tisdag 23 juli 2019

พรบ.ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับใหม่.. "อำนาจและสมบัติอยู่ในมือกูคนเดียว ชัดๆไปเลย ไม่ต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป.."กษัตริย์องค์นี้ รวบอำนาจ เอากลไกรัฐและทรัพย์สิน ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ มาอยู่ใต้การควบคุมของตัวเองโดยสิ้นเชิง ทั้ง "ราชการในพระองค์" และ "ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์" - ทุกอย่างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ หลุดลอยออกจาก ฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ โดยสิ้นเชิงแล้ว


อำนาจและสมบัติอยู่ในมือกูคนเดียว ชัดๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมอีกต่อไป : มาแล้วครับ พรบ.ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับใหม่
(ดาวน์โหลดได้ที่นี่ https://goo.gl/6RveLG)
ผมจะวิเคราะห์โดยละเอียดอีกที โดยคร่าวๆ คือ ก่อนหน้านี้ พรบ.ทรัพย์สินฯที่มีอยู่ (ฉบับปี 2491) ให้อำนาจในทางเป็นจริง ในการควบคุมทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กับกษัตริย์เต็มที่อยู่แล้ว (รายได้หักค่าใช้จ่ายสามารถ "ใช้สอยตามพระราชอัธยาศัยไม่ว่ากรณีใดๆ") แต่ยังมีลักษณะของการเขียนให้ รัฐมนตรีคลัง มาเป็น "ประธาน" คณะกรรมการทรัพย์สินฯโดยตำแหน่ง ซึ่งในทางเป็นจริง รมต.คลัง หรือ กท.การคลัง หรือ รัฐบาลชุดต่างๆ ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออำนาจในการควบคุม ตรวจสอบ หรือตัดสินใจเรื่องทรัพย์สินฯเลย
แต่คราวนี้ แม้แต่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการฯ ก็ไม่ต้องเป็น รมต.คลังโดยตำแหน่งแล้ว คือเป็นใครก็ได้ที่กษัตริย์ตั้ง
ยกเลิกประเภท (category) "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน" (พวกวังต่างๆ) ให้จัดเป็น "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" และดังนั้น ตอนนี้ ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ก็เหลือเพียง 2 ประเภท คือ ทรัพย์สินส่วนพระองค์ และ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ - เดิมการที่มีจัดประเภท "ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติฯ" (วังต่างๆ) ก็เป็นการแยกอำนาจควบคุมออกจากสถาบันกษัตริย์ในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้มีความหมายอะไรในทางปฏิบัติ คือ เดิมประเภทนี้ อยู่ในการดูแลของ สำนักพระราชวัง ที่ขึ้นต่อนายกฯ (สำนักพระราชวัง ตอนนี้ ก็ไปอยู่ในการควบคุมของกษัตริย์เต็มที่แล้ว ในฐานะ "ราชการในพระองค์")
เรื่องการเสียภาษี เขียนไว้คลุมเครือ ว่า
"ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ [คือทั้ง ทรัพย์สินส่วนพระองค์ และ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์] จะต้องเสียภาษีอากรหรือได้รับการยกเวันภาษีอากร ย่อมเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น"
อันนี้ ผมว่า ไม่ใช่ว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่เคยได้รับยกเว้นภาษี จะกลายมาเสียภาษี คือยังไงก็คงได้รับยกเว้นต่อไป แต่เป็นการเขียนคลุมเผื่อไว้สำหรับว่า ทรัพย์ส่วนพระองค์ ที่เดิมเคยต้องเสียภาษี จะได้รับการยกเว้นบางส่วน คงจำได้ว่า เคยมีประกาศกระทรวงการคลังเรื่องยกเวันการคำนวนภาษีสำหรับเงินที่ได้รับพระราชจากเจ้ามาแล้ว ผมคิดว่า อีกหน่อยจะมีขยายการยกเว้นภาษีสำหรับทรัพย์สินส่วนพระองค์มากขึ้น
..............
"ข่าวดี" คือ ตอนนี้ ถ้า Forbes หรือใครจะบอกว่า กษัตริย์ไทยรวยที่สุดในโลก โดยเอา "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" มาคำนวน ทางการไทยไม่มีทางจะแก้ตัวว่า เป็น "ทรัพย์สินแผ่นดิน" แล้วยกเรื่อง "รมต. คลังเป็นประธานคณะกรรมการทรัพย์สิน" มาอ้างได้อีกต่อไป (ความจริง การแก้ตัวเช่นนี้ในอดีต ก็เป็นการโกหกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่กล่าวข้างต้น และที่ผมเคยแสดงให้เห็นในบทความเรื่องนี้โดยละเอียด รมต.คลัง หรือ กท.การคลัง หรือ รัฐบาล ไม่ว่าชุดใด ก็ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแล สนง.ทรัพย์สินฯเลย)
แต่ตอนนี้ เอากันชัดๆไปเลย กษัตริย์องค์นี้ รวบอำนาจ เอากลไกรัฐและทรัพย์สิน ส่วนที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ มาอยู่ใต้การควบคุมของตัวเองโดยสิ้นเชิง ทั้ง "ราชการในพระองค์" และ "ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์" - ทุกอย่างเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ หลุดลอยออกจาก ฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ โดยสิ้นเชิงแล้ว
ไชโยๆๆ ทรงพระเจริญพะยะค่ะ


Image may contain: text

วชิราลงกรณ์รวบอำนาจและทรัพย์สินเงินทองสาธารณะ

** ประกาศสำคัญทรัพย์สินกษัตริย์: - ทรัพย์สินและหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในนาม"สนง.ทรัพย์สินฯ" ให้เปลี่ยนเป็นนาม"วชิราลงกรณ์"เอง - เขาจะดูแลกิจการที่ต่อไปนี้จะอยู่ในนามเขาเอง โดยใกล้ชิด - ให้ทรัพย์สินฯที่ต่อไปนี้เปลี่ยนเป็นในนามเขาเอง เสียภาษี อ่านรายละเอียด goo.gl/u6cyM8


** ข้อคิดเกี่ยวกับขอบเขตการใช้อำนาจของวชิราลงกรณ์จนถึงขณะนี้และในอนาคต กระทู้นี้จะอภิปรายปัญหาที่กว้างออกไปกว่าเรื่องทรงผม "เกรียนวชิราลงกรณ์" แต่ก่อนอื่น..... goo.gl/XsGVf2

** "เกรียนวชิราลงกรณ์" - กษัตริย์วชิราลงกรณ์สั่งให้ทหารชายทุกคนทุกชั้นยศในกองบัญชาการกองทัพไทย ตัดผมสั้นเกรียนหมด goo.gl/RrYDSS

** วชิราลงกรณ์ให้โอนหุ้น ธ.ไทยพาณิชย์ ที่ถือโดย สนง.ทรััพย์สินฯ มาเข้าในชื่อตัวเองโดยตรง มูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท goo.gl/aUjhef

** เพิ่มเติมกรณีโอนหุ้น 17,000 ล้านของวชิราลงกรณ์ : "โอนในนาม" หรือ "โอนไปให้"? goo.gl/2kZqYU

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar