รัฐบาลโจรของกษัตริย์ทรราชย์ :
รัฐบาลโจรของกษัตริย์ทรราชย์ : 4 ปีหนี้บาน หนึ่งล้านแปดแสนล้านบาท
แค่นี้รัฐบาลถัดไปก็ไม่รู้ว่าจะใช้หนี้ที่รัฐบาลนี้ก่อไว้ได้หมดหรือเปล่า อย่าให้มันเน่าไปกว่านี้อีกเลย
4 ปีหนี้บาน หนึ่งล้านแปดแสนล้านบาท
ยอดหนี้
(การขาดดุลงบประมาณที่สุดท้ายรัฐบาลต้องกู้มาชดเชย) ของรัฐบาล คสช. พุ่งเข้าใกล้ 1,800,000,000,000 บาท
(หนึ่งล้านแปดแสนล้านบาท) แล้วครับ
เสียงจากอาจารย์เดชรัต
สุขกำเกิด
ม.เกษตรศาสตร์ที่สอดคล้องกับแม่ลูกจันทร์จากไทยรัฐที่กังวลถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ถูกอัดเข้าไปยังชุมชนรากหญ้าตามนโยบายต่างๆ
ของรัฐบาลเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ หากแต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นไปตามเป้า
โดย“แม่ลูกจันทร์”ระบุว่าเฉพาะในยุครัฐบาล
คสช. เริ่มตั้งแต่ปี 2558 ขาดดุล 2.5 แสนล้านบาทปี
2559 ขาดดุลเพิ่มอีก 3.9 แสนล้านบาทปี 2560
ขาดดุลพุ่งไปถึง 5.5 แสนล้านบาทและปีนี้ 2561
ขาดดุลพุ่งกระฉูดสูงสุดอีก 6 แสนล้านบาท
รวมเบ็ดเสร็จ
4 ปี รัฐบาลนายกฯ บิ๊กตู่ใช้เงินเกินหน้าตักไปแล้วถึง 1.79
ล้านล้านบาทไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่กล้าขาดดุลมากขนาดนี้มาก่อน
ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
อ้างถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีในปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “เศรษฐกิจฐานรากกับการพัฒนาเกษตรกรรมสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ที่ยืนยันว่า ในรัฐบาลนี้จะไม่อุดหนุนราคาสินค้าเกษตรเพื่อให้เกษตรกรสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง
และยังกล่าวอีกว่า
“ขาทั้งสองข้างของไทยกลับมีขาข้างหนึ่งเป็นโปลิโอซึ่งก็คือชุมชน
จึงต้องเน้นการเติบโตจากภายใน ให้ชุมชนเติบโตคู่ขนานกับการส่งออก” ซึ่งดูจะขัดแย้งกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่อัดลงไปยังพื้นที่รากหญ้า
แม้ว่าวัตุประสงค์โครงการจะต่างกันหากแต่เป้าหมายคือการหวังให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเหมือนกันนั่นแหละ
รัฐบาลคงต้องยอมรับความจริงได้แล้วว่าไทยเราต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างชาติ
การถูกแบนไป 4 ปีแล้วเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ภาพมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ว่าเราพึ่งตัวเองไม่ได้ อัดเงินลงไปเท่าไหร่ก็ยังไม่ดีขึ้น
หนำซ้ำบางโครงการยังดึงเงินจากรัฐไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัวโดยไม่ผ่านชุมชนเลย
การเลือกตั้งคงเป็นทางออกที่จะปลดล็อคจากนานาประเทศได้ดีที่สุด ยิ่งยื้อจะยิ่งแย่
แค่นี้รัฐบาลถัดไปก็ไม่รู้ว่าจะใช้หนี้ที่รัฐบาลนี้ก่อไว้ได้หมดหรือเปล่า
อย่าให้มันเน่าไปกว่านี้อีกเลย
#ไขลานความคิด #หนี้ #รัฐบาล #ประยุทธ์ #สมคิด #เดชรัต #แม่ลูกจันทร์
อ้างอิง https://www.thairath.co.th/content/1228500
https://www.matichon.co.th/news/70064
อ้างอิง https://www.thairath.co.th/content/1228500
https://www.matichon.co.th/news/70064
(https://www.facebook.com/Windingideas/)
ก.พ. คนว่างงานพุ่งเฉียด 5 แสน – จบมหาวิทยาลัยยังครองแชมป์เตะฝุ่น
รายงานข่าวจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า
ตัวเลขการว่างงานในเดือนก.พ. 2561 มีจำนวน 491,000 คน
หรือคิดเป็นอัตราว่างงาน 1.3% มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 61,000 คน
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ซึ่งอัตราว่างงานอยู่ที่ 1.1%
และเมื่อเทียบกับเดือนม.ค. 2561 จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 16,000 คน
ซึ่งอัตราว่างงานเท่ากันคือ 1.3% ทั้งนี้
เมื่อแยกผู้ว่างงานตามระดับการศึกษาพบว่า ในเดือนก.พ. 2561
ผู้ว่างงานที่สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีจำนวน 115,000 คน
รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 103,000 คน, ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 103,000 คน, ระดับประถมศึกษาจำนวน 73,000 คน และผู้ที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษาจำนวน 19,000 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2560 จำนวนผู้ว่างงานระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 52,000 คน, ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 26,000 คน และระดับต่ำกว่าประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 1,000 คน
ขณะที่เมื่อแยกประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานจำนวน 491,000 คน ในเดือนก.พ.2561 พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 235,000 คนหรือ 47.9%ของผู้ว่างงานทั้งหมด และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 256,000 คน คิดเป็น 52.1% โดยเป็นผู้ว่างงาจากนอกภาคเกษตรกรรมจำนวน 241,000 คน ประกอบด้วย ภาคการบริการและการค้าจำนวน 137,000 คน และภาคการผลิต 104,000 คน ส่วนผู้ว่างงานจากภาคเกษตรกรรรมมีจำนวน 15,000 คน
ทั้งนี้ ในเดือนก.พ.2561 มีผู้ที่อยู่ในวัยกำลังแรงงานจำนวน 38.42
ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำจำนวน 37.60 ล้านคน ผู้ว่างงาน 491,000 คน
และผู้ที่รอฤดูกาลจำนวน 329,000 คน
เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์แรงงานกับช่วงเดียวกันของปี ก่อนพบว่า
จำนวนผู้มีงานทำลดลง 80,000 คน จากจำนวน 37.68 ล้านคนลดเหลือ 37.60 ล้านคน
ซึ่งในจำนวนผู้มีงานทำ 37.60 ล้านคน ประกอบด้วย
ผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรรมจำนวน 11.27 ล้านคน และนอกภาคเกษตรกรรรมจำนวน
26.33 ล้านคน
ในส่วนของผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 580,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของการปลูกข้าว การปลูกไม้ผล และการปลูกอ้อย ส่วนนอกภาคเกษตรมีจำนวนผู้ทำงานลดลง 660,000 คน ในสาขาก่อสร้างลดลงมากที่สุดจำนวน 260,000 คน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 110,000 คน
รองลงมาเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 103,000 คน, ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 103,000 คน, ระดับประถมศึกษาจำนวน 73,000 คน และผู้ที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษาจำนวน 19,000 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2560 จำนวนผู้ว่างงานระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเพิ่มขึ้น 52,000 คน, ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้น 26,000 คน และระดับต่ำกว่าประถมศึกษาเพิ่มขึ้น 1,000 คน
ขณะที่เมื่อแยกประสบการณ์การทำงานของผู้ว่างงานจำนวน 491,000 คน ในเดือนก.พ.2561 พบว่า เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 235,000 คนหรือ 47.9%ของผู้ว่างงานทั้งหมด และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 256,000 คน คิดเป็น 52.1% โดยเป็นผู้ว่างงาจากนอกภาคเกษตรกรรมจำนวน 241,000 คน ประกอบด้วย ภาคการบริการและการค้าจำนวน 137,000 คน และภาคการผลิต 104,000 คน ส่วนผู้ว่างงานจากภาคเกษตรกรรรมมีจำนวน 15,000 คน
ในส่วนของผู้ทำงานในภาคเกษตรกรรมมีจำนวนผู้ทำงานเพิ่มขึ้น 580,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นในส่วนของการปลูกข้าว การปลูกไม้ผล และการปลูกอ้อย ส่วนนอกภาคเกษตรมีจำนวนผู้ทำงานลดลง 660,000 คน ในสาขาก่อสร้างลดลงมากที่สุดจำนวน 260,000 คน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 110,000 คน
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar