fredag 31 augusti 2018

เหตุเกิดที่ประเทศไทย .(ยุคไทยนิยมดักดาน)..

ผู้ว่าฯ จ.ประจวบฯ ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงสำนักพระราชวัง เพื่อกราบบังคมทูลขอพระราชทานอภัยโทษ จากกรณีต้นศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกถูกตัดโค่น พร้อมตั้ง กก.สอบ
อนุมัติหมายจับเจ้าของเว็บ ‘สมุยไทม์’ กรณีเกาะเต่า ผบช.ภ.8 แนะต่างชาติอยู่เป็นกลุ่มก้อนจะปลอดภัย

อนาคตประเทศไทย..ใครกำหนด???

"วิษณุ" ปัดเปลี่ยนรูปแบบไพรมารีโหวตเอื้อพรรคเล็ก ย้ำยังห้ามหาเสียง ต้องรอใกล้เลือกตั้ง

“วิษณุ” ปัดเปลี่ยนรูปแบบไพรมารีโหวตเอื้อพรรคเล็ก แต่ต้องการเอื้อทุกพรรค แจงพรรคการเมือง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประก...
ย้อนดูผลงาน สนช.ฝักถั่ว 4 ปีผ่านงบ 14 ล้านล้านบาท ไร้เสียงค้านแม้แต่คนเดียว #มติชนการเมือง #มติชนออนไลน์


รายชื่อเมียน้อยของ วชิราลงกรณ์ !!!

รายชื่อเมียน้อยของ วชิราลงกรณ์ !!!


"เรื่องประหลาด": ในบรรดาทหารราชวัลลภของกษัตริย์ มีสุภาพสตรีนามสกุล "สิริวชิรภักดิ์" เท่าที่พบแล้วตอนนี้ ถึง 11 คน


Somsak Jeamteerasakul added 10 new photos.
"เรื่องประหลาด": ในบรรดาทหารราชวัลลภของกษัตริย์ มีสุภาพสตรีนามสกุล "สิริวชิรภักดิ์" เท่าที่พบแล้วตอนนี้ ถึง 11 คน

"เรื่องประหลาด" : ในบรรดาทหารราชวัลลภของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ มีสุภาพสตรีนามสกุล "สิริวชิรภักดิ์" เท่าที่พบแล้วตอนนี้ ถึง 11 คน
ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน "มิตรสหายท่านหนึ่ง" ได้บอกผมว่า เขาพบความประหลาดว่า ในบรรดารายชื่อตั้งยศทหารราชวัลลภที่ออกมาเป็นระยะๆ มีสุภาพสตรีหลายคนมีนามสกุลเดียวกันว่า "สิริวชิรภักดิ์" ตอนแรกเขาพบ 3-4 รายชื่อ แล้วต่อมาก็พบอีก 2-3 รายชื่อ หลังจากเขาบอกผมมา ผมก็คอยติดตามสังเกตบ้าง และพบเพิ่มอีก 3-4 รายชื่อ จนถึงวันนี้ เท่าที่เราพบแล้ว มี 11 รายชื่อ ทุกคนเป็นสุภาพสตรี ได้รับตั้งยศทหารระดับนายร้อย และบางคนขึ้นเป็นนายพันแล้ว
ดูภาพประกอบ ที่ผมรวบรวมจากประกาศในราชกิจจา (ในจำนวนนี้มีคนหนึ่งที่ได้รับการเลื่อนยศ 2 ครั้งในช่วงที่เราพบเรื่องนี้ ไม่แน่ใจว่า ยังมีคนอื่นๆจะได้รับการเลื่อนยศจากประกาศที่ผมเอามาให้ดูหรือไม่ เพราะบางประกาศก็หลายเดือนมาแล้ว)
รายชื่อทั้ง 11 คน เรียงตามลำดับอักษร เป็นดังนี้
 
กรองทอง สิริวชิรภักดิ์ (ร.ท.หญิง)
ชยุตรา สิริวชิรภักดิ์ (ร.ท.หญิง)
ฐานิดา สิริวชิรภักดิ์ (พ.ต.หญิง)
นววรรณ สิริวชิรภักดิ์ (พ.ต.หญิง)
ปภัสสร สิริวชิรภักดิ์ (พ.ต.หญิง)
ภรณ์ทิพย์ สิริวชิรภักดิ์ (พ.ต.หญิง)
ภัทรียา สิริวชิรภักดิ์ (ร.ต.หญิง)
วราภรณ์ สิริวชิรภักดิ์ (ร.ต.หญิง)
สังวาลย์ สิริวชิรภักดิ์ (พ.ต.หญิง)
อนุสรา สิริวชิรภักดิ์ (ร.ท.หญิง)
อรอนงค์ สิริวชิรภักดิ์ (ร.ท.หญิง)
 
ผมกับมิตรสหาย หาคำอธิบายเรื่องประหลาดนี้ไม่ได้ คือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นามสกุล "สิริวชิรภักดิ์" นี้ ต้องเป็นนามสกุลพระราชทานแน่ ทีนี้ จะบอกว่า บังเอิญ สตรีทั้ง 11 คนนี้เป็นพี่น้องกัน กษัตริย์จึงพระราชทานนามสกุลใหม่ให้พวกเธอพี่น้องใช้แทนนามสกุลเดิมพร้อมกันทุกคน ก็ไม่น่าเป็นไปได้ (สมัยนี้ บ้านไหนมีลูกสาวทีเดียว 11 คน มิหนำซ้ำ ยังทำงานในวังหมด?)
ใครที่ติดตามข่าวคราวกษัตริย์นี้จากเพจผม ก็อาจจะสะดุดใจด้วยว่า นามสกุล "สิริวชิรภักดิ์" มีความคล้ายกับนามสกุลพระราชทาน ที่คุณ "ก้อย" ใช้อยู่ในขณะนี้ (สำหรับใครที่จนป่านนี้ นึกไม่ออกนะ - คุณก้อย คือสุภาพสตรีที่ใส่สปอร์ตแวร์ไปไหว้พระรูป และใส่เสื้อ "เอวลอย" เดินกินไอติม และช้อปปิ้งที่เยอรมันกับกษัตริย์น่ะ)
คุณก้อย เดิมชื่อ "นิรมล อุ่นพรม" ขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "สินีนาฏ วงศ์วชิราภักดิ์" (ดูกระทู้ที่ผมสืบประวัติเธอ ที่นี่ https://goo.gl/dxz0Z6 และที่นี่ https://goo.gl/N6qe05)
#ต้องย้ำหนักๆว่า ผมพูดนี้ #ไม่ใช่ต้องการสื่อว่า ทั้ง 11 คนจะต้องมีความสัมพันธ์กับกษัตริย์ในลักษณะเดียวกับที่คุณก้อยมีนะครับ - แค่ยกมาให้ดูว่า เป็นนามสกุลพระราชทานในลักษณะเดียวกัน ใช้คำคล้ายกันเท่านั้น
แม้ว่า ตอนนี้ กษัตริย์ใหม่จะรวบอำนาจ เอา "ราชการในพระองค์" (และ "ทรัพย์สินฝ่ายกษัตริย์") ทั้งหมด เข้าไว้ในการควบคุมของตัวเองโดยสิ้นเชิง ห้ามใครยุ่งเกี่ยว แต่อย่าลืมว่า บรรดาเงินเดือนทหารราชวัลลภ และค่าใช้จ่ายทั้งหลายของกษัตริย์และวังกษัตริย์ ล้วนมาจากงบประมาณแผ่นดิน คือภาษีของประชาชนเรานั่นแหละ
มิตรสหาย เสนอ "ทฤษฎี" ว่า หรือกษัตริย์จะรับสุภาพสตรีเหล่านี้ไว้ในอุปถัมภ์ เป็นทำนอง "ลูกบุญธรรม" เลยตั้งนามสกุลทุกคนให้เหมือนกัน? ผมไม่แน่ใจแฮะ อย่างที่บอกว่า ยังอธิบายไม่ได้จริงๆ - สิ่งเดียวที่ผมพอบอกได้คือ ไม่ว่าสาเหตุเบื้องหลังเรื่องนี้เป็นอะไร เช่น ต่อให้ไม่มีเหตุผลเบื้องหลังอะไรเลย แค่กษัตริย์อยากเอาชื่อตัวเองมาตั้งเป็นนามสกุลให้สุภาพสตรีที่ทำงานให้จำนวนหนึ่งเฉยๆ ผมก็ว่าเป็นอะไรที่พิลึกอยู่นั่นเอง นึกไม่ออกว่า จะมีกษัตริย์ที่ไหน เขาทำแบบนี้กัน
  

 

วชิราลงกรณ์ไม่สมควรที่จะเป็นกษัตริย์

วชิราลงกรณ์ไม่สมควรที่จะเป็นกษัตริย์

วชิราลงกรณ์ไม่สมควรที่จะเป็นกษัตริย์

 
โดย แสงตะวัน
ถ้าอ้างตามความหมายของ Saint-Just ที่อธิบายไว้ว่า " กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและเป็นอาชญากรรมชั่วนิรันดร  นั้น...

"กษัตริย์ใหม่ที่ชื่อวชิราลงกรณ์เหมาะสมที่สุดตรงตามคำอธิบายของ Saint-Just ที่กล่าวไว้ " ...
Saint-Just อธิบายว่า กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและโดยตัวของมันเอง เราไม่ต้องพิจารณาเลยว่าการกระทำของกษัตริย์หรือการบริหารราชการแผ่นดินของ กษัตริย์มีความผิดทางอาญาหรือไม่ ถ้ากษัตริย์เป็นทรราช   นั่นไม่ใช่เพราะความผิดจากการบริหารราชการแผ่นดินของเขา แต่เขาเป็นทรราชก็ด้วยลักษณะของความเป็นกษัตริย์นั่นแหละ 
Saint-Just เสนออย่างชาญฉลาดว่า การที่กษัตริย์ยึดครองอำนาจสูงสุดของประชาชนไปใช้เอง นั่นแสดงให้เห็นว่าลักษณะของความเป็นกษัตริย์เป็นอาชญากรรมนิรันดร (crime éternel) ต่อประชาชน มนุษย์จึงย่อมมีสิทธิสมบูรณ์ในการลุกขึ้นสู้และติดอาวุธ   Saint-Just อธิบายว่า ไม่มีใครสามารถครองราชย์ได้อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะ กษัตริย์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นกบฏและเป็นผู้แย่งชิง (usurpateur) อำนาจของประชาชนไป "
ยิ่งถ้าเรานึกถึงปริบทของอำนาจและอภิสิทธิ์มหาศาลที่กษัตริย์มีเหนือสังคมไทย ทั้งทางกฎหมายและการเมือง (ทั้งที่เคยมีอยู่นานแล้ว และที่กษัตริย์องค์นี้สร้างเพิ่มขึ้นในรัฐธรรมนูญ และในกฎหมายราชการในพระองค์ล่าสุด) ทางเศรษฐกิจ (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และงบประมาณที่รัฐทุ่มเทในการรักษาและโปรโมตสถาบันกษัตริย์) และทางวัฒนธรรมสังคม (การโฆษณาเชิดชูสถาบันกษัตริย์ทุกวันทางสื่อและระบบการศึกษา)ลักษณะสิ้นเปลืองสูญเปล่า การมีอภิสิทธิ์และอำนาจอย่างไร้ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับที่เหลือเชื่อและยากจะพบได้ในโลกสมัยใหม่ศตวรรษนี้มากขนาดไหน ก็ลองประเมินกันดู " ( คัดจากบทความ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล )
วชิราลงกรณ์เป็นคนสั่งให้ประยุทธ์ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษ์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค 2557 ขณะที่ภูมิพลป่วยหนักนอนรอวันตายซึ่งไม่สามารถสั่งการทำอะไรได้     หลังจากภูมิพลตายลง 13 ต.ค. 2559
ต่อมาวชิราลงกรณ์ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 10 ได้รวบอำนาจทุกอย่างไว้ในมือและเพิ่มอำนาจทุกอย่างให้แก่ตนเองยิ่งกว่ารัชกาลที่ 9 ผู้เป็นพ่อเสียอีก    เวลานี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปในสังคมไทยและทั่วโลกว่าวชิราลงกรณ์คือกษัตริย์จอมเผด็จการที่มีจิตวิตถาร โมโหร้ายเหี้ยมโหดผิดมนุษย์   ประพฤติตัวไม่เหมาะสมที่จะเป็นประมุขของรัฐ เป็นอันตรายต่อชาติ เป็นภัยต่อสังคม  ผลาญเงินภาษีของชาติไปปีละมากมายมหาศาลทำตัวเป็นอันธพาลแห่งชาติ ใช้ชีวิตอย่างเสเพลอยู่ในต่างประเทศ... ฯลฯ
ดังนั้นประเทศไทยและประชาชนชาวไทยจึงไม่มีความจำเป็นที่จะมีกษัตริย์เผด็จการทรราชอย่างวชิราลงกรณ์   ระบอบกษัตริย์เผด็จการทรราชได้ถูกโค่นล้มลงไปแล้วตั้งแต่ปี 2475 ประชาชาติไทยและสังคมไทยจะต้องพัฒนาก้าวไปข้างหน้าสู่ประชาธิปไตย  สู่สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันของการเป็นมนุษย์ ไม่ใช่จะให้อยู่ใต้ตีนของกษัตริย์ทรราช.จึงเป็นสิทธิและหน้าที่โดยชอบธรรมของพี่น้องชาวไทยทุกคนที่จะลุกขึ้นมาโค่นล้มระบอบเผด็จการกษัตริย์นี้ลง แล้วให้การสนับสนุนการก่อตั้งสหพันธ์รัฐไทตามแนวนโยบายที่ทางสหพันธ์รัฐไทได้ก่อตั้งขึ้นโดยอำนาจทุกอย่างมาจากประชาชนเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน และประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น  เมื่อประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจรัฐแล้วก็จะสามารถบริหารประเทศชาติเพื่อผลประโยขน์ของประชาชนในสังคมตามหลักแห่งความเสมอภาค และความเป็นธรรม มีระบบการตรวจสอบได้ มีระบบการเลือกตั้งที่ยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

เสี่ยโอมา 2 วันเอาไป 3 พันล้าน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรพี่น้อง

เสี่ยโอมา 2 วันเอาไป 3 พันล้าน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรพี่น้อง ฟังเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียนที่สุดของเสี่ยโอใน :"ออกตัวแรงแต่แทงผิดข้าง" รายการสหพันธรัฐไท กับธิดาแอลเอ..




รายการสหพันธรัฐไท กับธิดาแอลเอ
ตอน : ออกตัวแรงแต่แทงผิดข้าง
โดย : ส.ข้าวเหนียว–ส.ยังบลัด-ส.ร้อย-ลุงสนามหลวง
https://youtu.be/EhGLIFqXjK0
วันอังคาร : 31/07/2018 เวลา 21.00 น. ประเทศไทย...
ดูเพิ่มเติม

การล้มเจ้าคือการทำบุญอย่างหนึ่งให้แก่ประเทศชาติ

การล้มเจ้าคือการทำบุญอย่างหนึ่งให้แก่ประเทศชาติ

โดย แสงตะวัน



การล้มเจ้าหรือการโค่นล้มระบอบเผด็จการกษัตริย์คือการทำบุญทำกุศลให้แก่สังคมและประเทศชาติเป็นการปลดปล่อยประชาชนออกจากระบอบป่าเถื่อนเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ทำให้ประชาชนทั้งหลายที่ได้รับการกดขี่หลุดพ้นออกจากโซ่ตรวนในระบอบเผด็จการของษัตริย์ประหลาดวิกลจริตบ้ากามในเวลานี้

ระบอบเผด็จการกษัตริย์ทำให้ประเทศชาติหล้าหลังไม่ได้รับการพัฒนา  เศรษฐกิจพังทลาย ประชาชนยากจนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้  ศักดิ์ศรีของมนุษย์ถูกเหยียบย่ำมีค่าเพียงฝุ่นใต้ตีนของกษัตริย์ ไม่มีสิทธิ เสรีภาพ ความเป็นธรรมในสังคมไม่มี เพราะถูกครอบงำโดยระบอบเผด็จการของกษัตริย์
วันที่ 22 พฤษภาคม 2557  ขณะที่ภูมิพลนอนป่วยไม่รู้สึกตัวอยู่นั้น วชิราลงกรณ์ยังเป็นมกุฏราชกุมารอยู่ได้ร่วมมือกับพลเอกเปรมประธานองคมนตรี สั่งให้พลเอกประยุทธ์กับพวกยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้วเรียกตัวเองว่า " คณะรักษาความสงบแห่งชาติ " ( คสช. ) แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการทหารขึ้นเรียกว่ารัฐบาล คสช.
วันที่ 13 คุลาคม 2559 ได้มีการประกาศการตายของภูมิพลขึ้นอย่างเป็นทางการรัฐบาลประยุทธ์ก็ได้ประกาศอันเชิญให้  วชิราลงกรณ์ได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์สืบทอดอำนาจจากพ่อคือกษัตริย์ภูมิพลรัชกาลที่ 9 เจ้าของระบอบกษัตริย์เผด็จการมาจนถึงวันตายหลังจากป่วยมาเป็นเวลายาวนาน แม้แต่วันเวลาการตายที่แน่นอนก็ไม่เปิดเผยให้ชาวไทยและชาวโลกทราบ
วชิราลงกรณ์ จากเด็กที่เติบโตมาอย่างสปอยจากพ่อแม่ที่มีอำนาจอย่างล้นฟ้า ทำให้วชิราลงกรณ์กลายเป็นเพลย์บอย เป็นคนไม่เอาถ่านเรียนหนังสือไม่จบมียศแค่ สิบเอกจากโรงเรียนนายร้อย ดันทรูนประเทศออสเตเรีย มีนิสัยเกเร เป็นนักเลงหัวไม้ชอบเล่นการพนัน ชอบเสพสุขมีเมียและนางบำเรอมากมายมีฮาเรมอยู่ที่
มิวนิคประเทศเยอรมันนี มีวังที่ทำเป็นคุกส่วนตัว เป็นคนทีไร้ความรับผิดชอบไร้จิตสำนึก ต่อสังคมประเทศชาติ และเพื่อนมนุษย์
วชิราลงกรณ์มาจากครอบครัวที่พ่อเป็นมหาโจรปล้นประเทศ และแม่ที่มีจิตใจเหี้ยมโหดเคยสั่งฆ่าคนไทยด้วยกันมาแล้วอย่างมากมายในประวัติศาสตร์จนมีนักกวีที่มีชื่อคนหนึ่งเขียนว่า " พ่อเจ้าปล้นแม่เจ้าฆ่ายังกล้าทำ " หรือที่ประชาชนเรียก " ไอ้เหี้ยสั่งฆ่าอีห่าสั้งยิง "
วชิราลงกรณ์ไม่ได้รับการอบรมมาเพื่อให้เป็นกษัตริย์เพื่อปกครองประเทศตามระบอบประชาธืปไตยเขาเกิดมาจากระบอบเผด็จการของภูมิพลและสิริกิตย์ที่สืบทอดเป็นมรดกมาจาก " ระบอบเศรษฐกิจของสังคมศักดินา "
หลังจากวชิราลงกรณ์ได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ไม่นานก็ได้รวบอำนาจของชาติทุกอย่างไว้ในมือ " อำนาจและทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของกูแต่ผู้เดียว " เอากลไกรัฐและทรัพย์สินส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์มาอยู่ใต้การควบคุมของตัวเองโดยสิ้นเชิงทั้ง " ราชการในพระองค์ " และ " ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์  ทุกอย่างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์หลุดลอยออกจากฝ่ายบริหารนิติบัญญัติโดยสิ้นเชิง  " ยิ่งไปกว่านั้นกษัตริย์ใหม่ยังมีอภิสิทธิ์อันมหาศาลเหนือสังคมไทยทุกอย่าง ทั้งทางกฏหมาย และการเมืองทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมสังคม
สรุปแล้วกษัตริย์ ใหม่ มี อำนาจครอบคุมสังคมไทยทุกอย่างและใช้อำนาจนั้นอย่างไม่มีขอบเขต ไม่รับผิดชอบไม่เกรงอกเกรงใจประชาชนชาวไทยทั้งประเทศที่เลี้ยงดูราชวงค์นี้มาจนทุกวันนี้ ขูดรีดกดขี่ข่มเห็ง รังแกประชาชน เอารัดเอาเปรียบสังคม เหี้ยมโหด  รุณแรงอย่างไร้มนุษยธรรมมากยิ่งขึ้นไปกว่ายุคของภูมิพล
ม. 112  และ ม. 44ใช้ เป็นกฏหมายครอบจักรวาฬที่รัฐบาลของกษัตริย์จะใช้อย่างไรกับใครก็ได้ " ตามพระราชอัชญาศัย " 
ใช้อำนาจมืดกำจัดได้กับทุกคนที่ไม่พอใจไม่เว้นแม้แต่ลูกเมียและคนใกล้ชิดที่รับใช้และควบคุมอำนาจรัฐโดยผ่านรัฐบาล ค.ส.ช.ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นประยุทธ์จึงเป็นเพียงหุ่นหรือสุนัขรับใช้ของกษัตริย์ที่ทำตามคำสั่งของกษัตริย์เหมือนเด็กว่านอนสอนง่ายทุกอย่าง ซึ่งกษัตริย์เองไม่ต้องอยู่ในประเทศนั่งสั่งงานจากเมืองมิวนิคประเทศเยอรมัน
ประยุทธ์ก็จะไปนั่งหมอบกราบต่อหน้ารูปของกษัตริย์เพื่อรับคำสั่งตามความประสงค์ของกษัตริย์  รัฐบาล คสช.จึงเป็นเพียงนอร์มินีของกษัตริย์ใหม่มีหน้าที่อย่างเดียวคือปล้นประเทศชาติปล้นประชาชนในรูปแบบต่างๆกันเพื่อหาเงินให้แก่ตัวเองและเพื่อไปถวายกษัตริย์มหาเพลย์บอยที่กำลังมัวเมาหลงระเริงในอำนาจเสพสุขและมีชีวิตฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมกับบรรดานางสนมนางบำเรอทั้งหลายแหล่ที่เขาตั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ให้เป็นนายร้อย นายพัน นายพลอยู่ในเวลานี้ พวก " ข้าราชการในพระองค์ " ที่กินเงินเดีอนจากภาษีประชาชนปีหนึ่งเป็นหมื่นกว่าล้านบาทโดยที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้แก่ประเทศชาติและประชาชนแต่อย่างใดเลย
ส่วนประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศไม่มีอำนาจตรวจสอบหรือออกความเห็นคัดค้านใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่กษัตริย์เองและรัฐบาล คสช.ก็กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนปีละหลายหมื่นล้านบาท เราจึงเรียกระบอบการปกครองแบบนี้ว่าเป็น " การปกครองระบอบกษัตริย์เผด็จการ " ( King Dictatorship System ) ไม่ใช่ "การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุข " อย่างพวกนักวิชาการรับจ้างทั้งหลายเรียกเพื่อต้องการเอาใจกษัตริย์

ปัจจัยการผลิตของสังคม ( Means of Production )
การปกครองระบอบกษัตริย์เผด็จการ กษัตริย์เป็นผู้ถือครองปัจจัยการผลิตส่วนมากของสังคมหรือเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต (  Means of Production ) ซึ่งหมายถึงสื่งที่มนุษย์ใช้ผลิตวัตถุที่มีคุณค่าแก่มนุษย์ในการดำรงชีพและในการพัฒนาสังคม ปัจจัยการผลิตได้แก่ ที่ดิน แหล่งแร่ แหล่งน้ำ เครื่องมือการผลิต ( Instruments of Production ) การธนาคารและเครดิต การค้าและการคมนาคม โรงงานวิสาหกิจ โรงงานปูนชิเมนต์ กิจการโรงแรม ฯลฯ ซึ่งในตำราเศรษฐกิจวิทยาสมัยอาดัมสมิธเรียกว่า  " Constant Capital " ในตำราเศรษฐกิจสมัยใหม่เรียกว่า " ทุนของสังคม " ( Social Capital )
จากการประเมินของสำนักงานประเมินทรัพย์สิน ฟอบส์ ( Fobes ) ประเมินเมื่อปี 2559 ว่าทรัพย์สินส่วนตัวของกษัตริย์ภูมิพลมีมูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นกษัตริย์ที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลก
เมื่อกษัตริย์เป็นเจ้าของทุนส่วนมากของสังคม และเป็นเจ้าของระบอบเศรษฐกิจผูกขาดที่เป็นพื้นฐานของสังคม ภูมิพล จึงกลายมาเป็นนายทุนสามานย์ผูกขาดที่ใหญ่ที่สุดในสังคม ระบอบเศรษฐกิจแบบนี้จึงเรียกว่า " ระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมผูกขาด " ( Capitalist Monopoly System) เพื่อหลอกลวงตาชาวไทยและชาวโลกพวกนักวิชาการกากเดนศักดินาได้ให้นิยามระบอบเศรษฐกิจแบบนี้ว่า"เศรษฐกิจพอเพียง "
ทุนของสังคมส่วนใหญ่ไปรวมศูนย์อยู่ภายใต้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้บริหารและจัดการ เป็นองค์กรอิสระไม่ขึ้นกับรัฐ รัฐไม่สามารถตรวจสอบได้และได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
เมื่อลูกชายภูมิพล ร. 10 ขึ้นครองราชย์ก็ได้โอนสำนักงานนี้มาเป็นของส่วนตัวโดยสิ้นเชิง  เป็นการปล้นทรัพย์สมบัติอันมหาศาลของชาติของแผ่นดินอย่างเลวทรามและเห็นแก่ตัวที่สุดของกษัตริย์ใหม่ ( ดูประกอบจากบทความ อ.สมศักดิ์  เจียมธีรสกุลอำนาจและสมบัติอยู่ในมือกูคนเดียว ชัดๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป : มาแล้วครับ พรบ.ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับใหม่ )

โครงสร้างส่วนบนของสังคม
โครงสร้างส่วนบนของสังคมได้แก่ รัฐ ศาล กฏหมาย การเมือง ศาสนา วัฒนธรรมและอุดมการณ์ รวมไปถึงสื่อสารมวลชน  เจ้าของปัจจัยการผลิตจะสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องรักษา "ระบอบเศรษฐกิจศักดินา " ที่เป็นพี้นฐานชั้นล่างของสังคม เหมือนกับบ้านจะต้องมีหลังคาซึ่งสอดคล้องกับหลักปรัชญาที่ว่า " รูปแบบต้องให้เหมาะสมกับเนิ้อหา "  ดังนั้นในระบอบกษัตริย์เผด็จการองค์คาพยพที่เป็นโครงสร้างส่วนบนของสังคมจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกปักรักษาระบอบเศรษฐกิจนี้เอาไว้  กษัตริย์มีอำนาจเหนือสังคมทุกอย่าง เหนือ รัฐ เหนือศาล เหนือกฏหมายเป็นจอมทัพของสามเหล่าทัพมีอำนาจแต่งตั้งทหาร ตำรวจข้าราชการได้ทุกระดับ เขาจึงสั่งให้ทหารยึดอำนาจรัฐได้ทุกครั้งที่เขาต้องการเพื่อรักษาผลประโยชน์และระบอบเศรษฐกิจของเขา ทหารจึงเป็นเพียงเครื่องมือของกษัตริย์ที่ใช้ให้กุมอำนาจรัฐเพื่อกดขี่ขูดรีดเอากับประชาชน เหมือนพลเอก ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐบาล คสช.ทำอยู่ในเวลานี้ที่ได้รับมอบหมาย ม. 44 จากกษัตริย์ทำหน้าที่แทนกษัตริย์ได้ทุกอย่างกับประชาชนไทยทุกคนในประเทศนี้แม้แต่สั่งยึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร นี่คือธาตุแท้ของระบอบกษัตริย์เผด็จการ

พลังการผลิตของสังคม ( Productive Forces ) ซึ่งประกอบไปด้วย " เครื่องมือการผลิต " ( Instruments of Production ) คือพื้นฐานชั้นล่างทางเศรษฐกิจ
ได้แก่ ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน กรรมกรผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ค้า ที่เป็นผู้ผลิตเลี้ยงสังคม และเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ ประชาชนที่เป็นผู้ผลิตเลี้ยงสังคมเหล่านี้นอกจากจะไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากรัฐในเรื่องค่าแรง และสวัสดิการต่างๆแล้ว รัฐยังกดขี่ ขูดรีด ข่มเหงรังแก รีดไถ คตโกง เอารัดเอาเปรียบประชาชนฝ่ายที่เป็นพลังการผลิตทุกอย่างอย่างไร้ความเป็นธรรม ไม่มีสิทธิเสรีภาพ ไม่มีความเสมอภาคและประชาธิปไตย รัฐใช้อำนาจบังคับไม่ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้แม้แต่ในวงการสงฆ์ โดยใช้ ม. 44 และ ม. 112  เป็นเครื่องมือในการปราบปรามประชาชน ประชาชนได้รับการดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นไพร่ เป็นฝุ่นใต้ขี้ตีนของกษัตริย์
ชนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังการผลิตของสังคม ( Productive Forces ) นอกจากจะผลิตเลี้ยงตัวเองและครอบครัวแล้วยังผลิตเลี้ยงกษัตริย์และครอบครัวพร้อมนางบำเรอทั้งหลายแหล่อีกด้วย ต้องส่งส่วยเป็นเงินปีละหลายหมื่นล้านบาท โดยที่กษัตริย์เองและครอบครัวไม่ต้องทำการผลิตอะไรนอกจากนอนอาศัยกินแรงงานของประชาชนที่เป็นฝ่ายผลิตเลี้ยงดูแบบเสือนอนกิน เราจึงเรียกพวกนี้ว่า " พวกกาฝากสังคม "
กาฝากสังคมเหล่านี้มีชีวิตเสพสุข อยู่อย่างฟุ้งเฟ้อทำตัว เป็นอภิสิทธ์ชน มีอำนาจเหนือสังคมเหนือกฏหมายทุกอย่าง มีวิธีเสพสุขแบบพิสดารเหมือนทากหรือปลิงที่สืบพันธ์กันเองและมีชีวิตอยู่ด้วยการดูดกินเลือดของคนไทยทั้งประเทศ
วชิราลงกรณ์เองมีฮาเรมส่วนตัวอยู่ที่เมืองมิวนิคประเทศเยอรมันนี มีนางบำเรอมากมายที่เขาสามารถแต่งตั้งให้เป็นยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรก็ได้ มีวังหลายแห่ง บางแห่งก็ทำเป็นคุกส่วนตัว  มีเครื่องบินส่วนตัวใหม่เอี่ยม 2 - 3 ลำ สำหรับไว้ขี่เล่นในต่างประเทศ ทำตัวเป็นกุ้ยเสเพลอย่างไรก็ได้ซึ่งไม่มีกษัตริย์ในโลกที่ไหนเขาทำกัน
ตามหลักทฤษฏีที่ว่าในสังคมใดที่ความสัมพันธ์การผลิต ( Production Relation ) คือผู้ถือครองปัจจัยการผลิตกับกำลังการผลิตสอดคล้องต้องกันสังคมนั้นก็จะพัฒนาก้าวหน้า แต่ถ้าสังคมใดที่เจ้าของปัจจัยการผลิตกับกำลังการผลิตไม่สอดคล้องกันสังคมนั้นก็จะเกิดการขัดแย้งกันขึ้นเมี่อความขัดแย้งนี้ถึงขั้นรุนแรงที่สุดก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมใหม่ที่ดีกว่าซึ่งเป็นไปตามกฏเกณฑ์วิวัฒนาการของมนุษย์ชาตื ตามที่ Dr. Karl Marx ได้ค้นพบในวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ จากระบอบสังคมปฐมการ สู่สังคมทาส สังคมศักดินา สังคมทุนนิยม และสังคมนิยม
จากสภาพการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสังคมแบบนี้เมื่อความสัมพันธ์การผลิต   คือผู้ถือครองปัจจัยการผลิตของสังคมไทย  ได้แก่ ฝ่ายกษัตริย์   กับฝ่ายที่เป็นพลังการผลิตของสังคม ที่กำลังเกิดการขัดแย้งกันอยู่ในเวลานี้  เนี่องจากฝ่ายเจ้าของปัจจัยการผลิตขัดขวางพลังการผลิตไม่ให้เจริญพัฒนาก้าวหน้า ทำให้เศรษฐกิจหล้าหลัง ประชาชนที่เป็นพลังการผลิตถูกกดขี่ขูดรีดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เมื่อมนุษย์ในสังคมได้รับการกดขี่ได้รับความเดือดร้อนก็จะเป็นไปตามทฤษฏีที่ว่า
 " ความเป็นอยู่ปากท้องของมนุษย์เป็นเครื่องกำหนดจิตสำนึกของมนุษย์ "  คือเมื่อชนชั้นที่เป็นพลังการผลิตมีจิตสำนึกที่รู้ตัวว่าถูกกดขี่เบียดเบียน ทำให้เกิดหูตาสว่างตื่นตัว ก็จะเป็นพลังหลักขับเคลื่อนรวมตัวกันลุกขึ้นต่อสู้โค่นล้มระบอบกษัตริย์เผด็จการที่ป่าเถื่อนนั้นลงได้ 
อำนาจทุกอย่างก็จะเป็นของประชาชนและประชาชนจะเป็นผู้ใช้อำนาจนั้นทั้งทาง นิติบัญญัติ บริหาร และ ตุลาการ ประชาชนก็จะมีสิทธิ เสรีภาพ มีประชาธิปไตย เป็นเจ้าของประเทศ ไม่ต้องเสียค่าส่งส่วยให้แก่กษัตริย์บ้ากามและครอบครัวปีละหลายหมื่นล้านบาท ประชาชนทั้งประเทศก็จะได้รับการปลดปล่อยตนเองออกจากสังคมทาสภายใต้ ม. 112 และ ม. 44 ของระบอบเผด็จการกษัตริย์ที่จองจำเรามาเป็นเวลา 80 กว่าปีแล้ว  ประชาชนก็จะมีความสุขไปชั่วลูกชั่วหลานนี่คือการทำบุญอันยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนไทยทั้งประเทศร่วมกัน

กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติ และ เป็นอาชญากรรมนิรันดร

กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติ และ เป็นอาชญากรรมนิรันดร

กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติ และ เป็นอาชญากรรมนิรันดร

 


#เผด็จการเพื่อประเทศชาติ คือ #คำพูดภูมิพล

พระราชดำรัส สุดอเมซิ่งของภูมิพล พูดไว้เมื่อ 14 ธันวา 2519 

ขี้ข้าจึงนำมาพูดซ้ำในวันที่ 29 ธันวา 2557

"อีกด้านหนึ่งยากที่จะพูดเหมือนกัน แต่ว่าต้องพูด ว่ามีบทบาททางการเมือง 
มิใช่ว่าทหารจะต้องไปเล่นการเมือง แต่หากว่าการเมืองมาเล่นทหาร 
และเห็นได้ชัด อันนี้ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับท่านทั้งหลายที่เป็นนายพล
เช่น หนังสือพิมพต่างประเทศเขียนไว้และเจาะจงว่า 
นายพลไทยยึดอำนาจ นายพลไทยเป็นเผด็จการ ซึ่งถ้่าเป็นเช่นนั้นจริง
ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของท่านนายพลไทยไม่ใช่น้อย เพราะว่าถ้า #เผด็จการก็ต้องเผด็จให้ดี #เพราะว่านายพลไทยและทหารไทยทั้งหลาย ไม่เคยเผด็จการ
เพื่อให้เป็นเผด็จการแบบฝรั่ง #พยายามที่จะทำเพื่อประเทศชาติ"

พระราชดำรัส พระราชทานในพิธีประดับยศนายทหารชั้นนายพล 
ณ พระที่นั่งบรมพิมาน วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2519

http://www.openbase.in.th/files/14122519.pdf

// Nadier


 

Saint-Just อธิบายว่า กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและโดยตัวของมันเอง เราไม่ต้องพิจารณาเลยว่าการกระทำของกษัตริย์หรือการบริหารราชการแผ่นดินของ กษัตริย์มีความผิดทางอาญาหรือไม่ ....... คัดมาจากบทความตอนหนึ่งของการเสวนาของคณะนิติราษฎร์ เมื่อ ๓๐ กย. ๒๕๕๕ ( จากการอธิบาย ของ Saint - just เราก็สามารถสรูปได้ว่า ภูมิพลก็คือ " ทรราชและ อาชญากรรมนิรันดร " ต่อประชาชนเพราะปล้นอำนาจมาจากปวงชนชาวไทย )


วิจารณ์ลักษณะที่สอง  ในสังคมการเมือง อำนาจเป็นของประชาชนเสมอ เพียงแต่ว่ายุคใดสมัยใด อำนาจนั้นจะถูก “แย่งชิง” ไปหรือไม่ หรือประชาชนจะมอบอำนาจนั้นให้แก่ใคร ดังนั้น หากจะย้อนกลับไปหาความเป็นเจ้าของอำนาจ ในท้ายที่สุดก็จะเจอประชาชนในฐานะเจ้าของอยู่ดี การอ้างว่ากษัตริย์เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นผู้ปกครอง มาตั้งแต่นมนาน ในสังคมการเมืองหนึ่งอาจไม่เคยขาดซึ่งสถาบันกษัตริย์เลย นั่นอาจเป็นการอ้างตามประวัติศาสตร์ของพวกราชาชาตินิยม ประวัติศาสตร์ของเจ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นโค้ดของเรา Saint-Just อธิบายว่า กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติและโดยตัวของมันเอง เราไม่ต้องพิจารณาเลยว่าการกระทำของกษัตริย์หรือการบริหารราชการแผ่นดินของ กษัตริย์มีความผิดทางอาญาหรือไม่ ถ้ากษัตริย์เป็นทรราช นั่นไม่ใช่เพราะความผิดจากการบริหารราชการแผ่นดินของเขา แต่เขาเป็นทรราชก็ด้วยลักษณะของความเป็นกษัตริย์นั่นแหละ Saint-Just เสนออย่างชาญฉลาดว่า การที่กษัตริย์ยึดครองอำนาจสูงสุดของประชาชนไปใช้เอง นั่นแสดงให้เห็นว่าลักษณะของความเป็นกษัตริย์เป็นอาชญากรรมนิรันดร (crime éternel) ต่อประชาชน มนุษย์จึงย่อมมีสิทธิสัมบูรณ์ในการลุกขึ้นสู้และติดอาวุธ   Saint-Just อธิบายว่า ไม่มีใครสามารถครองราชย์ได้อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะ กษัตริย์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นกบฏและเป็นผู้แย่งชิง (usurpateur) อำนาจของประชาชนไป
 

หรือในประกาศคณะราษฎร “ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่าประเทศของเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศมีอิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิบ และกวาดรวบทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎร เพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง”
หากพิจารณาตามแนวทางนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนหรือไม่ เพราะ อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเสมอ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตลอดกาล เพียงแต่ว่าบางช่วงบางตอน ถูก “ฉกฉวยแย่งชิงขโมย” ไป และสักวันหนึ่ง ประชาชนก็เอากลับคืนมาจนได้



 


กษัตริย์นั้นเป็นทรราชโดยธรรมชาติ และ เป็นอาชญากรรมนิรันดร

เชิญชมภาพตัวจริงของกษัตริย์ไทย !!!

เชิญชมภาพตัวจริงของกษัตริย์ไทย !!! วันนี้เขาบังคับให้คนไทยไปกราบแม่เขา !!


เชิญชมภาพตัวจริงของกษัตริย์ไทย !!!

กระทู้รวมมิตร: รวมคลิปและภาพถ่าย ที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ไม่อยากให้คนไทยดู (แต่คนดูกันไปทั่วโลกแล้ว)





Somsak Jeamteerasakul added 11 photos and a video.
กระทู้รวมมิตร: รวมคลิปและภาพถ่าย ที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ไม่อยากให้คนไทยดู (แต่คนดูกันไปทั่วโลกแล้ว)

กระทู้รวมมิตร: รวมคลิปและภาพถ่าย ที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ห้ามคนไทยดู (แต่คนดูกันไปทั่วโลกแล้ว)*
ความจริง ถ้าใครจำได้นะ ตอนที่ผมโพสต์คลิปวิดีโอ "เดินกินไอติมกับคุณก้อย" เมื่อวันที่ 12 เมษา ผมเขียนว่า "จริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรนะ คือภาพนิ่งที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็ครอบคลุมส่วนใหญ่ที่มีในคลิปนี้แล้ว...." (กระทู้นี้ https://goo.gl/TvGiZd ซึ่งถูกเฟซบุ๊คบล็อกในเมืองไทยตามหมายศาล ขณะนี้ มียอดวิวราว 486,000 และยังมีคนที่ได้ดูจากการโพสต์ของคนอื่นๆในที่อื่นๆอีกมาก) และเมื่อทางการไทยเอาหมายศาลไปขอให้เฟซบุ๊คบล็อก ผมก็เขียนว่า มีคนแนะนำให้ผมโพสต์ซ้ำ เพื่อทำความยุ่งยากให้ทางการไทย ต้องไปขอหมายศาลมาบล็อกใหม่ (หมายศาลต้องขอเป็นแต่ละ url) ซึ่งผมก็บอกว่า ขี้เกียจทำ ไม่อยากให้ตำรวจและศาลซึ่งยังไงก็กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ต้องสิ้นเปลืองเวลา ใครในเมืองไทยยังอยากดู ก็คงดูได้ไม่ยากอยู่แล้ว (ดูกระทู้นั้นที่นี่ https://goo.gl/HHAxjf)
แต่นี่ผมเห็นทางการไทย โดยคำสั่งกษัตริย์ ยังบ้าไม่เลิก ขนาดล่าสุด ขู่ว่า แค่ดูเฉยๆ ไม่ไลค์ ไม่คอมเม้นท์ ไม่แชร์อะไรเลย ก็อาจมีความผิด (ดูกระทู้ก่อน https://goo.gl/7rZO7q)
ผมเลยขอ "จัดให้" เสียเลย เอาคลิปและบรรดาภาพต่างๆ โพสต์รวมทั้งหมดให้ดูในที่นี้ (ซึ่งล้วนแต่ถ่ายในที่สาธารณะทั้งสิ้น ภาพประเภทถ่ายในที่รโหฐาน - ซึ่งผมก็มีอยู่ ไม่ใช่ไม่มี เช่นภาพท็อปเลสในสระน้ำ หรือภาพ "ถือไป๊ป์" - ผมไม่โพสต์เอง)
นอกจากคลิปและภาพ ซึ่งมาจากต่างประเทศ (จากคุณ Andrew และ Bild) แล้ว ผมแถมภาพชุด "คุณก้อย" ไปไหว้พระรูปทรงม้า ไม่นานก่อน "หมุดคณะราษฎร" จะถูกขโมยไป และแทนที่ด้วย "หมุดหน้าใส" ตามคำสั่งกษัตริย์ด้วย - ภาพชุดนี้ ตอนโพสต์ ก็โดนทางการไทยบล็อกเช่นกัน
เอ้า รีบไปขอหมายศาล ส่งให้เฟซบุ๊คเร็วครับ
.................
* วันก่อน "มิตรสหายท่านหนึ่ง" เล่าเรื่องขำๆให้ฟังว่า เขาไปประชุมทางวิชาการแห่งหนึ่งในต่างประเทศ มีพวกนักศึกษาชาติต่างๆมากันมากมาย เจอนักศึกษาอินเดียคนหนึ่งซึงเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ปรากฏว่า หมอนั่นมาทักเขา เรื่องคลิปและภาพชุดนี้ ถามว่า "Is he on drugs?" ("เขาติดยาหรือเปล่าน่ะ?" - หมายถึงจัสตินน่ะ) 555 แสดงว่าโด่งดังไปทั่วโลกจริงๆ
** จนป่านนี้ ยังมีคนพยายามบอกว่า ภาพและคลิปทั้งหมดนี้ "ตัดต่อ" หุหุ ง่ายๆเลยนะครับ ถ้าภาพพวกนี้ตัดต่อ สถานทูตไทยสามารถฟ้องสื่อเยอรมันและสื่ออื่นในต่างประเทศ เรียกค่าเสียหายหลายสิบล้านได้เลยครับ แต่พนันเท่าไรก็ได้ว่า ไม่กล้าทำ เพราะรู้ดีว่าเป็นภาพจริงทั้งนั้น
ที่ขำหน่อยคือ มีคนไปคอมเม้นท์ที่กระทู้ของ "นักแต่งเพลงท่านนั้น" (เรื่องได้สาส์นหวานซึ้งน่ะ) ดังนี้
"เห็นก็รู้ว่าภาพตัดต่อทุเรศ...ภาพของผู้หญิงก็หุ่นกะเทยชัดๆ..."
ผมอ่านแล้ว "ฉุนกึก" ขึ้นมาเลยนะเนี่ย พูดจริงๆ มาว่า "คุณก้อย" ได้ไง หุ่นเธอออกจะเซ็กซี่ (ผมยังชอบดูเลย แฮ่) แหม เดี๋ยวโดนเรียกมาตบหรอก

ปรัชญาในการต่อสู้กับระบอบกษัตริย์เผด็จการ

ปรัชญาในการต่อสู้กับระบอบกษัตริย์เผด็จการ


โดย ไชยอุดม.
12 ก.ค. 18

การต่อสู้กับระบอบกษัตริย์เผด็จการอันเหี้ยมโหดและป่าเถื่อนภายใต้กษัตริย์ทรราชย์คนปัจจุบันที่ใช้อำนาจทุกอย่างครอบงำสังคมไทยในเวลานี้ 
ก่อนอึ่นเราต้องเริ่มจากแนวความคิดหรือทำความเข้าใจในด้านปรัชญาเสียก่อนว่าความหมายของปรัชญานั้นคืออะไร...

ปรัชญาความหมายง่ายๆคือ โลกทัศน์ โลกทัศน์คือทัศนะของการมองโลก ว่าโลกนี้คืออะไร โลกนี้ก็คือวัตถุที่ดำรงคงอยู่ตามธรรมชาติ มีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา  การให้คำจำกัด
ความสั้นๆของโลกเช่นนี้เป็นการมองโลกแบบวัตถุนิยมที่เป็นจริงคือโลกนี้เกิดขึ้นมาเองและดำรงคงอยู่ตามธรรมชาติไม่มีใครสร้างขึ้น  โลกนี้เป็นสสารหรือวัตถุที่จับต้องสัมผัสได้ 

แต่ยังมีแนวความคิดอีกแนวหนึ่งที่เชื่อว่าโลกนี้พระเจ้าเป็นผู้สร้างขึ้นมา ซึ่งแนวคิดแบบนี้มีความเชื่อว่า มีพระเจ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ดลบันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของพระเจ้าแม้แต่มนุษย์ที่เกิดมาตลอดจนสัตว์สาวาสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนดทั้งนั้น แนวความคิดแบบนี้คือแนวความคิดแบบจิตนิยม เป็นแนวคิดแบบเพ้อฝันไม่มีกฏเกณท์ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ผิดหลักของธรรมชาติ

ปรัชญาหรือทัศนะในการมองโลกก็มีสองแนวคิดนี้เองที่กำลังต่อสู้กันอยู่ในโลกของสังคมนุษย์ชาติในเวลานี้ คือแนวความคิดแบบวัตถุนิยมและแนวความคิดแบบจิตนิยม

สมัยก่อนมนุษย์เรายังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ต่างๆของธรรมชาติ ไม่สามารถอธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในจักรภพนี้ได้   จึงเชื่อเอาอย่างงมงายว่าธรรมชาติและสรรพสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ล้วนมีสิ่งบันดาลมาจากเบื้องบนเพื่อให้เป็นไปเช่นนั้น  ซึ่งอำนาจจากเบื้องบนนั้นเชื่อกันว่าเป็นอำนาจของพระเจ้า  หรืออำนาจของพวกเทวาอารักษ์  พวกเจ้าโคตรเจ้าตระกูลทั้งหลาย  ผู้ที่เป็นหัวหน้าสังคมที่ถูกเลือกขึ้นในยุคของสังคมบุพกาลเพื่อให้เป็นตัวแทนในการทำพิธีทางไสยศาสตร์นั้น   ต่อมาก็ได้ตั้งตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์  หรือจักรพรรดิ์ ปกครองอยู่ตามดินแดนหรือในแค้วนต่างๆ  บุคคล เหล่านี้ได้ตั้งตนเองขี้นเป็นตัวแทนของพระเจ้า  อ้างว่าพระเจ้าส่งตนลงมาจุติในโลกมนุษย์ หรือเป็นตัวแทนมาจากเบื้องบน ที่สวรรค์ส่งลงมาเพื่อโปรดมนุษย์ และอ้างว่าได้รับอำนาจมาจากสรวงสวรรค์ให้มาปกครองมนุษย์  เช่นจีนในสมัยโบราณมีความเชื่อกันว่าจักรพรรดิ์เป็นโอรสของพระเจ้าส่งลงมาจากสวรรค์  ประเทศญี่ปุ่นสมัยเก่าก็เชื่อกันว่าจักรพรรดิ์เป็นโอรสของพระอาทิตย์มาเกิดเป็นต้น

ความเชื่อเช่นนี้คือต้นเหตุของแนวความคิดที่ทำให้กษัตริย์หรือจักรพรรดิ์ในประเทศต่างๆคิดเอาเองว่า  สรรพสิ่งทั้งหลายทุกอย่างในโลกนี้เช่น ที่ดิน  คนและสัตว์เป็นสมบัติของตนทั้งหมด  
ในประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยายังปรากฏในกฏหมาย  “ ตราสามดวง“ว่า  “ ที่ดินทั้งหลายในแคว้นศรีอยุธยาเป็นของพระเจ้าอยู่หัวโดยพระบรมเดชานุภาพ “  ระบอบศักดินา จึงเกิดขึ้น  อำนาจการปกครองทุกอย่างอยู่ในมือของผู้เป็นหัวหน้าของสังคมแต่ผู้เดียว 
กษัตริย์ หรือจักรพรรดิ์ สามารถใช้อำนาจได้โดยไม่จำกัดขอบเขต  อำนาจเผด็จการโดยสมบูรณ์ของกษัตริย์ก็เกิดขึ้น   ต่อมากษัตริย์ หรือจักรพรรดิ์ ยังได้ตราเป็นกฏหมายขึ้นอีกว่า เมื่อตัวเองตายลงก็ให้ลูกหรือญาติที่สนิทของตนรับช่วงเป็นผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลปกครองประเทศสืบต่อไป เป็นการสืบทอดราชสันติวงค์ต่อไปอีกเป็นทอดๆ ดังที่เห็นกันอยู่ในสังคมไทยในเวลานี้

สำหรับในต่างประเทศที่เจริญแล้วระบอบกษัตริย์ได้ถูกโค่นล้มลงไปหมดแล้ว เช่น จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมันนี เวียตนาม ลาว พม่า หรือ เมียนม่า ฟีลแลนด์  ฯลฯ เป็นต้น ส่วนประเทศที่มีประชาธิปไตยที่ยังมีระบอบกษัตริย์เหลืออยู่กษัตริย์เหล่านั้้นก็อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ   โดยอำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนและปวงชนเป็นผู้ใชัอำนาจนั้นปกครองประเทศ เช่น เบลเยี่ยม อังกฤษ สวีเด็น นอรเวย์ เด็นมารค์
สำหรับประเทศไทยกษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ อำนาจทุกอย่างรวมศูนย์อยู่ที่กษัตริย์วชิราลงกรณ์แต่ผู้เดียว ดังนั้นวชิราลงกรณ์คือกษัตริย์เผด็จการ ไม่มีคุณงามความดีอะไรที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองประเทศ ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน

เพื่อความอยู่รอดเขาจึงดิ้นรนทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง ด้วยการมอมเมาโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ โดยอาศัยสื่อสารมวลชนและเครือข่ายต่างๆของรัฐที่เขามีอำนาจครอบงำอยู่ในเมืองไทยโหมโฆษณาสร้างภาพด้านเดียวเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจากความเลวทรามของตัวเองให้ประชาชนสนใจไปทางอื่นเช่นการสร้างภาพเด็ก 13 คนติดในถ้ำหลวง เป็นการก่อกระแสอย่างใหญ่โตที่เกินกว่าเหตุกระจายข่าวไปทั่วโลก   พวกเจ้าพยายามสร้างภาพให้กับตนเองว่าเขาคือพระเจ้าที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ธรรมดา   เป็นบุคคลพิเศษที่จะใช้อำนาจทำอะไรกับใครก็ได้แม้แต่กับลูกเมียตัวเอง

ซึ่งวิธีการหรือแนวความคิดแบบนี้  เป็นหลักวิธีคิดแบบจิตนิยมที่มีมาจากสังคมของระบบทาส   โดยเอาจิตของตนไปกำหนดเอากับวัตถุหรือสิ่งของอื่นตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงหลักความเป็นจริง เพราะความเป็นจริงนั้นคือ มนุษย์ในโลกนี้เกิดมาเหมือนกันหมดต่างกันเพียงแต่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายแต่เนื้อหาหรือธาตุแท้ของมันก็คือมนุษย์ธรรมดา เป็นวัตถุหรือสสารที่เคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงได้   มนุษย์เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติไม่ใช่พระเจ้าเป็นผู้สร้างมา สิ่งแวดล้อมและสภาพการเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งกำหนดความคิดของมนุษย์  ไม่ใช่เทวดาหรือเทวาอาลักษ์ที่ใหนอย่างที่พวกเจ้าเขาคิดหรือสร้างภาพให้คนเชื่อ  แนวความคิดของพวกเจ้าคือแนวความคิดแบบจิตนิยม  โดยสร้างภาพสมมุติตนเองเป็นเทวดาให้คนเคารพกราบไหว้บูชา   ทำตัวเป็นตัวแทนของพระเจ้า เพื่อตัวเองจะได้ปกครองคนอื่นได้

ดังนั้นกษัตริย์และครอบครัวของเขาจึงไม่ใช่พวกเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร การใช้ศรรพนามเรียกบุคคลเหล่านั้นว่า "พระเทพฯ ฟ้าหญิง  ฟ้าชาย" เป็นเพียงการสร้างภาพให้แก่พวกเขาเองเป็นการสมมุติให้ดูว่าพวกเขาเป็นคนพิเศษเท่านั้น   ถ้าเราไม่เอาจิตไปกำหนดโดยคิดไปเอง หรือเชื่ออย่างงมงายว่าพวกคนเหล่านั้นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว  พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเพียงคนปกติธรรมดาและไม่มีอะไรเกิดขึ้น    ทุกอย่างอยู่ที่จิตของเรา ธาตุแท้ของมนุษย์ก็คือวัตถุหรือสสารที่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้ มีการเกิด การพัฒนา และดับสูญไปตามกฏของธรรมชาติเท่านั้น

เราอย่าเอาจิตไปกำหนดวัตถุโดยคิดไปเองตามการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าโลกนี้คือวัตถุเราก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้   เช่นถ้าเราต้องการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเราก็ต้องศึกษาหรือค้นขว้าหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแม่น้ำเสียก่อนจึงลงมือสร้างไม่ใช่เอาจิตไปกำหนดหรือคิดไปเองให้เกิดสะพานขึ้นมา ถ้าเราต้องการเปลี่ยนสังคมเราก็ต้องศึกษาให้เข้าใจสังคมนั้นเสียก่อนว่าเป็นสังคมอะไร เช่นสังคมไทยเป็นสังคมกษัตริย์เผด็จการ ถ้าเราต้องการเปลี่ยนให้เป็นสังคมประชาธิปไตยก็ต้องโค่นล้มระบอบกษัตริย์เผด็จการนั้นลงแล้วสร้างระบอบประชาธิปไตยขึ้นมาแทนซึ่งนี้คือหลักความจริงตามธรรมชาติที่มนุษย์เรามีสิทธิ์จะกระทำได้ซึ่งในหลายประเทศได้ทำสำเร็จมาแล้ว

ดังนั้นทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองเราต้องปลดปล่อยตัวเราเองก่อนโดยเริ่มจากแนวความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์มองโลกจากหลักของความเป็นจริงตามหลักของธรรมชาติ มีสติเริ่มต้นจากจิตของเราว่าเราจะสู้หรือไม่สู้ถ้าเราตัดสินใจจะสู้ก็ต้องศึกษาค้นหาวิธีการต่อสู้ และต้องรู้ว่าสู้กับใคร ใครคือศัตรูใครคือมิตร  อย่าลืมว่าประชาชนที่ถูกกดขี่เป็นพลังส่วนมากของสังคมถ้าเราตัดสินใจได้และพร้อมใจกันลุกขึ้นสู้โดยการปฏิเสธไม่ยอมรับระบอบกษัตริย์เผด็จการเท่านั้นพวกมันก็อยู่ไม่ได้.

การปล้นประเทศชาติของกษัตริย์ทรราช และการไช้ " ลัทธิจิตอาสา " แบบ ฟาสชิส เพื่อครอบงำและหลอกลวงคนไทย

กองทัพเดินด้วยเค้ก คลังยังกินขนมปัง ส่วน ‘ปลามัน’ "โน่นเฮียตู้บเค้า เอางบฯ กลาง ๔๗๑,๐๐๐ ล้านไว้ลงพื้นที่ตรวจน้ำลด ว่าจะมีตอผุดที่ไหนบ้าง"

อ้า มาแล้วเช็คเปล่าปี ๖๒ ให้ คสช.ถลุง ทั้งที่งบฯ สอง ป.(ป้อม-ป็อก) กลาโหมกับ มท.ไม่เพิ่ม ศึกษาและ คลังยังคงเดิม แอบไปเพิ่มของ ป.๑ ประเยด งบฯ กลาง พี่เค้าฟาดใกล้ๆ ๕ แสนล้าน
วานนี้ (๓๐ ส.ค.) ตอนบ่ายโมงครึ่ง ๒๐๖ สนช. ลิ่วล้อ คสช. ตีเช็คเปล่าให้นาย ๔๗๑,๐๐๐ ล้านบาท ไว้ซื้อทุเรียนกินกันปีหน้า เพราะคะแนนท่วมท้นไม่มีค้านไม่มีท้วงสักคน แค่ ๒ ไม่ออกเสียง จากงบประมาณปี ๒๕๖๒ ทั้งหมด ๒.๙ ล้านล้านกว่า
“ทั้งนี้มีสนช.สลับกันขึ้นมาอภิปรายแสดงความเห็นไม่ถึง ๕ คน” โดยเฉพาะนายธานี อ่อนละเอียด เป็นคนละเอียดมาก พ่อคุณ พ่อมหาจำเริญถามซอกแซกหลายเรื่อง แล้วมาลงเอยว่า “ตัดงบประมาณลงบางส่วน” ทำไม
(https://www.matichon.co.th/politics/news_1109243 และดูรายละเอียด ใครได้เค้ก ใครได้ปลามันที่ https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10160926033405551/?type=3&theater)
แย้มนิด กองทัพเดินด้วยเค้ก ๒๒๗,๐๐๐ ล้าน คลังยังคงกินขนมปัง ๒๔๒,๐๐๐ ล้าน ศึกษาเศร้าหน่อยลดไปสองพันล้าน แต่ก็ยังทำให้ สนช.ดูดีที่จัดให้มากที่สุดกว่าใคร ๔๘๗,๐๐๐ ล้าน ส่วน ปลามันโน่นเฮียตู้บเค้า เอางบฯ กลาง ๔๗๑,๐๐๐ ล้านไว้ลงพื้นที่ตรวจน้ำลด ว่าจะมีตอผุดที่ไหนบ้าง
อ้อ แล้วงบฯ กลาโหมยังคงทำสถิติขึ้นต่อเนื่อง ๕ ปี ไม่ให้เสียหน้าคณะยึดอำนาจ ถึงจะไม่ลด ไม่เปลี่ยนวงเงิน ก็อาจน้อยไปนิดที่ต้องเจียดให้ จิตอาสา ๙๐๔ไปใช้สอนวิชาจงรักภักดีตามมหาวิทยาลัย น่าจะได้ผลเพราะวิธีการสอนล้ำมาก
แบบที่ Pravit Rojanaphruk @PravitR เล่าไว้บนทวิตเตอร์ Aug 28 “บรรยายเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์​กับ​ประเทศ​ไทย​โดยหน่วยจิตอาสา​ 904​ ที่ธรรมศาสตร์มีการขอให้ผู้ฟังปิดตาขวาเพื่อรับรู้ว่า​ ร.9​ ทรงงานเช่นไร​ ตอนถามตอบไม่มีใครถาม”

torsdag 30 augusti 2018

สหพันธรัฐไท กับคุณป้าอินเตอร์ ตอน : ทำไมต้องไม่กลัว ...

สหพันธรัฐไท กับคุณป้าอินเตอร์ ตอน : ทำไมต้องไม่กลัว - YouTube


Video för ลุงสมชายป้าสมจิต ( 2018-08-30 )


https://www.youtube.com/watch?v=iZDc9eUggyI
för 6 timmar sedan - Överfört av sanamluang20082008
สหพันธรัฐไท กับคุณป้าอินเตอร์ ตอน : ทำไมต้องไม่กลัว ...

บีบีซีไทย - BBC Thai

เขาทำได้อย่างไร ทั้งที่โรงเรียนไทยไม่มีสอนวิชาปรัชญา

การแผ่ขยายอำนาจของประเทศจีนเข้าสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

บันทึกเกล็ดประวัติศาสตร์   
โดย เฝิงเจิ้ง
 

ในเวลาปัจจุบันการแผ่ขยายอำนาจของประเทศจีนเข้าสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์กำลังมองเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นในหมู่เกาะสแปรตลีย์ของเวียตนามตอนใต้  การส่งชาวจีนออกนอกประเทศ ไปอยู่ใน ลาว กำพูชา และในประเทศไทยในเวลานี้.. 
เป็นการขยายอำนาจของจีนตามนโยบายระยะยาวที่ทาง พรรคคอมมิวนิสต์จีน (พ.ค.จ.) ได้กำหนดเอาไว้ตั้งแต่ "เหมา เจอ ตง" ยังเป็นประธานของ พ.ค.จ. อยู่ ซึ่งในการเจรจากับคณะผู้แทน พรรคลาวดง (พรรคแรงงาน ) ของเวียตนามเมื่อปี ค.ศ. 1963 ที่ หวู่ฮั่น 
ประธาน เหมา เจอ ตง ได้พูดว่า " ข้าพเจ้าจะเป็นประธานของชาวนาจนในห้าร้อยล้านคน  "เพื่อยกพลเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงไต้ "  
ในโอกาศเดียวกันนั้น ประธาน เหมา เจอ ตง ได้เปรียบเทียบประเทศไทยกับจังหวัดเฉฉวนของจีนว่ามีพื้นที่เท่าๆกันแต่จำนวนประชากรของจังหวัดเฉฉวนมีมากกว่าของไทยสองเท่าตัว และพูดว่าจีนต้องการส่งคนเข้ามาอยู่ในประเทศไทยส่วนประเทศลาวนี้มีพื้นที่กว้างแต่ประชากรน้อย  จีนจะต้องส่งคนเข้าไปอยู่ในลาวอีกด้วย
ประธานเหมา เจอ ตง ยังคงยืนยันในที่ประชุม กรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน  เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1965 ว่า  เราต้องยึดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ซึ่งรวมทั้งเวียตนามใต้ ไทย พม่า มาเลเซีย และสิงคโปร์ ... 

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ มีสินแร่มากมาย... คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อยึดเอาไว้... หลังจากยึดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้ว เรายังสามารถเสริมสร้างพลังของเราในภูมิภาคนี้  เวลานั้นเราจะมีพลังเพียงพอ  เพื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มสหภาพโซเวียต และยุโรปตะวันออก " ลมตะวันออกจะพัดกลบลมตะวันตก."

(หมายเหตุ-ซึ่งตรงกับสถานการณ์ในเวลาปัจจุบัน " ทอมถ่าง"และ"ถั่วปากอ้า" ก็ทำทุกอย่างเพื่อสนองนโยบายของจีน  กำลังทำการขายประเทศไทยให้แก่จีน  โดยขนทองคำที่พระเจ้าชาร์ของอิหร่านฝากกับกษัตริย์ภูมิพล รวมทั้งสมบัติอันมีค่าของชาติไปฝากไว้ที่ประเทศจีน   อีกทั้งสร้างคฤหาสน์อันหรูหราคนละหลัง ที่พี่น้องทั้งสองเตรียมพร้อมเอาไว้เมื่อระบอบกษัตริย์ทรราชถูกโค่นล้มลง.)
......................................
จับโรงไม้แปรรูปสุรินทร์ เครือข่าย “มู่หลาน” ออกหมายจับ เบอร์ 1 ค้าพะยูงข้ามชาติ ร้ายกาจ เคยประกวด ไทยแลนด์ก็อตทาเล็นท์ ด้วย(คลิป) #ออกหมายจับ #ค้าไม้พะยูง #ไทยแลนด์ก็อตทาเล็นท์ #มติชนออนไลน์ #มติชนชีวิตคุณภาพ
วันที่ 30 สิงหาคม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป …

" ยุคสงครามเศรษฐกิจ "กองทัพไทย จะไปรบกับใคร???


สนช.ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 62 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท วาระ 2-3 ด้วยเสียง 206 ต่อ 0 ภายใน 3 ชั่วโมง งบกลาโหม ได้กว่า 2.2 แสนล้าน โดยตลอด 5 ปี ยุค คสช. ได้รับการจัดสรรไปแล้ว กว่า 9.3 แสนล้าน
https://prachatai.com/journal/2018/08/78504
“จัสติน ทรูโด” ส่งสัญญาณยอมเจรจาแก้ไขสนธิสัญญา NAFTA

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า แคนาดามีท่าทีเปลี่ยนใจยอมเจรจาเพื่อแก้ไขสนธิสัญญานาฟตา ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่าง ส.....
รอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของจีนแถลงว่านาย Shen Jinlong หัวหน้ากองทัพเรือจีน จะไปเยือนสหรัฐอเมริกาในเดือ.....
#prachachat #การเงิน
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที...
นายลี เซียน หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ออกมาเตือนว่า การเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภ....

(หมายเหตุ- "งบกลโหม"กองทัพไทยจะไปรบกับใคร??? ขณะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ "ยุคสงครามเศรษฐกิจ " หรือ สงครามการค้าระหว่างประเทศ)