ข่าวภาคค่ำ 11-09 : สองเข็มเอาไม่อยู่ ชาวภูเก็ตเริ่มฉีดเข็มสาม หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
คลิปพิเศษ 11-09 : เพนกวิน จะถูกขังลืมหรือไม่ พวกเราจะยอมแบบนี้หรือ?
“ผมยังคงยืนยันว่า จ.ภูเก็ต มีความปลอดภัยในการท่องเที่ยวถึงแม้จะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น" นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยืนยัน
โควิด-19: ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อรายใหม่และเสียชีวิตสูงขึ้น แต่ยืนยันเดินหน้า “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ต่อไป
ในขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ประจำวันมีแนวโน้มดีขึ้น แต่อัตราการติดเชื้อในต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้นทำให้หลาย ๆ พื้นที่ยังต้องรับมือกับวิกฤตทางสาธารณสุขอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.ภูเก็ต ที่เริ่มมีการเปิดจังหวัดต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
จากการรายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ย. โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เรื่องสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างวันที่ 3 เม.ย.-10 ก.ย. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในภูเก็ตจำนวน 238 ราย ส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 6,629 ราย และมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 37 ราย
ด้วยตัวเลขของผู้ติดเชื้อสะสมที่ต้องรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้อัตราการครองเตียงของทั้งจังหวัดสูงขึ้นตามไปด้วย ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตชี้ให้เห็นว่า ตอนนี้ภูเก็ตยังมีเตียงว่างอยู่ 398 เตียง แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่า คือเตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงมีเหลือว่างแค่ 1 เตียงเท่านั้น
นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บอกกับบีบีซีไทยว่า จ.ภูเก็ต มีผู้ติดเชื้อยืนยันจากการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR โดยเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 240-250 คน และจากสถิติจะเห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันจะไม่ดีดตัวสูงไปมากกว่านี้แล้ว
"นอกจากนี้ เรายังใช้วิธีการตรวจหาเชิงรุกเข้าไปในชุมชนด้วยวิธี ATK ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่งซึ่งกระจายตัวไปทั่วทั้งจังหวัด เมื่อนำสถิติของผู้ติดเชื้อมาวิเคราะห์พบว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อทั้งหมด 100% ประมาณ 85% เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวกับเขียวอ่อน 12-13% เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และผู้ป่วยกลุ่มสีแดงมีอยู่ไม่เกิน 3%" นายปิยพงศ์อธิบาย
ในบรรดาผู้ป่วยทุกกลุ่ม กลุ่มสีเขียวถือว่าเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดซึ่งผู้ป่วยทุกคนกระจายตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้งหมด โดยสถานการณ์ล่าสุด จ.ภูเก็ต ใช้เตียงไปแล้ว 84% ยังคงเหลืออยู่ที่ 16%
"ถ้าถามว่าเตียงเต็มหรือยังจะบอกว่ายังไม่เต็ม ถ้ามองภาพรวมของเตียงทั้งหมดที่จังหวัดมีอยู่ 2,361 เตียง ตอนนี้มีการครองเตียงไปแล้ว 1,963 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยสีเขียว 1,894 เตียง ผู้ป่วยสีเหลือง 418 เตียง และผู้ป่วยสีแดง 49 เตียง" นายปิยพงศ์อธิบาย
"ยังมีเตียงที่เหลือว่างอยู่ 398 เตียง สิ่งที่น่ากังวล คือเตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงมีเหลือว่างแค่ 1 เตียง แต่ที่ผ่านมาก็มีการหมุนเวียนกันตลอด เพราะผู้ป่วยสีแดงที่อาการดีขึ้นก็ย้ายไปอยู่ที่แผนกอื่นทำให้มีเตียงว่างขึ้นบ้าง"
กลุ่มผู้ป่วยสีเขียวที่มีการครองเตียงเกือบ 2,000 เตียง เป็นกลุ่มที่ทางจังหวัดกำลังให้ความสนใจ เพราะเป็นผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและใช้พื้นที่ในโรงพยาบาลอยู่มาก โดยทางจังหวัดกำลังหารือเรื่องของการกักตัวที่บ้าน(home isolation) ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว แต่ยังติดปัญหาเรื่องความพร้อมด้านที่อยู่อาศัยของประชากร
ทางจังหวัดจึงเริ่มจัดหาสถานที่สำหรับการกักตัวในชุมชนและในโรงแรมมากขึ้นเท่าที่ศักยภาพของจังหวัดจะทำได้ โดยเฉพาะการกักตัวในชุมชนที่มีความพร้อม ดังจะเห็นได้จากสถานกักตัวในชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของ จ.ภูเก็ต ที่อยู่ในเรือนจำเก่าของจังหวัดซึ่งสามารถรับผู้ป่วยได้ 500 เตียง
ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังเดินหน้าอย่างมั่นคง
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ก.ย. มีนักท่องเที่ยวจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ลงเครื่องมาทั้งหมด 672 คน ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกันตั้งแต่วันแรกของโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-10 ก.ย. มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าโครงการทั้งหมด 30,593 คน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าตัวเลขประมาณการในช่วงก่อนโครงการเริ่มต้นที่ 100,000 คน ภายในสิ้นเดือนกันยายน
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึงสิ้นเดือน ก.ย. มียอดจองห้องอยู่ที่ 510,000 รูมไนต์ กล่าวคือ นักท่องเที่ยว 1 คน จะมีการเข้าพักที่โรงแรมทั้งสิ้น 8 รูมไนต์โดยเฉลี่ย
"โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังดำเนินการต่อไปอย่างมั่นคงโดยตัวมันเองอยู่แล้ว แต่เรายังไม่สามารถทำให้มันกระเตื้องไปได้มากกว่านี้เพราะสถานการณ์การติดเชื้อที่ยังมีอยู่" นายปิยพงศ์กล่าว
"ความหวังต่อไปของเราก็คือ วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงเริ่มเข้าฤดูกาลท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งคิดว่าจะมากขึ้นกว่านี้เยอะ"
นอกจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ภูเก็ตก็เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวจากภายในประเทศเริ่มเดินทางเข้าจังหวัดได้แล้วตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้า จ.ภูเก็ต จากภายในประเทศจะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ 72 ชม. ก่อนเดินทาง และยังต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น
อีกหนึ่งมาตรการที่เพิ่มเติมเข้ามา คือการที่ต้องแสดงหลักฐานการจองและชำระเงินค่าที่พักก่อนที่จะขึ้นเครื่องจากสนามบินต้นทาง โดยทางจังหวัดให้เหตุผลว่าที่ต้องเพิ่มมาตรการเพราะอยากให้คนที่เข้ามาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจริง ๆ เท่านั้น และยังไม่อยากให้กลุ่มแรงงานที่เข้ามาหางานทำในพื้นที่ทยอยเข้ามา โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 14 ก.ย. นี้
"ผมยังคงยืนยันว่า จ.ภูเก็ต มีความปลอดภัยในการท่องเที่ยว เพราะถึงแม้จะมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นแต่กลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนมากอยู่ในภาคแรงงาน ตามแคมป์คนงาน หรือภาคประมงซึ่งมีความหนาแน่นสูง"
"ที่ผ่านมากลุ่มนักท่องเที่ยวของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จากทั้งหมด 30,000 กว่าคน มีพบเชื้อเพียงแค่ 89 คนหรือคิดเป็น 0.3% เท่านั้น และผมคิดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่จะเข้ามาในพื้นที่ก็จะมีเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ไม่แตกต่างจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการที่จะไปติดเชื้อนั้นต่ำ เพราะไม่ได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ระบาด" รองผู้ว่าฯ กล่าวสรุป
Inga kommentarer:
Skicka en kommentar