onsdag 27 januari 2021

ตำแหน่งทั้งหลายนั้น ล้วนเป็น "ข้าราชการ" กินเงินเดือน ภาษี ของประชาชนทั้งสิ้น

 
เมื่อวานนี้ มีประกาศแต่งตั้ง พ.อ. สุทัตตาภักดิ์ บริรักษ์ภูมินทร์ บางคนรู้สึกชื่อคุ้นๆ(ดูรายละเอียด facebook.com/photo.php?fbid
 
Kan vara en bild av 3 personer 
(หม่อมเก๋ สุทัตตาภักดิ์ บริรักษ์ภูมินทร์  ทรงออกงานแบบเสนอหน้าพร้อมผู้แทนพระองค์ทรงพระเจริญ)

เมื่อวานนี้ มีประกาศแต่งตั้ง พ.อ. สุทัตตาภักดิ์ บริรักษ์ภูมินทร์
บางคนรู้สึกชื่อคุ้นๆ

เมษายน ปี 2557 มีการแต่งตั้ง "นาวาตรีหญิง สุทัตตาภักดิ์ ยุวราชบริรักษ์" เป็นพนักงานทั่วไป

ต่อมาในปีเดียวกัน ก็ถูกปลดออก (เมษายน-กันยายน) แล้วมีการตั้งใหม่

วันที่ 1 กันยายน 2558 ถูกปลดออกจากราชการ "เนื่องจากมีทัศนคดติไม่ดีต่อสถาบัน ไม่มีวินัย ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ... เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง" (แต่หนังสือเพิ่งมาปลด ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559)

ชื่อของ "สุทัตตาภักดิ์ ยุวราชบริรักษ์" หายไป กลายมาเป็น "สุทัตตาภักดิ์ บริรักษ์ภูมินทร์" และได้รับแต่งตั้งเป็น "พันเอก"

รูปที่ปรากฎนี้ รวมทั้งชื่อเล่น จะใช่เจ้าตัวหรือไม่ ยากจะบอกได้

..........................

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เห็น ยกมาให้ดู ตำแหน่งทั้งหลายนั้น ล้วนเป็น "ข้าราชการ" กินเงินเดือน ภาษี ของประชาชนทั้งสิ้น

ฮาเร็ม? 
 

 
เรื่องราวของวชิราลงกรณ์เป็นที่ร่ำลือไปทั่วโลก อย่างหนึ่งที่พูดๆกันคือ วชิราลงกรณ์มี "ฮาเร็ม" ประกอบด้วยหญิงราว 20 คนอยู่ด้วย คุณแอนดรูในบทความชิ้นใหม่ได้ระบุเลยว่า สตรีเหล่านี้ได้รับการตั้งเป็น "ฮาเร็ม"

อันที่จริง ผมค้นพบว่า ในบรรดาทหารกษัตริย์ของวชิราลงกรณ์นั้นมีคนนามสกุลแปลกๆเหมือนกันสิบกว่าคน โดยตั้งเอานามสกุลตามชื่อวชิราลงกรณ์ว่า "สิริวชิรภักดิ์" ตามที่ผมพบมี 15 คน ยศตั้งแต่ร้อยโทถึงพันตรี ดังนี้ (เรียงตามตัวอักษร)

กรองทอง สิริวชิรภักดิ์
ชยุตรา สิริวชิรภักดิ์
ฐานิดา สิริวชิรภักดิ์
นววรรณ สิริวชิรภักดิ์
ณัฏฐา สิริวชิรภักดิ์
ปภัสสร สิริวชิรภักดิ์
ปรางหวาน สิริวชิรภักดิ์
ภรณ์ทิพย์ สิริวชิรภักดิ์
ภัทรียา สิริวชิรภักดิ์
วราภรณ์ สิริวชิรภักดิ์
ศศธร สิริวชิรภักดิ์
สังวาลย์ สิริวชิรภักดิ์
สุรีรัตน์ สิริวชิรภักดิ์
อนุสรา สิริวชิรภักดิ์
อรอนงค์ สิริวชิรภักดิ์

ผมอธิบายไม่ได้แน่นอนเหมือนกัน ได้แต่เดาเอาในใจ ควรกล่าวว่า จนบัดนี้ ผมยังไม่มั่นใจพอจะฟันธงลงไป
นับแต่การค้นพบแล้ว ผมได้ติดตามคอยดูอยู่เงียบๆ แต่น่าเสียดายว่า บังเอิญมีผู้สังเกตุเห็น แล้วเอ่ยขึ้นมา ทำให้เธอเหล่านี้ปิดเฟซบุ๊คไป

บีบีซีไทย - BBC Thai
10 tim

พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นอดีต ผบ.เหล่าทัพเพียงหนึ่งเดียวที่แจ้งว่า “ไม่มีหนี้สิน” และยังแจ้งในการยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ว่า “ไม่รับค่าตอบแทน” ขณะเป็น ส.ว.

เปิดบัญชีทรัพย์สินอดีต ผบ. เหล่าทัพ พล.ต.อ. จักรทิพย์รวยทะลุ 900 ล้าน ส่วน พล.อ. อภิรัชต์ไร้หนี้

ส.ว.
คำบรรยายภาพ,

ผบ. เหล่าทัพที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. โดยตำแหน่งถอดเครื่องแบบประจำ แล้วสวมสูทร่วมรับฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อปลาย ก.ค. 62

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตผู้บัญชาการเหล่าทัพ (ผบ. เหล่าทัพ) ที่เกษียณพร้อมกันยกแผงเมื่อ 30 ก.ย. 2563 พบว่า พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. มีความมั่งคั่งสูงสุด ทะลุ 900 ล้านบาท ขณะที่ พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ไม่มีหนี้ และแจ้งไม่รับค่าตอบแทนสมัยเป็น ส.ว.

5 นายพลยังเป็นอดีต "ส.ว. เฉพาะกาล" โดยตำแหน่งด้วย ทว่าในคราวที่สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ ของสมาชิกสภาสูงกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 24 พ.ค. 2562 สังคมไม่มีโอกาสเห็นข้อมูลฐานะทางเศรษฐกิจของพวกเขา เนื่องจากกฎหมายเปิดช่องให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เพราะเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มาก่อน ยกเว้น พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น เพียงคนเดียวที่ไม่เคยรั้งเก้าอี้ สนช. มาก่อน

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 105 ระบุว่าในกรณี "ถ้าพ้นจากตำแหน่งและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่ภายใน 1 เดือน ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ แต่ไม่ต้องห้ามที่ผู้นั้นจะยื่นเพื่อเป็นหลักฐาน"

จากการตรวจสอบของบีบีซีไทยพบว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้นำบัญชีทรัพย์สินฯ ของ 5 นายพล กรณีพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มาเปิดเผยต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์เมื่อ 24 ธ.ค. 2563 และกรณีพ้นจากการเป็น ส.ว. เมื่อ 28 ธ.ค. 2563

บีบีซีไทยตรวจสอบพบว่านายพลนอกราชการทั้ง 5 มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันกว่า 1,502 ล้านบาท พร้อมสรุปสาระสำคัญไว้ ดังนี้

cg

จักรทิพย์-เมีย รวยทะลุ 900 ล้าน

พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ "บิ๊กแป๊ะ" อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) "ร่ำรวยที่สุด" ในหมู่อดีต ผบ.เหล่าทัพ โดยแจ้งว่ามีทรัพย์สินร่วมกับคู่สมรส 983.3 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ซึ่งถือโฉนดไว้ 99 แปลง มูลค่ารวม 310.5 ล้านบาท แต่มีอยู่เพียงแปลงเดียวที่ปรากฏชื่อ "บิ๊กแป๊ะ" เป็นเจ้าของคือที่ดิน 14 ไร่ 2 งานใน อ.มาบตาพุด จ.ระยอง มูลค่า 11.6 ล้านบาท

ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในความครอบครองของทั้งคู่ มีมูลค่ารวม 191.1 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นบ้านพักย่าน ต.ออเงิน เขตสายไหม ซึ่งพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน โดยมีชื่อศรีภรรยาอย่าง ดร.บุษบา ชัยจินดา (สกุลเดิม พุคยาภรณ์) รองอธิการบดี ม.ศรีปทุม เป็นเจ้าบ้าน ตีมูลค่าไว้ที่ 150 ล้านบาท

จักรทิพย์
คำบรรยายภาพ,

พล.ต.อ. จักรทิพย์ เพิ่งเปิดเพจเฟซบุ๊ค พร้อมสโลแกน "ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมสร้าง สะอาด ปลอดภัย แก้ปัญหาฉับไว" เมื่อ ม.ค. 2564 ท่ามกลางการจับตาว่าเขาจะชิงเก้าอี้ผู้ว่า กทม.

นอกจากนี้ พล.ต.อ. จักรทิพย์และคู่สมรสยังมีเงินฝากอีก 17 บัญชีธนาคาร และ 10 สถาบันการเงิน วงเงินรวม 96.3 ล้านบาท

สำหรับทรัพย์สินเฉพาะตัว ที่อดีต ผบ.ตร. แจ้งไว้ในรายการทรัพย์สินอื่น ๆ รวม 77.4 ล้านบาท มีปืน 17 กระบอก มูลค่ารวม 1.9 ล้านบาท โดยกระบอกที่แพงที่สุดคือยี่ห้อ CABOT GUNS กึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 มูลค่า 3 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีพระดังในครอบครอง 4 รายการ มูลค่า 9.6 ล้านบาท อาทิ พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ, พระสมเด็จอรหันต์ และหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร

ที่น่าสนใจคือ นายพลนอกราชการ ผู้ประกาศตัวพร้อมลงเล่นการเมืองในฐานะผู้สมัครผู้ว่าราชการ กทม. จัดเป็นนักสะสมภาพวาดของศิลปินชาวไทย โดยพบภาพในแกลอรีส่วนตัว 47 รูป 2 กอง มูลค่า 65.8 ล้านบาท โดยชิ้นที่แพงที่สุดเป็นภาพเขียนสีน้ำมันพระบรมสาทิสลักษณ์ ร.9 โดย อ.จำรัส เกียรติก้อง ตีมูลค่าไว้ 13 ล้านบาท รองลงมาเป็นภาพเขียนสีน้ำมันของ มล.ปุ่ม มาลากุล มูลค่า 10 ล้านบาท

ในแต่ละปี พล.ต.อ. จักรทิพย์และภรรยา มีรายได้รวมกัน 140.1 ล้านบาท เฉพาะในส่วนของบิ๊กแป๊ะแจ้งว่ามีรายได้ประจำจากเงินเดือน 4.7 ล้านบาท, เงินตำแหน่ง 2.7 ล้านบาท, เงินเดือน สนช. และเบี้ยประชุม 4.8 ล้านบาท, เงินประจำตำแหน่ง คสช. 5.4 ล้านบาท, ค่าตอบแทน/เบี้ยประชุมอนุกรรมการ ตร. 39,000 บาท และค่าตอบแทนบอร์ดการบินไทยราว 1.7 ล้านบาท ขณะที่รายจ่ายของทั้งคู่อยู่ที่ปีละ 63.4 ล้านบาท

อดีต ผบ.ตร. เป็น "คนปลอดหนี้" ส่วนภรรยาแจ้งว่ามีหนี้สินอยู่ 60 ล้านบาท

ลือชัย เป็นเจ้าของที่ดิน 170 ล้าน

พล.ร.อ. ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นอดีต ผบ.เหล่าทัพที่มีความมั่งคั่งเป็นอันดับ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่แจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. 198 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นที่ดิน มูลค่ารวม 177.2 ล้านบาท โดย 5 จาก 6 แปลงอยู่ในครอบครองของอดีต ผบ.ทร. คิดเป็นมูลค่า 170.1 ล้านบาท และอีกแปลงเป็นของ น.อ.หญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ คู่สมรส

ลือชัย

ส่วนทรัพย์สินที่เหลือของพวกเขา แบ่งเป็น เงินฝาก 12 บัญชี วงเงินรวม 10.8 ล้านบาท, เงินลงทุนซื้อหุ้นสหกรณ์และกองทุนต่าง ๆ 9 รายการ รวม 3.2 ล้านบาท, ยานพาหนะ 2 คัน 3.7 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ อีก 3.8 ล้านบาท

พล.ร.อ. ลือชัยแจ้งว่า เป็นผู้ครอบครองปืน 8 กระบอก มูลค่าตั้งแต่ 60,000-95,000 บาท และยังมีพระพุทธรูป/พระเครื่อง แต่ระบุเพียงว่า "ประเมินค่าไม่ได้"

ขณะที่รายได้ของเขาและคู่สมรสอยู่ที่ 10.8 ล้านบาท เกือบทั้งหมดมาจากเงินเดือนประจำ ซึ่งอดีต ผบ.ทร. แจ้งยอดไว้ที่ 5.4 ล้านบาท และของภรรยา 1.2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากการกินดอกเบี้ยธนาคารและเงินปันผลหุ้นสหกรณ์หลักหมื่นบาท ด้านรายจ่าย พล.ร.อ. ลือชัย แจ้งว่ามีเงินบริจาคทำบุญ 5 แสนบาทด้วย

อดีต ผบ.ทร. ก็เป็นนายพลอีกคนที่ปลอดหนี้ ส่วนภรรยาแจ้งว่ามีหนี้เงินกู้ 4.8 ล้านบาท

อภิรัชต์ มีเงินฝากกว่า 100 ล้าน ไม่รับค่าตอบแทน ส.ว.

พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือ "บิ๊กแดง" อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แจ้งว่า เขาครอบครองทรัพย์สินร่วมกับคู่สมรส 157 ล้านบาท เกือบทั้งหมดเป็นเงินฝาก ซึ่งเป็นของ "บิ๊กแดง" เอง 9 บัญชี วงเงิน 105.6 ล้านบาท และของ รศ.ดร. กฤษติกา คงสมพงษ์ 6 บัญชี วงเงิน 12.2 ล้านบาท

พล.อ. อภิรัชต์
คำบรรยายภาพ,

ภายหลังเกษียณราชการในตำแหน่ง ผบ.ทบ. พล.อ. อภิรัชต์ได้เข้าอุปสมบท ก่อนเข้าไปรับตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวังจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีเงินลงทุนซื้อพันธบัตรและกองทุนต่าง ๆ อีก 10 รายการ รวมวงเงินรวม 22.2 ล้านบาท, ที่ดิน 2 แปลง ตีราคาไว้ 4.2 ล้านบาท, รถยนต์ 5 คัน มูลค่า 4.7 ล้านบาท และมีทรัพย์สินอื่น ๆ อีก 4.5 ล้านบาท

พล.อ. อภิรัชต์แจ้งว่า เขามีนาฬิกาและพระเครื่อง 9 ชิ้น มูลค่า 2.6 ล้านบาท และมีอาวุธ 11 กระบอก มูลค่า 4 แสนบาท โดยไม่ได้แจกแจงรายละเอียดไว้ แต่เขียนหมายเหตุว่า "เนื่องจากมีเอกสารได้ตกหล่นและมีจำนวนมาก ประกอบกับได้จัดเก็บไว้หลายแห่ง ไม่มีเจตนาจงใจที่จะไม่ยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. แต่อย่างใด"

สามี-ภรรยาคู่นี้แจ้งว่ามีรายได้ปีละ 7.6 ล้านบาท เฉพาะตัวของ "บิ๊กแดง" มีรายได้จากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1.8 ล้านบาท, เบี้ยประชุม 1.4 ล้านบาท และบอร์ด ททบ.5 อีก 8.2 แสนบาท ทว่าในส่วนของการทำหน้าที่ ส.ว. เขาแจ้งว่า "ไม่รับค่าตอบแทน" ขณะที่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของ พล.อ. อภิรัชต์ระบุไว้ที่ 1 ล้านบาท และของภรรยา 4 แสนบาท โดยครอบครัวนี้แจ้งว่าไม่มีหนี้

เมีย ผบ.ทสส. ให้ รร.อนุบาลกู้ 2 ล้าน

พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แจ้งว่ามีทรัพย์สินร่วมกับคู่สมรส 82.7 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินฝาก 23 บัญชี วงเงินรวม 10.2 ล้านบาท, เงินลงทุนในกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ 21 รายการ วงเงิน 8.5 บาท นอกจากนี้นางจิราพรรณ เบญญศรี ภรรยา ซึ่งเป็นที่ปรึกษา รร.อนุบาลชุมแพ จ.ขอนแก่น ยังแจ้งว่าได้ให้ทาง รร. กู้ยืมเงิน 2 ล้านบาท เมื่อ 20 พ.ค. 2562

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (คนกลาง) นำ ผบ.เหล่าทัพแถลงเรียกร้องนักการเมืองหยุดสร้าง "วาทกรรมสืบทอดอำนาจ" หลังการเลือตั้งทั่วไปเมื่อ มี.ค. 2562
คำบรรยายภาพ,

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (คนกลาง) นำ ผบ.เหล่าทัพแถลงเรียกร้องนักการเมืองหยุดสร้าง "วาทกรรมสืบทอดอำนาจ" หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ มี.ค. 2562

อดีต ผบ.ทหารสูงสุดและหลังบ้านยังเป็นเจ้าของที่ดิน 26 แปลง มูลค่ารวม 27.2 ล้านบาท และเป็นผู้ครอบครองโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10 หลัง มูลค่า 23.2 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีอยู่ 8 รายการของคู่สมรสที่แจ้งว่าตั้งอยู่บนโฉนดที่ดิน นส.3 ก. ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ซึ่งได้มาเมื่อ 2 ต.ค. 2558

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ 2 คัน มูลค่า 2.6 ล้านบาท, สิทธิ/สัมปทานจากประกันชีวิต 5 กรมธรรม์ มูลค่า 1.9 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินอื่น ๆ อีก 6.9 ล้านบาท เฉพาะที่เป็นของ พล.อ. พรพิพัฒน์มีอาวุธปืนพก 4 กระบอก มูลค่า 2.6 แสนบาท ส่วนที่เหลือเป็นนาฬิกา, แหวนทองคำ, พระเลี่ยมทอง และยังมีชุดพระเครื่อง/พระบูชาที่แจ้งว่า "ไม่สามารถประเมินค่าได้"

รายได้หลักของครอบครัวนี้มาจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของฝ่ายสามี 1.5 ล้านบาท และการเก็บค่าเช่าบ้านของฝ่ายภรรยา 6.2 แสนบาท ขณะที่รายจ่ายของพวกเขาที่แจ้งไว้ 1.4 ล้านบาท ถูกนำไปใช้จ่ายส่วนตัว และค่าผ่อนบ้าน โดยแจ้งว่ามีหนี้สินเงินกู้ 3.7 ล้านบาท

อดีต ผบ.ทอ. มีหนี้ 16 ล้าน

แม้ พล.อ.อ. มานัต วงษ์วาทย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) มีความมั่งคั่งน้อยที่สุดในหมู่อดีต ผบ.เหล่าทัพ แต่ก็มีทรัพย์สินร่วมกับภรรยา 81.8 ล้านบาท ส่วนมากอยู่ในรายการที่ดินรวม 16 แปลง มูลค่า 48.9 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งที่ จ.จันทบุรี, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี, ปทุมธานี และนนทบุรี อีกทั้งยังเป็นเจ้าของโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 10 หลัง มูลค่า 23.2 ล้านบาท

อดีต ผบ.ทอ.

นอกจากนี้อดีต ผบ.ทอ. กับ พญ. วิไลภรณ์ วงษ์วาทย์ ภรรยา ยังมีเงินฝาก 17 บัญชี รวมวงเงิน 1.2 ล้านบาท, เงินลงทุน 3 รายการ วงเงิน 4.9 ล้านบาท, สิทธิสัมปทาน 1.6 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ อีก 1.9 ล้านบาท

ส่วนรายได้ของครอบครัวนี้รวมกัน 17.2 ล้านบาท มาจากเงินเดือน, เบี้ยประชุม และเงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์/บริษัทต่าง ๆ ส่วนหนี้สินอยู่ที่ 16.4 ล้านบาท รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 65.4 ล้านบาท

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar