lördag 24 februari 2018

การ์ตูนล้อการเมือง

จุดเด่นของการ์ตูน “ไข่แมว” ที่แตกต่างจากการ์ตูนล้อการเมืองอื่นๆอยู่ที่ไหน?*
* [ตัดตอนมาจากบทความเกี่ยวกับ "ไข่แมว" ซึ่งผมกำลังร่างๆอยู่ โพสต์ให้ดูเผื่อจะมีประโยชน์ และเผื่อจะมี feedback ที่ผมอาจจะเอามาใช้ในแก้ไขร่างได้]
ในคำสัมภาษณ์ "ประชาไท" เมื่อถูกถามว่า “อะไรที่คุณคิดว่าเป็นจุดเด่นของเพจนี้” ผู้เขียน “ไข่แมว” ตอบว่า
.........................
"คงเป็นเพราะความไม่เข้าใจในมุขบางมุข แล้วคนเสพเกิดความอยากรู้ เลยต้องหาข้อมูลเองตามคอมเมนต์หรือหาข่าวอ่าน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เสพเอง อันนี้เป็นเรื่องของประโยชน์มากกว่า ส่วนจุดเด่นคงเป็นการ์ตูนใบ้ล่ะคับ ที่ต้องจินตนาการเอาเอง
จริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าจุดเด่นของเพจนี้คืออะไร คือบางทีเราก็อยากจะวาดไม่ให้มันโจ่งแจ้งมาก อยากให้มันตีความได้หลายแบบแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน ก็เลยไม่ใส่คำพูดดีกว่า ถ้าใส่คำพูดปุ๊บ มันก็เหมือนจะเป็นการชักจูงเขาเกินไป ต้องเข้าอย่างใจนี้ทุกคน และมันจะดูสุ่มเสี่ยงต่อทางเพจผมด้วยที่ทำล้อเลียน"
.........................
ผมเห็นด้วยว่า จุดเด่นจุดหนึ่งของ “ไข่แมว” คือการที่หลายครั้ง มีการซ่อนมุขไว้ในภาพวาด (รวมถึงซ่อน “ตัวละคร” หรือสิ่งต่างๆไว้ในที่ซึ่งมองไม่เห็นชัดเจน) แล้วคนอ่านต้องมาช่วยกัน “เดา” หรือ “อธิบาย/ตีความ” ซึ่งก็มักทำกันอย่างสนุกสนานว่าใครจะเป็นคน “มองเห็น” หรืออธิบายมุขหรือตัวละครหรือสิ่งของที่ซ่อนไว้ในภาพได้ก่อน (ลักษณะอีกอย่างที่อาจจะเรียกว่าเกี่ยวข้องกัน คือหลายครั้ง “ไข่แมว” เล่นกับข่าวที่ยังไม่ถึงกับรู้กันแพร่หลายอย่างรวดเร็วมาก คนอ่านต้องมาถามไถ่กันว่าภาพนั้นพาดพิงหรือสื่อถึงเรื่องอะไร)
แต่เรื่องการซ่อนมุขให้คนอ่านพยายามตีความนี้ เป็นลักษณะที่ “ไข่แมว” แชร์ในบางระดับร่วมกับการ์ตูนก่อนหน้านั้น คือ “มานี มีแชร์” อันที่จริง ผมคิดว่าโดยทั่วไป อาจจะกล่าวได้ว่า “มานี มีแชร์” มีลักษณะของการ “ซ่อน” สารที่ต้องการสื่อมากกว่า อย่างน้อยก็เพียงเพราะว่าส่วนมาก “มานี มีแชร์” ใช้ตัวละครและภาพสิ่งของและเหตุการณ์ในลักษณะเป็นสัญลักษณ์มากกว่าอยู่แล้ว
ผมคิดว่า จุดเด่นที่สุดที่แตกต่างจาก – หรือเด่นชัดกว่า – การ์ตูนล้อการเมืองอื่นคือ “ไข่แมว” น่ารัก!
อาจกล่าวได้ว่า การ์ตูนล้อการเมืองทุกสำนักล้วนมีความ “น่ารัก” มากน้อยอยู่ด้วยกันทั้งนั้น เพราะความเป็นการ์ตูน แต่ผมคิดว่า ถ้าเทียบกันแล้ว “ไข่แมว” มีความเด่นในเรื่องความ “น่ารัก” (adorable) นี้ มากและชัดกว่าใครๆ
การ์ตูนอรุณ วัชรสวัสดิ์ สมัย 14 ตุลา ก็อาจจะเรียกว่ามีความน่ารักอยู่ (โดยเฉพาะรูป “หม่อมน้อง”) “ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน” ก็อาจจะถือว่ามีความน่ารัก ส่วน “มานี มีแชร์” นั้น ภาพวาดและการลงสี สวยมากในแบบคลาสสิค แต่จะเรียกว่า “น่ารัก” คงไม่ได้ จากการที่เต็มไปด้วย ภาพการเอาเก้าอี้ทุบตี เลือดสาด ถึงคอขาดบ่อยๆ (อันที่จริง “มานี มีแชร์” มีลักษณะเด่นอย่างหนึ่งในแง่ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและภาพ “โหดๆ” ที่อยู่ในรูปและสีสันที่สวยงามคลาสสิค)
ผมเสนอว่า ข้อพิสูจน์หรือแสดงออกว่าจุดเด่นของ “ไข่แมว” คือความน่ารัก คือการที่ “ลุง” ตัวละครที่อาจจะเรียกว่าเป็น “ตัวร้าย” ที่สุดของ “ไข่แมว” ก็ยังมีลักษณะ “น่ารัก” แม้ว่า “ไข่แมว” จะเสียดสี ประชดประชัน หรือวาดให้ “ลุง” ทำอะไรที่โง่เขลา หรือชวนหัวเราะเยาะมากมายอย่างไร จนหลายครั้ง ลงเอยที่ “ลุง” ต้องมานั่งเศร้าอยู่คนเดียว จากการกระทำโง่เขลาที่ล้มเหลวของตน แม้คนดูอาจจะสะใจ ขำ หัวเราะเยาะเย้ย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแบบเอ็นดูๆพร้อมกันไปด้วย และในบางครั้งที่ “ไข่แมว” เสนอภาพ “ลุง” กำลังยิ้ม (เช่นที่เอาไปทำเป็นลายเสื้อยืด) ก็ดูน่ารักมาก ทั้งๆที่ เขาคือ “ตัวร้าย” ของเรื่อง
หลายครั้ง “ไข่แมว” ชวนให้ผมนึกถึงความน่ารักของตัวละครต่างๆในการ์ตูนญี่ปุ่นยอดนิยมของผมเรื่อง “อาราเล่” ที่เต็มไปด้วยคาแร็กเตอร์แปลกๆน่ารักน่าชัง ผมนึกไม่ออกว่า มีการ์ตูนล้อการเมืองของไทยสำนักไหนเป็นแบบการ์ตูน “ไข่แมว” ที่มีลักษณะเต็มไปด้วยตัวละครประจำที่ดูน่ารักน่าชังหลายๆตัวในทำนองคล้าย “อาราเล่” (การ์ตูน Pixel Crazy 8bit อาจจะใกล้เคียง แต่ “Pixel Crazy 8bit” ก็ไม่ใช่การ์ตูนล้อการเมืองล้วนๆเสียทีเดียว)
ผมเห็นว่า นี่คือจุดเด่นและเสน่ห์สำคัญที่สุดของ “ไข่แมว” คือแม้จะเป็นการ์ตูนล้อการเมืองที่เจ็บแสบ แหลมคม ชวนขบขัน (ซึ่งเป็นลักษณะที่แชร์ร่วมกับการ์ตูนล้อการเมืองฝีมือดีอื่นๆ) “ไข่แมว” ยังชวนให้ผู้อ่านรู้สึกดี สบายใจ ดูแล้วอารมณ์ดี เพราะความ “น่ารัก” ของ “ไข่แมว”

Inga kommentarer:

Skicka en kommentar