQUV4kbY pic.twitter.com/PeFj95rqC1
ข่าวการตายของแต่ละชีวิต..คือการสูญเสียของแต่ละครอบครัว
— Phumtham Wechayachai (@phumtham) July 28, 2021
ที่ประเมินค่าไม่ได้..ขอแสดงความอาลัยต่อครอบครัวผู้สูญเสียด้วยความเคารพ...ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าเอนกอนันต์ https://t.co/dKuemeOGty
Around the world, companies that want to use Olympic gold medalists in their marketing campaigns have to pay them millions of dollars to endorse the brand. If Sirivannavari wants to use Panipak “Tennis” Wongpattanakit to promote her fashion label she should agree a contract and pay a fair amount. Sending a bag of clothes and expecting free publicity is not acceptable professional behaviour.