måndag 13 september 2021

มีตำรวจยุคราชวัลลภ(ฆาตกรในเครื่องแบบ)ที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาก็ว่าแย่แล้ว อย่าให้มีผู้แทนราษฎรที่เลี้ยงเสียข้าวสุกอีกด้วยเลย..

Thai E-News

ตำรวจยุคราชวัลลภ มักมีชุดข้อเท็จจริงต่างกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เสมอ


อย่าเพิ่งรีบดีใจ จำนวนคนตายจากอาการป่วยโควิด-๑๙ ลดลงไปนิดนึงแล้ว วันนี้มีแค่ ๑๓๒ คน แถมหายป่วยตั้งหมื่นหก กำลังรักษาแสนสาม ติดเชื้อเพิ่มแค่หมื่นสองกว่าๆ เพราะถ้าตำรวจคุมฝูงชนยังลุยไม่ยั้งอย่างนี้ จะมีคนตายที่ดินแดงมาทดแทนจำนวนที่ลดไป

เมื่อคืน (๑๒ กันยา) เกือบจะเที่ยงคืน รถปิ๊กอัพเครื่องหมาย สน.พลับพลาไชย มีตู้ขังผู้ต้องหาขับอย่างเร็วผ่านเข้าไปทางถนนวิภาวดี ชนผู้ชุมนุมที่ตกค้างรายหนึ่งกระเด็นแล้วขับต่อไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชายที่ถูกชนได้อาสาพยาบาลช่วยไว้

“ได้รับการปฐมพยาบาลจากพยาบาลอาสา โดยอาการบาดเจ็บเบื้องต้น คือ ใส่เฝือกคอ มีการบาดเจ็บที่คาง ที่เข่า และมีแผลถลอก โดยผู้ได้รับบาดเจ็บยังได้สติและถามตอบได้” ไอลอว์รายงานเมื่อเช้าวันนี้ ต่างกับที่ตำรวจนครบาลชวนกันยืนเกาะโพเดี้ยมแถลง

ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการปฏิเสธอย่างด้านๆ “ไม่ได้ชนแล้วหนี” อย่างที่เป็นข่าวและชาวบ้านได้ดูคลิปกันอย่างจะแจ้ง พลตำรวจโทคนนี้บอกว่ารถคันดังกล่าวไปเฝ้ารอการสลายชุมนุม เมื่อเหตุการณ์ยุติได้รับคำสั่งให้กลับต้นสังกัด จึงขับผ่านสามเหลี่ยมดินแดง

“กลับพบกลุ่มบุคคล ๖-๗ คน ใช้ของแข็งทุบรถควบคุมผู้ต้องขัง และมีเสียงระเบิด ซึ่งในเวลานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับรถไม่มีอาวุธ เกรงว่าจะได้รับอันตรายและทรัพย์สินเสียหาย จึงได้ขับรถหลบหนี...ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวยังพยายามขัดขวาง

จึงได้มีการเฉี่ยวชนและ ได้หยุดดูแล้ว ปรากฏว่าผู้ที่ถูกเฉี่ยวชนไม่ได้รับอันตราย จึงได้ขับรถต่อไป” แต่จากที่เห็นในคลิป ชายคนที่ถูกชนไม่ได้ทำการขัดขวางอะไร เขายืนอยู่ในแนวถนน ไม่มีคนอื่นอยู่เลย รถกระบะตำรวจแล่นพุ่งเข้าชนดื้อๆ

ชายที่ถูกชนกระเด็นไปกองบนพื้นถนน รถปิ๊กอัพขับต่อไปด้วยความเร็วเช่นเดิม จนลับตาไป ผบช.น.บอกว่าไปจอดที่ รพ.พระมงกุฏเกล้า แจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปสำรวจสภาพเมื่อตีสาม พบว่ายางหลังระเบิดแตกวงล้อหลุดเสียหาย

“ทั้งยังได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดง และจะไปร้องทุกข์กลุ่มบุคคลดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ” ผบ.ตำรวจอ้างด้วยว่าตำรวจคนที่ขับชนนั้นไม่มีอาวุธติดตัว หวั่นอันตราย

“ถ้าจอดตรงนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าตำรวจจะได้รับบาดเจ็บขนาดไหน หรือว่ารถจะเสียหายขนาดไหน เพราะเหตุการณ์มันมีหลายครั้งหลายหนที่กลุ่มบุคคลเข้ามาแล้วเผาทรัพย์สินของทางราชการ เมื่อเร็วๆ นี้ ตำรวจของเราก็ได้รับบาดเจ็บ”


เนี่ยนะ ตำรวจยุคที่มีพวกราชวัลลภเข้าคุมสายการบังคับบัญชามากหน้า มักจะมีชุดข้อเท็จจริงต่างกันเสมอกับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เหมือนพวกนักเลงหัวไม้ ตีเขาคว่ำลงไปก่อนแล้วค่อยบอกว่า เพราะหวั่นเกรงตนเองจะได้รับอันตราย

แน่ละผู้ชุมนุมวัยรุ่นกลุ่มจักรยานยนต์ได้ต่อสู้กับตำรวจอย่างหักหาญกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว อาวุธที่ใช้ก็เพียงประทัดและหนังสติ๊ก ไม่ได้ร้ายแรงไปกว่ากระสุนยางและแก๊สน้ำตาของตำรวจเลย เมื่อใดที่ตำรวจเข้าประชิดตัว จะโดนทุบตีด้วยกระบองอย่างหนักหน่วง ผู้หญิงหรือเด็กไม่เว้น

“แต่ตำรวจก็ยังไม่เคยใช้อาวุธจริง ใช้เพียงอุปกรณ์ควบคุมการชุมนุม เช่น กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเท่านั้น” พ.ต.ท.ภัคพงศ์อ้างถึงเหตุการณ์วันที่ ๑๑ กันยาว่า “ในวันนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บจากวัตถุระเบิดบริเวณใบหน้าและเบ้าตา”

ก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่บอกได้ว่าเป็นลูกหลง ต่างกับกระสุนยางและแก๊สน้ำตา ซึ่ง คฝ.ยิงใส่ฝูงชนในระดับร่างกาย ไม่ได้ยิงขึ้นสูงหรือลงพื้นตามระเบียบควบคุมอันตรายเกินกว่าเหตุ ซึ่งปฏิญญาสากลระบุไว้ ทำให้ไม่เพียงผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บและถึงตาย

แล้วใยตำรวจยังมีหน้ามากล่าวโทษผู้ชุมนุมว่าทำให้อาวุธที่ใช้ข่มเหงทำร้ายผู้ชุมนุมเสียหายเสียอีก เครื่องมือหลายอย่างที่ทางตำรวจใช้ปราบการชุมนุม พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ความ เว่อ เสียจนไปสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านทั่วไป

ตู้คอนเทนเนอร์นั่นอย่างหนึ่ง ไม่เพียงก่อให้เกิดทัศนะอุจาด โดยเฉพาะเมื่อตั้งเรียงไว้หน้าวังหลวง นี่รถฉีดน้ำแรงสูง จีโน่ เริ่มผันมาใช้ดับเพลิงที่เกิดกับซุ้มเฉลิมพระเกียรติกันแล้ว ทั้งที่ไม่ได้หนักหนามากไปกว่าไฟไหม้ในถังขยะทั่วไป

แก๊สน้ำตาก็เหมือนกันควรจะผันไปใช้กับพวกผู้บัญชาการที่เหี้ย มๆ หลายคน จะได้ภาพลักษณ์สมดุลว่าสามารถ ร้องไห้ ได้เหมือนกัน

(https://www.facebook.com/themomentumco/posts/2786511551640531 และ https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10165852183890551)

คำถามถึง ผู้ทรงเกียรติในสภา จะปล่อยให้อันธพาลในเครื่องแบบทุบตีประชาชนไปถึงไหน?


 

กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG
Yesterday at 1:08 PM ·

ถึงผู้ทรงเกียรติในสภา จะปล่อยให้อันธพาลในเครื่องแบบทุบตีประชาชนไปถึงไหน?
____________________

การกระทำของตำรวจต่อประชาชนผู้เห็นต่าง ดังที่ได้เห็นจากการชุมนุมที่ย่านดินแดงตลอดเดือนที่ผ่านมา ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้กินเงินภาษีจากประชาชนอีกแล้ว แต่เป็นการกระทำเยี่ยงอันธพาล ที่ใช้กำลังและอาวุธข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า
.
การยิงแก๊สน้ำตาใส่อาคารบ้านเรือน การขับรถไล่ชน การบุกเข้าไปทำร้ายถึงที่พักอาศัย การข่มขู่บังคับสื่อไม่ให้ถ่ายทอดเหตุการณ์ ฯลฯ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่สังคมจะนิ่งเฉย ปล่อยให้ตำรวจกระทำย้ำๆ ซ้ำๆ ต่อไปด้วยความเคยชินได้โดยเด็ดขาด
.
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่ไม่ควรจะนิ่งเฉยมากที่สุด ก็คือผู้ที่ประชาชนเลือกตั้งให้ไปเป็นปากเสียงของพวกเขาในรัฐสภา
.
ช่วงที่ผ่านมาเหล่า ส.ส. ดูจะมีธุระกันมากมายอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ยักษ์ ทั้งเรื่องงบประมาณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ มาจนถึงแก้ระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ พร้อมกับข่าวการแบ่งปันผลประโยชน์กันเป็นระยะๆ... ในขณะที่ประชาชนที่ชุมนุมอยู่ข้างนอกเพื่อเรียกร้องชีวิตที่ดีกว่า เรียกร้องความเป็นอยู่ที่ในวันนี้ราคาถูกกว่าข้าวแต่ละมื้อของพวกคุณด้วยซ้ำ กลับถูกทุบตีเลือดตกยางออกแทบไม่เว้นวัน
.
มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกท่านจะออกมาสอดส่องการกระทำของตำรวจพวกนี้ให้เห็นกับตา ออกมากดดันถึงที่เกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่พวกนี้เลิกพฤติกรรมอันธพาล แล้วกลับไปใช้อำนาจนิติบัญญัติของพวกคุณออกกฎหมายเพื่อยุติความอุกอาจนี้และคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ต้องเดือดร้อนเสียหายเสียที
.
มีตำรวจที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาก็ว่าแย่แล้ว อย่าให้มีผู้แทนราษฎรที่เลี้ยงเสียข้าวสุกอีกด้วยเลย
.
#ม็อบ11กันยา

คำถามถึง ผู้ทรงเกียรติในสภา จะปล่อยให้อันธพาลในเครื่องแบบทุบตีประชาชนไปถึงไหน?

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar