torsdag 21 oktober 2021

ใบตองแห้ง: ขี่กระแสชั่วคราว, เพ้อเศรษฐกิจ ปิดปัญญา

หลังประยุทธ์ประกาศเปิดประเทศ ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น เดินทางมากขึ้น รถเริ่มติด วันหยุดคนเข้าห้างคึกคัก เข้าคิวรอร้านอาหาร ฯลฯ

ยกให้เป็นผลงานรัฐบาล? ไม่ใช่หรอก กลับกันต่างหาก ประชาชนอัดอั้นมานาน แม้ยังติดโควิดวันละหมื่น ตายวันละร้อย คนส่วนใหญ่ก็ทนไม่ไหวแล้ว อยากกลับมาทำมาหากิน อยากใช้ชีวิต อยากสังสรรค์ แต่ถูกมาตรการรัฐสกัดกั้นไว้ พอผ่อนคลายก็เหมือนทำนบแตกทะลักทลาย

พูดอีกอย่าง คนไทยทำใจได้แล้ว กับความล้มเหลว กับความเสี่ยง รู้ดีว่ารัฐบาลไม่พร้อม ไม่มีมาตรการรองรับ แต่เปิดๆ ไปเหอะ เดี๋ยวรับมือกันเอง

รัฐบาลก็เลยได้ที ขี่กระแสเปิดประเทศ ปูทางประยุทธ์อยู่ต่อ ทั้งที่อยู่บนวิกฤติหนักหน่วง ทั้งถูกม็อบต้าน ทั้งขัดแย้งภายใน ทั้งมีปัญหาความอยุติธรรมไม่ชอบธรรมมากมาย มีความเดือดร้อนเช่นคนตกงาน ราคาน้ำมัน ไร้ประสิทธิภาพจัดการน้ำท่วม แต่กลับฉวยมาสร้างภาพ “พระยาเหยียบเมือง” เดินสายแจกถุงยังชีพ เกณฑ์ข้าราชการมาต้อนรับ ขณะที่ม็อบไล่โดนจับ

รัฐบาลล้มเหลว เพิ่งจัดหาวัคซีนมาฉีดปูพรมได้เดือนกันยา แต่ยังไม่ทั้งประเทศ เกิดคลัสเตอร์ย่อยๆ ทั่วไปหมดในต่างจังหวัด การจัดสรรวัคซีนก็สับสน มีทั้งวัคซีนรัฐ วัคซีนทางเลือก วัคซีนเอกชน ซึ่งกลายเป็นเหมือนโดนลอยแพ อยากเสียเงินสั่งซื้อ Moderna เอง ก็ช่างหัวมัน ฉัด Sinopharm 2 เข็มก็ต้องตามด้วย Moderna ครึ่งโดส

คนไทยน่าจะได้ลองสูตรฉีดวัคซีนมากที่สุดในโลก SV+SV+AZ, SV+SV+Pfizer, SV+AZ+Pfizer, SPh+Sph+Moderna 50 mcg, SPh+SPh+Moderna 100 mcg ฯลฯ คนไทยจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่หมอไทยได้รางวัลวิจัยระดับโลกแหงๆ

รัฐบาลคลายล็อก เปิดประเทศ ก็ผลักภาระให้เอกชน จะเปิดโรงงานจะเปิดร้านจะเดินทางต้องฉีดวัคซีนต้องตรวจ ATK เอามาจากไหน เอกชนส่วนใหญ่ก็ต้องซื้อซิโนฟาร์ม ซื้อ ATK เอง เพราะต้องทำมาหากิน ขนาดนั้นรัฐบาลก็พร้อมจะโทษประชาชน บอกว่าเกิดอะไรคนไทยต้องรับผิดชอบร่วมกัน

กระนั้นโดยธรรมชาติภาคเอกชนซึ่งอยากเปิดประเทศอยู่แล้ว ก็ต้องช่วยกันประโคมข่าวดี ช่วยตีปี๊บคาดการณ์ GDP ดัชนีความเชื่อมั่น เพื่อทำให้หุ้นขึ้นเพื่อกระตุ้นการจับจ่าย เพื่อขายบรรยากาศ ฯลฯ ต้องสนับสนุนภาครัฐ หรืออวยรัฐ เช่นช่วยกันประโคมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ผลดี

นี่เป็นปฏิบัติการจิตวิทยาทางการเมือง ที่นำมาใช้ช่วงปลายโควิด ผ่อนคลายแล้วขี่กระแส แต่ยังกั๊กบางเรื่องไว้โดยไร้เหตุผล เช่นเคอร์ฟิว เพื่อแสดงอำนาจ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีอำนาจทำเรื่องเหลวไหลไร้สาระเป็นข้อห้ามทางกฎหมาย

สถานการณ์ขณะนี้จึงกล่าวได้ว่ารัฐบาลใช้กระแสเปิดประเทศ ความอัดอั้นอยากทำมาหากิน อยากใช้ชีวิต ของคนส่วนใหญ่ มายับยั้งกระแสไล่ประยุทธ์ไว้ชั่วคราว แต่ความขัดแย้งไม่หายไปไหน ยังเกิดเป็นจุดๆ เป็นประเด็นๆ ขณะที่คนเริ่มหันไปตั้งความหวังกับการเลือกตั้งใหม่

การประชุมใหญ่พรรคฝ่ายค้าน การประกาศตัวพร้อมเป็นนายกฯ ของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่การเดินสายของประยุทธ์ ประวิตร การทำโพลสำนักต่างๆ ไม่ว่าจะเชลียร์ผู้นำแค่ไหนก็ตาม จะเร่งเร้าไปสู่การยุบสภาเลือกตั้งใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ยังต้องรอรัฐธรรมนูญประกาศใช้และแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง

แต่กระแสชั่วคราวนี้คงไม่ยาวไปถึงยุบสภา เพราะปัญหาที่เป็นจริงจะโผล่ขึ้นมาอีกมาก โควิดจาง (ซึ่งอันที่จริงก็ยังติดเชื้อเป็นหมื่น) เปรียบเหมือนช่วงฮันนีมูน คนทั่วไปมีความคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่เศรษฐกิจจริงไม่น่าเป็นอย่างนั้น พ้นจากช่วงรัฐอัดฉีด พ้นจากช่วงระบายความอัดอั้น ปัญหาต่างๆ จะกลับมาทวี

ประยุทธ์มีเวลาสั้นๆ เท่านั้นเอง เดี๋ยวคลื่นลูกใหม่ก็มา ไม่ต้องรอถึงช่วงยุบสภาหรอก

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ www.kaohoon.com/column/486554

ตัดภาพไปดูไบ World Expo 2020 นิทรรศการระดับโลก แต่ละประเทศอวดความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม องค์ความรู้ใหม่ รู้ไหมประเทศไทยอวดอะไร “ศาลาไทย” แต่แถลงว่าอยู่ใต้แนวคิดขับเคลื่อนสู่อนาคต Mobility for Future

หัวร่อกันท้องแข็งเพราะศาลาไทย 887 ล้าน โผล่อยู่กลาง “เมืองอัจฉริยะ” ของสิงคโปร์ Pavilion ปะการังของฟิลิปปินส์ (ใช้งบแค่ 350 ล้าน) ไม่ต้องพูดถึงไอเดียอลังการฝั่งยุโรป

รัฐไทยยังภาคภูมิใจกับการขาย “ความเป็นไทย” การท่องเที่ยวดึกดำบรรพ์ โบราณสถาน ภูเขาทะเล ดีใจกระทั่งรัสเซล โครว์ โพสต์ภาพสายเคเบิลพะรุงพะรัง หน่วยงานรัฐโทษกันวุ่นวาย

รัฐมนตรีท่องเที่ยวไอเดียเจ๋ง จะจ้างลิซ่ามาเคาท์ดาวน์ภูเก็ต คงมองว่าลิซ่าเป็นคนไทย ส่งเครื่องบินไปรับกลับบุรีรัมย์ แล้วแวะมาแสดงคอนเสิร์ตเพื่อประเทศชาติสักหน่อย ทั้งที่การว่าจ้างต้องจองคิวผ่านต้นสังกัด ซึ่งไม่ง่ายเหมือนพูดเองเออเองในเมืองไทย

ลิซ่าเป็นคนไทยแต่เป็นศิลปินเกาหลี เป็นผลผลิตของอุตสาหกรรม Idol เกาหลี แม้สะท้อนว่าเด็กไทยมีความสามารถ แต่อยู่เมืองไทยไม่มีทางประสบความสำเร็จ

Soft Power เกาหลีมาพร้อมประชาธิปไตย หลังโค่นล้มเผด็จการทหาร รัฐส่งเสริมงานนวัฒนธรรม หนัง-เพลง อย่างเปิดกว้างมีเสรีภาพ ไม่กีดกันว่าเป็นหนังรักชาติหรือชังชาติ เชิดชูหรือวิพากษ์ประวัติศาสตร์ ถลกประจานสังคมตัวเอง จน Parasite ชนะออสการ์ Squid Game ฮือฮาไปทั่วโลก

พูดง่ายๆ ถ้า Parasite หรือ Squid Game เป็นหนังไทยก็ “ชังชาติ” ประจานความเหลื่อมล้ำอัปลักษณ์ ตำรวจถุงดำทุบม็อบตำหนิเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กเยาวชน

นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาทางวัฒนธรรม แต่รวมไปถึงคุณภาพการศึกษา การพัฒนาเทคโนโลยี งานวิจัย R&D ที่พูดกันนักหนา ซึ่งเอาเข้าจริง รัฐไทยต้องการนักเรียนนักศึกษาที่เก่งวิทยาศาสตร์ แบบสมองสี่เหลี่ยม ห้ามมีภูมิปัญญาทางสังคม

เศรษฐกิจไทยติดกับดัก ข้อสำคัญประการหนึ่งคือคุณภาพการศึกษา การศึกษาไทยตกต่ำเพราะระบบราชการกดทับครู ปิดกั้นครูคุณภาพ แถมอำนาจรัฐช่วง 7 ปีนี้ยังบีบคั้นให้มุ่งอบรมค่านิยม “หมอบกราบ” ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่เด็กมัธยมไปม็อบราษฎรล้นหลาม

มีความพยายามตั้งโรงเรียนเด็กเก่งแบบกำเนิดวิทย์ แล้วไง ต้องการได้อัจฉริยะทางเทคโนโลยีแต่สมองงมงาย ถ้าเป็นเด็กเก่งอย่างเพนกวิน เบนจา อะปัญ ต้องกำจัดทิ้ง?

สังคมไทยใต้วัฒนธรรมครอบกะลา ใต้ระบบอุปถัมภ์ คิดจะสร้างเศรษฐกิจใหม่ แต่กำจัดคนคิดนอกกรอบ อยากได้ Critical Thinking ทางธุรกิจ แต่ปราศจากความคิดทางการเมือง เป็นเด็กดีของระบบ มันเป็นไปไม่ได้ คนรุ่นใหม่ถ้าไม่ต่อต้านก็หนี เรียนจบแล้วย้ายประเทศดีกว่า เว้นแต่มีภาระจำทน หรือเป็นพวกกิ้งก่าฉวยโอกาสไต่โหน

รู้ไหมทุกวันนี้ หน่วยราชการส่งเด็กจบใหม่ไปเรียนโทเมืองนอกจำนวนมาก เรียนหนึ่งปี ใช้ทุนสองปี แล้วลาออก

วิจิตรศิลป์ มช. คือยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ มหาวิทยาลัยไทยทุกวันนี้ตกต่ำเพราะขาดเสรีภาพทางวิชาการ ขณะที่คลั่ง R&D จะจ้างทำวิจัยเงินเดือนแพงๆ เอาหน้า แต่ระบบบริหารมหาวิทยาลัยกลายเป็นผูกขาดอำนาจนิยม บังคับทำผลงานเลื่อนตำแหน่ง จนเกิดการทุจริตขอตำแหน่งวิชาการ

พยายามกันจังจะยกมหาวิทยาลัยไทยให้ติด 100 อันดับโลก แต่อาจารย์ฮาร์วาร์ดซึ่งส่งนักศึกษาแลกเปลี่ยนมาไทย แจ้งเตือนว่าให้ระวังการเข้าร่วมกิจกรรม อาจถูกลงโทษได้ เพราะมหาวิทยาลัยไทยจำกัดเสรีภาพ

คุณภาพการศึกษา ทั้งระบบโรงเรียน ระบบมหาวิทยาลัย ไปกันไม่ได้หรอกกับเศรษฐกิจใหม่ เพราะอำนาจที่ควบคุมประเทศต้องการตีกรอบความคิดคน ให้จำนนเชื่อฟังกราบไหว้ แล้วค่อยยอมให้คิดสร้างสรรค์ในกรอบแคบๆ

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ www.kaohoon.com/column/485729

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar