(2/2) ภารกิจหลักนี้ใครหันมาสนับสนุนนับว่าน่าขอบคุณ แต่ใครที่ยังลังเล หรือเพียงเพื่อหาเสียงนับว่าน่าอนาถ
söndag 31 oktober 2021
การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เป็นภารกิจหลักที่ทุกคนต้องทำ
อืม เป็นเอามากแฮะ
“นักการเมืองว่าเน่า ‘ทหารเฒ่า’ เล่นการเมืองยิ่งเน่าไปกันใหญ่”
Thai E-News
เปิดประเทศพรุ่งนี้ยิ่งกว่าอึมครึม ทั้งโควิดและเศรษฐกิจยังจมปลัก เนื่องจาก “ทหารเฒ่าเล่นการเมืองยิ่งเน่าไปกันใหญ่”
“นักการเมืองว่าเน่า ‘ทหารเฒ่า’ เล่นการเมืองยิ่งเน่าไปกันใหญ่” ประโยคนี้ที่คนระอาเผด็จการอิงราชา ประมุขประชาธิปไตย พูดและตรึกคิดกันมาพักใหญ่ (สัก ๗ ปีเห็นจะได้) ‘ไทยรัฐ’ เอามาใช้ในบริบทที่ “ประยุทธ์หาทางไปต่อลำบาก”
แม้ขณะนี้กำลัง ‘ขาลอย’ ไปกล๊าสโกว์ ก็เชื่อว่าจะไม่มีเหตุปัจจุบันทันด่วนอะไรเกิดขึ้นให้หลัง มีแต่เหตุกัดกร่อนบ่อนทำลายแผน ‘อยู่ยาว’ มากยิ่งๆ ขึ้นทุกวี่วันเท่านั้น เพียงว่าจะอยู่รอดดูความล่มสลายถึงกลางปีหน้า ก่อนเลือกตั้งใหม่ที่คาดว่าจะมาไหม
ที่แน่ๆ สภาพการณ์เศรษฐกิจและสังคม โค้งสุดท้ายปลายปี ๒๕๖๔ ‘ข้าวยากหมากแพง’ ไม่มีทางหนี ‘จีดีพี’ หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอย่างดีเพียง ๑.๕% อย่างชั่วช้าต่ำกว่า ๑% ประธานหอการค้าไทย สนั่น อังอุบลกุล ยืนยันเรื่องนี้
“รัฐบาลต้องเร่งนำงบประมาณที่มีอยู่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อต่อลมหายใจให้กับภาคธุรกิจ และภาคประชาชนได้ทันเวลา” เขาอ้างถึงการที่รัฐบาลเขียนกฎหมายใหม่ยกเพดานการกู้หนี้ขึ้นไปเป็น ๗๐% แล้วยังมีงบประมาณเหลือใช้อีก ๕ แสนล้าน
เขายังพูดอย่างไม่ถนอมน้ำใจใครว่า “ในส่วนของภาคประชาชน หรือผู้บริโภคเองก็ต้องเตรียมใจกับราคาสินค้าที่จะแพงขึ้นจากปัญหาเหล่านี้” ได้เห็น ‘ของแพง’ ตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ทั้ง “สินค้าอุปโภค บริโภค หรือวัสดุก่อสร้าง”
แม้การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจ่ายเงินช่วยกอบกู้เศรษฐกิจไทย เริ่มพรุ่งนี้ก็ยังเป็นที่กังขาต่อบรรดานักธุรกิจพ่อค้าแม่ค้า ว่าจะช่วยให้พวกตนกลับมาลืมตาอ้าปากกันได้สักแค่ไหน การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ก็ยังต้องเฝ้าระวัง
31 ต.ค. ชุมนุม “ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112”
ชุมนุม “ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112”
.
31 ต.ค. กลุ่มผู้เรียกตัวเองว่า “ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112”
จัดชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เปิดรณรงค์รวบรวมรายชื่อ 10,000 ชื่อ โดย
ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำ "ราษฎร"
ได้ทำการกรีดแขนตัวเองเป็นเลข 112
เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าจะทุ่มเทเดินหน้ารณรงค์ยกเลิกกฎหมายนี้ด้วยแรงกาย
แรงใจ และแม้กระทั่งชีวิต
.
ปนัสยา
ขึ้นเวทีอ่านแถลงการณ์ของกลุ่ม "ราษฎรประสงค์ยกเลิก 112"
เรียกร้องฝ่ายตุลาการให้สิทธิในการประกันตัวและปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนออกมาจากเรือนจำและให้รัฐสภาเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกมาตรา 112
.
เธอบอกว่า กฎหมายอันล้าหลังนี้
"...เป็นเครื่องมือเพื่อรักษาอำนาจการปกครองของเหล่าอภิสิทธิ์ชนและอำนาจนอกระบบที่ครอบงำการเมืองไทยมาอย่างยาวนาน"
.
ภาพ : Thai News Pix
.
อ่านเพิ่มเติม : https://www.bbc.com/thai/thailand-59110998
............................................
Thai E-News
“ยกเลิก112”วัดกระดูกสันหลังนักการเมือง
“ยกเลิก112”วัดกระดูกสันหลังนักการเมือง
Oct 28, 2021
“ยกเลิก112”วัดกระดูกสันหลังนักการเมือง ยังกราบคลานหรือหยัดยืนข้างประชาธิปไตย สมยศ พฤกษาเกษมสุข นักโทษทางการเมืองคดี 112 นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย รวมทั้งเป็นตัวแทน “กลุ่มราษฎรประสงค์ ยกเลิก 112” กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 31 ตุลาคมนี้ที่แยกราชประสงค์ เพื่อเปิดตัวกิจกรรมรณรงค์ล่ารายชื่อยกเลิกการบังคับใช้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า สังคมและการเมืองไทยเวลานี้ คือเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการยกเลิกการบังคับใช้ ม.112 เพราะประชาชน เยาวชนต่างได้เห็นถึงกลไกของรัฐใช้กฎหมาย 112 เพื่อทำลายหลักการความถูกต้องชอบธรรมทางกฎหมาย รวมทั้งเป็นการทำลายสถาบันกษัตริย์ให้เสื่อมเสียอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลเผด็จการทหารใช้กฎหมาย 112 เพื่อรักษาผลประโยชน์และอำนาจของตัวเองเป็นประการสำคัญ ดังนั้นวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันชุมนุมที่ราชประสงค์ ตั้งแต่สี่โมงเย็นเป็นต้นไป และจะมีการเปิดช่องทางให้ประชาชนไทยทั้งในและต่างประเทศร่วมกันลงชื่อเพื่อแสดงเจตจำนงค์ให้มีการยกเลิก ม.112 ด้วย
lördag 30 oktober 2021
29ตค.ร่วมไว้อาลัยแด่น้องวาฤทธิ์ (สน.ดินแดง)
Thai E-News
29ตค.ร่วมไว้อาลัยแด่น้องวาฤทธิ์ (สน.ดินแดง)
Somyot Pruksakasemsuk
17h ·
อีกกี่ศพทบถมท้องพระคลัง
เพื่อคนงั่งได้เสพสุขสโมสร
สาดกระสุนฝังร่างกลางนคร
สุมไฟฟอนไล่ต้อนเผด็จการ
วาฤทธิ์ สมน้อย เจ้ากลอยใจ
โลกสดใสมาจากไปใจสะท้าน
เสียงสะอื้นปลุกขวัญดวงวิญญาณ
ลุกขึ้นต้านกาลสมัยสันติธรรม
29/10/64
งานศพด.ช.วรฤทธิ์ ที่ถูกยิงหน้าสน.ดินแดงที่วัดน้อยสุวรรณาราม Wat Noi Suwannaram
https://goo.gl/maps/zD4YdfBHG7PxFfrn9
เริ่มสวดแล้วทุกวัน และงานฉาปนกิจศพวันที่ 31 ตุลาคมตอน 09:00 น.
องคมนตรี = ขันทียุคสามก๊ก ?
Thai E-News
องคมนตรี = ขันทียุคสามก๊ก ? เพิ่งรู้ว่าองคมนตรีมีอำนาจในการวีโต้การแต่งตั้งข้าราชการได้ด้วย
เพิ่งรู้ว่าองคมนตรีมีอำนาจในการวีโต้การแต่งตั้งข้าราชการได้ด้วย ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วย
ตามรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดที่มาองคมนตรีไว้ดังนี้
มาตรา ๑๐ พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรี...
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/4742059025860899
Thanapol Eawsakul
18h ·
เพิ่งรู้ว่าองคมนตรีมีอำนาจในการวีโต้การแต่งตั้งข้าราชการได้ด้วย ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วย
ตามรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดที่มาองคมนตรีไว้ดังนี้
มาตรา ๑๐ พระมหากษัตริย์ทรงเลือกและทรงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานองคมนตรี
คนหนึ่งและองคมนตรีอื่นอีกไม่เกินสิบแปดคนประกอบเป็นคณะองคมนตรี
คณะองคมนตรีมีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษา
และมีหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
มาตรา ๑๑ การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือการให้องคมนตรีพ้นจากตําแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย
ให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานองคมนตรีหรือให้ประธานองคมนตรีพ้นจากตําแหน่งให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งองคมนตรีอื่นหรือให้องคมนตรีอื่นพ้นจากตําแหน่ง
..........................
โดยก่อนหน้านี้สำนักงานอัยการสูงสุดเคยนำชื่อนายปรเมศวร์
เสนอขึ้นโปรดเกล้าฯจากผู้ตรวจการอัยการโดยในครั้งเเรกทางสำนักงานองคมนตรีได้ตีกลับเพื่อสอบถามกรณีเคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นและอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีขับรถยนต์ในขณะมึนเมา
เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ต่อมาเมื่อศาลมีคำพิพากษาคดีเสร็จสิ้นในศาลชั้นต้นเเละอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์คดี
หลังจากนั้นก็มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม ก.อ.
โดยเสียงส่วนมากเห็นเป็นความผิดไม่ร้ายเเรงให้ว่ากล่าวตักเตือน
เห็นควรนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายปรเมศวร์
เป็นผู้ตรวจการอัยการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2563 เป็นต้นไป
จึงมีการเสนอชื่อนายปรเมศวร์อีกครั้งเเต่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
มีหนังสือฉบับที่สอง มาถึงสำนักงาน อสส. ขอให้ยืนยันความเหมาะสม
ซึ่งครั้งนั้นมีการนำวาระนี้เข้าเป็นวาระจรเพื่อขอ
ก.อ.ยืนยันความเหมาะสมอีกครั้ง
เเต่ทางคณะกรรมการอัยการเสียงส่วนมากพิจารณาเเล้วไม่จำเป็นต้องมีการพิจารณามติดังกล่าวอีก
ทาง
ร้อยโท ไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด รักษาราชการเเทน
อัยการสูงสุดซึ่งลาพักร้อน เป็นผู้ลงนามยืนยันความเหมาะสมไป
จนมีรายงานว่าทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงานองคมนตรีพิจารณาเสนอโปรดเกล้าฯ
เเต่ล่าสุดมีหนังสือตีกลับจากองคมนตรีมายังสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี เเจ้งมาทางสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค.นี้
สำหรับคดีนี้เป็นคดีระหว่าง
พ.ต.ท.รพีพงศ์ จิตต์บุญธรรม พนักงานสอบสวน กล่าวหา นายปรเมศวร์
อินทรชุมนุม อายุ 62 ปี (ในขณะนั้น) ผู้ต้องหาในความผิด
ฐานความผิดขับขี่รถขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น
เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ,
ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน,
ขับรถเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี
และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายจิตใจ
กรณีเมื่อวันที่
28 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 22.30 น.
ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ยี่ห้อนิสสันทะเบียน 7 กส 2300 กรุงเทพฯ
เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคอาร์สีเขียว
(ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) มีนายธรรมรัตน์ ทองทวี เป็นผู้ขับขี่
และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดงดำ ทะเบียน 8 กร 6848
กรุงเทพฯ มีนายธันณเรศ ร้อยกรอง อายุ 21 ปี เป็นผู้ขับขี่
เป็นเหตุให้นายธรรมรัตน์ได้รับบาดเจ็บและรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายและไม่หยุดลงมาช่วยเหลือ
แต่มีพลเมืองดีติดตามไปทันที่บริเวณทางเข้าวัดหูช้าง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงจึงได้เชิญตัวมาที่ สภ.บางกรวย
แล้วต่อมาได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดคือ
87 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหตุเกิดถนนนครอินทร์ (ขาออก)
หน้าปั๊มคาลเท็กซ์หมู่ 3 ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี
ยื่นฟ้องเฉพาะในความผิดฐาน
ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
โดยสั่งไม่ฟ้องข้อหาชนเเล้วหนี
ซึ่งตามขั้นตอนต้องส่งให้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
พิจารณาทำความเห็นเเย้ง โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทำความเห็นเเย้งมา
เเต่ต่อมาอัยการสูงสุดชี้ขาดไม่ฟ้องตามความเห็นของพนักงานอัยการที่สั่งไม่ฟ้องข้อหาชนเเล้วหนี
เเละจำเลยให้การรับสารภาพจนศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว
ซึ่งทางอัยการมีความเห็นไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรี
สำนวนจึงถูกส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1
เเละทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1
มีความเห็นเเย้งให้ยื่นอุทธรณ์คดีขอให้ลงโทษสถานหนักต่อ
ขั้นตอนต้องส่งอัยการสูงสุดชี้ขาดตามกฎหมาย
ต่อมาอัยการสูงสุดชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดีต่อ จนคดียุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ภายหลังศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำ
พิพากษาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 ว่าจำเลยมีความผิดตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ.
2522 มาตรา 43 (2), 160ตรีวรรคสองจำคุก 1 ปีและปรับ 4หมื่นบาท
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
78 คงจำคุก 6เดือนและปรับ
2หมื่นบาทไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
ประกอบกับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจจึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด
2ปีให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 1
ปีโดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3
ครั้งกับให้จำเลยทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรมีกำหนด
24 ชั่วโมง
ส่อชวด! เปิดเหตุผล องคมนตรีตีกลับ ‘ปรเมศวร์’ ขึ้นผู้ตรวจรอบ 2
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_3015233
Thanapol Eawsakul
18h ·
เมื่อก่อน นักการเมืองรังแกข้าราชประจำ
นำไปสู่การสร้างเงื่อนไขการทำรัฐประหารได้
ปัจจุบัน องคมนตรีรังแกข้าราชการประจำ
จะไม่นำไปสู่อะไรทั้งสิ้น
...
Predsapong Jay Sakdapipanich
องคมนตรี = ขันที ยุคสามก๊ก
ภาษาไทยวันละคำ : ศาลเลว คำอ่าน สา-ระ-เลว
Thai E-News
6h ·
เขียนที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้
29 ตุลาคม 2564
เรียน คุณเบญจา อะปัญ
วันนี้ตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้มายื่นคำร้องขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ขังคุณไว้ระหว่างการสอบสวน (ว่าคุณทำผิดกฎหมายและจะฟ้องคุณหรือไม่) อีก 12 วัน
คุณต้องเข้าใจว่า ตำรวจไม่มีอำนาจขังคุณได้มีแต่ศาลอาญากรุงเทพใต้เท่านั้นที่จะมีอำนาจสั่งขังคุณไว้ในคุก
คุณเข้าใจมั้ย?
คดีนี้คุณเพิ่งถูกกล่าวหาจากตำรวจเท่านั้น คุณยังไม่ได้ถูกฟ้องต่อศาลด้วยซ้ำ คุณเป็นเพียงคนที่ถูกกล่าวหา คุณไม่ใช่จำเลย
คุณเข้าใจมั้ย?
ตาม ม.29 ของรัฐธรรมนูญเขาให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ขังคุณไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้คุณหลบหนีเท่านั้น
คุณเข้าใจมั้ย?
แต่วันนี้ตำรวจขอให้ศาลสั่งขังคุณไว้อีก 12 วันโดยตำรวจแจ้งศาลว่าเขาสอบพยานหมดแล้วรอเพียงเพื่อให้นายของเขาพิจารณาสั่งว่าจะฟ้องคุณหรือไม่เท่านั้น (ซึ่งมันฟ้องคุณแน่ๆ)
วันนี้ผมได้คัดค้านไปตามที่คุณสั่ง โดยเราแจ้งศาลว่า เราขอคัดค้านการขังดังนี้
1. เมื่อสอบพยานบุคคลและพยานอื่นหมดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขังคุณไว้อีก
2. เมื่อแค่รอว่าเจ้านายเขาจะสั่งฟ้องคุณหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับต้องขังคุณไว้อีกเล่า (ก็คุณยังเป็นผู้บริสุทธิอยู่มิใช่หรือ 555)
3. ก็ขนาดรัฐธรรมนูญห่วยๆ มาตรา 29 วรรค 3 มันยังห้ามไม่ให้ขังไว้นอกจากจะเห็นว่าจะหลบหนีมิใช่หรือ 555
ทั้งหมดผมได้บอกศาลตามที่คุณสั่งไว้แล้ว
สุดท้ายวันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้สั่งให้ขังคุณไว้อีก 8 วัน
คุณกับผมชนะครับ ชนะ 4 วัน ตำรวจขอ 12 วัน ศาลให้ 8 วัน 555
ตกลงวันนี้คุณต้องติดคุกต่อไปอีก 8 วันในฐานะที่คุณยังเป็น “ผู้บริสุทธิ” ที่จะปฏิบัติต่อคุณเสมือนผู้กระทำความผิดไม่ได้ ตามหลักรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม 555
คุณอย่าถามอะไรผมเรื่องความถูกต้องและหลักนิติธรรมอีกแล้ว
คุณเข้าใจมั้ย?
ด้วยความเคารพในคุณ
กฤษฎางค์ นุตจรัส
ปล.
1. อย่าถามเหตุผลในหลักกฎหมายใดใด หรือความถูกต้องยุติธรรมในคดีนี้กับผมอีก
2. กรุณาติดต่อหาทนายความท่านอื่นไว้ด้วย เพราะผมละอายใจเกินกว่าที่จะไปว่าความในคดีนี้ ในฐานะทนายของคุณที่ศาลอาญากรุงเทพใต้อีก (ถ้ายังหาไม่ได้ผมคงต้องไปตามหลักวิชาชีพนักกฎหมายที่อาจารย์จิตติ ติงศภัทิย์ สอนผมไว้)
....
October 8 at 10:34 PM ·
เมื่อวานนี้ ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนางสาวเบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในคดีที่ตำรวจ สน. ทองหล่อ (เพียง)นำตัวมาขออำนาจศาลฝากขังไว้ระหว่างการสอบสวนคดี
เป็นคดีที่เธอถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา 112 คือดูหมิ่นกษัตริย์ ซึ่งมีโทษ 3 ถึง 15 ปีเท่านั้น
เธอถูกส่งเข้าไปขังในเรือนจำแล้วตามคำสั่งศาล
เป็นความโชคดีของเธอ เบนจา และเป็นความโชคร้ายของศาลไทย เพราะในวันเดียวกันกับที่เขาไม่ให้ประกันตัวเธอนั้น ศาลไทยได้อ่านคำพิพากษาฎีกาคดีอุกฉกรรจ์คดีหนึ่ง
ที่ว่าโชคดีก็เพราะว่าคดีที่ว่านั้นมันฟ้องว่า ไม่มีความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมให้กับเธอและเพื่อน ๆ ของเธอดังที่เธอเคยประกาศอยู่เสมอ
คดีที่ว่าคือคดีจ้างวานฆ่านักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งคดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหาหลายคน ตั้งแต่มือปืน ทนายความ หมอ และมารดาของหมอ
รายละเอียดของคำพิพากษาฎีกานั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเพราะมีปรากฏอยู่ทั่วไปแล้ว
แต่ที่ทำให้เรารู้ เราเห็น ในคดีนั้นก็คือ จำเลยบางคนที่ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมาในระหว่างการพิจารณาคดีที่ยาวนานเช่นนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามระบบกฎหมาย
แต่ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้ ตรงที่มันทำให้ผมเกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่ให้ประกันตัวเบนจา ทั้งที่เธอยังไม่ได้ถูกฟ้องคดีด้วยซ้ำและโทษของคดีก็ต่ำกว่าคดีที่ว่ามาด้วยซ้ำ
เบนจา ขอเธอและเพื่อน ๆ ของเธอจงจดจำไว้และเมื่อพวกเธอเติบใหญ่ขึ้นเมื่อมีโอกาส จงเปลี่ยนแปลงมันให้ได้
อีก ๒ วัน #เปิดประเทศ แต่ #โควิดเชียงใหม่ วิกฤตหนัก ฝ่ายทหารไม่แคร์ ออกคำสั่ง #ห้ามม็อบ ไว้ดักจับเด็ก
ภาพจาก Arunwatee Kong Li Chattay
...
Kritdikorn Wongswangpanich
12h ·
ไม่เก็ตว่าเรื่องอิ๊งนี่มันจะแยกประเด็นยากอะไรกันนักหนา เห็นแซะประเด็นไปๆ มาๆ ผสมเละเทะมั่วไปหมด
.
หนึ่ง ปัญหาการเข้าศึกษาของอิ๊ง สามารถและควรถูกตั้งคำถามได้มั้ย? ได้ และจะให้ดีก็ควรพิสูจน์ให้ชัดไป
.
สอง ไม่ใช่แค่กรณีของอิ๊ง แต่คนอื่นที่อยู่ในตำแหน่งแห่งที่ทางอำนาจสูงกว่าอิ๊งมากๆ และเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยปัญหาแบบเดียวกัน หรือหนักกว่าด้วยซ้ำนั้น ก็ต้องได้รับการจัดการ
.
สาม หากทั้งสองกรณีพิสูจน์ได้ว่าผิด ก็ต้องบอกว่าผิดทั้งคู่ หากไม่ได้ทำผิดอย่างที่โดนกล่าวหา ก็จัดการด่าคนปล่อยข่าวไป จบ แต่อย่าอ้างว่า "จะมาด่าแต่อิ๊งทำไม? ไยไม่ไปด่าอีกคนบ้าง ที่ทำหนักกว่าอีก" (แบบนี้เป็น whataboutism) วิธีการคือ ยืนยันว่า หากเป็นอย่างที่กล่าวหาจริง ต้องนับว่าผิดทั้งคู่ ไม่ใช่บอกว่า คนนั้นทำได้ คนฝั่งฉันก็ต้องทำได้เช่นกัน
.
สี่ ไม่ว่าข้อกล่าวหาต่อตัวอิ๊งในกรณีสอบเข้าจุฬาฯ จะจริงหรือไม่ก็ตาม การปฏิบัติอย่างมีอคติในฐานะ "ตัวบุคคล" ต่ออิ๊งนั้น นับเป็นเรื่องที่ผิดทั้งสิ้น กล่าวคือ ต่อให้อิ๊งทำผิดจริง ก็เป็นหน้าที่ของมหาลัยในการดำเนินการจัดการไป ไม่ใช่หน้าที่ครูอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่คนไหนจะมาใช้ตำแหน่งหน้าที่ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมด้วย ไม่ต้องพูดถึงกรณีที่ปฏิบัติแบบแย่ๆ โดยเฉพาะผ่านตำแหน่งทางอำนาจที่เหนือกว่าเพียงเพราะเป็นลูกทักษิณ อันนั้นคนที่ทำก็สมควรจะถูกด่า หรือรับโทษ หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรไป (อย่างอาจารย์คนที่พูดว่า "ยังอยู่อีกหร๋อ?" เป็นต้น)
.
ห้า อนึ่ง การกระทำในข้อสี่นั้น "ไม่ใช่ว่าทุกเคสจะต้องดีเฟนด์ให้ความระทมทุกข์ทางจิตใจของอิ๊ง" อย่างที่หลายคนแชร์ memoir ของนางช่วงเหตุการณ์สมัยนั้นมา การวิจารณ์ทักษิณในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือกระทั่งการวิจารณ์ประณามทักษิณในฐานะบุคคล "ในทางสาธารณะ" ต่อให้มันทำร้ายจิตใจอิ๊งอะไรยังไง ก็ต้องยืนยันว่ามันทำได้ และไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปสงสารเป็นพิเศษใดๆ (คือ ใครใคร่สงสารในทางส่วนตัวอะไรนั้นเชิญ แต่ไม่ควรดีเฟนด์ให้กับความระทมทุกข์ในส่วนนี้)
.
หก กับอาจารย์เวรของคณะรัฐศาสตร์ที่ผมยาวๆ คนหนึ่ง ที่เมนชั่นเรื่องนี้แบบทุเรศทุรังพอควรนั้น เห็นได้ชัดว่าไอ้ความพยายามในการ "ตรวจสอบและรักษาความบริสุทธิ์ผุดผ่องของหลักการ" นั้นมันเหลวไหลทั้งเพ เพราะเขามักกล่าวอ้างอย่าง "เจาะจงเลือกตัวบุคคลโจมตี" ไม่ว่าจะเป็นกรณีของผลงานวิชาการชื่อดังชิ้นหนึ่ง หรือกรณีของอิ๊งเอง ดังที่บอกไปว่านอกจากกรณีของอิ๊ง มีกรณีของคนอื่นที่หนักกว่าอิ๊งอยู่ที่ต้องโดนตรวจสอบเหมือนกัน และนักวิชาการผมยาวนี้ก็ทราบดีว่ามีปัญหาที่น่าเคลือบแคงเสียยิ่งกว่าอิ๊ง แต่นักวิชาการผมยาวคนนี้ก็เลือกจะนิ่งเฉย ว่าง่ายๆ มันเป็นเพียง hypocrite ที่ไม่ควรไปให้ราคาใดๆ
.
จบแค่นี้ อย่าด่าปนกันไปมาเยอะ งงแทน
ฝุ่น PM 2.5 กลับมาปกคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯอีกครั้ง
ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง
.
หมอกฝุ่นละออง PM 2.5 ปกคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ เช้าวันนี้ (30 ต.ค.)
โดยสามารถวัดค่าคุณภาพอากาศจากแอปพลิเคชัน IQAir ได้ที่ 158 US AQI
ในพื้นที่เขตจอมทอง ท่าพระ และเขตบางกอกน้อย
ซึ่งอยู่ในระดับที่เกิดค่ามาตรฐานและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
.
ในขณะที่ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรุงเทพมหานคร
รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5
จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 30 ต.ค. เวลา
07.00 น. ว่ามีค่า 18-44 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยใน 24 ชม. ว่ายังคงไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
.
วานนี้ (29 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า
ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 พ.ย.
โดยก่อนหน้านี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขฝุ่น
PM 2.5 แล้ว และสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะรุนแรงขึ้นในช่วงประมาณปลายเดือน
ต.ค. ถึงต้นเดือน ธ.ค.
จากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะ